px

เรื่อง : The Inverted dragons scale
028 - ความรักเป็นเรื่องที่ยากจะแสดง!


นอกเหนือจากหลี่ชือเหนียนแล้ว, นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่มู่หยางได้รับของขวัญจากเพศตรงข้าม.

แม้แต่เพื่อนเพศเดียวกันหลี่มู่หยางก็ยังไม่เคยมี.

 

กระเป๋าถักใบนั้นส่งกลิ่มหอมอ่อนๆ ออกมา. หลี่มู่หยางเองก็ไม่แน่ใจว่ากลิ่มหอมนี้มันเป็นเพราะสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าหรือเป็นเพราะว่ามันติดกลิ่นของชุยเสี่ยวซินกันแน่.

หลี่มู่หยางยกถุงนั่นขึ้นมาดมเหมือนกับคนโรคจิต, ท่าทีของเขาดูเหมือนคนที่มีความสุขมากจนเกินไป ราวกับว่าเขาตกลงไปในหลุมสมบัติที่หาค่าไม่ได้.

 

"หลี่มู่หยาง, พี่รู้มั้ยว่าพี่ดูเหมือนคนจำพวกที่คลั่งดอกไม้เลย?" หลี่ชือเหนียนเบะปากแล้วพูดด้วยสีหน้าเชิงเหยียดๆ .

"การเป็นพวกคลั่งดอกไม้ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องน่าอายตรงไหนเลย." หลี่มู่หยางยิ้มเยิ้ม: 
"ในอดีต, บางคนเรียกพี่ว่าไอ้โง่ การเป็นคนคลั่งดอกไม้มันตรงข้ามกับการเป็นคนโง่เลยนะ ดีกว่าเดิมจะตาย เธอไม่คิดแบบนั้นเหรอ?"

 

"พี่เอ้ยย, คุณพรี่ พี่มีความภูมิใจบ้างมั้ยเนี่ย?" หลี่ชือเหนียนพูดเชิงโมโหนิดๆ แล้วลงไปนอนกลิ้งบนเตียง: "นั่นมันก็แค่กระเป๋าถักไม่ใช่หรือไง? ทำไมพี่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วยห๊ะ? ลองไปดูที่ห้องหนู, ไปดูของขวัญที่หนูได้มาในตู้ล็อคเกอร์ที่โรงเรียนสิ - ถ้าหนูเป็นแบบพี่ หนูว่าหนูคงจะเป็นลมไปเลยม้างงง?"

 

หลี่ชือเหนียนเป็นเด็กน่ารักและฉลาด, อีกทั้งยังซื่อสัตย์เป็นอย่างยิ่ง; เธอเป็นพี่ใหญ่ในระดับชั้นปีสอง มันไม่แตกต่างเลยว่าจะเป็นชายหรือหญิง; ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ก็จะมีเสียงกรี๊ดกร๊าดตลอด. เมื่อถึงวันเกิดเธอ, มันเหมือนกับว่าเป็นงานเทศกาลครั้งใหญ่เลยล่ะ. ของขวัญที่เธอได้รับวันนั้นแทบต้องใช้รถบรรทุกมาขนกลับบ้าน.

 

ในตอนนั้น หลี่มู่หยางเปรียบเสมือนคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์, ทำงานหนักเหมือนกับมดงาน. เขาต้องขนของขวัญเหล่านั้นกลับไปที่ห้องของหลี่ชือเหนียนทีละเล็กละน้อย.

 

ห้องของหลี่ชือเหนียนนั้นใหญ่กว่าห้องของหลี่มู่หยาง; ครอบครัวของเขาบอกว่าผู้หญิงจำเป็นต้องใช้ห้องใหญ่กว่าเพื่อเก็บเสื้อผ้า. แต่หลี่มู่หยางรู้ความจริงอยู่แล้ว, หลี่ชือเหนียนมีของขวัญมากมาย เธอเลยต้องใช้ห้องที่ใหญ่กว่าเพื่อเก็บของเหล่านั้น.

 

"นี่เป็นเพราะว่าพี่มีโอกาสน้อยมากเลยที่จะได้ของขวัญอะไรกับเขาบ้าง, ดังนั้นพี่เลยมีความสุขบ้าไปเลย" หลี่มู่หยางยิ้มปริ่ม, คำพูดของหลี่ชือเหนียนไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์ของเขาเลย. "ชือเหนียน, เธอมีประสบการณ์เยอะแยะเลยนี่ บอกพี่หน่อยซิว่าเธอจะให้ของขวัญผู้ชายก็ต่อเมื่ออยู่ในฐานะอะไร?"

"หลี่ชือเหนียนลุกขึ้นจากเตียง, ดึงคอเสื้อหลี่มู่หยาง เธอยิ้มหวานๆ แล้วพูดว่า: "หลี่มู่หยาง, พี่พูดว่าอะไรนะ? หนูได้ยินไม่ค่อยชัด."

"พี่พูดว่าเธอมีประสบการณ์เยอะแยะเลย, เธอจะ..." หลี่มู่หยางไม่สามารถพูดต่อได้. เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่.

 

"พูดออกมา. ทำไมไม่พูดต่อล่ะ?"
"ฮ่าๆๆๆๆ, เธอรู้ว่าพี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น."
"โฮะๆๆๆ, แต่หนูได้ยินจัดแจ่มแจ้งเลยว่าพี่หมายความว่าอย่างไรตอนที่พี่พูด."

"โถ่วว น้องรัก, จริงๆ แล้วพี่แค่อยากปรึกษาน้องเท่านั้นเองน้าา"

 

ชือเหนียนหุบยิ้ม, เธอจ้องหน้าหลี่มู่หยางอย่างฉกาจฉกรรจ์แล้วพูดว่า: "หนูเป็นน้องพี่นะ, ไม่ใช่ว่าพี่ควรจะมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้มากกว่าหนูงั้นเหรอ? ทำไมพี่ถึงมาถามหนูเล่า?"

"พี่..." หลี่มู่หยางน้ำตาคลอ, จากนั้นเขาก็พยายามอธิบายอย่างลุกลี้ลุกลนว่า: "พี่แค่คิดว่าเธอเป็นคนที่ฉลาดมากๆ , ไม่มีอะไรที่เธอไม่สามารถหาคำตอบได้."

"ถูกต้องแล้ว" หลี่ชือเหนียนหยักหน้า.

"เอ่ออ..?" 


"เอ่ออะไรยะ? ถามมาสิ" หลี่ชือเหนียนปล่อยคอเสื้อหลี่มู่หยาง, แล้วก็ใช้มือน้อยๆ ของเธอจัดปกคอเสื้อให้เขา. หลี่มู่หยางพัฒนาสกิล 'ยุทธการปกป้องหมู่บ้านแบบเฉไฉ' ขึ้นอีกขั้น. ตอนนี้เขาใช้มันได้โดยไร้ข้อบกพร่อง.

 

"พี่พูดว่า, ภายใต้สถานการณ์ไหนเธอถึงจะให้ของขวัญผู้ชายเหรอ?"

"ตอนวันหยุด, ตอนวันเกิดเขา, เมื่อเขาประสบความสำเร็จอะไรบางอย่าง, เมื่อเขาเศร้าเพราะถูกรังแกมา, เมื่อหนูไปเที่ยวแล้วคิดถึงเขา, เมื่อหนูคิดว่าเขาเป็นคนขี้เหร่แบบน่าเอ็นดู, และเมื่อหนูเห็นสิ่งของที่ดูขี้เหร่แบบน่าเอ็นดู หนูก็จะซื้อให้เขา." หลี่ชือเหนียนยิ้มแล้วมองหลี่มู่หยาง: "ในสถานการณ์ทั้งหมดนี้, หนูจะซื้อของขวัญให้เขา."

 

"แล้วนั่นแปลว่าเธอชอบเขาหรือเปล่า?" หลี่มู่หยางถามอย่างจดใจใจจ่อ.

คำตอบของหลี่ชือเหนียนไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการจะรู้ซักเท่าไหร่. วันนี้ไม่ได้วันหยุดหรือวันเกิดเขาและเขาเองก็ไม่ได้เศร้าเพราะถูกรังแกมา. ดังนั้น, มีแค่สองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้: หนึ่งคือเพื่อฉลองเรื่องที่คะแนนของเขาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว? สองคือเสี่ยวซินคิดว่าเขาเป็นเด็กขี้เหร่ที่น่าเอ็นดูงั้นเหรอ?"

 

คำตอบทั้งสองข้อนั้นทำให้หัวใจของเขารู้สึกว่างเปล่าและหดหู่.

"หนูชอบเขา" หลี่ชือเหนียนให้คำตอบที่ชัดเจนกับเขาในที่สุด.

"จริงเหรอ?" หลี่มู่หยางกลับมาดี้ด้าอีกครั้งแล้วพูดว่า: "เพราะว่าเธอชอบเขาเธอเลยให้ของขวัญเขาถูกมั้ย?"

"ใช่แล้ว" หลี่ชือเหนียนพยักหน้า. ผมของเธอปลิวไปปลิวมาซึ่งนั่นมันทำให้เธอดูน่ารักมากๆ.

"พี่ว่าแล้ว" หลี่มู่หยางจับมือของหลี่ชือเหนียนอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า: "พี่ว่าแล้ววว. เสี่ยวซินเองก็มีความรู้สึกกับพี่เหมือนกัน, ไม่งั้นทำไมเธอถึงเอากระเป๋าถักนี่มาให้พี่กัน? พี่ได้ยินมาว่า ไม่มีหรอกที่อยู่ดีๆ จะมีใครเอาของแบบนี้ให้คนอื่น"

"จ้า จ้าาา" หลี่ชือเหนียนพูดเชิงเห็นด้วย: "ถ้าผู้หญิงไม่ชอบ, พวกเธอก็จะไม่ให้ของอะไรกับผู้ชายหรอก"

 

หลี่มู่หยางนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างกระทันหัน, เขามองหลี่ชือเหนียนแล้วถามว่า: "ชือเหนียน, เธอชอบใครกันล่ะห๊ะะ? มันไม่ใช่ - รักครั้งแรกของเธอถูกมั้ย?"

"รักครั้งแรกเหรอ?" หลี่ชือเหนียนยิ้มหวานแล้วพูดว่า: "ก็อาจจะนะ"

"เขาชื่ออะไร? พี่รู้จักเขามั้ย?"
"แน่นอนว่าพี่รู้จักเขา" หลี่ชือเหนียนดึงแขนหลี่มู่หยางแล้วพูดว่า: "ก็พี่ไง, เจ้าพี่โง่เง่าของหนู"
"........"

 

ทุกๆ วัน ชุยเสี่ยวซินจะมาติวให้หลี่มู่หยางไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก. หลี่มู่หยางเต็มไปด้วยความสุขทุกๆ ครั้งที่เขามองชุยเสี่ยวซิน; เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่กับชุยเสี่ยวซิน.

ความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ชือเหนียนและชุยเสี่ยวซินก็ดีขึ้นเรื่อยๆ. เมื่อตอนหลี่มู่หยางกำลังโจทย์, พวกเธอก็จะนั่งอยู่ในห้องหลี่ชือเหนียนพูดคุยกันครึ่งค่อนวัน. แน่นอนว่าฝ่ายที่พูดคือหลี่ชือเหนียน, และฝ่ายที่ฟังคือชุยเสี่ยวซิน. ชุยเสี่ยวซินมักจะไม่ค่อยพูดอะไรมากนัก.

 

เหลาฉีแม่ของหลี่มู่หยางก็ตกหลุมรักชุยเสี่ยวซินขึ้นทุกวันๆ. ทุกๆ วันเธอจะกลับจากงานและเอากล่องใส่เค้กที่ชุยเสี่ยวซินชอบกินกลับมาด้วย. เธอเซ้าซี้ชุยเสี่ยวซินให้อยู่กินมื้อเย็น, และเธอยังต้องการแม้กระทั่งให้ชุยเสี่ยวซินอยู่ค้างที่บ้าน - แม้ว่าเธอจะโดนปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า, เธอก็ไม่เคยดับความหลงใหลที่เธอมีให้ชุยเสี่ยวซินลงได้เลย.

 

ด้วยความช่วยเหลือของชุยเสี่ยวซิน, หลี่มู่หยางก็ทบทวนบทเรียนทั้งหมดอย่างเป็นระบบได้. แม้ว่าเขาจะสามารถเข้าใจหัวข้อต่างๆ,

แต่บางเรื่องเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ไม่รู้ทำไม. เวลากำลังหมดลง, ในตอนที่หลี่มู่หยางทำข้อสอบชุดสุดท้ายที่ชุยเสี่ยวซินเตรียมให้

มันคงเป็นวันก่อนวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพียงหนึ่งวัน.

 

ชุยเสี่ยวซินสัญญากับหลี่มู่หยางด้วยเกียรติของเธอว่าจะติวให้เขาจนถึงวันก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย.

พรุ่งนี้, หลี่มู่หยางจะเข้าร่วมสู้กับผู้สมัครหลายร้อยพันคนในการใช้ปากกาของพวกเขาเป็นคันธนู, ความรู้ของพวกเขาเป็นลูกธนู และทำทุกอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อยิงคำตอบในหัวของพวกเขาใส่มหาวิทยาลัย.

 

คนที่ยิงได้เข้าเป้าที่สุด ก็จะได้คะแนนล้นหลาม, แล้วก็จะถูกต้อนรับด้วยดอกไม้และเสียงประมือ.

ผู้ที่ยิงพลาดก็อาจจะสูญเสียสิทธิ์ในการแข่งขันหรืออาจจะเสียชีวิตไปเลยก็ได้.

ในบรรดาคนนับหมื่น, ใครจะได้เป็นฮีโร่?

 

ชุยเสี่ยวซินปฎิเสธคำชวนกินมื้อค่ำของเหลาฉีอีกครั้งและกลับบ้านไป. หลี่มู่หยางไม่จำเป็นต้องให้แม่ของเขาดุเรื่องการไปส่งอีกต่อไปแล้ว.

"หลี่มู่หยาง" ชุยเสี่ยวซินยืนใต้ต้นไม้หน้าบ้าน, มองหลี่มู่หยางแล้วพูดว่า: "ฉันทำงานหนักมาก, นายเองก็เช่นกัน. ฉันไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของนายจะเป็นยังไง, แต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่านายจะทำให้ทุกๆ คนตกใจได้แน่นอน - ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยแกล้งนาย, คนที่หัวเราะเยาะนาย, คนที่ดูถูกหรือดูแคลนนาย พวกเขาจะต้องเสียใจกับความใจแคบและความเห็นแก่ตัวของพวกเขาแน่นอน."

 

"ฉันไม่ได้ทำงานหนักเพื่อเพื่อเขา" หลี่มู่หยางมองชุยเสี่ยวซินแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: "ฉันทำสิ่งนี้เพื่อเธอ."

 

"หลี่มู่หยาง.." ริมฝีปากของชุยเสี่ยวซินขยับเล็กน้อย, แต่เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ. เธอควรจะพูดอะไรงั้นเหรอ? พูดว่าเราอยู่กันคนละโลกหรือเปล่า? พูดว่าเราอาจจะต้องถูกแยกออกจากกันและมันจะทำให้เราเจอหน้ากันยากมากๆ ใช่มั้ย? พูดว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้เลยอย่างงั้นเหรอ?

 

"เพราะเราสัญญากันไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบเว่ยหมิงด้วยกัน ถูกมั้ย?"

ดวงตาของชุยเสี่ยวซินสว่างขึ้น, ปากของเธอขยับเล็กน้อยแล้วพูดว่า: "ใช่แล้ว, ดังนั้น ทำให้ดีที่สุดนะเพื่อน"

ชุยเสี่ยวซินโบกมือลาหลี่มู่หยางและก้าวเท้าออกไปเร็วผิดปกติ.

 

"ถ้าเป็นแบบนี้, มันก็คงจะง่ายกว่าสำหรับเธอ ถูกมั้ย?" หลี่มู่หยางกระซิบขึ้นในขณะที่ยืนมองตามหลังชุยเสี่ยวซินที่เดินจากไป. ภายใต้แสงไฟ,

เงาของเขาดูอ่อนแอและโดดเดี่ยว..

 

ตอนที่หลี่มู่หยางเดินกลับบ้าน, เหลาฉีก็เตรียมมื้อเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว.
"มู่หยาง, หนูเสี่ยวซินกลับไปแล้วเหรอ?" เหลาฉีเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถ้วยซุปด้วยรอยยิ้ม.

"เอ่ออ.. กลับไปแล้วครับ." หลี่มู่หยางตอบกลับ..

 

"เก็บหนังสือหนังหาซะ, ไปล้างมือเตรียมตัวมากินข้าวเย็นได้แล้ว." เหลาฉีพูดไปยิ้มไป: "แล้วก็ไปเรียกตัวขี้เกียจข้างบนลงมาด้วย, แม่บอกให้นางมาช่วยล้างผักหน่อยจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่โผล่มา บอกว่าจะอยู่ทำการบ้านข้างบน."

 

"ครับผม" หลี่มู่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม. หลี่ชือเหนียนเป็นเด็กที่เก่งทุกๆ ด้าน, แต่เธอก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ, เธอเองก็ไม่ชอบทำงานบ้านเหมือนคนพวกนั้น. เมื่อใดก็ตามที่เธอถูกใช้ล้างผักล้างจาน, เธอก็จะหาข้ออ้างร้อยแปดพันเก้ามาใช้เพื่อหลีกเลี่ยง.

 

ตอนที่หลี่มู่หยางกำลังเดินขึ้นบันได, เหลาฉีก็ตะโกนตามหลังขึ้นมาทันที: "มู่หยางงงง"
"ครับแม่, ว่าไงครับ?" หลี่มู่หยางหันหลังกลับ มองเหลาฉีแล้วถามขึ้น.

 

"ลูกจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเวสต์วินด์ใช่มั้ย?" เหลาฉีถาม, ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาของเธอเป็นสายตาที่หลี่มู่หยางไม่เคยเห็นมาก่อน.

"ครับ" หลี่มู่หยางพยักหน้า. "แม่คิดว่ามันคงจะไร้ความหวังและเป็นไปไม่ได้สำหรับผมใช่มั้ย?"


"แน่นอนว่าไม่ใช่" เหลาฉีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: "ลูกของแม่ทำงานหนัก; ในฐานะแม่ แม่รู้เลยล่ะ. ทำไมแม่ถึงจะไม่มีความหวังล่ะ?

ลูกต้องการเข้ามหาวิทยาลัยเวสต์วินด์ ลูกก็จงไปเข้ามหาวิทยาลัยเวสต์วินด์เถอะ. แม่สนับสนุนลูกอยู่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ตาม."

 

หลี่มู่หยางยิ้มแป้นแล้วพูดว่า: "ขอบคุณครับแม่"
"เด็กโง่, พูดขอบคุณแม่เนี่ยนะ?"
"งั้น เดี๋ยวผมไปบอกให้ชือเหนียนลงมากินข้าวก่อนนะครับ" หลี่มู่หยางพูดไปยิ้มไป.

หลี่มู่หยางหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน, หลังจากนั้น รอยยิ้มเป็นใบหน้าของเหลาฉีก็แห้งเหือดไป. ใบหน้าของเธอเศร้าซีด, สายตาของเธอก็ยังคงไม่ปกติอยู่อย่างนั้น.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

devil : โถ่คุณแม่ ฮรือออออออ..

ติดต่อ พูดคุยกันได้ที่เพจ Krus de Trans นะครับผมม

 

รีวิวผู้อ่าน