ซู่มมมมมมม!
น้ำจากทะเลสาบปะทุราวกับจะพุ่งทะลวงชั้นฟ้า ลมหายใจมังกรน้ำจากมังกรน้ำทั้ง 17 ตัว ราวกับเข็มหยาดพิรุณนับล้านโปรยปรายพุ่งทำลายเข้ามา
เป็นใครก็ยากที่จะสงบสติอารมณ์ได้ เมื่อเห็นเข็มแหลมคมที่เกิดจากน้ำนับล้านๆเล่ม กำลังพุ่งโจมตีเข้ามา
ราชินีเอลฟ์ลาตาชารู้สึก สิ้นหวังเมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าวที่กำลังจะคร่าชีวิตเธอ
ร่างกายเธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เพราะถูกวูชินจับอยู่ แต่ถึงจะไม่ได้ถูกจับ เธอก็ไม่มีปัญญาป้องกันการโจมตีครั้งนี้ ทำได้แต่มองมันอย่างสิ้นหวัง ราวกับคนกำลังจะตาย
แต่ความตายยังไม่ได้มาเยือนเธอ
ฟุ่บๆๆๆ !
ลาตาชาถอยหายใจออกมาเมื่อเห็นเข็มพิรุณนับล้านถูกปัดป้องด้วอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น
“อา”
แผล่ะๆๆๆ !
ราวกับกำลังมองหยาดน้ำฝนตกกระทบหลังคาบ้าน เข็มพิรุณกระเด็นกระดอนออกราวกับเป็นแค่หยดน้ำธรรมดาๆ เธอตื่นตะลึงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงพลังโจมตีของลมหายใจมังกรน้ำ แต่บาเรียดังกล่าวสามารถป้องกันได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
"มันมีแต่การโจมตีกิ๊กก๊อกแบบนี้หรือไง"
ลาตาชาหันหัวกลับมาตามเสียง เธอก็เห็นผู้อมตะยืนหิ้วเธออยู่อย่างเฉยชาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการโจมตีดังกล่าว
ผู้อมตะ
เธอไม่เคยเห็นใครไร้เหตุผลและแข็งแกร่งเท่าเขามาก่อน
เขาจะใช้กำลังเข้าเมืองไลตัน โดยไม่กังวลอะไรกับมังกรน้ำแม้แต่นิด ... ขนาดผู้ปกครองมิติของทราเน็ตยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้
"พวกมันไม่ได้มีแค่การโจมตีอย่างลมหายใจมังกร!"
ถึงบาเรียของผู้อมตะจะสามารถป้องกันลมหายใจมังกรน้ำได้ แต่ยังมีเหตุผลอีกหลายอย่างที่ทำให้มังกรน้ำรอบเมืองไลตันมีความอันตรายอย่างมาก
"หืม? มังกรน้ำนี่บินได้เหรอ"
"พวกมันบินได้"
"…อ่า?"
วูชินหันไปมองลาตาชาในขณะที่ป้องกันการโจมตีไปด้วย
"บินได้งั้นเหรอ?"
"ระ ... เราต้องรีบหนี... "
ซู่มมมม!
น้ำในทะเลสาบแยกออก ก่อนที่หัวมังกรขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นมา
ฮู่มมมมมมม!
เสียงคำรามของมังกรก้องกังวลออกมา พวกมันมีขนาดใหญ่มาก มันพุ่งเข้ามาจู่โจมวูชินทันที
“ตูมม!”
วูชินรีบขยับตัวหลบคมเขี้ยวของมังกร เขามองหัวมังกรก่อนที่จะสังเกตเห็นหนวดของมัน นั่นทำให้เขาอดคิดถึงปลาดุกไม่ได้ มังกรตัวนี้ไม่ได้มีลักษณะของมังกรจากตะวันตก แต่มันคล้ายๆกับมังกรตะวันออก หรือมังกรจีนอะไรทำนองนั้น
พวกมันมีทั้งหมด 17 ตัว และเมื่อพวกมันเริ่มโจมตีอย่างเต็มกำลัง วูชินก็รู้สึกยุ่งยากเล็กน้อย เขาไม่สามารถทนรับการโจมตีทั้งหมดได้ตลอดไป
‘วิญญาณจะหมดเอา’
ถ้า เกราะวิญญาณ มีปริมาณดวงวิญญาณที่มากพอ ไม่ว่าการโจมตีอะไรก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับวูชิน แต่ตอนนี้เขายังเก็บวิญญาณมาได้ไม่มากพอ ทุกๆการโจมตีเกราะวิญญาณของเขาจะป้องกันโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันผลาญจำนวนวิญญาณที่เก็บสะสมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
เขาอุตส่าห์รวบรวมวิญญาณเป็นจำนวนมากเมื่อมาถึงอัลเฟ่น แต่ตอนนี้มันกำลังจะหมดไปกับการป้องกันตุ๊กแกน้ำบินได้พวกนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่ วูชิน รู้สึกหดหู่
"ชิ!"
เขารีบพาลาตาชาบินออกมาจากทะเลสาบไลตัน
เขาบินข้ามหัวมังกรทั้ง 17 ตัวมาลงจอดบนพื้น เมื่อมังกรน้ำทั้งหมดเห็นมันก็กลับลงมาอยู่ในน้ำเตรียมโจมตีต่อเนื่องออกมา
ครืนนนน!
คลื่นจำนวนมหาศาลเกิดจากขึ้นจากกลางทะเลสาบ ราวกับมันจะชำระล้างผืนแผ่นดินให้ราบเรียบ
“หืม อะไร? "
วูชินหันไปมองคลื่นน้ำจำนวนมหาศาล ก่อนที่จะปล่อยลาตาชาลงบนพื้น
“ข้าเตือนเจ้าแล้ว?"
ลาตาชารีบลุกขึ้นมากล่าวจิก วูชิน
เขาพยายามจะเข้าเมืองโดยใช้กำลัง แล้วผลลัพธ์มันเป็นยังไงล่ะ
ลาตาชากำลังจะกล่าวต่อว่าวูชิน แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อเห็นคิ้วของเขาขมวด ก่อนที่เขาจะแผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวและกดดันออกมา เธอไม่กล้าพูดว่าอะไรเขาในตอนนี้
อย่างไรก็ตามมังกรน้ำมีพลังมหาศาลมาก
ผู้ปกครองมิติของทราเน็ตยังไม่มีใครกล้าจู่โจมมันด้วยตัวเองมาก่อน
ถึงเขาจะเป็นผู้อมตะแต่ก็ไม่ได้ความว่าจะทำอะไรได้ในสถานการณ์แบบนี้ ลาตาชาเฝ้ามองว่าเขาจะแก้ปัญหานี้ยังไง
“ฮ่าฮ่า... ?”
หัวเราะ? ตอนนี้เขาหัวเราะจริงๆหรือ?
"นี่ต้องสนุกแน่"
หลังจากที่เขาหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เรียกคทาเหล็กออกมา
เขาจะพยายามต่อเหรอ? เขาคิดที่จะจู่โจมมังกรน้ำของทะเลสาบไลตันงั้นเหรอ?
"จะ ... เจ้าประเมินมันต่ำไป ประมาทเกินไปแล้ว!"
"ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก"
ในอดีตตอนเขาล่ามังกร ตัวแรกมันก็ลำบากนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นมันก็ง่ายๆ
ถึงการต่อสู้กับมังกรพร้อมกันทั้ง 17 ตัวจะยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฆ่าพวกมันไม่ได้
เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ฟู่มมมมม
ควันสีดำแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของวูชิน ก่อนที่จะรวมตัวกลายเป็นอัศวินแห่งความตาย
[เราจะล่ามังกรกันงั้นเหรอ?]
[อ่า นานแล้วไม่ได้เจอมังกร]
[ข้าว่า ที่นี่น่าจะเป็นทะเลสาบไลตัน ... .]
อัศวินแห่งความตายทั้งหมดตอนนี้เป็นครอบครัวของวูชิน แต่พวกมันก็มาจากเผ่าพันธ์ที่ต่างกันและก็ต่างพื้นที่กัน ไม่แปลกที่จะมีอัศวินแห่งความตายบางคนจำได้ว่ามังกรน้ำพวกนี้เป็นผู้พิทักษ์ของทะเลสาบไลตัน
แต่มันไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าวูชินอยากจะฆ่ามังกรพวกนี้ พวกเขาก็แค่ทำตามคำสั่ง
[หึหึฮ่าฮ่า เจ้าคิดจะหาเพื่อนให้ชิงชิงรึไง?]
พ่อมดอมตะเจนิสถูกเรียกออกมา ถ้าพ่อมดอมตะเข้าร่วมต่อสู้ วูชินคิดว่ามันไม่น่ายากอะไรถ้าจะจัดการพวกมังกรน้ำทั้ง 17 ตัวในคราวเดียว
ด้วยความช่วยเหลือของพ่อมดอมตะที่เด่นเรื่องการลดความสามารถและเวทย์มนตร์จู่โจมที่รุนแรง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากมาย
วิ้งงงง ฟึ่บ!! เพียงแค่เจนิสสะบัดมือคลื่นน้ำทั้งหมดก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ยิ่งถ้ามีโดลเซ่เข้าร่วมการจู่โจมด้วยมังกรพวกนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย
ถ้าเขาเรียกมังกรกระดูกชิงชิงออกมา มันจะยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องทุ่มเทอะไรขนาดนั้น
วูชินกำลังจะก้าวไปบนทะเลสาบอย่างมั่นใจ
"หวังว่าจะตื่นเต้น ... "
วูชินพูดอย่างสนุกสนาน แต่ทันใดนั้นเอง
ฟู่วววว
เรือลำนึ่งแล่นผ่านน้ำข้ามทะเลสาบมาหาวูชินด้วยความเร็ว
บนเรือมีเด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบกำลังบังคับเรือ เสื้อผ้าที่เขาใส่มันดูตัวใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นเสื้อผ้าของเขา แต่วูชินกลับรู้สึกคุ้นๆกับเสื้อผ้าเหล่านั้น
"นี่มันแต่งตัวบ้าอะไร?"
เรือจอดเทียบท่าก่อนที่เด็กน้อยจะเดินลงมา พร้อมทั้งมุ่งหน้ามาหาวูชิน
มีอัศวินแห่งความตายล้อมรอบวูชินอยู่ แต่เด็กคนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวอะไรเลย
เด็กผู้ชายเดินมาหยุดตรงหน้าวูชินก่อนที่จะเอ่ยทักทาย
หมวกที่ควรจะอยู่บนศีรษะอย่างสง่างาม แต่ด้วยความที่ตัวเล็กเกินไปมันเลยจมมาครึ่งหัว
"ท่านคือผู้อมตะเหรอ?"
วูชินหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงถามจากเด็กน้อยตรงหน้า
"แล้วนายเป็นบาทหลวงแห่งเลเซียคนใหม่?"
"ใช่แล้ว"
"ฉันไม่ได้เรียกแล้วนายออกมาทำไม?"
"ผมไม่ได้เชิญแล้วท่านมาทะเลสาบนี่ทำไม?"
“... ..”
วูชินไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจ้องไปที่เด็กชายเงียบๆ
"ถ้าการเสียสละตัวผมสามารถปกป้องเกาะไลตันเอาไว้ได้ มันก็คุ้มค่า"
"ทำไมคิดว่าฉันมาฆ่านายล่ะ"
"แล้วท่านไม่ได้มา เพื่อถุงมือแห่งเลเซียนี่งั้นเหรอ?"
เด็กชายพูดพร้อมกับยื่นถุงมือแห่งเลเซียไปทางวูชิน
ถุงมือเป็นไอเทมศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากเมล็ดพันธ์แห่งพระเจ้า ผลไม้แห่งพระเจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆจึ่งไม่มีปัญหาอะไรที่จะมอบให้ แค่มันต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อสร้างมันขึ้นมา
นี่เป็นไอเทมของ องค์เทพเลเซีย เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์
แน่นอนว่าอำนาจของบาทหลวงจะลดลงเมื่อเสียไอเทมศักดิ์สิทธิ์ไป บางครั้งการเสียมันไปก็เลวร้ายยิ่งกว่าตาย
แต่ตอนนี้เด็กชายตรงหน้ามอบมันให้ด้วยความสมัครใจ ...
“...”
มันเป็นแค่เด็กเพี้ยนๆที่แต่งตัวประหลาด? หรือว่ามันคิดคำนวณมาดีแล้ว?
"ฉันจะใช้มันอย่างดี"
วูชินหยิบถุงมือมาโดยไม่ใส่ใจอะไร
มันเป็นส่วนประกอบในการสร้างชุดพิพากษาแห่งแทรช ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์หลักของบาทหลวงแห่งเลเซีย แต่ตอนนี้มันมอบให้ราวกับไม่เสียดาย
"ผมแค่หวังว่าคำพยากรณ์จะเป็นจริง"
"คำพยากรณ์งั้นเหรอ ... "
วูชินหัวเราะออกมา
"เลเซีย บอกว่าไงล่ะ?"
เด็กชายหัวเราะเบาๆกับคำถามของวูชิน
ผู้อมตะเป็นคนที่ได้เผชิญหน้ากับเทพเจ้ามาแล้ว ส่วนตัวเขาแม้จะเป็นสาวกกลับไม่เคยได้โอกาสอะไรแบบนั้น แต่เมื่อคืนเขาได้นิมิตคำพยากรณ์มา
"องค์เทพบอกว่า หากผมมอบสมบัติชิ้นนี้ให้ สิ่งที่ผมปรารถนาจะเป็นจริง ... "
“... .”
วูชินจ้องมองไปที่ถุงมือ
ตอนนี้เขาได้รวบรวมไอเทมสามชิ้นที่มีความสำคัญในการสร้างชุดเซ็ทแห่งแทรช
เขาขาดอีกแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น
วูชินยกเลิกการอัญเชิญอัศวินแห่งความตายของเขา ก่อนที่จะออกจากทะเลสาบไลตันไป
***
อาณานิคมแห่งใหม่ บนหุบเขาซัวรอส
ผู้คนรวมกลุ่มกันสร้างอาคารรอบๆต้นไม้โลก พวกเขากำลังสร้างบ้านและสร้างธงเพื่อเอาไปปักไว้รอบๆ หุบเขา
"เจ้าคิดว่ามันเป็นอย่างที่เจ้าพูดเหรอ?"
"แน่นอน"
ผู้คนกำลังกล่าวถึงสัญลักษณ์บนธงพันธมิตร
มันดูคล้ายๆ ลูกสิงโตกำลังคำราม ไม่สิ มันดูคล้ายเสือมากกว่า
"ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าสัญลักษณ์ของอแลนดัลมีความหมายว่าอะไร "
"ไม่ใช่ หมายถึงว่าจะคำรามไปก้องโลกเหรอ?"
"แต่ข้าคิดว่ามันกำลังหาวนะ ... "
หัวข้อที่ผู้คนกำลังถกเถียงกันอยู่คือสัญลักษณ์ของอแลนดัล พวกเขากำลังคาดเดาความหมายของมัน ซึ่งมันดูน่ารักและไม่ได้เข้ากับความโหดเหี้ยมอำมหิตของผู้อมตะแม้แต่นิด
"ข้ามั่นใจว่ามันต้องเป็นสิงโต"
"เจ้าพูดอะไร! ก็เห็นๆอยู่ว่ามันคือเสือโคร่ง "
หัวข้อเหล่านี้กำลังถูกถกเถียงกันไปทั่ว และหนึ่งในคนที่อยากรู้มากที่สุดคือราชาองค์ใหม่แห่งอาณาจักรฮอนชู ก็อนสึ
เขาเคยได้ยินแต่คำร่ำลือถึงผู้อมตะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอผู้อมตะตัวเป็นๆ และได้เห็นกองทัพของผู้อมตะครั้งแรก
ผู้อมตะ ดูเหมือนจะแตกต่างจากคำบอกเล่าของบิดาเขา
ตัวตนของผู้อมตะเป็นอะไรที่ราชาองค์ใหม่คนนี้อยากรู้อยากเห็นมากที่สุด
หุบเขาซัวรอสแห่งนี้ มีภูเขาโอบล้อมอยู่รอบด้าน ตอนนี้ผู้คนกำลังสร้างฐานไม้เพื่อติดตั้งธงของพันธมิตรเพื่อแสดงให้คนที่มาสืบข่าวรับรู้
ก็อนสึปีนขึ้นไปบนยอดเขา ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา เพราะเห็นลูกไฟกำลังพุ่งมาจากฟากฟ้า
"ท่านซังกู กลับมาแล้ว"
ผู้กล้าที่มาพร้อมอมตะไม่ได้มีฝีมือธรรมดาๆ ทั้งนักเวทย์เพลิงซังกูและแวมไพร์แจมิน
ถ้าธรรมดาแล้วจะคู่ควรเป็นผู้ติดตามของผู้อมตะหรือ?
ซังกูเป็นคนสนุกสนานมากและยิ่งเฮฮาหนักเมื่อได้ดื่มเหล้า การเต้นของเขามันมีมนต์ขลังให้คนอื่นทนไม่ไหวจนต้องลุกมาเต้นตาม เมื่อวันก่อนเขาเป็นผู้นำจัดงานฉลองจนถึงเช้า อีกทั้งก็อนสึไม่เคยคิดเลยว่าผู้ใช้เวทย์เพลิงจะดื่มเหล้าเก่งขนาดนี้
"กลับมาแล้วเหรอครับ ท่านซังกู"
ก๊อนสึได้สนิทสนมกับซังกูในงานคืนนั้น พวกเขาได้ดื่มเหล้าด้วยกัน เมื่อซังกูบินลงจอดเขาก็เดินเข้าไปก่อนที่จะโค้งคำนับทำความทักทาย
“เฮ้ ก็อนสึว่าไง”
"สบายดีครับ ต้องขอบคุณสำหรับการกวาดล้างรอบๆของท่าน"
"แหะๆ เดี๋ยวผมต้องไปฝึกอีกนิดหน่อย นายมีอะไรรึเปล่า "
"ก็ไม่มีอะไรมากครับ"
เขาแข็งแกร่งมาก แต่เขายังคงฝึกซ้อมอย่างขยันหมั่นเพียร ...
"มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามท่านสักหน่อย"
"อะไรเหรอ? แต่ตอนนี้อาณานิคมยังไม่เสร็จนะ ถ้าเป็นเรื่องที่จะออกไปไหนคงยังไม่ได้ ใช่เรื่องนี้รึเปล่า? ตอนนี้เราอย่าพึ่งลงมืออะไร เข้าใจนะ? "
“อ่อเปล่าครับ? เรื่องนั้นผมก็ไม่ได้คิดที่จะลงมืออะไรตอนนี้ "
ก็อนสึเงยหน้ามองท้องฟ้าเล็กน้อย ก่อนที่จะหันมามองซังกู
"เราเดินไปคุยไปก็ได้ครับ"
"ได้ๆ"
"แล้วนายอยากถามอะไรงั้นเหรอ?"
"พอดีผู้คนเขาอยากรู้กันว่าสัญลักษณ์ของอแลนดัล มันเป็นสิงโตหรือเสือ? "
"เอ๋?"
ซังกูเอียงหัวด้วยความสงสัย ก่อนที่จะหันไปมองธง เมื่อเขาเห็นมันคนแรกที่เขานึกถึงก็คือ บีบี ...
"น่าจะเป็นแมวนะ"
"หา?"
"นายไม่รู้จักแมวเหรอ?"
"ผมรู้ แต่ว่าเอ่อ ... "
"ผมมั่นใจว่าต้องเป็นแมวนี่แหล่ะ"
“... .”
"งั้นเหรอครับ?"
ก็อนสึรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของซังกู เขาเหมือนถูกซังกูล้อเล่น ซังกูยักไหล่ของเขาอย่างอารมณ์ดีในขณะที่มองก็อนสึ
ซังกูรู้ว่านี่เป็นสัญลักณ์บนธงเป็นของอแลนดัล แต่เขาก็ไม่เคยถามวูชินว่ามันคืออะไรเหมือนกัน ทำให้ซังกูก็ไม่รู้แน่ชัดว่าสัญลักษณ์นี้มันคืออะไรกันแน่ แต่เวลาเขามองแล้วเขามักจะนึกถึงบีบี เขาก็เลยคิดว่ามันเป็นแมว
“ฮ่า ๆ ผมว่าเมโลดี้น่าจะรู้เรื่องนี้นะ ลองไปถามเธอดูสิ "
"งั้นเหรอครับ! งั้นผมคงต้องไปหาท่านเมโลดี้เร็วๆนี้ล่ะ "
ส่วนด้านอื่น เหล่าผู้กล้าทั้งหมดกำลังปีนขึ้นไปยอดเขารอบๆหุบเขาซัวรอส เพื่อตรวจดูรอบๆ อาณานิคม
พวกเขามีความสามารถทางด้านร่างกายเหนือคนทั่วไปมาก การปีนขึ้นเขาพวกเขาทำได้อย่างไม่มีปัญหาและมันใช้เวลาแค่พริบตาเดียวเท่านั้น สำหรับซังกูโดดไม่กี่ทีก็ถึงยอดเขาแล้ว
"เห?"
ซังกูแปลกใจนิดหน่อยที่เขาขึ้นมาบนยอดเขาแล้วเห็นแจมินที่กำลังทำหน้าตาบิดเบี้ยวอย่างมาก
“เฮ่แจมิน! มีอะไรงั้นเหรอ?"
“พี่”
“หือ ว่าไงอะ?"
"พี่ได้ยินเรื่องคำพยากรณ์แล้วยัง?"
“... .?”
ซังกูไม่รู้ว่าแจมินกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เลยเอียงหัวด้วยความสงสัย เมื่อแจมินเห็นซังกูยังงงๆเขาก็ชี้ไปที่เมโลดี้ที่กำลังนั่งอยู่ด้านล่างต้นไม้โลก
"ผมได้ยินมาว่าเธอได้รับคำพยากรณ์จากเทพธิดาอาเรีย ก่อนที่พี่วูชินจะกลับมาอัลเฟ่น"
"แล้วอาเรียนี่เป็นใครอะ?"
แล้วเทพธิดาอาเรียนี่เป็นใครกันล่ะถึงให้คำพยากรณ์ได้? แล้วมันคืออะไร?
"เทพธิดาอาเรียคือเทพแห่งการพยากรณ์"
"อ่อ?"
มันหมายถึงการทำนายอะไรงี้รึเปล่า?
ท่าทางของซังกูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่จะถามออกมา
"แล้วเธอบอกว่าไงบ้างเหรอ?"
"ก็แบบว่า…"
แจมินเปิดปากพูดออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง