px

เรื่อง : เนตรเนรมิต - Tranxending Vision
TXV  –  93 ผู้บุกรุก !


TXV  –  93 ผู้บุกรุก !

 

          ฮวงยี่หู่มีธุรกิจมากมายที่อยู่ภายใต้ชื่อของเขาแต่ธุรกิจที่ใหญ่โตและร่ำรวยมากที่สุดก็คือ ธุระกิจกลุ่มพระจันทร์เสี้ยว แต่การที่เขาต้องสูญเสียที่ดินหมายเลขที่ 13 ไปทำให้ความฝันของเขาดับไปทันที ที่ดินส่วนนี้เขาจะมาทำเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อจะสร้างรายได้ให้กับตัวเขาและครอบครัวทวีคูณมากขึ้นไป แต่การที่เขาโดนเซี่ยเหล่ยฉกที่ดินนี้ไปต่อหน้าจะให้ฮวงยี่หู่อยู่เฉยๆได้ยังไง ?

 

          ฮวงยี่หู่ ต้องการที่จะแสดงพลังอำนาจของตัวเขาให้เซี่ยเหล่ยได้เห็นว่าเมื่อมีใครสักคนกล้าขัดใจเขาผลที่ตามมาจะเป็นแบบนี้…

 

          ในเวลา 1 นาฬิกา เกรทส์วอร์ H6ได้จอดอยู่นอกกำแพงสำนักงานกลุ่มพระจันทร์เสี้ยวซึ่งมีแผ่นพลาสติกปกปิดป้ายทะเบียนรถคันนั้นอยู่ประตูรถได้เปิดออกและมีชายหนุ่มสองคนปิดบังใบหน้าพวกเขากำลังปีนไปยังหลังคารถและกระโดดข้ามกำแพงไปลงที่สวนของสำนักงานแห่งนี้

 

          หนึ่งในนั้นคือ ฉิงเสวียงและอีกคนก็คือเซี่ยเหล่ย.....

 

          ในสวนแห่งนี้พวกเขาอยู่ติดกับกำแพงและค่อยๆขยับตัวไปยังอาคารที่มีขนาด 4 ชั้นสำนักงานแห่งนี้มีระบบความปลอดภัยหนาแน่นมาก วงจรปิดทุกตัวจะถูกส่องไปยังบริเวณหน้าทางเข้าของสำนักงานแต่ไม่มีกล้องตัวใดที่ส่องด้านหลังตึกสำนักงานเลยสักตัว เซี่ยเหล่ยใช้ตาซ้ายเพ่งมองเข้าไปในล็อบบี้และเขาเห็นทุกอย่างในล็อบบี้อย่างชัดเจน

 

          มีแสงไฟเล็กๆเล็ดลอดออกมาจากล็อบบี้แห่งนั้นและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังนั่งอยู่บนโซฟากำลังเล่นโทรศัพท์ของเขาอย่างเพลิดเพลิน

 

          ฉิงเสวียงทำสัญญาณบอกเซี่ยเหล่ยให้ก้มต่ำลงแล้วชี้ไปยังหน้าต่างของบริเวณชั้น 2

 

          เซี่ยเหล่ยเงยหน้ามองไปยังฉิงเสวียงที่กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าต่างและกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง

 

          ฉิงเสวียงตอบรับด้วยสัญญาณมือและใช้เศษโลหะสอดเข้าไปยังบริเวณหน้าต่างจากนั้นพยายามปลดล็อคหน้าต่างออกเขากระโดดเข้าไปข้างในห้องนั้นจากนั้นส่งเชือกออกมาจากชั้น 2 ให้เซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยรีบคว้าเชือกทันทีจากนั้นเขาใช้ขาทั้งสองข้างถีบไปยังผนัง เขารีบปีนขึ้นไปชั้น 2 และลอดผ่านหน้าต่างเพื่อเข้าไปยังในตึกอย่างรวดเร็ว

 

          ชั้น 2 แห่งนี้เป็นสำนักงานธรรมดามีตู้เก็บเอกสารและตู้กดน้ำ มันเป็นของบุคคลธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ชั้นนี้คงจะไม่มีค่าอะไรมากมายสำหรับฮวงยี่หู่

 

          “คุณรู้หรือรึเปล่าว่าห้องทำงานของฮวงยี่หู่อยู่ชั้นไหน ?” เซี่ยเหล่ยพูดด้วยเสียงเบาๆ เขารู้แค่ว่ากลุ่มพระจันทร์เสี้ยว เป็นธุรกิจที่ใหญ่โตและสำคัญที่สุดของฮวงยี่หู่แต่เขาไม่ทราบเลยว่าห้องทำงานของฮวงยี่หู่อยู่ที่ไหนในตึกแห่งนี้

 

          “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน คนอย่างฮวงยี่หู่ชอบอยู่เหนือคนอื่นๆและควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ผมเดาว่าห้องทำงานหลักของเขาน่าจะอยู่สูงกว่าคนอื่นนั่นก็คือชั้น 4 ” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยเงยหน้าไปด้านเพื่อมองเพดานที่อยู่เหนือศีรษะเขา

 

          “คุณจะไม่เห็นห้องทำงานหลักของเขาหรอกถ้าคุณทำแบบนั้นวิธีที่ดีกว่านั้นก็คือเราช่วยกันหาทีละชั้นโดยเริ่มจากชั้นนี้เราสามารถเจอห้องทำงานหลักของฮวงยี่หู่ได้อย่างแน่นอน” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยยังคงจ้องมองเพดาน…….

 

          ฉิงเสวียงค่อยๆย่องไปที่ประตูจากนั้นเปิดประตูเบาๆและเขาจะชะเง้อคอออกไปดูสถานการณ์ภายนอกตึกแห่งนี้

 

          ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยพูดขึ้นมาว่า “อย่าออกไป ! ทางเดินด้านหน้ามีกล้องอยู่เราจะถูกกล้องตรวจจับถ้าเดินออกไปข้างนอก”

 

          ฉิงเสวียงรีบหดคอของตัวเองกลับมาแล้วปิดประตูเบาๆจากนั้นมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยความสงสัยว่า “มีกล้องวงจรปิดอยู่จริงๆหรอ แล้วคุณรู้ได้ยังไงล่ะ ?”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ตอบคำถามเขาแต่เขาพูดว่า “ห้องทำงานหลักของฮวงยี่หู่อ่ที่ชั้น 4 เราสามารถเข้าไปยังห้องนั้นได้จากการไต่กำแพงเท่านั้น !”

 

          “คุณ….” ฉิงเสวียงอึ้งในความสามารถของเซี่ยหเหล่ย “คุณรู้ได้ยังไงเนี๊ย ?”

 

          “ผมพึ่งจำได้ว่าผมเคยเห็นแบบแปลนของตึกนี้แล้ว” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          คำอธิบายนี้หลุดออกมาจากปากเซี่ยเหล่ยทำให้ฉิงเสวียงถึงกับส่ายหัวและเดินบ่นพึมพำไปทางหน้าต่างว่า “คุณบอกผมช้ากว่านี้ผมคงโดนลากคอไปอยู่ในคุกแล้วล่ะ”

 

          ทั้งเซี่ยเหล่ยและฉิงเสวียงเดินไปทางหน้าต่าง ฉิงเสวียงไม่ได้ถามอะไรเซี่ยเหล่ยเพิ่มเติม เขากระโดดข้ามไปที่กำแพงและคว้าท่อน้ำที่ห้อยลงมาไว้จากนั้นเขาก็ค่อยไต่ไปตามท่อน้ำและปีนขึ้นไป

 

          เซี่ยเหล่ยกลัวว่าท่อน้ำจะไม่สามารถรับน้ำหนักของคนสองคนได้ เขาจึงรอให้ฉิงเสวียงปีนขึ้นไปข้างบนก่อนจากนั้นเขาก็ค่อยปีนขึ้นไปตามขึ้นไป การทำแบบนี้เขาทำเป็นครั้งแรก ในชีวิตเขาเคยทำแค่เพียงปีนขึ้นไปยังรางเหล็กในไซต์งานก่อนก่อสร้างเท่านั้น แต่เขาก็ไม่รีรอให้เสียเวลาขาปีนไปท่อน้ำไปอย่างรวดเร็วและรีบเข้าไปยังตึกชั้น 4

 

          ฉิงเสวียงใช้ความสามารถของเขาอีกครั้งเขาใส่เหล็กเข้าไปยังล็อคประตูจากนั้นยกสลักประตูเบาๆเพื่อทำให้หน้าต่างเปิดและพวกเขาก็รีบเข้าไปในชั้น 4 ทันที

         

          เซี่ยเหล่ยตามเข้าไปในชั้น 4 ตามฉิงเสวียงทางหน้าต่าง

 

          ชั้นนี้คงเป็นสำนักงานหลักของฮวงยี่หู่ ชั้นนี้มันมีขนาดใหญ่กว่าชั้นเดิมหลายเท่าและมีอุปกรณ์สำนักงานราคาแพง มีภาพวาดที่แขวนอยู่บนผนังอย่างหรูหราและรูปภาพตรงหน้าโต๊ะทำงานของฮวงยี่หู่เป็นภาพการจับมือกับผู้นำของประเทศ ในรูปนี้เขายิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจและมีความสุข

 

          ในห้องทำงานของเขาเป็นห้องที่ใหญ่โตมากและมีชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่แต่ละชั้นเต็มไปด้วยหนังสือนานาชนิด หนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือที่ใหม่เอี่ยมไม่มีร่องรอยการเปิดอ่านเลยสักนิดเดียว ดูเหมือนฮวงยี่หู่ไม่มีนิสัยชอบการอ่านสักเท่าไหร่แต่หนังสือเหล่านี้ถูกนำมาเพื่อทำการตกแต่งห้องให้สวยงามเท่านั้นเอง.......

 

          นอกจากนี้ในห้องทำงานแห่งนี้ยังมีเตียงคู่ขนาดใหญ่ มีโซฟาใหญ่โตมโหฬารและยังมีตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีประตูเปิดถึง 3 ประตู

 

          ฉิงเสวียงเดินไปยังโต๊ะด้านหลังและเปิดลิ้นชักเพื่อหาอะไรบางอย่างแต่เขากลับเจอชุดชั้นในของผู้หญิง ถุงเท้า ยกทรงลายลูกไม้ ชุดชั้นใน กล่องถุงยางอนามัยและเขาก็บ่นอย่างเงียบๆว่า  “ไอ้สารเลว ! เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าทำชั่วมากกว่าที่คิดไว้ซะอีก !”

 

          จากสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้เขาคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าฮวงยี่หู่คงไม่ได้แค่ทำงานอย่างเดียวคงจะทำอะไรบางอย่างกับเลขาฯคนนี้อย่างแน่นอน…..

 

          ฉิงเสวียงยังคงค้นหาสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับเซี่ยเหล่ย ในขณะที่เขายืนดูสังเกตการณ์อยู่ที่ประตู

 

          “เฮ้ ! มานี่หน่อย” ฉิงเสวียงกล่าว “ผมเจอเอกสารบางอย่าง ผมคิดว่าผมเจอหลักฐานการติดสินบนของฮวงยี่หู่ ผมว่าเป็นความคิดที่ดีนะถ้าเราจะนำเรื่องนี้ไปเปิดเผยทุกคนได้รับรู้ ?”

 

          “งั้นคุณมาดูลาดลาวที่นี่นะ เดี๋ยวผมจะเข้าไปดูข้างในเอง” เซี่ยเหล่ยเดินออกมาจากประตูทางเข้าและเดินเข้ามาในห้องทำงานของฮวงยี่หู่

 

          ทันทีที่เขามาถึงเขาใช้ตาซ้ายสำรวจทั่วๆห้อง แต่สิ่งที่เขาเจอไม่ใช่เป็นเอกสารลับแต่เขาเจอ USB ที่ซ่อนยู่ด้านใน

 

          ในห้องทำงาน เซี่ยเหล่ยพักเอาแรงเล็กน้อยก่อนจะใช้พลังของตาซ้ายให้มากกว่าเดิม เขาใช้สายตากวาดไปทั่วห้องทำงานของฮวงยี่หู่จากนั้นไม่นานสายตาของเขาหยุดลงตรงที่โต๊ะทำงานของฮวงยี่หู่.....

 

 

          ใต้โต๊ะทำงานของฮวงยี่หู่มีตู้นิรภัยถูกฝังอยู่ในพื้น…

 

          ก่อนที่จะถึงตู้นิรภัยใบนั้นมีคอนกรีตประมาณ 1 เมตรปกปิดเอาไว้อยู่ ในตู้นิรภัยตู้นั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นรหัสลับที่ล็อคตู้นิรภัยไว้อย่างแน่นหนา

 

          เซี่ยเหล่ยมองไปยังตู้นิรภัยนั้นด้วยตาซ้ายของเขา ความสามารถในการเจาะทะลุทะลวงพื้นซีเมนต์ เขาสามารถเห็นของที่อยู่ในตู้นิรภัยหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที

 

          ในตู้นิรภัยในแห่งนี้เป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติมากมายมีทั้งสกุลเงินดอลลาร์ มีสกุลเงินเหรียญนอกจากนี้ยังมีทองคำแท่งกว่า 10 ชิ้นอยู่ในนั้นและนอกจากนี้ยังมีเอกสารและใบรับรองอื่นอีกมากมาย ...

 

          “เจอแล้ว !” เซี่ยเหล่ยพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น

 

          มันดูไม่สมเหตุสมผลซะเลยที่ฮวงยี่หู่จะนำสิ่งสำคัญเหล่านี้มันเก็บไว้ในสำนักงานของเขาแต่อย่างไรก็ตามเมื่อตัวตนของเขาเผยออกมามากขึ้น ศัตรูของเขาพร้อมจะทําร้ายเขาทุกเมื่อ เขาจึงเปลี่ยนที่อยู่อาศัยอยู่บ่อยๆและเขาก็ไม่สามารถนำทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกับเขาได้ การเก็บสิ่งสำคัญเหล่านี้ไว้ในตู้นิรภัยเป็นความคิดที่ดี ตู้นิรภัยนี้ไม่สามารถปลดล็อคได้หากไม่มีรหัสแถมยังฝังอยู่ใต้พื้นซีเมนต์กว่า 1 เมตรถึงแม้ว่าจะมีใครปลดล็อคได้ก็ดูเหมือนว่าจะยกตู้นิรภัยนี้ออกไปไม่ง่ายเลยเพราะมีน้ำหนักอย่างน้อย 1000 ปอนด์

 

          ฉิงเสวียงเดินออกจากประตูและรีบเดินมาอย่างรวดเร็ว “ผมไม่เห็นเจออะไรเลย คุณเจอมันได้ยังไง ?”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเดินตรงไปที่โต๊ะแล้วดึงประตูไม้ออกมา..

 

          ทันที่ทีฉิงเสวียงเห็นตู้นิรภัยเขาก็นิ่งไปสักครู่ก่อนจะพูดว่า “เวรเอ๊ย ! นี่เป็นตู้นิรภัยที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี แม้แต่อาจารย์ของผมก็ไม่สามารถปลดล็อตตู้นิรภัยนี้ได้”

 

          “อาจารย์ของคุณ ?” เซี่ยเหล่ยถามขณะที่นั่งยองๆอยู่หน้าตู้นิรภัย

 

          ฉิงเสวียงนั่งอยู่ด้านหน้าของเซี่ยเหล่ย “คุณจะไม่มีทางรู้ถึงแม้ว่าคุณจะอยากรู้ชื่ออาจารย์ของผมแค่ไหนก็ตาม ผมแนะนำนะล้มเลิกความคิดที่จะเปิดมันซะ ตู้นิรภัยนี้ต้องใช้รหัสถึง 2 ขั้นรหัส 1 เป็นการปลดล็อคด้วยระบบเสียงอีกขั้นหนึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ คุณรู้ไหมว่าตู้นิรภัยนี้ราคาเท่าไหร่ 3,500,000 ฮวงยี่หู่ เขาต้องเก็บสิ่งสำคัญมากๆไว้ในนี้แน่แต่.......”  เขากระทืบพื้นด้วยความโกรธความลับของฮวงยี่หู่อยู่หน้าเขาแล้วแต่ไม่สามารถเปิดออกมาได้แค่นั้นเอง !

 

          “คุณเชี่ยวชาญในด้านนี้คุณไม่สามารถเปิดมันได้หรอ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          ฉิงเสวียงส่ายหัว “ผมจะให้คุณล้มเลิกความคิดที่จะเปิดทำไมล่ะ ? ถ้าผมเปิดมันได้”

 

          เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ผมขอลองเปิดเอง !”

 

          “คุณ ?” ฉิงเสวียงมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างประหลาดใจ

 

          เซี่ยเหล่ยเอื้อมมือไปยังตู้นิรภัย

 

          ฉิงเสวียงคว้ามือของเซี่ยเหล่ยไว้ “หยุดล้อเล่นได้แล้ว ตอนนี้คุณสามารถเปิดมันได้หรอ ? ขนาดผมไม่สามารถเปิดมันได้เลย อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามอีก เราไปหาวิธีอื่นกันเถอะ”

 

          “จะต้องรหัสเสียงหรือรหัสทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อน ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          ฉิงเสวียงยิ้มแบบเซ็งๆ “ทำไมคุณถึงดื้อด้านนัก ? งั้น….ใส่รหัสอิเล็กทรอนิกส์ก่อน”

 

          เซี่ยเหล่ยจ้องไปที่แป้นพิมพ์ตัวเลข แป้นพิมพ์นั้นค่อยๆขยายออกเรื่อยๆจากตาซ้ายของเขาจากนั้นเขาขยายภาพลงไปจนมองเห็นฝุ่นละอองเล็กๆได้ เขาสามารถเห็นละอองฝุ่นเล็กๆที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า รอยนิ้วมือมีต่อมเหงื่อและมีรอยเหงื่อขณะที่พวกเขาสัมผัสลงไป มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงข้อนี้ไปได้…

 

          เซี่ยเหล่ยเห็นตัวเลขจำนวน 6 ตัวเลขซึ่งตัวเลขเหล่านี้มีรอยเหงื่อที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ‘ 9 7 3 2 1 5’

 

          จำนวนตัวเลข 6 ตัวนี้มีการจัดเรียงสลับไปมากันอย่างซับซ้อน เซี่ยเหล่ยลองผสมชุดตัวเลขตลอดทั้งคืนแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย.....

 

          อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยพยายามไขตัวเลขชุดนี้เพียงลำพัง

 

          ติดตามตอนต่อไป……..

 

รีวิวผู้อ่าน