px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 130 - ศูนย์รักษาวิทยายุทธ (2)


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 130 - ศูนย์รักษาวิทยายุทธ (2)

"เออ ทำไมเจ้าถึงยังอยู่ที่นี่อีก?"ชิงสุ่ยรู้สึกแปลกหลังจากที่เขาทราบว่าสือหม่าสือ

"ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!!!"

สือหม่าสือ พูดด้วยความลังเลใจ รูปลักษณ์บนใบหน้าของเขานั้นเรากับคนที่ไม่เคยขอร้องใครมาก่อนเลย ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจ ว่าเขานั้นสามารถช่วยอะไรสือหม่าสือได้?

"เจ้าต้องการอะไรกันล่ะ?"ชิงสุ่ยถามขนาดที่มองไปยังการแสดงออกที่ซับซ้อนบนใบหน้าของสือหม่าสือ

" ถ้าหากเจ้าจะว่าง เจ้าจะไปเยี่ยมพี่สาวของข้าบ้างได้หรือไม่?"สือหม่าสือแสดงความให้เกียรติชิงสุ่ยและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ชิงสุ่ยไม่คาดคิดเลยว่าสือหม่าสือจะถามเขาในเรื่องนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกการกระทำของเขาล้วนบ่งบอกถึงความจริงใจ มันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกสงสัยว่าสือหม่าสือรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับสือฉิงจวงหรือไม่

"ทำไมล่ะ?"ชิงสุ่ยไม่อาจอธิบายสิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้ ขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ

" ครั้งหนึ่งข้าเคยสังเกตพี่สาวของข้ากำลังวาดเส้นอยู่บนกระดาษแผ่นหนึ่งโดยไม่เจตนา ขณะที่ข้าจ้องมอง เจ้ารู้หรือไม่ว่านางกำลังเขียนสิ่งใด?"

ชิงสุ่ยส่ายหน้า!!!!

"มันเป็นชื่อของเจ้า กระดาษแผ่นนั้นมันเต็มไปด้วยชื่อของเจ้า ชิงสุ่ย!!!"

แม้ว่าหลังจากนั้น ชิงสุ่ยจะกลับไปยังร้านโอสถตระกูลชิงแล้วก็ตาม เขาก็ยังคงคิดถึงคำพูดของสือหม่าสือ "มันเป็นชื่อของเจ้า กระดาษแผ่นนั้นมันเต็มไปด้วยชื่อของเจ้า ชิงสุ่ย!!!" ถ้าหากคนทั่วไปได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาคงบอกได้เลยว่าสือฉิงจวง กำลังตกหลุมรักชิงสุ่ย แต่ชิงสุ่ยกลับไม่เคยคิดเชื่อเลย แม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกของเธอ แต่มันไม่ควรเรียกว่าความรัก สิ่งที่เธอเขียนลงไปนั้น อาจเป็นเพราะเธอเกลียดเขา?

หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มบรรจงวาดพู่กันเขียนแผ่นป้ายสำหรับตัวเขาเอง เข้าใช้หมึกสีแดงจากผงตะกั่วสีชาด บรรจงเขียนคำว่า "ศูนย์รักษาวิทยายุทธ" ด้วยการเล่นคำ เล่นตัวอักษร ให้ดูมีความคดเคียวและทำให้ผู้คนรู้สึกว่าภายในคำนั้นมี 2 คำประกอบกันคือการรวมเข้ากับวิทยายุทธ์แห่งการรักษา

สมาชิกรุ่นที่ 3  ของตระกูล ช่วยกันเคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั่งเตียงไปยังศูนย์รักษา โต๊ะและเก้าอี้ถูกย้ายขึ้นไปบนชั้นที่ 1  ส่วนเตียงย้ายขึ้นไปบนชั้นที่ 2  ใน ขณะที่บนพื้นของชั้นที่ 3ยังคงว่างเปล่า

ชิงสุ่ยแขวนป้ายสำนักขึ้น รวมทั้งเตรียมพลุประกายไฟไว้บางส่วนที่โถงทางเข้า หากมองโดยรวมแล้วนี่คงเป็นศูนย์รักษาที่ดูเสื่อมโทรมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่มีแม้กระทั่งยาเม็ดใดๆเลย

ชิงสุ่ยยังเขียนแผ่นป้ายเพิ่มเติมระบุอีกว่า สำหรับวันนี้คือวันแรกในการเปิดทำการ การให้คำปรึกษาทั้งหมดจะไร้ซึ่งการเก็บเงิน ไม่ว่าจะอยู่ในประเภทใดก็ตาม

ในช่วงเวลานี้ เขายังคงไม่อาจกั้นยาชนิดอื่นได้ยกเว้นเพียงผงบรรเทาทองคำ แต่เนื่องจากมันมีจำนวนมากเกินไป เขาจึงเติมมันลงในขวดยามากมาย และวางเอาไว้บนโต๊ะ มันไม่มีทางเลือกมากเขาจึงจำเป็นต้องใช้ผงยาบรรเทาทองคำเพื่อรักษาแทนการใช้สมุนไพรของเขา

"ชิงฮู ชิงหยู มาช่วยค่าสร้างชั้นวาง และสิ่งที่เหมือนตู้ แต่มันจะดีกว่าถ้าหากมีฝาครอบที่สามารถกันแสงแดดได้"

"ได้เลย!!!"

ฝูงชนมากมายเริ่มสนใจในทิศทางของพลุประกายไฟระเบิดออกมา หลังจากเริ่มมีเสียงพูดคุยกัน ชิงสุ่ยก็เริ่มที่จะแจกกระดาษประกาศ

"นี่เป็นเรื่องจริงหรือ? เขาสามารถรักษาโรคแปลกประหลาดเหล่านี้ได้ รวมทั้งโลกที่ไม่สามารถใช้ยารักษาได้อีก นี่เขาคิดว่าตัวเขานั้นเป็นใครกัน?!!!!" เสียงสบถดังออกมาจากปากของชายชราเคราแพะ

"เขาคือคนที่สังหารผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียน เขาคือชิงสุ่ยจากตระกูลชิง"เสียงอธิบายดังขึ้นอย่างไม่มีที่มา

มันอาจกล่าวได้ว่าชิงสุ่ยในตอนนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วในเมืองร้อยไมล์ หลังจากที่คนก่อนหน้านี้กล่าวว่า ชายคนนี้คือชิงสุ่ย ความโกลาหลเริ่มแพร่กระจายและดึงดูดผู้คนมากมายให้เพิ่มมากยิ่ง

"หมอเฉียน เขาเป็นคนรักษาผู้อาวุโสตระกูลอวี้ อีกทั้งยังช่วยให้เขาสามารถฟื้นฟูพลังกลับมาอยู่ในระดับเทวะเซียนเทียนได้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หมอท่านทุกคนไม่อาจทำได้ เจ้าไม่คิดว่า เขาจะแข็งแกร่งกว่าเจ้าหรอกหรือ?"ชายหนุ่มร่างผอมอายุประมาณ 30 ปี  หัวเราะออกมา

"หว่าาา ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา อีกทั้งเขายังเป็นผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียน และยังสามารถรักษาโรคอันน่าพิศวงได้ ข้าต้องการปรนนิบัติรับใช้เขา!!!หญิงสาวน้อยร่างท้วมกรีดร้องจนเสียงแหบ

"เออ แม่นาง ถ้าคิดว่าเจ้าควรยกเลิกความคิดนี้ซะ แม้แต่ผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียน ก็คงไม่อาจทนอยู่รองรับความงามของเจ้าได้!!!!"

เสียงที่ไม่มีที่มาที่ไปดังขึ้น ทำให้คนในฝูงชนในบริเวณนั้นต่างหัวเราะออกมา

ในตอนนี้ มีใครบางคนสวมชุดพรานป่า กำลังดินเข้ามาพร้อมทั้งยังปรากฏร่องรอยที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว อีกทั้งเขาก็จับมือขวาของเขาด้วยความรู้สึกที่ข่มขื่น

"ท่านหมอ แขนของข้าเกือบถูกทำลาย โดยหมีระดับดุร้าย โปรดช่วยข้าด้วยเถอะ ความเจ็บปวดมันกำลังฆ่าข้าทั้งเป็น!!!"

พรานป่าคนนั้นไม่ได้คิดเลยว่าชิงสุ่ยจะยังเป็นเด็ก ขณะที่เขาค่อยๆยกแขนเสื้อของเขาขึ้นเผยให้เห็นอาการบาดเจ็บบริเวณแขน

ในฐานะที่ชิงสุ่ยกำลังตรวจสอบบาดแผล  ภายในบาดแผลเป็นเนื้อสีแดงสดและมีเลือดสีแดงสดไหลรินออกมา บาดแผลลึกจนเห็นแม้กระทั่งกระดูกสีขาวของเขา เมื่อเขาเห็นดังนั้นชิงสุ่ยจึงรีบฝังเข็มในทันทีเพื่อหยุดเลือดที่กำลังไหล โชคดีที่พรานป่านั้นแข็งแรงพอ มิเช่นนั้นเขาคงไม่อาจจะทนบาดแผลเหล่านี้ได้

"ข้าไม่คิดเลยว่า ข้าจะได้ใช้ผงยาบรรเทาทองคำ เร็วขนาดนี้"ชิงสุ่ยหยิบขวดยาที่มีผงยาบรรเทาทองคำคุณภาพดีที่สุดออกมา ผมยาบรรเทาทองคำมีคุณสมบัติพิเศษในการฆ่าเชื้อและรักษาบาดแผล เขาจึงเริ่มใช้ผงยา ทาลงบนบริเวณบาดแผลของพรานป่า

"โอ้โห ข้ารู้สึกสบายขึ้นจริง!!!!"ชิงสุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อได้ยินเสียงอุทานจากนายพรานคนนั้น

"เจ้าจงจำไว้ ห้ามออกแรงใดๆจากแขนข้างนี้เป็นเวลา 3 วัน และหลังจากนั้นแขนของเจ้าก็จะดีขึ้นเอง"ชิงสุ่ยสั่งให้ชายคนนั้นทำตาม

" ไม่ทราบว่าท่าน สามารถขายยาขวดนี้ได้หรือไม่ มันช่างอัศจรรย์เหลือเกิน ข้าหวังว่ามันจะไม่แพงเกินไป?"

"ไม่ต้องกังวล วันนี้เป็นวันแรกของศูนย์ฝึกและรักษาของข้า ทุกอย่างในตอนนี้ไร้ค่าใช้จ่าย แต่สำหรับวันนี้เท่านั้นนะ ข้าจะเริ่มคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการคำแนะนำหรือแม้กระทั่งยาที่ไร้ค่าใช้จ่าย ควรรีบออกไปและรับบาดเจ็บกลับมาภายในวันนี้เท่านั้น"

นายพรานป่า".........................."

แต่ถึงกระนั้น นายพรานก็มีความสุข และนำเอาขวดยาบรรจุผงยากลับไปโดยไร้ค่าใช้จ่าย"ทุกคนจงดู ชายคนนี้คือหมอเทวดาที่แท้จริง เขาช่างเพียบพร้อมไปทักษะการแพทย์แม้หรือกระทั่งจรรยาบรรณที่แพทย์ควรพึ่งมี!!!"

เมื่อมองดูคำโฆษณาจากปากของนายพราน วันนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกอิ่มเอมใจ

ฝูงชนมากมายต่างพยายามเข้ามาขอรับคำปรึกษาจากชิงสุ่ย และพวกเขาทั้งหมดก็ได้รับคำปรึกษาเป็นที่น่าพึงพอใจ

ในช่วงเที่ยง อวี้เหอก็ได้เดินทางมาที่นี่

"ท่านหมอผู้ยิ่งใหญ่ของข้า เหตุใดท่านจึงเปิดสำนักแพทย์ โดยไม่ได้แจ้งให้สาวน้อยคนนี้รับรู้หน่อยหรือ? หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าไม่จำเป็นต้องรู้?"อวี้เหอหัวเราะอย่างเฉื่อยชา

ชิงสุ่ยถูจมูกของเขา ขณะที่เขาตอบอย่างเขินอาย "ข้าเพียงพึ่งเริ่มมัน และข้าเองก็กลัวว่าเจ้าจะไม่ว่าง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงไม่ได้แจ้งให้เจ้าทราบเรื่องเหล่านี้ก่อน"

"ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ไปกินอาหารด้วยกันเถอะ!!!" วันนี้อวี้เหอแต่งกายด้วยชุดสีขาว เป็นเสื้อคอสูง และเธอก็ผูกผมของเธอไว้อย่างเรียบร้อย ความงามบนใบหน้า และเส้นโค้งเว้าต่างๆบนร่างกายของเธอบ่งบอกให้เห็นถึงเสน่ห์อันสุดยั่วยวน

" จ้องข้า? เจ้าจ้องข้าทำไมกัน เจ้าจ้องมองข้าราวกับว่าเจ้าไม่เคยพบเจอข้ามาก่อน?"เสียงหัวเราะของอวี้เหอดังขึ้นพร้อมสายตาที่มองมาอย่างมีเสน่ห์

"ฮ่าๆๆ ข้ามักจะจ้องมองภาพทิวทัศน์ที่งดงามเสมอยามเมื่อข้ามีโอกาส!!!"

"อืมมม อีกแล้ว!!!"อวี้เหอไม่อาจทนกับคำพูดเหล่านั้นและเธอก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง ทุกการกระทํายิ่งเติมเต็มเสน่ห์ให้กับเธอ จนทำให้ชิงสุ่ยใจเต้นเล็กน้อย

เมื่อมองไปยังศูนย์รักษาที่ว่างเปล่า ชิงสุ่ยทิ้งประตูที่ไม่ได้ลงกลอน ไว้รอชิงหยูและชิงฮูที่ยังไม่กลับมา ก่อนที่เขาจะออกจากศูนย์รักษาไปพร้อมกับอวี้เหอ

"ทำไมต้องตัดสินใจเปิดสถานที่แห่งนี้ อย่าบอกว่าเจ้านั้นกำลังขาดแคลนเงิน!!!"

"ถูกต้อง ผู้ที่ครอบครองมรดกแสนร่ำรวยเช่นเจ้า คงไม่เข้าใจความยากของคนทั่วไป!!"ชิงสุ่ยกล่าวล้อเลียน

อวี้เหอแทบจะเป็นลม เธอจ้องมองใบหน้าของชิงสุ่ย ก่อนหน้านี้เธอเคยแบ่งรายได้จากปลาสีดำในอัตรา 50-50 แก่ชิงสุ่ย แล้วเงินทั้งหมดของเขานั้นหายไปไหน?

"ถ้าคิดว่าถ้าคุณต้องขายซุปสรรพสิ่งบำรุงกำลัง"ชิงสุ่ยค้นพบหนทางสว่าง ขณะที่เขาพูดคุยกับอวี้เหอ

"ใช่สิ่งเดียวกับที่เจ้า เคยกล่าวไว้ว่า คนเหล่านั้นหากเคยลองมันเพียงแค่ครั้งเดียว พวกเขาจะพยายามมาทุกวันเพื่อตามหามัน  ชิงสุ่ยจริงๆแล้วผลกระทบที่เกิดจากซุปคือ……..?"

ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้น พร้อมทั้งกระวนกระวายใจในขณะที่เขาจ้องมองใบหน้าของอวี้เหอที่กำลังเขินอายและกังวลใจ มันทำให้เขาทนไม่ไหวที่จะต้องหยอกล้อหญิงสาวโฉมงามคนนี้

"เออ ผลกระทบของมันคือ?"ชิงสุ่ยตอบโดยแสร้งแสดงใบหน้าให้เครียดยิ่งขึ้น

"หรือว่าผลของมันคือ มันจะทำให้ชายหญิงสามารถร่วมรักกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!"อวี้เหอพึมพำออกมา

"นั้นไงจริงๆด้วย อย่างที่เจ้าเคยบอกข้าว่าหลังจากที่ดื่มมันเข้าไป ชายชาตรีจะสามารถออกศึกได้ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง และมันสามารถตอบสนองความปรารถนาแก่หญิงสาวของพวกเขาได้ทุกอย่าง……."

"เออ ข้าไม่คิดเลย ว่าเจ้าเองจะจำเรื่องนี้"ชิงสุ่ย ไล่ต้อนจนทำให้อวี้เหอหัวเราะออกมา

หลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันพร้อมกับอวี้เหอ ชิงสุ่ยก็ยังคงบอกเล่าผลของซุปเต่าให้อวี้เหอฟังอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้อวี้เหอตัดสินใจใส่อาหารนี้ลงไปในเมนูของโรงเตี๊ยม

ในช่วงบ่ายจำนวนผู้ป่วยของชิงสุ่ยเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ทุกคนต่างขอบคุณในคำโฆษณาที่ผู้ป่วยเมื่อตอนเช้า ได้ตะโกนบอกทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยพิการมากกว่า 20 ปี ในช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสียงของศูนย์ฝึกรักษาของชิงสุ่ยก็แพร่กระจายไปไปทั่ว

เช้าวันรุ่งขึ้นชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แถบประสบการณ์สำหรับสูตรยาเม็ดห้ามังกรก็ใกล้จะเพียงพอที่จะปลดผนึกภายในวันพรุ่งนี้ เขาจะไม่ตื่นเต้นไปอย่างไร?

หลังจากมื้อเช้า ชิงสุ่ยรีบไปยังศูนย์รักษาวิทยายุทธในทันที บางทีอาจเป็นเพราะมันยังเป็นเวลาเช้าตรู่ จึงยังไม่มีลูกค้า ชิงสุ่ยเปิดประตูและเข้าไปนั่งข้างในก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม

ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผู้ป่วยเริ่มล้มหลามราวกับน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม โรคทั้งหมดเหล่านั้นเป็นโรคเกิดจากไข้หวัดธรรมดาและ โรคภัยไข้เจ็บเล็ก ซึ่งชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้เรียกเก็บเงินจากพวกเขา อีกทั้งเขายังให้ยาโดยไร้ค่าใช้จ่ายสำหรับ คนที่ยากจน มันอดไม่ได้เลยที่เขาจะรักษาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดเพราะเขาคิดว่ามันเป็นผลกรรมที่เขาเคยสร้างไว้

จนกระทั่งผู้ป่วยคนสุดท้าย ในกลุ่มแรกเดินออกไป หญิงสาววิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งอุ้มเด็กตัวน้อยๆเข้ามาในศูนย์รักษาวิทยายุทธ

"หมอ ท่านรีบดูอาการลูกสาวข้าหน่อย" เสียงอันไพเราะแต่เต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกดังขึ้น

ชิงสุ่ยเลือกมองเด็กหญิงที่อยู่ในอ้อมกอด เด็กคนนี้อายุเพียง 2 ปี ดวงตาของเธอปิดลงและการหายใจของเธอนั้นเร็วและถี่ ใบหน้าเล็กๆที่ปราณีตของเธอนั้นซีดขาว

ชิงสุ่ยมองตามองดูหญิงสาวที่กำลังใจสั่น ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 25 ถึง 26 ปี สวมเสื้อผ้าหยาบๆ แต่ไม่อาจสวนรัศมีความงามบนใบหน้าที่ไม่ได้ถูกเสริมเติมแต่งโดยเครื่องแต่งหน้าใน ดวงตาแห่งเช่นนกหงส์เพลิง หน้าอกที่กลมมน ไหล่คมและคอที่เป็นสง่า ทั้งหมดกลับแสดงให้เห็นถึงลักษณะของขุนนาง

ชิงสุ่ยตกใจอย่างมากที่ยิงสาวที่แต่งงานแล้วคนนี้รวมชุดสามัญชนแต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของนักบุญ ความงามของเธอนั้นไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น

"นำเด็กคนนี้มาให้ข้า!!!"หลังจากที่ชิงสุ่ยกล่าวมา เขาก็รับตัวเด็กน้อยคนนั้นมาและตรวจดูเด็กหญิงตัวเล็กน้อยด้วยมืออีกข้างหนึ่ง

"ท่านหมอ ท่านว่ายังไงบ้าง? ท่านมีวิธีรักษาลูกสาวของข้าหรือไม่?"ภรรยาสาวคนนั้นถามออกมา

ชิงสุ่ยตกตะลึงเล็กน้อย มันดูราวกับว่าผู้หญิงคนนี้รู้ว่าลูกสาวของเธอนั้นเจ็บป่วยเป็นโรคใด มิฉะนั้น เธอคงไม่ถามโดยตรงออกมาว่ามันมีวิธีรักษาหรือไม่

"เจ้าได้ไปหาหมอท่านอื่นมาก่อนหรือไม่?"

"เห้อ……….ทุกคนต่างบอกว่าลูกสาวของข้านั้นอ่อนแอ และไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีก พวกเขาไม่อาจแก้ปัญหาให้ข้าได้"หญิงสาวชุดแต่งงานแล้วถอนหายใจราวกับว่าเธอนั้นยอมรับผลของมันแล้ว  และที่เธอมาที่แห่งนี้ก็เป็นเพราะเธอยังคงหวังว่าจะมีโอกาสแม้มันจะน้อยนิดก็ตาม

 

รีวิวผู้อ่าน