Chapter 117 - เข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาวิญญาณ
“เจ้าอ้วน ข้าจะให้เวลาเจ้า 10 เดือนเพื่อที่เจ้าจะได้ทะลวงไปยังขอบเขตปราณสุดยอดเชียวชาญ 10 เดือนหลังจากนี้ เราจะมาพบกันที่เมืองจักรวรรดิดาบศักดิ์สิทธิ์.”
ที่ประตูเมือง.
ลั่วเทียนพูดด้วยสายตาที่แข็งกร้าว.
นักสู้ที่บ่มเพาะเป็นเวลา 10 เดือน ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่นานนักและความต้องการที่จะให้ฟางเล่ยฝึกฝนในช่วงนี้ถือว่าหนักมาก ฟางเล่ยอยู่ในขอบเขตปราณเชียวชาญ ขั้น 2 และอยู่ห่างจากขอบเขตปราณสุดยอดเชียวชาญอีกยาวไกล.
สำหรับนักสู้ที่บ่มเพาะให้ถึงระดับปราณสุดยอดเชียวชาญนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตและมันก็อาจจะไปไม่ถึงขอบเขตเหล่านั้นได้.
เส้นทางการฝึกฝนไม่ใช่เพียงแค่ว่าฝึกฝนหนักก็จะสามารถไปถึงได้ หนึ่งต้องการพรสวรรค์และยังรวมไปถึงโชคดีบางส่วนอีกด้วย.
ลั่วเทียนต้องการที่จะพบเจอกันอีกทีที่เมืองจักรวรรดิดาบศักดิ์สิทธิ์ในเวลา 10 เดือน เพราะว่าเขาต้องไปช่วยแม่ของชุนชุน.
นี่เป็นเควสแรงค์ S เขาจึงต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม
มีแต้มชื่นชอบถึง 10,000 แต้ม! มาเกี่ยวข้อง
ไม่ใช่ว่าเขาจะวางแผนให้ชุนชุนปฏิบัติพัดวีทุกอย่างกับเขา ลั่วเทียนยังคงสงสัยว่าหากเป็นแม่ของชุนชุน นาง...จะอย่างไรก็ตามนางเป็นหญิงสาวที่โตเต็มวัยแล้วของตระกูลจิ้งจอกปีศาจซึ่งที่จะสามารถเป็นผู้หญิงอุ่นเตียงของเขาได้.
ไฟชั่วร้ายได้แผดเผาลั่วเทียนอย่างไม่รู้ตัว.
ยิ่งกว่านั้น...
ไม่ต้องสนใจความจริงที่ว่าสิ่งที่เขาต้องทำนั้นเขาได้ให้สัญญากับชุนชุนเพื่อที่จะได้เผชิญหน้ากับนางได้โดยไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ เขาจึงต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ไม่ว่าจะอย่างไร.
เพราะว่าทั้งสองได้เกี่ยวก้อยสัญญากัน!
และเกี่ยวกับความชื่นชอบ 10,000 แต้มนั่นหล่ะ?
มันเป็นเรื่องง่ายๆ โดยเพียงแค่มองด้านดีๆเพียงอย่างเดียว?
ลั่วเทียนรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เขารู้สึกว่ารางวัลของระบบดูเหมือนจะซ่อนความลับเอาไว้และอาจจะทำให้เกิดสถานการณ์พิเศษบางอย่าง.
ฟางเล่ยพยักหน้าอย่างจริงจังและตอบว่า“ไม่ต้องห่วงนายท่าน ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่นายท่านจะไปที่ไหน? ข้าไม่อาจตามท่านไปที่นั่นได้งั้นหรอ?”
เขาได้รับการคุ้มครองจากลั่วเทียนตั้งแต่เกิดและไม่เคยแยกออกจากกันมาหลายปีแล้ว.
พวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกันยิ่งเสียกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมา!
ลั่วเทียนหัวเราะเบาๆและพูดว่า “ข้าต้องการหาวิธีทะลวงขั้นและทำเพื่อเจ้า.”
เลเวลอัพ!
เขาต้องเพิ่มอย่างรวดเร็ว! ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งของลั่วเทียนเริ่มมีความต้องการมากยิ่งขึ้น!
3 ปีจากนี้ เขาต้องก้าวข้ามมู่หรงหวันจิง! เขาต้องการกระทืบมู่หรงหวันจิงอยู่ใต้เท้าของเขา! นี่เป็นคำสัตย์ของเขา!
นี่เป็นแผนของลั่วเทียน เขาไม่รู้ว่าระดับการบ่มเพาะของมู่หรงหวันจิงมีมากเท่าไร.
ฟางเล่ยต้องการโต้เถียงขึ้น แต่เขาก็เริ่มยิ้มและพยักหน้าอย่างโง่เขลาแทน.
เขาต้องการทำตามคำสั่งของลั่วเทียน.
แต่เขารู้ดีว่าการบ่มเพาะของเขาไม่เพียงพอที่จะเดินตางลั่วเทียน เขาอาจต้องทะลวงและตัดผ่านไปยัง ขั้น5 ขอบเขตปราณเชียวชาญใน 10 เดือนให้ได้!
ลั่วเทียนได้มองลงและบีบแก้มของชุนชุน “ชุนชุน เจ้าต้องรอข้ากลับมาที่นี่ เมื่อข้ากลับมา ข้าจะพาเจ้าไปหาแม่ของเจ้า.”
ชุนชุนพยักหน้าอย่างน่ารักและพูดว่า: “พี่ใหญ่ ข้าจะรอท่านอย่างเชื่อฟังและรอคอยให้ท่านกลับมา.”
ลั่วเทียนยิ้มก่อนที่จะหันหน้าไปทางซ่งหยวนหนาน เขาหยิบแผ่นหินและพูดว่า “พี่อาวุโสซ่ง ข้าขอฝากชุนชุนและตระกูลลั่วไว้ให้ท่านดูแล ภายในป้ายมิติมีบางอย่างที่สามารถปกป้องตระกูลลั่วได้ ดังนั้นข้าจึงคิดฝากสิ่งเหล่านี้ไว้กับท่าน”
ซ่งหยวนหนานหยิบมันขึ้นมาและตกใจเมื่อมองเข้าไปข้างใน! “ไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลทุกสิ่งที่นี่เอง.”
หลังจากที่ให้คำแนะนำแล้วลั่วเทียนก็กวาดสายตาของเขาไปที่ตระกูลลั่วอย่างตั้งใจ จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไปอย่างไม่ลังเล.
เขาไม่แม้กระทั่งหันกลับมามอง.
เขากลัวว่าเขาจะเริ่มร้องไห้.
ลั่วเทียนเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหว.
เขาเคยประสบพบเจอกับการจากกันในแนวนี้มาก่อนและมันเป็นเรื่องยากที่เขาจะทนได้.
แน่นอน...
หลังจากแยกกันแล้วก็หมายถึงการพบเจอในภายหลัง.
-----------
ช่วงเวลาดอกไม้บาน.
หนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา.
ที่ด้านในเทือกเขาวิญญาณ ที่ปลายยอดมีต้นหมายหนาแน่น มีดวงตาที่คลัายกับสัตว์ป่าจ้องมาอยู่โดยไม่ละสายตา.
รออย่างเงียบๆ.
มันคล้ายกับช่วงเวลาที่เสือดาวกำลังจ้องมองเหยื่อ.
ตามสายตาของสัตว์ร้ายตัวนั้น มีสองสัตว์ปีศาจร้ายกำลังสู้กันอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร.
การต่อสู้ของพวกมันโหดร้ายอย่างมาก.
สัตว์ปีศาจทั้งสองตัวต่อสู้กับเหมือนกับมวยปล้ำที่แข่งขันแบบเดธแม็ท ความแข็งแกร่งของพวกมันทั้งสองมีมากกว่านักมวยปล้ำถึง 10,000 เท่า.
“ตูมมม~!”
“ตูมมม~!”
พวกมันต่อสู้มานานกว่า 2 ชั่วโมงแล้วและตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง
สัตว์ปีศาจทั้งสองเต็มไปด้วยบาดแผลและหอบอย่างหนัก สิ่งที่พวกมันทำได้ตอนนี้คือการยืนมองหน้ากันและกัน.
สัตวปีศาจและมนุษย์มีลักษณ์คล้ายกัน.
พวกมันทั้งสองต้องการที่จะเพิ่มการบ่มเพาะ เว้นแต่ว่าสัตว์ปีศาจทั้งสองต้องการดูดซับแก่นโลหิต ด้านหน้าของลั่วเทียนเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 5 ทั้งสองตัว พวกมันใช้เพียงแค่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว
สัตว์ปีศาจทั้งสองกระเหี้ยนกระหือที่จะดูดซับแก่นโลหิตของกันและกันเพื่อที่จะเพิ่มความก้าวหน้า.
แค่เพียงหลังจากที่พวกมันได้สู้กันมาสองชั่วโมงแล้ว พวกมันก็รู้ว่ามันไม่ง่ายเลย.
สัตว์ปีศาจทั้งสองไม่ได้อยู่เหนืออีกฝ่าย ดังนั้นพวกมันจึงไม่กล้าต่อสู้กันต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บของพวกมัน ทำให้มีแต่แย่ลงขึ้นเรื่อยๆ.
แม้ว่าพวกมันอาจจะฆ่าศัตรูตรงหน้าได้ แต่พวกมันก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน.
มีสัตวปีศาจที่มีความแข็งแกร่งเป็นจำนวนมากในเทือกเขาวิญญาณ เมื่อมีตัวใดที่บาดเจ็บ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมีสัตว์ปีศาจอีกตัวที่เข้ามาซ้ำเติมและดูดซึมแก่นโลหิตของมัน.
เมื่อเห็นทั้งสองตัวไม่คิดที่จะต่อสู้กันอีก ลั่วเทียนก็ไม่ค่อยพอใจขณะที่บ่นสถบออกมา “แม่งเอ้ย! ข้าก็คิดว่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้!”
“โอ้ ใช่ .”
“พวกมันทั้งสองควรที่จะตายพร้อมกัน.”
ในกระพริบตา...
ร่างของเขาก็หายไปก่อนที่จะปรากฏตัวตรงหน้าสัตว์ปีศาจระดับ 5 ทั้งสอง มือของลั่วเทียนชี้ไปที่หน้าของมันก่อนที่เขาจะพูดว่า“พวกเจ้าทั้งสองตัวตายไปด้วยกันซะ.”
มีมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นในส่วนลึกของเทือกเขาวิญญาณด้วย?
สัตว์ปีศาจทั้งสองดูเหมือนจะถูดดูถูกอย่างมากที่สุดในชีวิตของพวกมัน พวกมันวิ่งเข้าไปหาลั่วเทียนอย่างบ้าคลั่ง!
สัตว์ปีศาจระดับ 5 2ตัวกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา!
คนปกติมักจะฉี่ราดกางเกงของเขาหากเจอเข้ากับสถานการณ์อย่างนี้.
เมื่อลั่วเทียนมองไปที่พวกเขา...
“ฮี่ฮี่ นี่มันก็แค่ค่าEXPเล็กๆน้อยๆเท่านั้น.”
ลั่วเทียนไม่ได้เคลื่อนไหว.
เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้เคลื่อนไหว กลิ่นอายของเขาถูกเก้บเข้าไปในร่างของเขาขณะที่ไม่มีการป้องกันตัวแม้แต่น้อย.
เขาวางแผนที่จะป้องกันการโจมตีเหล่านี้ด้วยร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียว?
เขาบ้าไปแล้ว?
ถูกต้อง!
ลั่วเทียนวางแผนที่จะใช้เพียงแค่ร่างกายของเขาป้องกันเพียงอย่างเดียว นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาสู่ระดับที่ 8 ขอบเขตปราณเชียวชาญ เขารู้สึกว่าการป้องกันของร่างกายาของเขาอ่อนแอเกินไป.
วิธีที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะร่างกายของเขาคือ ต้องทำให้ร่างกายให้หนาและและกล้ามเนื้อแข็งแรง.
ลั่วเทียนกำลังใช้ร่างกายของตัวเองเป็นกระสอบทรายให้กับสัตว์ปีศาจ การบ่มเพาะนี้เป็นเป็นวิธีการที่ดีและตรงที่สุด.
เมื่อพูดถึงวิธีบ่มเพาะ ลั่วเทียนก็ไม่อาจเป็นอะไรได้.
เขาเเป็นพวกข้ามมิติชาวปักกิ่งเขาไม่รู้ว่าชาวเทียนหยวนบ่มเพาะกันอย่างไร สิ่งเดียวที่เขาคิดว่าจะสามารถทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นได้มีเพียงอดทนต่อการทุบตี.
“ปัง~!”
“ปัง~!”
สีการกระแทกร่างกายของลั่วเทียนสองครั้ง.
ลั่วเทียนกัดฟันแน่นขณะที่เขาทนรับการโจมตีตรงๆ.
ความเจ็บปวดรุนแรงมาก แต่ในระหว่างความเจ็บปวดเหล่านี้ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มป้องกันได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กล้ามเนื้อของเขาเริ่มแข็งแกร่งทีละนอดละน้อย.
“แม่ง นี่เป็นแรงทั้งหมดของเจ้าแล้ว?”
“เข้ามาอีก!”
ลั่วเทียนตะโกนด้วยความรังเกียจ.
สัตว์ปีศาจทั้งสองก็โกรธอย่างฉับพลันและพลังของมันก็เพิ่มมากขึ้น.
พวกมันโจมตีเข้ามาอีกครั้งและลั่วเทียนก็ต้านรับมันตรงๆ ขาของเขาสั่นและแทบจะหลุดออก แต่เขาก็อดทนได้ในที่สุด.
“ปัง~!”
“ปัง~!”
การโจมตีลงบนร่างกายของลั่วเทียนซ้ำแล้วซ้ำอีก ตัวเขาเต็มไปด้วยเลือดและการรูปร่างของเขาก็เริ่มมองไม่เป็นผู้เป็นคน แต่ลั่วเทียนยังคงตื่นเต้นมากขึ้นอย่างมากและมีท่าทางที่ดุร้ายบนใบหน้าของเขา.
สัตว์ปีศาจทั้งสองก็เริ่มกลัว.
พวกมันมักจะได้เห็นสิ่งแปลกๆต่างๆที่ผ่านมา แต่พวกมันไม่เคยเห็นสิ่งที่วิปลาสที่สุดอย่างนี้มาก่อน เจ้ามนุษย์คลั่งนี่เป็นใคร?
“เจ้าต้องหนี?”
“ถ้าเจ้าสองตัวหนี บิดาจะกินอะไรเป็นมื้อเย็น?”สายตาของลั่วเทียนเปลี่ยนไปและคำรามในใจ “Level 2 Berserk!”
“ฮู่ววว~...”