Chapter 112 - พวกแกมันไร้ยางอาย!
ยิ่งพลังของมังกรทะลวงสูญทรงพลังเท่าไร ผลสะท้อนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น.
ทั้งสองอย่างนี้ล้วนเท่าเทียม.
ร่างกายของลั่วเทียนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อนหน้านี้ และด้วยภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวเขาได้ใช้พลังของมังกรทะลวงสูญและฟันจนร่างกายของเฉินเทียนเหยาแหลกเป็นผุยผง ตอนนี้เขาต้องทุกข์ทรมาณกับผลสะท้อนกลับมากขึ้นเรื่อยๆ.
วิชาลับของดื่มโลหิตรุนแรงมาก...มันน่ากลัว แต่มันก็เจ็บปวดมากอีกด้วย.
มันเจ็บจนลั่วเทียนแทบรับไว้ไม่ได้!
แต่...
เขาไม่ได้เสียใจ.
แม้ว่าเขาจะมีโอกาสนับไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังคงเลือกทางเดินเช่นนี้.
เฉินเทียนเหยาที่มีความเย่อหยิ่งและจองหองสูงเทียมฟ้าและความรังเกียจที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของสาวกนิกายทั้งหลาย ทำให้ลั่วเทียนเหลืออดเป็นอย่างมาก.
สิ่งที่เขาต้องการคือตบคนเหล่านี้จนถึงขั้นที่ว่ามารดาของพวกมันก็ไม่อาจจำได้.
ตอนนี้เขาทำได้แล้ว.
แม้ว่าเขาจะตาย แต่เขาก็ฆ่าเฉินเทียนเหยาได้และทำให้สาวกของนิกายนิ่งงันเหมือนกันหินด้วยฉากที่โหดเหี้ยมต่อหน้าของพวกมัน ความรู้สึกของความกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้!
ในขณะที่ความเจ็บปวดยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไอชีวิตของลั่วเทียนก็จางขึ้นเรื่อยๆ เขากัดฟันและเตือนสติตัวเองว่า “ข้าไม่อาจตาย ข้าไม่อาจตาย แน่นอนว่าบิดาคนนี้ไม่อาจตายได้!”
“ข้ายังไม่ได้พาแม่ของชุนชุนกลับมาเลย ข้ายังไม่ได้ทุบตีก้นหลิงฮานซานให้บานดั่งดอกไม้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บิดาคนนี้ยังคงซิงอยู่เลย!”
“เจ้าสวรรค์ต่ำช้า เจ้าได้ให้ร่างกายนี่กับข้าเพื่อให้มีชีวิตที่สอง แต่ข้าก็ยังคงซิงอยู่เลยทั้งสองชีวิตเลยงั้นรึ? น้องสาวเจ้า! เจ้ามีหัวใจบ้างไหม?!”
เจ็บ!
มันเจ็บจนเกินทน.
ตาของลั่วเทียนสั่นขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน.
หลังจากนั้น...
ร่างกายของเขาก็ร่วงลงกับพื้น.
ช่วงเวลาที่เขาร่วงลงมา สมาชิกตระกูลลั่วนับไม่ถ้วนวิ่งออกมา.
ที่หางตาของเขามองเห็นหลี่ซูเอ๋อร์ที่กำลังวิ่งเข้ามาด้วยน้ำตา ทำให้มีรอยยิ้มจางๆปรากฏที่ปากของเขา.
อาการเจ็บปวดเหล่านี้คือสิ่งที่ดื่มโลหิตบอกว่า ความเจ็บเหล่านี้แม้กระทั่งคนที่ทรงพลังก็ยังไม่อาจทนทานได้ แต่ลั่วเทียน ผู้ซึ่งอยู่ในปราณเชี่ยวชาญ ขั้น 6 เท่านั้น.
“ไอ้ชั่ว บิดากำลังจะตายแล้ว!”ลั่วเทียนสถบอย่างขมขื่นในใจขณะที่สติของเขาเบาบาง เขากำลังจะตายอีกไม่นาน.
โดยไม่รู้ว่าทำไมสวรรค์ถึงได้ส่งเขามาที่นี่ หรือว่าสวรรรค์มีน้องสาวจริงๆและน้องสาวคนนั้นคงจะไร้หัวใจที่ทำให้ลั่วเทียนตายอีกครั้ง.
ช่วงเวลานั้นขาข้างนึงของลั่วเทียนได้ก้าวข้ามไปยังประตูนรก...
เสียงระบบก็ดังขึ้น.
“ติ้ง!”
มันเหมือนกับเสียงสวรรค์...
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน จากการสังหาร หมาป่าโลหิตเพลิง. ท่านจะได้รับค่าประสบการณ์ 200 แต้ม,พลังปราณ 20 หน่วย…”
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการเพิ่มเลเวล. ตอนนี้คุณอยู่ในระดับปราณเชียวชาญ ขั้น 7!”
เสียงนี้มันไพเราะอย่างมาก.
มันไพเราะจนเกือบจะทำให้ลั่วเทียน ครางออกมา…
การที่เลเวลอัพนั่นมันหมายความว่าไง?
เมื่อเลเวลอัพ ก็หมายความว่าร่างกายทั้งหมดของเขาจะฟื้นฟูราวกับได้ชีวิตใหม่ การที่ได้เลเวลอัพมันก็ราวกับการฟื้นคืนจากความตายและความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน!
แม้ว่าเขาจะกำลังเหลือลมหายใจสุดท้าย ตราบเท่าที่ระบบยังคงแจ้งเตือน ลั่วเทียนจะไม่ตาย นี่คือเบื้องหลังของระบบ!
ทำไมค่าประสบการณ์ของเขาจึงเพิ่มมากขึ้น?
ก่อนที่ลั่วเทียนจะออกจากเทือกเขาวิญญาณ เขาได้ทิ้งหุ่นยนต์สามตัวไว้ที่นั่น จุดประสงค์คือเตรียมพื้นที่ให้ตระกูลลั่วซ่อนตัว.
เขาไม่คิดเลยว่ามันไม่จำเป็น.
เนื่องจากเขาได้ฆ่าเหล่าสาวกนิกายไปสองคน,ซูซางเฟนและซูเหยาซวง รวมทั้งสมาชิกตระกูลซูกว่าอีก 100 คน แถบประสบการณ์ของเขาก็ใกล้ที่จะเต็มแล้ว.
การฆ่าเฉินเทียนเหยาทำให้เขาได้ค่าประสบการณ์อีก 30,000 และเขาก็ต้องการมันอีกเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่จะเลเวลอัพ.
ในช่วงเวลานั้น...
หมาป่าเพลิงโลหิตได้กลายเป็นเถ้าถ่านท่ามกลางพายุหิมะและถูกสังการโดยหุ่นเชิดของเขา นั่นเป็นเหตุให้เกิดเรื่องนี้กับเขาในช่วงเวลานี้.
มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างน่าเหลือเชื่อ!
แน่นอน...
ลั่วเทียนไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างๆเขาคือปีศาจจิ้งจอกน้อยโลลิที่มีโชคลาภอย่างมหาศาล.
ชุนชุนเองแต่เดิมก็ทรงพลังอยู่แล้ว และรวมเข้ากับเรื่องนี้มันก็ทรงพลังมาก!
ความแข็งแกร่งของเธอไม่เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะของเธอ แต่มันเป็นคุณลักษณะพิเศษของเธอ!
เนื่องจากเพราะคุณลักษณ์พิเศษของเธอ ทำให้ครอบครัวของเธอถูกทำลายทั้งตระกูลจิ้งจอกของเธอ! (นี่คือสิ่งที่จะเกิดในอนาคตและจะไม่มีการพูดถึง!)
แม่กระทั่งการที่ได้แก่นปีศาจธาตุไฟ ก็ต้องให้เครติดกับเธอ!
ลั่วเทียนฟื้นฟูและความเจ็บปวดของเขาก็หายไป แต่เขายังคงอยู่ในสภาพแปลกๆ ขณะที่บาดแผลบนร่างกายของเขาหายไปและจิตใจของเขาก็ฟื้นตัว แต่ก็เขายังไม่อาจเคลื่อนไหวได้ชั่วคราว.
ดื่มโลหิตรู้สึกประหลาดใจในตอนแรกและจากนั้นก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะของเขาค่อยๆนุ่มนวลก่อนที่จะจางหายไป.
ลั่วเทียนก็คงไม่ต้องรู้สึกรำคาญเขาอีกต่อไป.
พลังที่แท้จริงของดื่มโลหิตได้หายไปอย่างน่าใจหาย ตอนนี้เขาอ่อนแอและไม่อาจพูดมากได้อีกแล้ว.
ดื่มโลหิตต้องใช้เวลาอย่างมากในการฟื้นฟู.
ลั่วเทียนได้ทำการตัดสินใจด้วยตัวเองว่า จนกว่าเขาจะพบแก่นปีศาจทั้งห้าธาตุ เขาจะไม่รบกวนดื่มโลหิตอีก.
เขาไม่อาจพึ่งพาคนอื่นได้ตลอดเวลาและจำเป็นต้องจัดการด้วยตัวเอง!
“พี่ใหญ่ลั่วเทียน…”
“นายท่าน นายท่าน…”
“ท่านผู้นำ!”
เสียงหึ่งๆเหมือนฝูงผึ้งจากผู้คนในตระกูลลั่วดังรอบๆลั่วเทียน.
ในเวลานั้น...
หลิวซางเฟยยิ้มเยาะและโบกมือขวาของเขา จากนั้นเขาก็พูดเบาๆ“นำศพของเด็กนั่นมาให้ข้าและฆ่าขยะเหล่านี้ให้หมด!”
คำพูดของเขาเปรียบได้กับสายฟ้ากลางท้องฟ้าที่สดใส!
ใบหน้าของทุกคนในตระกูลลั่วเปลี่ยนไปอย่างมาก.
ซ่งหยวนหนานก้าวออกมาและไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เครารพหรือถ่อมตนอีก“อาวุโส ท่านให้สัญญากับผู้นำว่า ถ้าเขาชนะ คุณจะปล่อยตระกูลลั่วและคนในเมืองภูเขาหยกไป”
หลิวซางเฟยยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูด“ข้าพูดอย่างนั้นด้วย? ข้าสัญญาอย่างนั้น? แล้วทำไมข้าถึงไม่อาจจำเรื่องนี้ได้?”
หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองคนของเขาและถามว่า“ทุกคนได้ยินข้าพูดอย่างนั้นหรือไม่?”
“ไม่!”
“ท่านไม่ได้ให้คำสัญญากับเขา.”
นี่คือสาวกนิกายเมฆคราม...
คนทั้งนิกายเมฆครามเป็นพวกลูกโสเภณีไร้ยางอาย! พวกเขาทั้งหมดหยาบช้าและน่ารังเกียจมาก!
ลั่วเทียนสาปแช่งพวกเขา เขาต้องการที่จะตื่น แต่ร่างกายของเขายังไม่ตอบสนอง!
ใบหน้าของซ่งหยวนหนานมืดครึ้มและพูดว่า “ท่านมีสถานะเป็นอาวุโสของนิกายเมฆคราม ดังนั้นท่านจะสับปรับได้อย่างไร? หากข่าวนี้แพร่ออกไป แน่นอนมันจะส่งผลในทางลบกับท่านเป็นแน่?”
หลิวซางเฟยหัวเราะอย่างเย็นชา“คนตายจะพูดได้ไง? ถ้าคนมันพูดไม่ได้ ข่าวมันจะกระจายออกได้อย่างไร?”
เหอจางก๋งเริ่มหมดความอดทนขณะที่เขาจ้องมองศพของลั่วเทียนจากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “พี่หลิว หยุดไร้สาระ แค่ฆ่าพวกเขาไป มันเสียเวลาที่ค่าของเรามากแล้ว.”
“ฟังดูดี.”
“เราจะทำตามที่น้องเหอบอก.”หลิวซางเฟยหัวเราะเบาๆ
สำหรับการฆ่าล้างตระกูลหรือทำลายเมืองเล็กๆอย่างนี้ มันก็ง่ายเหมือนกับกินอาหาร.
ลั่วเทียนได้รับชัยชนะและตระกูลลั่วก็มีความหวังอย่างนั้น แต่ความหวังเหล่านั้นมันใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีก่อนที่พวกเขาจะจมลงไปสู่ความสิ้นหวัง ตระกูลลั่วอยู่ในช่วงยากลำบากอีกครั้ง.
สาวกนิกายเริ่มก้าวมาข้างหน้า.
ทุกคนมีรอยยิ้มที่หยิ่งยโสบนใบหน้าของเขา.
ตาของซ่งหยวนหนานหดเกร็งขณะที่เขาตะโกน“สมาชิกตระกูลลั่วจงฟัง! ฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้ได้อย่างน้อยหนึ่งคน แม้ว่าเราจะตาย แต่เราก็ไม่อาจปล่อยให้มันอยู่ครบ32ได้!”
ฟางเล่ยก้าวออกมาและตะโกน “พวกสารเลว เข้ามาเลย!”
“หึ!”
เหอจางก๋งส่งเสียง"หึ"อย่างเย็นชาและพูด “ฝูงคนที่ไร้ประโยชน์”
“โจมตี!”
ลั่วเทียนมีสมบัติระดับ วิญญาณและเป็นดาบที่ทรงพลัง ทำให้ความโลภของพวกเขาก่อนตัว แลัวจะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเขาฆ่าคนทั้งเมือง?
เพียงครู่เดียวเท่านั้น...
สาวกนิกายจำนวนมากพุ่งเข้าใส่.
หานเล่ยจ้องมองพวกเขาด้วยตาที่เบิกกว้าง ร่างกายของเขาเริ่มเปล่งสีแดงเลือด ขณะที่เขาโบกดาบใหญ่และพูด “ฆ่า!”
ในเวลานั้นสมาชิกตระกูลลั่วก็กรูกันออกไป...
เรือนร่างที่ขาวสว่างลอยอยู่ท่ามกลางฝูงชน.
ราวกับเป็นแสงของเทพยาดาที่ลงมาจากท้องฟ้า หลี่ซูเอ๋อร์จ้องมองอย่างเย็นชาขณะที่หยิบหยกสีม่วงและสีทองออกมา.สมาช
ทุกคนจากนิกายเมฆครามหยุดทันที ราวกับได้เจอศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต!