px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
บทที่ 170 – คำพยากรณ์ (1)


ซู่มมมมมมม!

น้ำจากทะเลสาบปะทุราวกับจะพุ่งทะลวงชั้นฟ้า ลมหายใจมังกรน้ำจากมังกรน้ำทั้ง 17 ตัว ราวกับเข็มหยาดพิรุณนับล้านโปรยปรายพุ่งทำลายเข้ามา

เป็นใครก็ยากที่จะสงบสติอารมณ์ได้ เมื่อเห็นเข็มแหลมคมที่เกิดจากน้ำนับล้านๆเล่ม กำลังพุ่งโจมตีเข้ามา

ราชินีเอลฟ์ลาตาชารู้สึก สิ้นหวังเมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าวที่กำลังจะคร่าชีวิตเธอ

ร่างกายเธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เพราะถูกวูชินจับอยู่ แต่ถึงจะไม่ได้ถูกจับ เธอก็ไม่มีปัญญาป้องกันการโจมตีครั้งนี้ ทำได้แต่มองมันอย่างสิ้นหวัง ราวกับคนกำลังจะตาย

แต่ความตายยังไม่ได้มาเยือนเธอ

ฟุ่บๆๆๆ !

ลาตาชาถอยหายใจออกมาเมื่อเห็นเข็มพิรุณนับล้านถูกปัดป้องด้วอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น

“อา”

แผล่ะๆๆๆ !

ราวกับกำลังมองหยาดน้ำฝนตกกระทบหลังคาบ้าน เข็มพิรุณกระเด็นกระดอนออกราวกับเป็นแค่หยดน้ำธรรมดาๆ เธอตื่นตะลึงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงพลังโจมตีของลมหายใจมังกรน้ำ แต่บาเรียดังกล่าวสามารถป้องกันได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร

"มันมีแต่การโจมตีกิ๊กก๊อกแบบนี้หรือไง"

ลาตาชาหันหัวกลับมาตามเสียง เธอก็เห็นผู้อมตะยืนหิ้วเธออยู่อย่างเฉยชาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการโจมตีดังกล่าว

ผู้อมตะ

เธอไม่เคยเห็นใครไร้เหตุผลและแข็งแกร่งเท่าเขามาก่อน

เขาจะใช้กำลังเข้าเมืองไลตัน โดยไม่กังวลอะไรกับมังกรน้ำแม้แต่นิด ... ขนาดผู้ปกครองมิติของทราเน็ตยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้

"พวกมันไม่ได้มีแค่การโจมตีอย่างลมหายใจมังกร!"

ถึงบาเรียของผู้อมตะจะสามารถป้องกันลมหายใจมังกรน้ำได้ แต่ยังมีเหตุผลอีกหลายอย่างที่ทำให้มังกรน้ำรอบเมืองไลตันมีความอันตรายอย่างมาก

"หืม? มังกรน้ำนี่บินได้เหรอ"

"พวกมันบินได้"

"…อ่า?"

วูชินหันไปมองลาตาชาในขณะที่ป้องกันการโจมตีไปด้วย

"บินได้งั้นเหรอ?"

"ระ ... เราต้องรีบหนี... "

ซู่มมมม!

น้ำในทะเลสาบแยกออก ก่อนที่หัวมังกรขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นมา

ฮู่มมมมมมม!

เสียงคำรามของมังกรก้องกังวลออกมา พวกมันมีขนาดใหญ่มาก มันพุ่งเข้ามาจู่โจมวูชินทันที

“ตูมม!”

วูชินรีบขยับตัวหลบคมเขี้ยวของมังกร เขามองหัวมังกรก่อนที่จะสังเกตเห็นหนวดของมัน นั่นทำให้เขาอดคิดถึงปลาดุกไม่ได้ มังกรตัวนี้ไม่ได้มีลักษณะของมังกรจากตะวันตก แต่มันคล้ายๆกับมังกรตะวันออก หรือมังกรจีนอะไรทำนองนั้น

พวกมันมีทั้งหมด 17 ตัว และเมื่อพวกมันเริ่มโจมตีอย่างเต็มกำลัง วูชินก็รู้สึกยุ่งยากเล็กน้อย เขาไม่สามารถทนรับการโจมตีทั้งหมดได้ตลอดไป

‘วิญญาณจะหมดเอา’

ถ้า เกราะวิญญาณ มีปริมาณดวงวิญญาณที่มากพอ ไม่ว่าการโจมตีอะไรก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับวูชิน แต่ตอนนี้เขายังเก็บวิญญาณมาได้ไม่มากพอ ทุกๆการโจมตีเกราะวิญญาณของเขาจะป้องกันโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันผลาญจำนวนวิญญาณที่เก็บสะสมเอาไว้อย่างรวดเร็ว

เขาอุตส่าห์รวบรวมวิญญาณเป็นจำนวนมากเมื่อมาถึงอัลเฟ่น แต่ตอนนี้มันกำลังจะหมดไปกับการป้องกันตุ๊กแกน้ำบินได้พวกนี้

นี่เป็นครั้งแรกที่ วูชิน รู้สึกหดหู่

"ชิ!"

เขารีบพาลาตาชาบินออกมาจากทะเลสาบไลตัน

เขาบินข้ามหัวมังกรทั้ง 17 ตัวมาลงจอดบนพื้น เมื่อมังกรน้ำทั้งหมดเห็นมันก็กลับลงมาอยู่ในน้ำเตรียมโจมตีต่อเนื่องออกมา

ครืนนนน!

คลื่นจำนวนมหาศาลเกิดจากขึ้นจากกลางทะเลสาบ ราวกับมันจะชำระล้างผืนแผ่นดินให้ราบเรียบ

“หืม อะไร? "

วูชินหันไปมองคลื่นน้ำจำนวนมหาศาล ก่อนที่จะปล่อยลาตาชาลงบนพื้น

“ข้าเตือนเจ้าแล้ว?"

ลาตาชารีบลุกขึ้นมากล่าวจิก วูชิน

เขาพยายามจะเข้าเมืองโดยใช้กำลัง แล้วผลลัพธ์มันเป็นยังไงล่ะ

ลาตาชากำลังจะกล่าวต่อว่าวูชิน แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อเห็นคิ้วของเขาขมวด ก่อนที่เขาจะแผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวและกดดันออกมา เธอไม่กล้าพูดว่าอะไรเขาในตอนนี้

อย่างไรก็ตามมังกรน้ำมีพลังมหาศาลมาก

ผู้ปกครองมิติของทราเน็ตยังไม่มีใครกล้าจู่โจมมันด้วยตัวเองมาก่อน

ถึงเขาจะเป็นผู้อมตะแต่ก็ไม่ได้ความว่าจะทำอะไรได้ในสถานการณ์แบบนี้ ลาตาชาเฝ้ามองว่าเขาจะแก้ปัญหานี้ยังไง

“ฮ่าฮ่า... ?”

หัวเราะ? ตอนนี้เขาหัวเราะจริงๆหรือ?

"นี่ต้องสนุกแน่"

หลังจากที่เขาหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เรียกคทาเหล็กออกมา

เขาจะพยายามต่อเหรอ? เขาคิดที่จะจู่โจมมังกรน้ำของทะเลสาบไลตันงั้นเหรอ?

"จะ ... เจ้าประเมินมันต่ำไป ประมาทเกินไปแล้ว!"

"ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก"

ในอดีตตอนเขาล่ามังกร ตัวแรกมันก็ลำบากนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นมันก็ง่ายๆ

ถึงการต่อสู้กับมังกรพร้อมกันทั้ง 17 ตัวจะยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฆ่าพวกมันไม่ได้

เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

ฟู่มมมมม

ควันสีดำแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของวูชิน ก่อนที่จะรวมตัวกลายเป็นอัศวินแห่งความตาย

[เราจะล่ามังกรกันงั้นเหรอ?]

[อ่า นานแล้วไม่ได้เจอมังกร]

[ข้าว่า ที่นี่น่าจะเป็นทะเลสาบไลตัน ... .]

อัศวินแห่งความตายทั้งหมดตอนนี้เป็นครอบครัวของวูชิน แต่พวกมันก็มาจากเผ่าพันธ์ที่ต่างกันและก็ต่างพื้นที่กัน ไม่แปลกที่จะมีอัศวินแห่งความตายบางคนจำได้ว่ามังกรน้ำพวกนี้เป็นผู้พิทักษ์ของทะเลสาบไลตัน

แต่มันไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าวูชินอยากจะฆ่ามังกรพวกนี้ พวกเขาก็แค่ทำตามคำสั่ง

[หึหึฮ่าฮ่า เจ้าคิดจะหาเพื่อนให้ชิงชิงรึไง?]

พ่อมดอมตะเจนิสถูกเรียกออกมา ถ้าพ่อมดอมตะเข้าร่วมต่อสู้ วูชินคิดว่ามันไม่น่ายากอะไรถ้าจะจัดการพวกมังกรน้ำทั้ง 17 ตัวในคราวเดียว

ด้วยความช่วยเหลือของพ่อมดอมตะที่เด่นเรื่องการลดความสามารถและเวทย์มนตร์จู่โจมที่รุนแรง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากมาย

วิ้งงงง ฟึ่บ!! เพียงแค่เจนิสสะบัดมือคลื่นน้ำทั้งหมดก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ยิ่งถ้ามีโดลเซ่เข้าร่วมการจู่โจมด้วยมังกรพวกนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย

ถ้าเขาเรียกมังกรกระดูกชิงชิงออกมา มันจะยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องทุ่มเทอะไรขนาดนั้น

วูชินกำลังจะก้าวไปบนทะเลสาบอย่างมั่นใจ

"หวังว่าจะตื่นเต้น ... "

วูชินพูดอย่างสนุกสนาน แต่ทันใดนั้นเอง

ฟู่วววว

เรือลำนึ่งแล่นผ่านน้ำข้ามทะเลสาบมาหาวูชินด้วยความเร็ว

บนเรือมีเด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบกำลังบังคับเรือ เสื้อผ้าที่เขาใส่มันดูตัวใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นเสื้อผ้าของเขา แต่วูชินกลับรู้สึกคุ้นๆกับเสื้อผ้าเหล่านั้น

"นี่มันแต่งตัวบ้าอะไร?"

เรือจอดเทียบท่าก่อนที่เด็กน้อยจะเดินลงมา พร้อมทั้งมุ่งหน้ามาหาวูชิน

มีอัศวินแห่งความตายล้อมรอบวูชินอยู่ แต่เด็กคนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวอะไรเลย

เด็กผู้ชายเดินมาหยุดตรงหน้าวูชินก่อนที่จะเอ่ยทักทาย

หมวกที่ควรจะอยู่บนศีรษะอย่างสง่างาม แต่ด้วยความที่ตัวเล็กเกินไปมันเลยจมมาครึ่งหัว

"ท่านคือผู้อมตะเหรอ?"

วูชินหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงถามจากเด็กน้อยตรงหน้า

"แล้วนายเป็นบาทหลวงแห่งเลเซียคนใหม่?"

"ใช่แล้ว"

"ฉันไม่ได้เรียกแล้วนายออกมาทำไม?"

"ผมไม่ได้เชิญแล้วท่านมาทะเลสาบนี่ทำไม?"

“... ..”

วูชินไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจ้องไปที่เด็กชายเงียบๆ

"ถ้าการเสียสละตัวผมสามารถปกป้องเกาะไลตันเอาไว้ได้ มันก็คุ้มค่า"

"ทำไมคิดว่าฉันมาฆ่านายล่ะ"

"แล้วท่านไม่ได้มา เพื่อถุงมือแห่งเลเซียนี่งั้นเหรอ?"

เด็กชายพูดพร้อมกับยื่นถุงมือแห่งเลเซียไปทางวูชิน

ถุงมือเป็นไอเทมศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากเมล็ดพันธ์แห่งพระเจ้า ผลไม้แห่งพระเจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆจึ่งไม่มีปัญหาอะไรที่จะมอบให้ แค่มันต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อสร้างมันขึ้นมา

นี่เป็นไอเทมของ องค์เทพเลเซีย เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์

แน่นอนว่าอำนาจของบาทหลวงจะลดลงเมื่อเสียไอเทมศักดิ์สิทธิ์ไป บางครั้งการเสียมันไปก็เลวร้ายยิ่งกว่าตาย

แต่ตอนนี้เด็กชายตรงหน้ามอบมันให้ด้วยความสมัครใจ ...

“...”

มันเป็นแค่เด็กเพี้ยนๆที่แต่งตัวประหลาด? หรือว่ามันคิดคำนวณมาดีแล้ว?

"ฉันจะใช้มันอย่างดี"

วูชินหยิบถุงมือมาโดยไม่ใส่ใจอะไร

มันเป็นส่วนประกอบในการสร้างชุดพิพากษาแห่งแทรช ไอเท็มศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์หลักของบาทหลวงแห่งเลเซีย แต่ตอนนี้มันมอบให้ราวกับไม่เสียดาย

"ผมแค่หวังว่าคำพยากรณ์จะเป็นจริง"

"คำพยากรณ์งั้นเหรอ ... "

วูชินหัวเราะออกมา

"เลเซีย บอกว่าไงล่ะ?"

เด็กชายหัวเราะเบาๆกับคำถามของวูชิน

ผู้อมตะเป็นคนที่ได้เผชิญหน้ากับเทพเจ้ามาแล้ว ส่วนตัวเขาแม้จะเป็นสาวกกลับไม่เคยได้โอกาสอะไรแบบนั้น แต่เมื่อคืนเขาได้นิมิตคำพยากรณ์มา

"องค์เทพบอกว่า หากผมมอบสมบัติชิ้นนี้ให้ สิ่งที่ผมปรารถนาจะเป็นจริง ... "

“... .”

วูชินจ้องมองไปที่ถุงมือ

ตอนนี้เขาได้รวบรวมไอเทมสามชิ้นที่มีความสำคัญในการสร้างชุดเซ็ทแห่งแทรช

เขาขาดอีกแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น

วูชินยกเลิกการอัญเชิญอัศวินแห่งความตายของเขา ก่อนที่จะออกจากทะเลสาบไลตันไป

***

อาณานิคมแห่งใหม่ บนหุบเขาซัวรอส

ผู้คนรวมกลุ่มกันสร้างอาคารรอบๆต้นไม้โลก พวกเขากำลังสร้างบ้านและสร้างธงเพื่อเอาไปปักไว้รอบๆ หุบเขา

"เจ้าคิดว่ามันเป็นอย่างที่เจ้าพูดเหรอ?"

"แน่นอน"

ผู้คนกำลังกล่าวถึงสัญลักษณ์บนธงพันธมิตร

มันดูคล้ายๆ ลูกสิงโตกำลังคำราม ไม่สิ มันดูคล้ายเสือมากกว่า

"ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าสัญลักษณ์ของอแลนดัลมีความหมายว่าอะไร "

"ไม่ใช่ หมายถึงว่าจะคำรามไปก้องโลกเหรอ?"

"แต่ข้าคิดว่ามันกำลังหาวนะ ... "

หัวข้อที่ผู้คนกำลังถกเถียงกันอยู่คือสัญลักษณ์ของอแลนดัล พวกเขากำลังคาดเดาความหมายของมัน ซึ่งมันดูน่ารักและไม่ได้เข้ากับความโหดเหี้ยมอำมหิตของผู้อมตะแม้แต่นิด

"ข้ามั่นใจว่ามันต้องเป็นสิงโต"

"เจ้าพูดอะไร! ก็เห็นๆอยู่ว่ามันคือเสือโคร่ง "

หัวข้อเหล่านี้กำลังถูกถกเถียงกันไปทั่ว และหนึ่งในคนที่อยากรู้มากที่สุดคือราชาองค์ใหม่แห่งอาณาจักรฮอนชู ก็อนสึ

เขาเคยได้ยินแต่คำร่ำลือถึงผู้อมตะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอผู้อมตะตัวเป็นๆ และได้เห็นกองทัพของผู้อมตะครั้งแรก

ผู้อมตะ ดูเหมือนจะแตกต่างจากคำบอกเล่าของบิดาเขา

ตัวตนของผู้อมตะเป็นอะไรที่ราชาองค์ใหม่คนนี้อยากรู้อยากเห็นมากที่สุด

หุบเขาซัวรอสแห่งนี้ มีภูเขาโอบล้อมอยู่รอบด้าน ตอนนี้ผู้คนกำลังสร้างฐานไม้เพื่อติดตั้งธงของพันธมิตรเพื่อแสดงให้คนที่มาสืบข่าวรับรู้

ก็อนสึปีนขึ้นไปบนยอดเขา ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา เพราะเห็นลูกไฟกำลังพุ่งมาจากฟากฟ้า

"ท่านซังกู กลับมาแล้ว"

ผู้กล้าที่มาพร้อมอมตะไม่ได้มีฝีมือธรรมดาๆ ทั้งนักเวทย์เพลิงซังกูและแวมไพร์แจมิน

ถ้าธรรมดาแล้วจะคู่ควรเป็นผู้ติดตามของผู้อมตะหรือ?

ซังกูเป็นคนสนุกสนานมากและยิ่งเฮฮาหนักเมื่อได้ดื่มเหล้า การเต้นของเขามันมีมนต์ขลังให้คนอื่นทนไม่ไหวจนต้องลุกมาเต้นตาม เมื่อวันก่อนเขาเป็นผู้นำจัดงานฉลองจนถึงเช้า อีกทั้งก็อนสึไม่เคยคิดเลยว่าผู้ใช้เวทย์เพลิงจะดื่มเหล้าเก่งขนาดนี้

"กลับมาแล้วเหรอครับ ท่านซังกู"

ก๊อนสึได้สนิทสนมกับซังกูในงานคืนนั้น พวกเขาได้ดื่มเหล้าด้วยกัน เมื่อซังกูบินลงจอดเขาก็เดินเข้าไปก่อนที่จะโค้งคำนับทำความทักทาย

“เฮ้ ก็อนสึว่าไง”

"สบายดีครับ ต้องขอบคุณสำหรับการกวาดล้างรอบๆของท่าน"

"แหะๆ เดี๋ยวผมต้องไปฝึกอีกนิดหน่อย นายมีอะไรรึเปล่า "

"ก็ไม่มีอะไรมากครับ"

เขาแข็งแกร่งมาก แต่เขายังคงฝึกซ้อมอย่างขยันหมั่นเพียร ...

"มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามท่านสักหน่อย"

"อะไรเหรอ? แต่ตอนนี้อาณานิคมยังไม่เสร็จนะ ถ้าเป็นเรื่องที่จะออกไปไหนคงยังไม่ได้ ใช่เรื่องนี้รึเปล่า? ตอนนี้เราอย่าพึ่งลงมืออะไร เข้าใจนะ? "

“อ่อเปล่าครับ? เรื่องนั้นผมก็ไม่ได้คิดที่จะลงมืออะไรตอนนี้ "

ก็อนสึเงยหน้ามองท้องฟ้าเล็กน้อย ก่อนที่จะหันมามองซังกู

"เราเดินไปคุยไปก็ได้ครับ"

"ได้ๆ"

"แล้วนายอยากถามอะไรงั้นเหรอ?"

"พอดีผู้คนเขาอยากรู้กันว่าสัญลักษณ์ของอแลนดัล มันเป็นสิงโตหรือเสือ? "

"เอ๋?"

ซังกูเอียงหัวด้วยความสงสัย ก่อนที่จะหันไปมองธง เมื่อเขาเห็นมันคนแรกที่เขานึกถึงก็คือ บีบี ...

"น่าจะเป็นแมวนะ"

"หา?"

"นายไม่รู้จักแมวเหรอ?"

"ผมรู้ แต่ว่าเอ่อ ... "

"ผมมั่นใจว่าต้องเป็นแมวนี่แหล่ะ"

“... .”

"งั้นเหรอครับ?"

ก็อนสึรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของซังกู เขาเหมือนถูกซังกูล้อเล่น ซังกูยักไหล่ของเขาอย่างอารมณ์ดีในขณะที่มองก็อนสึ

ซังกูรู้ว่านี่เป็นสัญลักณ์บนธงเป็นของอแลนดัล แต่เขาก็ไม่เคยถามวูชินว่ามันคืออะไรเหมือนกัน ทำให้ซังกูก็ไม่รู้แน่ชัดว่าสัญลักษณ์นี้มันคืออะไรกันแน่ แต่เวลาเขามองแล้วเขามักจะนึกถึงบีบี เขาก็เลยคิดว่ามันเป็นแมว

“ฮ่า ๆ ผมว่าเมโลดี้น่าจะรู้เรื่องนี้นะ ลองไปถามเธอดูสิ "

"งั้นเหรอครับ! งั้นผมคงต้องไปหาท่านเมโลดี้เร็วๆนี้ล่ะ "

ส่วนด้านอื่น เหล่าผู้กล้าทั้งหมดกำลังปีนขึ้นไปยอดเขารอบๆหุบเขาซัวรอส เพื่อตรวจดูรอบๆ อาณานิคม

พวกเขามีความสามารถทางด้านร่างกายเหนือคนทั่วไปมาก การปีนขึ้นเขาพวกเขาทำได้อย่างไม่มีปัญหาและมันใช้เวลาแค่พริบตาเดียวเท่านั้น สำหรับซังกูโดดไม่กี่ทีก็ถึงยอดเขาแล้ว

"เห?"

ซังกูแปลกใจนิดหน่อยที่เขาขึ้นมาบนยอดเขาแล้วเห็นแจมินที่กำลังทำหน้าตาบิดเบี้ยวอย่างมาก

“เฮ่แจมิน! มีอะไรงั้นเหรอ?"

“พี่”

“หือ ว่าไงอะ?"

"พี่ได้ยินเรื่องคำพยากรณ์แล้วยัง?"

“... .?”

ซังกูไม่รู้ว่าแจมินกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เลยเอียงหัวด้วยความสงสัย เมื่อแจมินเห็นซังกูยังงงๆเขาก็ชี้ไปที่เมโลดี้ที่กำลังนั่งอยู่ด้านล่างต้นไม้โลก

"ผมได้ยินมาว่าเธอได้รับคำพยากรณ์จากเทพธิดาอาเรีย ก่อนที่พี่วูชินจะกลับมาอัลเฟ่น"

"แล้วอาเรียนี่เป็นใครอะ?"

แล้วเทพธิดาอาเรียนี่เป็นใครกันล่ะถึงให้คำพยากรณ์ได้? แล้วมันคืออะไร?

"เทพธิดาอาเรียคือเทพแห่งการพยากรณ์"

"อ่อ?"

มันหมายถึงการทำนายอะไรงี้รึเปล่า?

ท่าทางของซังกูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่จะถามออกมา

"แล้วเธอบอกว่าไงบ้างเหรอ?"

"ก็แบบว่า…"

แจมินเปิดปากพูดออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

รีวิวผู้อ่าน