เธอนั่งฟังบทสนทนาทั้งหมดอย่างเงียบๆ
โหมวฮั่นมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กในชุดผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาล “ตอนนี้เธอก็รู้ความจริงแล้ว แม้เธอจะสามารถพูดได้ว่า ก็ฉันช่วยเธอ แต่ฉันขอบอกเลยนะว่าฉันไม่รู้จักเธอจริงๆ”
“ครอบครัวของเธออยู่ที่ไหน เธอสามารถติดต่อพวกเขาได้ไหมได้ไหมฉันได้พาเธอไปส่งที่บ้าน” โหมวฮั่นหันหน้าไปทางหญิงสาวหน้าซีดและร่างผอมของเธอ เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอ “เธอคงเป็นนักเรียนอยู่”
“ฉันสูญเสียความทรงจำของฉัน เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลฉันจำอะไรไม่ได้เลย ฉันถามพยาบาล แต่พวกเขาบอกว่านายเป็นคนเดียวที่พาฉันมาส่งโรงพยาบาล” เสียงของเธอต่ำลง
อาจจะเป็นความจริงที่เธอสูญเสียความทรงจำและไม่รู้อะไรเลย
โหมวฮั่นรู้สึกเขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ เขาชี้ไปที่หลิว ฉินหยางผู้ที่ยืนงงอยู่หน้าประตู “เดียวให้เขาไปส่งเธอที่สถานนีตำรวจเพื่อช่วยถามหาครอบครัวเธอ”
“ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กนักเรียนเราจะตรวจสอบกับโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยในเองฉันเชื่อว่าเราจะต้องติดต่อใครสักคนที่รู้จักเธอได้”
ประโยคของโหมวฮั่นถูกขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ต้องการไปที่สถานีตำรวจ ฉัน…อยู่กับนายชั่วคราวก่อนได้ไหม ? ”
เขายืนแข็งกับคำพูดของเธอ หลินฉินหยางผู้ซึ่งพยายามที่จะปกปิดตัวตนของเขา ทั้งคู่จ้องเขม็งไปที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างตกใจ
ถ้าเขาได้ยินไม่ผิด ? เธอขออยู่กับเจ้านายของเขา
ตามที่คาดไว้โหมวฮั่นหัวเราะออกมาและบอกกับเธอว่า “ขอโทษนะสาวน้อย ฉันไม่มีความประสงค์ที่จะพาคนแปลกหน้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตฉัน”
เขาหันหลังให้แธออย่างเย็นชาและจ้องหน้าหลิน ฉินหยาง “นายไปส่งเธอที่ที่เธอต้องการจะไปด้วย ฉันจะกลับไปทำงาน”
ขณะที่หลิว ฉินหยางกำลังจะพาหญิงสาวออกไปก็มีเสียงดังขึ้นจากนอกประตู มันฟังดูเหมือนหลายๆคนกำลังกรีดร้อง โหมวฮั่นได้ยินเสียงของแอนนา
“ฉันบอกให้เธอเงียบ ไม่งั้นตาย”
“บอกให้โหมวฮั่นออกไปเดียวนี้!” เสียงโกรธจัดของผู้ชายตะโกนออกมา
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องของแอนนามาพร้อมกับเสียงของโต๊ะและเก้าอี้
ขณะที่โหมวฮั่นเดินออกจากห้องเขาก็เห็นว่าแอนนาล้มลงกับพื้น หลายคนไปช่วยพยุงเธอ บนพื้นเป็นเอกสารกระจัดกระจาย
โหมวฮั่นยอมรับว่าเขาเคยพบพวกนั้นมาก่อนหน้านี้ที่ศาล พวกเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย นี่คงเป็นน้องชายของเหยื่อผู้ซึ่งต้องมาที่นี่เพราะรู้สึกไม่พอใจกับการแพ้คดี
โหมวฮั่นก้าวไปข้างหน้า เขาจ้องชายคนนั้น มีบางอย่างในเสียงของเขาซึ่งไม่อาจละเลยได้ “ดูสภาพแวดล้อมรอบๆสิ การปรากฏตัวของนายก่อความรำคาญให้กับพนักงานของฉันนะ นี่เป็นการรบกวนการทำงานของเราด้วย”
คนอ้วนประกาศว่า “โหมวฮั่นอย่างแสร้งทำเป็นคนดีมากนักเลยนายจ่ายเงินให้กับอัยการใช่ไหม ทำไมลูกค้าของนายต้องถูกตัดสินว่าถูกด้วยทั้งที่หลักฐานไม่ครบ”
“อย่าแสดงความโง่ออกมานักเลย” โหมวฮั่นหัวเราะออกมาเบาๆ “ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้ว การตายของพี่ชายนายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกค้าของฉัน นายควรจะถามตำรวจเรื่องนี้และไม่รบกวนการทำงานของเรา”
โหมวฮั่นพูดต่อ เขาจ้องมองคนอ้วนด้วยแววตาดุร้าย “เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้พาพวกเขาออกไปด้วย”
คนนั้นโกรธและขึ้นเสียงสูง “พี่ชายของฉันตายแล้วเราก็พบฆาตกร แต่ทั้งหมดเพราะสินบนของนาย นายปล่อยให้ปล่อยให้เขาหลุดออกมา นายต้องไปลงนรกพร้อมกับไอ่ฆาตกร”
ทันใดนั้นเขาก็หยิบขวดใส่ของเหลวซึ่งเป็นขวดฉีดยาของโรงพยาบาล และก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“นายรู้ไหมว่านี้คืออะไร ?”
ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจเพราะเขาจับผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวเขามากที่สุดและเขาก็กล่าวต่อว่า “นี่คือกรดกำมะถันเข้มข้น..เพียงหนึ่งหยดเท่านั้น ฮ่าๆ….ถ้ามันโดนหน้าเธอเมื่อไรหน้าเธอก็จะเสียโฉมทันที โธ่ แม่สาวหน้าสวย เธอคงไม่อยากสูญเสียใบหน้าของเธอไปใช่ไหม”