px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 150 - การต่อสู้! และการตัดสินใจหมั้นหมาย!


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

แปลโดย ป๋าบีม

บทที่ 150 - การต่อสู้! และการตัดสินใจหมั้นหมาย!

“ฮ่าฮ่า เจ้าพูดถูก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าจะไม่อาจสู้หน้าใครได้อีก" แม้เสียงพูดของเขาจะไม่ดังนัก เสียงที่ชัดเจนของเขาสะท้อนออกไปท่ามกลางฝูงชน

ทำให้เสียงสนทนารอบตัวเขาดังยิ่งขึ้น!

"ถึงชิงสุ่ยจะอยู่ในขั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน แต่ผู้อาวุโสที่มาจากตระกูลซือตูก็อยู่ในขั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนเช่นกัน ทำไมเขาถึงได้กล้าพูดจาแบบนี้? "

“ข้าไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ ซือตูเจียนอี้จากตระกูลซือตูนั้น เป็นปู่ของซือตูหนานเทียน เขานั้นอยู่ในระดับขั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนมานานกว่าสามสิบปีแล้ว ทำไมจึงเอาชิงสุ่ยที่พึ่งเลื่อนมาเป็นขั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนได้ไม่นานไปเปรียบเทียบกับเขา!” ชายวัยกลางคนที่น่าเกรงขามยิ้มอย่างพอใจกับตัวเอง

"ท่านพี่หญิง ท่านคิดว่าพี่ใหญ่ชิงสุ่ยจะสามารถเอาชนะชายชราคนนี้ได้หรือไม่?" เด็กตัวสาวตัวน้อยพูดกับหญิงสาวที่สวยมากที่ยืนอยู่ข้างเธอ

"สามารถสิ หรือว่าเจ้าไม่ได้ต้องการให้พี่ใหญ่ชิงสุ่ยชนะหรอ?" ผู้หญิงคนนี้ยิ้มขณะที่ลูบศีรษะของเด็กสาวตัวน้อย

“พี่ใหญ่ชิงสุ่ยต้องชนะ อาการป่วยของข้าได้รับการรักษาโดยพี่ใหญ่ชิงสุ่ยๆเป็นคนดี!" เด็กสาวตัวน้อยที่ชื่อยายากล่าวในขณะทำหน้ามุ่ย

"ตระกูลซือตูหยิ่งผยองมากเกินไป น่าจะเป็นโอกาสที่ดีถ้าพวกเขาได้พ่ายแพ้ให้ตระกูลชิงคราวนี้ "ผู้คนในบริเวณนั้นกล่าว

“หนุ่มน้อย เจ้ารู้ไหมเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคือผู้อยู่รอด ”ชายชรากล่าว

“สำนวนนี้ไม่เลวเลยแต่เจ้าไม่ใช่ผู้ที่แกร่งดังที่กล่าวมา อย่างช้าอีกเลยวันนี้ข้ามีธุระต้องทำอีกมากมาย”ชิงสุ่ยเหยียดหยัน

“ฮ่าฮ่า ชิงสุ่ยหัวเราะ แล้วทำท่าเย้อหยัน เจ้าไม่ได้พูดเองเหรอว่าจะฆ่าใครก็ตามที่มาขว้างทางของเจ้า แต่มาดูสิว่าวันนี้ เจ้าจะฆ่าข้าหรือวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า!” ซือตูเจียนอี้ ไม่เคยถูกใครดูถูกเหยียดหยาบขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่เขาไปยังสถานที่ต่างๆ เขาก็ยังเป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก!

ในตอนนี้ ซือตูเจียนอี้ รู้อยู่แล้วว่าชิงสุ่ยคือคนที่ทำร้ายคนในตระกูลซือตูของเขาจากคำบอกเล่าของซือตูหนานเทียน ซึ่งรวมถึงการที่เขาได้เป็นฆ่าลูกชายคนเล็กของซือตูหนานเทียน นอกเหนือจากนี้ชิงสุ่ยยังต้องการที่จะปล้นหญิงสาวที่ได้หมั้นไว้กับคนในตระกูลของเขา เมื่อเขานึกถึงเรื่องเหล่านี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น ถ้าเขาไม่ได้ระบายมันออกมา คงไม่สามารถทำให้เขาหายโกรธได้!

“ฮ่า ๆ ๆ!” "ซือตูเจียนอี้หัวเราะ จากนั้นเขาได้ปลดปล่อยปราณเทวะเซียนเทียน ออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังปราณเทวะเซียนเทียนสีเงินได้พุ่งออกมาจากมือของเขา จากนั้นบรรยากาศภายนอกก็ได้เปลี่ยนเป็นหนาวเย็นในทันที!

“นั้นคือพลังของระดับขั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน” หลายคนร้องไห้ออกมาด้วยความประหลาดใจ!

"สมกับเป็นชายที่มีประสบการณ์ในระดับอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนมากกว่าสามสิบปีจริงๆ ไม่สามารถเทียบได้กับชายหนุ่มที่อยู่ในระดับเริ่มต้นได้หรอก เขาอาจจะอยู่เหนือระดับที่สามของอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน!"ชายวัยกลางคนที่น่าเกรงขามกล่าวขณะลูบที่เคราของเขา

“ท่านหมอจะมีปัญหามัย”
“ท่านหมอยังอยู่ในอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนขั้นแรก”

"ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านหมอเลย!" คนที่เขาเคยช่วยทุกคนพูดด้วยความกังวล

ชิงสุ่ยยืนขึ้นแล้วกระโดดออกจากรถม้าและเดินเข้าไปหาซือตูเจียนอี้ทีละก้าวแต่ละก้าวของเขานั้นสง่างามเป็นอย่างมาก เวลาที่เขาเดินนั้นไม่มีเสียงรบกวนเลยขณะที่เขาเดิน “ในวันนี้ข้านั้นรีบเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้า วันนี้ไม่ใช่วันที่เหมาะสมที่จะมีคนตายหรือเจ้าอยากให้ข้าฆ่าเจ้าในทันที” ชิงสุ่ยต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการขนของหมั้น

"ว้าว! ข้าชอบเขา!"

"เขาเจ๋งมาก!"

"ข้าชอบคนแบบนี้!" สายตาขอหญิงสาว ๆ บางคนเปล่งประกายระยิบระยับ

“เยี่ยม ที่เจ้ามีความกล้า” ซือตูเจียนอี้โกรธมาก ไม่มีใครเคยดูถูกเขามากขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะสัมผัสกับภัยพิบัติร้ายแรง

ชิงสุ่ยได้ส่งก้อนหินขนาดใหญ่ออกไปจากมือของเขา ในขณะซือตูเจียนอี้ที่กำลังโกรธได้พุ่งเข้ามาหาชิงสุ่ยและหลบก่อนหินของชิงสุ่ยด้วยความเร็วที่สูงอย่างประหลาด

ด้วยความโกรธ ซือตูเจียนอี้ ได้ใช้พลังปราณเทวะเซียนเทียนจำนวนมากเพิ่มเข้าไปในแต่ละกำปั้นและฝ่ามือของเขา เขาได้ใช้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาเพื่อโจมตีใส่ชิงสุ่ย แม้แต่คนธรรมดาที่อยู่ในรัศมีหนึ่งห้าสิบลี้รอบตัวพวกเขายังรู้สึกถึงได้ถึงพลังปราณที่ปล่อยออกมากระทบกับพวกเขา ทำให้การหายใจของพวกเขานั้นลำบากเป็นอย่างมาก

ชิงสุ่ยได้ใช้เคล็ดวิชาเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลอย่างทันที จากนั้นเขาได้ใช้ก้าวขจัดวิญญาณร่วมกับทักษะกวางย่างก้าว

จึงทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มอีกสองเท่า ซึ่งความเร็วของชิงสุ่ยที่แสดงออกมาในตอนนี้ ทำให้ความเร็วของซือตูเจียนอี้ที่อยู่ในระดับสามอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียนด้อยลงไปอย่างมาก

พวกเขาได้เข้าประทะกันอย่างดุเดือด ในขณะที่พวกเขาแลกหมัด ชิงสุ่ยได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงบรรพกาลหยิน-หยางของเขาเข้าใส่ซือตูเจียนอี้ เพื่อกระตุ้นไพ่ตายที่เขาฝังไว้ในร่างของซือตูเจียนอี้

จากกระประทะระหว่างทั้งสอง แทบไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สักครู่ซือตูเจียนอี้ได้กระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดและเขาทรุดตัวลงไปกองกลับพื้น!

"ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่เหมาะสมที่จะมีคนตาย แต่ก็มีโชคได้มีโอกาสแต่งเติมสีแดงนิดหน่อยน่าจะช่วยเพิ่มบรรยากาศการเฉลิมฉลองได้! "จากนั้นชิงสุ่ยก็กลับไปขึ้นรถม้าของเขา โดยไม่หันไปกลับมองข้างหลังแล้วจากไป ในตอนนั้นทั้งที่มีฝูงชนคนมากมายบนถนนกลับไม่ได้ยินเสียงสักเล็กน้อยแม้กระทั้งเสียงลมหายใจ

"นี้ สายตาของข้ามีปัญหาหรือเปล่า?"

"เขาจัดคนที่อยู่ในอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน อีกครั้ง ... " อวี้ ต่งห่าวพูดออกมาด้วยความตกใจและขุ่นเคือง

ดูการแสดงออกของหญิงสาวเหล่านี้สิ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอยากได้เจ้าหนูของตระกูลชิงคนนี้มาเป็นสามีมีของพวกเธอ ข้าละอิจฉาเขาจริงๆ!” เจ้าอ้วนน้อยกล่าวว่าในขณะที่น้ำลายของเขากำลังไหลออกมา

คำพูดของชายหนุ่มคนนี้ทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากฝูงชนโดยรอบ!

เหวินเหรินอูกั่วและเหวินเหรินอูซวงในชุดหิมะขาวได้มองไปที่ ชิงสุ่ยจากระยะไกล ด้วยรอยยิ้ม เส้นโค้งที่มุมปากของเธอช่างงดงามและมีเสน่ห์ จมูกที่มีค่าดังทองและโด่งชันสวยงาม ทำให้รูปร่างหน้าตาอันงดงามดังหยกขาวบริสุทธิ์ทำให้ไม่มีใครเทียบพวกเธอได้

หลังจากชิงสุ่ยผ่านไปซือตูหนานเทียนและคนอื่นๆ ดูเหมือนจะตื่นขึ้นมาจากสิ่งที่ดูเหมือนฝัน พวกเขาตื่นตกใจอย่างมาก พวกเขาได้รีบเข้าไปดูอาการ ซือตูเจียนอี้ ที่หมดสตินอนกองอยู่บนพื้น

"นี่เป็นไปไม่ได้ ... " ซือตูหนานเทียนและและทุกคนจากกลุ่มตระกูลซือตู อุทานเป็นความคิดเดียว!

"พี่ใหญ่ชิงสุ่ย ข้านับถือท่านจริงๆ!" ชิงยูตะโกนออกมาเป็นสิบๆครั้ง

ชิงสุ่ย, "... "

ชิงอี้ ได้แค่ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอมองดูชิงสุ่ยด้วยรอยิ้ม ทุกคนสามารถมองเห็นได้จากใบหน้าของเธอได้ชัดเจนว่าตอนนี้เธอมีความสุขอย่างมากและภูมิใจในลูกของเธอ ด้วยความสามารถของชิงสุ่ยในวันนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ ชิงอี้เป็นที่นับหน้าถือตาที่สุดในเมืองร้อยไมล์!

พวกเขาได้เห็น สือติงเทียนและคนอื่น ๆ อีกนับพันคนจากตระกูลสือ ออกมาต้อนรับพวกเขาจากระยะไกล ชิงสุ่ยรู้ได้โดยไม่ต้องเดาว่าตระกูลสือคงได้เห็นฉากต่อสู้ของเขาเข้าแล้ว!

“ชิงสุ่ย ทุกคนมา” สือติงเทียน ยิ้มตอนรับชิงสุ่ยและทุกคนในตระกูลชิงด้วยความยินดี

นายท่าน  ท่านไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ ต่อจากนี้ไปทุกคนจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว " ชิงสุ่ยยิ้มอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเองอีกครั้ง แต่รอยยิ้มที่ปรากฏครั้งนี้ชิงยูกลับคิดว่ามันเป็นร้อยยิ้มของมัจจุราช !

“ฮ่าๆ ใช่ๆตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว สือติงเทียนกล่าวอย่างมีความสุข คนอื่น ๆ ของตระกูลสือก็ยิ้มด้วยความยินดีและมีความสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสง่างามและหญิงสาววัยกลางคนดูคล้ายกับสือฉิงจวงเป็นความคล้ายคลึงกันระหว่างทั้งสองแทบจะถอดแบบกันมาคล้ายคลึงกันแทบจะเป็นคนๆเดียวกัน แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่ได้มีเหมือนสือฉิงจวงคือกลิ่นอายอันหนาวเย็น!

ชิงสุ่ยสามารถคาดการณ์ไดทันว่าพวกเขาต้องเป็น พ่อแม่ของสือฉิงจวงอย่างแน่นอน ต่อจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ทำการพูดคุยกันถึงเรื่องหมั้นหมาย

" ถ้าเจ้าต้องการไปหานาง เจ้าก็ควรรีบที่จะไปสนามข้างหลัง! " แม่ของสือฉิงจวง บอกกับชิงสุ่ย ด้วยดวงตาที่สง่างามของเธอ ทำให้ชิงสุ่ยเหม่อลอยไปขณะหนึ่ง ในเวลาเดียวกันเขาบอกตัวเองว่าเธอเป็นแม่ของสือฉิงจวง. ถึงแม้ว่าเธอจะสวยมาก เขาไม่ควรมีความคิดที่ไม่ดีกับเธอ !

 

รีวิวผู้อ่าน