Chapter 114 - เพราะว่าเจ้าแสดงท่าทางใส่ข้า...
จิตสังหารลอยอบอวนออกมาจากอาวุโสหลิวและเหอ.
เพื่อสมบัติระดับจิตวิญญาณแล้วพวกเขาก็เต็มใจที่จะเสี่ยงอันตรายทั้งหมด
พวกเขาเชื่อว่าตราบใดที่ปกปิดร่องรอยของพวกเขาองค์กรไวโอเล็ตก็จะไม่อาจหาเบาะแสใดๆได้ จากการตามสืบสวนของพวกเขา.
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเคลื่อนไหว.
การคเลื่อนไหวสายฟ้าแล่บเป็นสิ่งที่พวกเขาได้วางแผนกันเอาไว้นั่นก็คือ ฆ่าอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่อาจเสี่ยงให้คนอื่นมีชีวิตรอดไปได้ โดยเฉพาะ หลี่ซูเอ๋อร์และหลิงหานซาน!
พริบตา...
หลิงหานซานได้จ้องมองอย่างเย็นชาและแผ่บรรยากาศหนาวเหน็บออกมาเล็กน้อย เธอขยับร่างกายของเธอมาบังหลี่ซูเอ๋อร์พร้อมกับหยิบดาบออกมา.
“ปัง~!”
“ตูม~!”
มีประกายไฟแล่บออกมาบนอากาศ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร ขณะที่พวกรูปร่างของพวกเขาต่างก็พร่ามัวและไม่อาจเห็นได้ชัดเจนระหว่างที่พวกเขาปะทะกันและกัน พวกเขากระเด็นออกจากกันและจากนั้นก็เข้าปะทะกันซ้ำๆ มันเป็นฉากที่น่าตกใจอย่างมากสำหรับผู้ชม.
“ปัง~...”
ทันใดนั้นเอง...
ร่างดำตกลงมาจากฟ้า.
ร่างนั้นตรงดิ่งลงมากระแทกใกล้พื้นดินที่หลี่ซูเอ๋อร์อยู่และเป็นหลุมลึก หลุมที่ถูกสร้างขึ้นมาเต็มไปด้วยฝุ่นจนผู้คนไม่อาจมองเห็นได้ว่าเป็นใคร.
อีกสองร่างลงมายังอีกพื้นที่หนึ่ง พวกเขามีใบหน้าที่อ่อนแรงและมีเลือดไหลที่มุมปาก.
ขณะที่ฝุ่นเริ่มจางหาย...
ใบหน้าของหลิงหานซานซีดมากและลมหายใจเริ่มอ่อนแรง เธอเหลือบไปมองหลี่ซูเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง แต่ภาพที่เห็นคือความเย็นชาของหลี่ซูเอ๋อร์.
หลี่ซูเอ๋อร์ไม่มองหลิงหานซานแม้กระทั่งแว่บเดี่ยว!
เกี่ยวกับเรื่องนี้...
หลิงหานซานรู้สึกหนาวเย็นในหัวใจ“ข้าทำตัวกับเจ้าราวกับเป็นน้องสาวาของข้า ตอนที่ข้าบาดเจ็บนางไม่แม้มองมาที่ข้าแม้เพียงแว่บหนึ่ง ข้าทำผิดไปจริงๆรึ?”
“ข้าทำผิดไปงั้นรึ?”
“นางไม่เข้าใจหรือว่าข้าทำทุกอย่างเพื่อนาง?”
“ลั่วเทียนไม่เหมาะกับเจ้าและมันจะส่งผลด้านไม่ดีเพียงเท่านั้น เขาจะกลายเป็นอุปสรรคในอนาคตต่อนาง ทำไม...ทำไมนางถึงไม่เข้าใจข้า?”
หลิงหานซานรู้พ่ายแพ้!
เธอพ่ายด้วยสภาพที่น่าสังเวชขณะที่ร่างกายของเธอบาดเจ็บสาหัส สำหรับเธอที่อยู่ปราณจิตวิญญาณ ขั้น 6 แต่พลังของเธอก็สามารถเทียบเท่ากับ ปราณจิตวิญญาณขั้น 8 นี่แสดงให้เห็นความยอดเยี่ยมของเธอได้อย่างมากแล้ว.
ทั้งสองคน หลิวและเหอ ก็เพียงบาดเจ็บแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.
ทั้งสองคนรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับหลิงหานซาน นี่ได้ทำให้จิตใจของพวกเขาตะลึงอย่างมากเมื่อตระหนักว่าคนจากองค์กรไวโอเล็ตไม่ธรรมดา.
หลิวซางเฟยสังเกตเห็นหลี่ซูเอ๋อร์ที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติงและเริ่มพูดอย่างยิ้มแย้ม“เจ้ายังคงขวางทางพวกเราอยู่ไหม?”
เสียงของหลี่ซูเอ๋อร์หนาวเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งจากก่อนหน้านี้“ใช่!”
หลิงซางเฟยคิดว่าเรื่องนี้ตลกมาก “ปราณจิตวิญญาณขั้น 6 ก็ไม่อาจหยุดเราได้ แล้วเจ้าคิดว่าอะไรที่จะสามารถห้ามพวกเราได้? เจ้าต้องขอบคุณความงามของเจ้าที่ทำให้ข้ายังไม่ฆ่าเจ้า แน่นอนข้ายังทำแบบนี้เพื่อสาวกของนิกายอีกด้วย สำหรับสาวงามที่หยาดเยิ้มแบบเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าเพลิดเพลินแบบที่ไม่เคยมาก่อน 555…”
การแสดงออกของหลี่ซูเอ๋อร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่เธอพูด“เจ้าได้รับบาดเจ็บจากคนในองกรค์ของข้า ตั่งแต่ที่วันนี้ข้าได้เกลียดนาง ข้าจะไม่ตำหนิพวกเจ้าที่ทำร้ายนาง เราจะพิจารณาว่านี่เป็นการลงโทษที่นางสมควรได้รับ ข้าจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับเจ้า นำคนของเจ้ากลับไปยังนิกายและอย่างออกมาเบื้องนอกอีก.”
เสียงของเธอก้าวร้าวอย่างมาก.
กลิ่นอายในร่างกายของเธอยังคงไม่เปลี่ยนไป.
มันยังคงเป็นความสง่างามและกดขี่อย่างสมบูรณ์โดยไม่ได้สนใจอาวุโสหลิวและเหอหรือนิกายในสายตาของเธอ.
สิ่งเหล่านี้ทำให้หลิวซานเฟงและเหอจางก๋งโกรธ.
เหอจางก๋งขมวดคิ้วและพูดว่า“พี่หลิวหยุดพูดไร้สาระกับนางได้แล้ว ถ้าท่านชอบนางเพียงแค่จับเธอไป ข้าจะดูแลทุกอย่างที่นี่เอง.”
หลิวซางเฟยยิ้มอ่อน“สาวงามนี้แน่นอนว่าต้องเป็นของข้า แต่สิ่งที่ดีที่เกิดกับเด็กคนนี้ แน่นอนว่าเราต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง.”
ทั้งสองมองกันและกันราวกับว่าพวกเขาตกลงกันเรียบร้อยแล้วและหัวเราะเสียงดัง.
ขณะที่พวกเขากำลังหัวเราะ...
หลี่ซูเอ๋อร์พูดอย่างไม่สบอารมณ์“ดูเหมือนพวกเจ้าทั้งสองได้เลือกแล้ว.”
“งั้นก็ดีมากๆ!”
“จากนั้นสาวกของนิกายของเจ้ารวมถึงผู้คนที่เฝ้าประตูเมืองจะต้องตายทั้งหมด.”
ท่าทางที่สง่างามของเธอไม่อาจสั่นคลอน!
หลิวซางเฟยพูดอย่างเสียดสีและตะโกน“สาวงามน้อย เจ้าคิดว่าเรากลัว? รอจนกว่าข้าฉีกไอ้ขยะเหล่านั้น จากนั้นข้าจะมอบความรักและความอ่อนโยนให้กับเจ้า 555…”
ก่อนที่เสียงหัวเราจะหายไป...
มีประกายไฟปะทุขึ้นบนฟ้าและรอยแยกก็ปรากฏ.
พูดให้ถูกก็คือที่เกิดขึ้นเป็นดาบฉี!
คมดาบที่เกิดจากฉีนั้นทรงพลังเกินกว่าจะบรรยาย! มันเหมือนกับสายฟ้าที่มีพลังโดยไม่อาจหยั่งถึง!