px

เรื่อง : เนตรเนรมิต - Tranxending Vision
TXV –  89  การโจมตีที่สวยงาม !


TXV –  89  การโจมตีที่สวยงาม !

 

          เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยากำลังมุ่งหน้าไปยังที่ดินแปลงที่ 13 หลังจากพวกเขาทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ขณะอยู่ในรถหลางซือเหยาก็ได้โทรศัพท์เพื่อนัดพบกับพนักงานใหม่ที่รับสมัครมาจากโรงเรียนเทคนิค

 

          “ซือเหยา โรงงานของเรายังสร้างไม่เสร็จ ทำไมคุณถึงเรียกพวกเขามา?” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “พวกเขาเป็นพนักงานของคุณ แน่นอนว่าคุณก็ต้องได้พบกับพวกเขา และเรากำลังมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตเครื่องจักรใช่ไหม? มันต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างบริษัทออกแบบมาออกแบบโครงสร้างโรงงานให้เรา อย่างไรก็ตามพวกพนักงานเองก็ยังไม่มีงานอะไรให้ทำ ดังนั้นก็ให้พวกเขามาช่วยออกแบบให้เราซะสิ และเราเองก็จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปด้วย”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “พวกเขาเป็นนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ไม่ใช่สถาปัตยกรรม พวกเขาจะมาออกแบบพิมพ์เขียวสำหรับสร้างโรงงานผลิตเครื่องจักรได้ยังไง?”

 

          “แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรที่มันซับซ้อนมากเกินไปได้ แต่เราเองก็ไม่ได้จะขอให้พวกเขาทำอะไรมากมายนัก จากความคิดของฉัน ฉันคิดว่าบริษัทของเราควรจะมีเวิกค์ช็อป บ้านพักพนักงาน โรงอาหารและตึกอำนวยการ นี่เป็นสิ่งก่อสร้างขั้นพื้นฐาน และฉันคิดว่าพวกเขาสามารถทำได้” หลางซือเหยาพูด

 

          เซี่ยเหล่ยหยุดคิดครู่หนึ่งและพูด “จริงๆแล้วผมมีไอเดียหนึ่งที่คิดมาได้สักพักแล้วนั่นก็คือเราจะไม่ใช้อิฐเป็นโครงสร้างหลักของตึก เพราะมันต้องใช้เวลานานในการสร้าง เราสามารถใช้วัสดุก่อสร้างใหม่ๆในการสร้างตึกอำนวยการและบ้านพัก ใช้เหล็กกล้าและแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีสร้างเวิกค์ช็อป การก่อสร้างจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือนถ้าเราดำเนินการตามนี้”

 

          หลางซือเหยายิ้มขณะที่เธอพูด “คุณเองก็มีแผนการอยู่แล้วนี่ ลองทำแบบที่คุณพูดก็ดีเหมือนกัน มาสร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กันเถอะ”

 

          พวกเขาพูดคุยกันมาตลอดทาง และมาถึงที่ดินแปลงที่ 13 โดยใช้เวลาสามสิบนาที

 

          เซี่ยเหล่ยเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นราวๆสิบกว่าคนก่อนที่เขาจะลงจากรถ ในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ถัดจากพวกเขาไปเป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดเรียงรายกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขับมันมา สำหรับการใช้ชีวิตในเมือง รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะทำให้พวกเขาสามารถมาถึงที่หมายได้รวดเร็วกว่าใช้รถยนต์เสียอีก

 

          “พวกเขาใช่พนักงานที่คุณรับสมัครมาจากโรงเรียนเทคนิคหรือเปล่า?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “ใช่ พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กที่เพิ่งจบใหม่และนั่นก็คงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา มันจะต้องสนุกมากแน่ๆถ้าพวกเขาทั้งหมดได้ทำงานด้วยกัน” หลางซือเหยาพูด

 

          “ลงไปดูกันเถอะ” เซี่ยเหล่ยลงจากรถและเดินตรงไปยังกลุ่มเด็กวัยรุ่นพร้อมกับหลางซือเหยา

 

          มีคนหันมาเห็นเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาและพูด “พี่หลางอยู่ที่นี่”

 

          กลุ่มวัยรุ่นหยุดคุยกันและตรงเข้ามาทักทายหลางซือเหยาทีละคน แต่ละคนอัธยาศัยดีมาก บางคนก็พยายามจะทักทายเซี่ยเหล่ยด้วยแต่ก็ไม่กล้ามากนัก เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร พวกเขาแอบมองเซี่ยเหล่ยอย่างเงียบๆและพยายามจะคาดเดาสถานะของเขา

 

          “เอาล่ะทุกคน ฉันจะแนะนำให้รู้จักเขานะ ผู้ชายที่อยู่ข้างๆฉันคือประธานเซี่ยเหล่ย เขาเป็นประธานของอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า ประธานเซี่ยของเราเป็นช่างเครื่องและช่างผลิตเครื่องเชื่อมโลหะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศของเรา เขาสามารถใช้เครื่องกลึงธรรมดาเพื่อผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีความละเอียดสูงแบบที่มีแค่ยุโรปและอเมริกาเท่านั้นที่สามารถทำได้ เขาเป็นคนเก่งในด้านนี้คนแบบเขาหาได้ยากมากในประเทศ”

 

          กลุ่มเด็กวัยรุ่นรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเขาต่างส่งเสียงเรียก ‘ประธาน! ประธาน!’ ซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขาไม่ปิดบังความชื่นชมที่มีต่อเซี่ยเหล่ยและทุกคนต่างทำตัวราวกับว่าได้พบกับดารา

 

          “ว้าว ประธานเซี่ยของพวกเรายังหนุ่มและหล่อมาก!” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเพื่อนของเธอด้วยเสียงเบาๆ

 

          “ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีความละเอียดสูงโดยไม่ใช้เครื่องจักร? นี่มันสุดยอดมาก ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะเก่งแบบประธานเซี่ยได้” เด็กชายคนหนึ่งพูด

 

          เซี่ยเหล่ยดูจะไม่ได้หลงดีใจไปกับคำชื่นชมของพวกเขานัก เขายิ้มขณะกล่าวทักทาย และจับมือกับพวกเขาทีละคน

 

          เซี่ยเหล่ยรู้ดีว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเต็มใจที่จะมาทำงานกับอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเพราะชื่นชมในทักษะของเขา อีกเหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความสวยของหลางซือเหยา ชายหนุ่มหลายคนเต็มใจจะไปทำงานที่บริษัททุกวันเพียงเพราะจะได้เห็นนางฟ้าของพวกเขาอยู่ที่นั่น....

 

          “พวกเราจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่คะประธานเซี่ย?” เด็กหญิงใส่แว่นที่ดูเหมือนกับว่าเธอจะเป็นหนอนหนังสือ เธอยืนอยู่ด้านหน้าเซี่ยเหล่ยและดูท่าทางกังวลเล็กน้อย ใบหน้าขาวซีดของเธอมีสีแดงเรื่อยๆ

 

          “อย่างมากที่สุดคือหนึ่งเดือนหลังจากนี้ ผมเรียกพวกคุณมารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการก่อสร้าง ผมอยากขอให้พวกคุณทุกคนช่วยกันออกแบบพิมพ์เขียวสำหรับสร้างเวิกค์ช็อป พวกคุณคิดว่าสามารถทำได้ไหม?” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “พวกเรา…” ดูเหมือนสาวแว่นเธอกำลังจะพูดว่า ‘พวกเราเป็นนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์’ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่พูดมันออกมา

 

          คนอื่นๆต่างก็ปิดปากเงียบไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มในขณะที่พูด “ผมรู้ว่าพวกคุณเรียนเกี่ยวกับอะไรมา แต่การออกแบบเครื่องจักรกับอุตสาหกรรมการก่อสร้างก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก เรากำลังจะสร้างอาคารสำหรับผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วนต่างๆ เราไม่ได้ต้องการตึกที่มีการออกแบบซับซ้อนเหมือนกับตึกอุตสาหกรรมทางเคมี เราต้องการแค่เวิกค์ช็อปธรรมดา หอพัก ตึกอำนวยการและโรงอาหาร ผมวางแผนที่จะใช้วัสดุใหม่ๆและแผ่นโลหะเคลือบสังกะสีในการสร้างอาคารเหล่านี้ ผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคนสามารถทำได้”

 

          หลางซือเหยาพูดเสริม “พวกคุณต้องทำงานเอกสารในตึกอำนวยการและอาศัยในหอพักพนักงาน พวกคุณไม่อยากออกแบบที่ทำงานและหอพักของตัวเองอย่างงั้นหรือ?”

 

          สาวแว่นรวบรวมความกล้าของเธอและพูด “ฉันจะพยายามค่ะ”

 

          “ผมก็จะพยายามเหมือนกัน” เสียงตอบรับดังต่อเนื่องราวกับลูกคลื่น

 

          เซี่ยเหล่ยมองไปที่สาวแว่นหนอนหนังสือและถามอย่างอ่อนโยน “คุณชื่ออะไร?”

 

          “ฉันชื่อ กวนหลิงชาน” สาวแว่นตอบด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ดูเหมือนเธอจะเขินอายตลอดเวลา

 

          “คุณจะต้องเป็นคนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ฉัน?” ปากเล็กๆของ กวนหลิงชาน อ้าออกอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

 

          “ใช่ คุณนั่นแหละ คุณมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ดีหรือไม่?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          กวนหลิงชานพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ค่ะประธานเซี่ย ฉันจะต้องทำได้แน่”

 

          เซี่ยเหล่ยหันไปมองเด็กหนุ่มคนต่อไปและยิ้ม “คุณชื่ออะไร? คุณมีความสามารถด้านไหน?”

 

          เด็กชายคนนี้ค่อนข้างจะร่าเริงเขายิ้มขณะที่ตอบ “ผมชื่อ หยินฮ่าว ครับประธานเซี่ย ผมถนัดด้านการออกแบบวงจรไฟฟ้า”

 

          “ใช้ได้หนิ บริษัทนี้จะได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถของคุณในอนาคตและคุณจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถของคุณแน่”

 

          หยินฮ่าว พยักหน้า “ขอบคุณครับประธานเซี่ย”

 

          เซี่ยเหล่ยเดินไปหาทุกคนเพื่อถามชื่อและความสามารถพิเศษของพวกเขา เขาเป็นคนจิตใจดีและเข้าถึงได้ง่ายต่างกับประธานบริษัททั่วๆไป

 

          หลังจากคุยกับชายหนุ่มคนสุดท้ายชื่อว่า ฮานบั๋ว จบเซี่ยเหล่ยก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงจะสังเกตเห็นว่าผมเองไม่ได้อายุมากกว่าพวกคุณมากนัก เราเป็นกลุ่มคนที่อายุยังน้อยและบริษัทของพวกเราก็กำลังจะถูกก่อตั้งขึ้น เชื่อในตัวผมและเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราจะสามารถสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่ได้บนที่ดินผืนนี้!”

 

          รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของกลุ่มวัยรุ่น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวังและความคาดหวัง

 

          อันที่จริงแล้วกลุ่มพนักงานใหม่ของอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าที่อยู่ต่อหน้าเขา อายุเฉลี่ยของทุกคนไม่น่าจะเกิน 24 ปี นี่เป็นกลุ่มคนที่ยังเด็กมากและเป็นวัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแรงและความกระตือรือร้นต่ออนาคต ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าบริษัทที่เซี่ยเหล่ยกำลังจะร่วมสร้างไปกับกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นยังไงต่อไป แต่อนาคตของพวกเขาทุกคนคือหนึ่งในความคาดหวังที่เขาต้องแบกรับมันเอาไว้.........

 

          “ประธานเซี่ยฉันจะหาเครื่องมือสำหรับการวัดเพื่อทำการวัดขนาดที่ดินของเราในตอนนี้ และเริ่มวาดแบบแปลนเพื่อจะส่งให้คุณในอีกสามวันหลังจากนี้ค่ะ” กวนหลิงชานดูกระตือรือร้นที่จะเริ่มทำงาน

 

          “ได้สิ คุณโทรหาผมได้เลยนะถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “เราเองก็จะไปช่วยด้วยครับ” หยินฮ่าว พูด

 

          “ได้สิ ไปกันเลยๆ” เซี่ยเหล่ยพูด

 

           กลุ่มเด็กวัยรุ่นขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าออกไป

 

          พวกเขาเป็นเด็กจบใหม่ที่เต็มไปด้วยความคาดหวังต่ออนาคต เซี่ยเหล่ยได้ให้โอกาสพวกเขาในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการเพื่อสร้างหอพักของพวกเขาเอง และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขา เด็กๆเหล่านั้นไม่ได้สนใจว่าเซี่ยเหล่ยจะขับรถราคาแค่ 10,000 หยวน และไม่ได้สนใจว่าพวกเขาเองจะได้รับค่าครองชีพเพียงแค่ 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น นี่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเด็กจบใหม่ ถ้าพวกเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์การทำงานในโรงงานมาแล้วหลายปี พวกเขาคงไม่มีทางแม้แต่จะหันมามองบริษัทเล็กๆอย่างอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าแน่ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาทำงานที่นี่แต่สวัสดิการที่พวกเขาต้องการย่อมต้องมากกว่านี้อย่างแน่นอน

 

          เซี่ยเหล่ยเฝ้ามองดูกลุ่มเด็กวัยรุ่นขับรถสกู๊ตเตอร์ของพวกเขาออกไปและถอนหายใจ

 

          “พวกเขายอดเยี่ยมมาก !”

 

          “ฉันพยายามหลีกเลี่ยงการให้บริษัทจัดหางานหาพนักงานใหม่ให้เรา คนพวกนั้นคิดแค่ว่าจะหากำไรสูงสุดให้แก่ตัวเองเท่านั้นไม่ใช่ให้บริษัท เด็กจบใหม่พวกนั้นอาจจะไม่มีประสบการณ์ก็จริงแต่ใครจะมีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่เริ่มงานครั้งแรกล่ะ? การให้โอกาสพวกเขาก็เหมือนกับการที่เราให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน” หลางซือเหยาพูด

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องนะ”

 

          “แค่คำขอบคุณเองงั้นหรือ?” หลางซือเหยามองเซี่ยเหล่ยอย่างขี้เล่น “แสดงความขอบคุณของคุณออกมาให้ฉันเห็นด้วยสิ?”

 

          “คุณต้องการอะไร?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “ก่อนอื่นเราต้องไปบริษัทขายวัสดุก่อสร้างเพื่อซื้อวัสดุสำหรับสร้างอาคารของเรา หลังจากนั้นคุณสามารถเชิญฉันไปบ้านคุณเพื่อตอบแทนฉันด้วยอาหารดีๆสักมื้อก็ได้นะ ตกลงไหม?” หลางซือเหยาถาม เธออยากเห็นที่พักของเซี่ยเหล่ยว่าเป็นยังไง ครั้งก่อนเธอถูกขัดขวางโดยเจียงหยูยี่ และครั้งนี้เธอต้องการคำเชิญอย่างเป็นส่วนตัวจากเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “ได้สิ แต่ตอนนี้เราไปบริษัทขายวัสดุก่อสร้างกันก่อนเถอะ”

 

          “อืม เสร็จแล้วไปซูปเปอร์มาร์เก็ตกัน ฉันอยากกินอาหารฝีมือคุณ เอาผัดเปรี้ยวหวานซี่โครงหมู ข้าวโพดอบน้ำผึ้ง ปลาและมะเขือม่วง…อ้อ อาหารทะเลด้วย” หลางซือเหยาเริ่มคิดเมนูอาหารแล้ว

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขำๆ “คุณไม่กังวลว่าจะอ้วนขึ้นหลังจากทานอาหารมากเกินไปหรือ?”

 

          หลางซือเหยายักไหล่ “ถ้าอาหารของคุณอร่อย ทำไมฉันจะต้องกลัวอ้วนล่ะ ?”

 

          “ก็ได้ๆ ผมจะทำอาหารทุกอย่างตามที่คุณต้องการ ตอนนี้พอใจหรือยัง?” เซี่ยเหล่ยหันมาพูดและหันหลังกลับเดินตรงไปริมถนน

 

          ทันใดนั้นหลางซือเหยาก็ยกแขนขึ้นมาเพื่อจะโจมตีต้นคอเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยสัมผัสได้แรงลมจากด้านหลังคอของเขา จึงขยับไปด้านหน้าและหลบการแอบโจมตีของหลางซือเหยาได้ทันเวลา

 

          หลางซือเหยาก้าวมาข้างหน้า เธอยกขาขาวราวกับหยกขึ้นมาจากใต้กระโปรงตัวสั้นที่สวมอยู่ และพยายามพุ่งเป้าโจมตีไปยังหว่างขาของเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยดันเข่าทั้งสองข้างเข้ามาชิดกันเพื่อป้องกันกึ่งกลางลำตัวไว้ และใช้มือจับขาของหลางซือเหยาไว้

 

          หลางซือเหยาพยายามจะดึงขาออก แต่เธอไม่สามารถทำได้ น่องขาวซีด ขาอ่อนของเธอและกางเกงในลายลูกไม้สีดำสามารถมองเห็นได้ชัดเจนภายใต้กระโปรงทำงานสั้นๆของเธอ ท่าทางตอนนี้มันช่างเซ็กซี่มากจริงๆ

 

          ผู้ชายที่กำลังยืนหุบขาของเขากับผู้หญิงที่ยื่นขาออกมาเพื่อจะเตะเขา  นี่มันเป็นฉากที่ชวนให้รู้สึกแปลกพิลึก !

 

          การมองเห็นของเซี่ยเหล่ยยังเป็นปกติ แต่ทันทีที่กางเกงในลายลูกไม้สีดำนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป ดวงตาของเขาก็กระตุกเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้ ความสวยงามและการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ของพื้นที่บริเวณนั้นก็ได้ปรากฏสู่สายตาของเขา เขารู้สึกตื่นตกใจทันที นี่มันไม่ใช่เรื่องดีเลย

 

          “ย๊าก !” หลางซือเหยาตะโกนออกมาเสียงดังและส่งหมัดของเธอไปยังหน้าอกของเซี่ยเหล่ย

 

          เกิดการกระแทกเสียงดังและเซี่ยเหล่ยกระเด็นไปข้างหลังหลายก้าว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากการโดนกระแทกทำให้เขาไอออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

          หลางซือเหยาก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงเซี่ยเหล่ยขึ้นมาและถามด้วยความเป็นห่วง

 

          “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? จริงๆแล้วคุณควรจะหลบมันได้อย่างสมบูรณ์แบบนี่ ทำไมคุณถึงไม่หลบล่ะ?”

 

          เซี่ยเหล่ยตอบอย่างหงุดหงิดใจเล็กน้อย “อ๊ะ…ก็คุณเคลื่อนไหวเร็วเกินไปนี่” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ได้พูดขึ้นมาใหม่เพื่อเบี่ยงความสนใจของหลางซือเหยา “ผมพูดว่า คราวหลังคุณอย่าแอบโจมตีลับหลังแบบนี้อีกได้ไหม?”

 

           หลางซือเหยาส่ายหน้า “ฉันทำไม่ได้ คุณยังเพิ่งเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้ได้ไม่นาน ถ้าฉันไม่คอยดูแลและฝึกสอนคุณ เมื่อไหร่คุณจะสามารถเอาชนะฉันกับพ่อได้ล่ะ?”

 

          “ทำไมผมต้องเอาชนะคุณกับพ่อของคุณด้วย?”

 

          “เพราะนี่คือหน้าที่ของคุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยอึ้งจนไม่สามรถพูดอะไรออกมาได้.........

 

          ติดตามตอนต่อไป.....

         

รีวิวผู้อ่าน