px

เรื่อง : เนตรเนรมิต - Tranxending Vision
TXV – 124 กระตุกหนวดเสือ !


TXV – 124 กระตุกหนวดเสือ !

 

         บ้านของโจเซฟมันจะต้องใหญ่มากแน่ๆ หน้าบ้านประดับด้วยโคมไฟสีเขียวอ่อน มีโกดังถูกสร้างอยู่ด้านหลังด้วยเหล็กอย่างดี เซี่ยเหล่ยเดินต่อไปแต่ในใจก็คิดว่า "โจเซฟได้ศึกษาเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงหลายครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีขนาดที่ใหญ่มาก แน่นอนเขาไม่มีทางที่จะทำเก็บมันไว้ในบ้านแน่นอน หรือว่าจะเป็นที่โกดัง...?

 

         อันที่จริงเซี่ยเหล่ยได้เตรียมตัวเพื่อที่จะไปดูโกดังของโจเซฟอยู่แล้ว ขณะนั้นโจเซฟเดินเข้าหาทั้งคู่และพูดขึ้นว่า "อเลน่า... คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม? ตอนนี้มีแขกมากเหลือเกิน ผมไม่สามารถจัดการกับมันได้ด้วยตัวคนเดียว"

 

         "คุณต้องการให้ฉันช่วยยังไง..?" อเลน่าถาม

 

         "คุณมาช่วยไปหยิบไวน์ให้ผมหน่อย คุณรู้จักห้องเก็บไวน์ของผมใช่มั้ย?" โจเซฟกล่าว

 

         อเลน่าพยักหน้า จากนั้นเธอก็พูดกับเซี่ยเหล่ยว่า "คุณรอฉันก่อนนะ.."

 

         หลังจากที่อเลน่าเดินออกไปเพื่อที่จะหยิบไวน์ โจเซฟก็ได้จ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วพูดขึ้นว่า "คุณคือ ลูคัส ใช่มั้ย..?"

 

         โจเซฟพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่ต้องการให้เซี่ยเหล่ยมาที่งานวันเกิดของเขาซักเท่าไหร่ ที่เขาสามารถมาที่นี่ได้ก็เพราะอเลน่า อันที่จริงถ้าพิจารณาให้ดีถ้าหากโจเซฟไม่ได้กำลังศึกษาเรื่องเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพอยู่ละก็ เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้สนใจที่จะมายังที่นี่เลย.......

 

         แม้ว่าโจเซฟดูจะไม่ค่อยชอบเซี่ยเหล่ยซักเท่าไหร่ แต่เซี่ยเหล่ยก็ยังคงแสดงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพูดตอบกลับว่า "ใช่... สวัสดีครับคุณโจเซฟ" เมื่อพูดเสร็จเขาก็ได้ยื่นมือออกไปเพื่อหวังจะจับมือทักทาย

 

         "มือของผมเปื้อนน้ำมันอยู่...อย่าดีกว่า" โจเซฟกล่าว ไม่นานเขาก็พูดต่อขึ้นว่า "แล้วลูคัส..คุณช่วยไปหยิบถ่านที่กระท่อมให้ผมหน่อยได้ไหม? จะย่างบาร์บีคิวมันต้องใช้ถ่านหน่ะ "

 

         "ไม่มีปัญหา...ไปทางไหนหล่ะ?" เซี่ยเหล่ยถาม

 

         โจเซฟยกมือขึ้นและชี้ไปยังกระท่อมเล็กๆเพื่อบอกทางให้กับเซี่ยเหล่ย

 

         เซี่ยเหล่ยเดินไปที่กระท่อม โจเซฟไม่ได้ขอช่วยเขาในฐานะแขก แต่ถือว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ควรจะอยู่ร่วมสนุกตรงนี้ โจเซฟเผิกเฉยต่อเขาเพื่อที่จะจงใจไม่ให้เซี่ยเหล่ยอยากเข้าร่วมปาร์ตี้ครั้งนี้

 

         แขกที่ยืนพูดคุยกันอยู่ที่ลานด้านหน้าได้มองผ่านหลังของเซี่ยเหล่ย พวกเขากำลังซุปซิปนินทาเซี่ยเหล่ยอยู่ตลอดเวลา

 

         "หนุ่มจีนคนนี้เป็นผู้ช่วยคนใหม่ของอเลน่า ได้ยินมาว่าอเลน่าเข้ากันได้ดีกับผู้ช่วยคนนี้ซะด้วย" แขกบางคนกล่าว

 

         "ฉันได้ยินมาว่าหนุ่มจีนคนนี้เอง ที่เพิ่งจะซ่อมรถจักรยานยนต์ของอเลน่าด้วยเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์หาหนทางซ่อมได้ยากมากๆ" แขกอีกคนนึงพูดเสริม

 

         "คุณรู้ไหมว่าทำไมอเลน่าถึงตกลงรับผู้ช่วยคนนี้เป็นผู้ช่วยคนใหม่?" หญิงสาวคนหนึ่งที่มีดวงตาสีบลอนด์น้ำเงินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม "อเลน่าเคยคุยกับฉัน เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ช่วยชาวจีนที่เชี่ยวชาญด้านกังฟู เมื่อคืนก่อนเธอได้มีเรื่องและถูกทำร้ายโดยแก๊งอาชญากร ซึ่งก็ได้เขานั้นเองที่เป็นคนช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายครั้งนี้ "

 

         "มันก็พูดได้ว่าหนุ่มจีนคนนี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน ซึ่งสิ่งนี้เองที่อาจจะเป็นสิ่งที่โจเซฟไม่ชอบในตัวของลูคัสจู่ๆจึงออกปากให้เขาไปเอาถ่านที่กระท่อมด้านหลัง" ชายวัยกลางคนกล่าว

 

         เขายิ้มแล้วพูดต่อขึ้นอีกว่า "โจเซฟแอบหลงรักอเลน่าหน่ะ…นี่เป็นความลับนะ!! ซึ่งผู้ช่วยคนนี้เป็นชาวจีนและยังเป็นผู้ชายที่ต้องทำงานร่วมกันตลอดกับอเลน่ามันคงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ชอบหนุ่มชาวจีนคนนี้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าหนุ่มคนนี้คิดอะไรอยู่ เขาไม่ควรจะมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ"

 

         ขณะนั้นโจเซฟเดินผ่านมาพอดี ทำให้บรรดาแขกที่อยู่ในวงสนทนานั้นต้องเปลี่ยนหัวข้อที่กำลังคุยกัน

 

         คำพูดของเหล่าแขกในวงสนทนานี้เซี่ยเหล่ยไม่มีทางได้ยิน เพราะตอนนี้เขาอยู่ที่กระท่อมเรียบร้อยแล้ว

 

         กระท่อมที่เก็บถ่านนี้ตั้งอยู่ด้านข้างไม่ไกลจากตัวบ้านของโจเซฟ มันสร้างแบบง่ายๆด้วยไม้แผ่นเรียบ แต่ก็ดูทนทานต่อสภาพอากาศ

 

         ภายในกระท่อมมีของที่ใช้การไม่ได้แล้ววางซ้อน มีเครื่องมือฟาร์ม มีส่วนประกอบของเครื่องจักร และมีสิ่งที่เซี่ยเหล่ยต้องมาเอา นั่นคือก็ถ่าน มันถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าขนาดใหญ่หนักประมาณครึ่งกิโลกรัม เมื่อเข้าไปในกระท่อมเซี่ยเหล่ยไม่ได้จดจ่ออยู่กับถ่านที่เขาต้องมาเอาเลย เพราะสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างที่เขาเห็นนั้นก็คือโกดัง..!! มันยังสามารถเห็นได้แม้จะอยู่ในกระท่อมนี้ก็ตาม มันห่างออกไปไม่มาก

 

         บ้านของโจเซฟสร้างจากไม้ทั้งหลัง แต่กลับกันผนังของโกดังเป็นอิฐเสริมด้วยเหล็กทำให้แข็งแรงมาก อย่างไรก็ตามเขาพยายามที่จะถ่างตาให้กว้างขึ้นแล้วใช้พลังแต่ก็ไม่เป็นผล เขาไม่สามารถใช้ตาซ้ายของเขาเพื่อมองให้ทะลุเข้าไปยังข้างในได้ เขาพยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ผล

 

         จากนั้นเขาได้หันไปเห็นบางอย่างอยู่ข้างโกดังมันเป็นผ้าเรืองแสงที่คลุมอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เขาพยายามที่จะมองทะลุเข้าไปแต่ก็ไม่ได้ผลอีกเหมือนกัน มันทำให้เขาค้นพบว่าผ้าใบกันน้ำเรืองแสงทำให้พลังของตาซ้ายเขาอ่อนแอลง

 

         เซี่ยเหล่ยแปลกใจมากและพึมพัมกับตัวเองว่า ‘ผ้าเรืองแสงสามารถลดพลังของเรา ทำให้ความสามารถในการมองทะลุของเราอ่อนลงมันไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง..?’

 

         เมื่อได้สิ่งหนึ่งมา ก็จะต้องสูญเสียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป มันเป็นกฎของธรรมชาติ หรือความหมายอีกนัยหนึ่งก็คือ ตามกฏของธรรมชาติที่ไม่มีสิ่งใดจะสามารถอยู่ได้โดยไม่เสื่อมสภาพ ความสามารถมองทะลุของเซี่ยเหล่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

         เซี่ยเหล่ยเลิกพยายาม เขามองกลับไปที่ถ่านถุงใหญ่ เขายกมันขึ้นมาและเดินออกจากกระท่อม ถึงแม้ว่าเขาจะมองทะลุผ่านผ้ากันน้ำเรืองแสงได้ไม่ชัดเจน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถยืนยันได้ว่า งานวิจัยเรื่องเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพของโจเซฟในโกดังนั้นจะทำให้เขาสามารถพัฒนามันเองได้ แต่เขาต้องเก็บความอยากเอาไว้ก่อนมันยังไม่ถึงเวลา

 

         เซี่ยเหล่ยวางถ่านไว้ข้างเตาบาร์บีคิว ในเวลานี้อเลน่ากำลังถือไวน์และเดินไปยังโจเซฟ ซึ่งเขากำลังโอ้อวดสรรพคุณของสิ่งที่อยู่ในถังไม้โอ๊กในขณะที่กำลังจัดวางถังให้เรียบร้อย

 

         กลับมาที่เซี่ยเหล่ยเขากำลังเอาถ่านใส่ลงไปในเตาย่างบาร์บีคิวคิ้ว อเลน่ามองไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วคิ้วขมวดเล็กน้อย เธอวางกล่องไวน์แดงและเดินไปยังเซี่ยเหล่ยเพื่อกระซิบถามว่า "ลูคัสถ้าคุณไม่ชอบเราจะออกไปจากที่นี่กัน ฉันจะทำอาหารเย็นให้คุณเอง.."

 

         เซี่ยเหล่ยได้ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "ผมสบายดี ไม่มีอะไรต้องมากังวลหนิ"

 

         "อืม..ดี!!..คุณยังดูมีความสุขดี" ขณะที่กำลังพูดอเลน่าก็ได้เหลือบตามองไปที่โจเซฟ และเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

 

         โจเซฟเปิดจุกไม้ก๊อกของไวน์และเปิดฝาถังไม้โอ๊กออก สิ่งที่อยู่ในถังไม้โอ๊กคือเบียร์ดำ มันส่งกลิ่มหอมออกไปไกลมันเป็นกลิ่นของมอลท์ที่หอมแบบมีความไหม้อยู่ เยอรมนีได้สิทธิ์ขาดในการเป็นเจ้าของเบียร์ดำแต่เพียงผู้เดียว จากนั้นไม่นานแขกในงานก็เริ่มดื่มเหล้าดื่มเบียร์และลิ้มรสชาติของบาร์บีคิว งานเลี้ยงวันเกิดของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

         ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยได้สนิทกับอเลน่าแล้ว ส่วนคนอื่นๆเขายังไม่สนิทด้วย เช่นโจเซฟ เพราะฉะนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีใครพูดคุยกับเขาด้วย เขาเลยต้องมาหาคนอื่นที่จะไปคุยเพื่อให้คุ้นภาษาเยอรมันมากกว่านี้

 

         ในขณะที่วัยรุ่นหลายๆคนกำลังขี่จักรยานยนต์ของพวกเขามาถึง เมื่อมองดูไปแล้วอายุของพวกเขาและโจเซฟดูไม่ต่างกันมาก โจเซฟเดินไปหาพวกเขาและทักทายอย่างเป็นกันเอง ดูเหมือนว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก

 

         ในเวลานี้อเลน่าได้เดินไปด้านของเซี่ยเหล่ยแล้วพูดว่า "ลูคัสเรามาดื่มหนึ่งแก้ว...เพื่อมิตรภาพของเรา"

 

         เซี่ยเหล่ยได้ชนแก้วกับเธอแล้วพูดขึ้นว่า "เพื่อมิตรภาพของเรา" จากนั้นเขาก็ดื่มหมดในทีเดียว

 

         "ว่ากันว่าพวกเขาอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นเพื่อนร่วมห้องกันหนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ หนึ่งในนั้นเป็นนักมวยอาชีพ นอกจากนี้ยังมีสองคนที่ไปไปทำงานในบริษัท BMW " อเลน่าที่กำลังกรึ่มๆได้ยินแขกที่อยู่ในวงสนทนาใกล้ๆพูด เธอจึงหันไปพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า "ฉันรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"

 

         เซี่ยเหล่ยยิ้มเบาๆ เขาไม่มีความสนใจในเรื่องความสัมพันธ์ของโจเซฟและเพื่อน เขาสนใจแต่เป้าหมายของเขา หากเขาทำสำเร็จก็จะได้ออกจากประเทศเยอรมนีทันที เพราะผู้คนและสิ่งต่างๆของที่นี่ไม่ได้สำคัญอะไรต่อเขาเลย

 

         ในตอนนี้โจเซฟวางแก้วไวน์ในมือแล้วเดินไปยังเตาย่างบาร์บีคิวพร้อมพูดว่า "วันนี้เป็นวันที่ผมเกิด ครบ27ปี ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ มีทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมชั้นและบรรดาญาติๆของผม ผมขอบคุณมากจริงๆ พวกคุณเป็นสิ่งวิเศษในชีวิตผม... "

 

         แขกที่มาในงานต่างพากันปรบมือให้แสดงความปรารถนาดี แต่ไม่ใช่กับเซี่ยเหล่ย เขาแค่เอาฝ่ามือมากระทบกันมันแทบไม่มีเสียงเลยด้วยซ้ำ

 

         หลังจากที่โจเซฟย้ายไปยังมุมอื่นและพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "ตอนนี้ผมต้องการจะแนะนำเพื่อนใหม่ของผมให้ทุกคนได้รู้จัก เขามาจากประเทศจีนและมีชื่อว่า ลูคัส" เขากำลังพูดถึงเซี่ยเหล่ย "ลูคัส...มาหาผมหน่อย"

 

         เซี่ยเหล่ยสังหรณ์ใจและกังวลในเวลาเดียวกัน เขาไม่รู้ว่าโจเซฟต้องการจะทำอะไร

 

         "ดูเหมือนเพื่อนใหม่ของเราจะเป็นคนขี้อายนะ เขาคงเป็นคนขี้อาย ดังนั้นทุกคนช่วยกันปรบมือให้เขาดีหรือไม่...?" สิ้นเสียงพูดโจเซฟก็เริ่มปรบมือให้

 

         เซี่ยเหล่ยเดินไปหาโจเซฟและหยุดอยู่ด้านข้างพลันหันหน้าไปหาเขาแล้วก็พูดว่า "คุณโจเซฟสุขสันต์วันเกิดครับ "

 

         "ขอบคุณ..." โจเซฟตอบพร้อมยิ้มให้กับเขา "ลูคัสผมได้ยินมาจากคนอื่นบอกว่าคุณมีสามารถด้านกังฟู เป็นที่มีชื่อเสียงอย่างมากจริงเหรอ?"

 

         เซี่ยเหล่ยมองไปที่อเลน่าอย่างอัตโนมัติ “เขามีสามารถด้านกังฟูและถ้าจะมีใครรู้ก็ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะเป็นอเลน่านะ และดูเหมือนว่าอเลน่าก็คงจะรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องคืนก่อนว่าเขาเป็นคนช่วยเธอ จากนั้นเธอก็เล่าให้เพื่อนของเธอและคนสนิทฟัง ทำให้หลายๆคนรู้เรื่องนี้” โจเซฟกว่าว

 

         แม้ว่าอเลน่าจะหวังดี แต่มันกลับทำให้เขาลำบากเสียแล้ว

 

         "จริง ...... " เซี่ยเหล่ยพูดต่อว่า "กังฟูของผมไม่ได้มีอะไรพิเศษไปจากคนอื่นเลย " เซี่ยเหล่ยรีบเบี่ยงประเด็นการพูดอย่างรวดเร็ว

 

         "คุณพูดจริงหรือป่าว...?" วัยรุ่นที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของโจเซฟตะโกนถามไปและยังพูดต่อว่า "ผมรู้มาว่าที่ประเทศจีนจะผลิตสินค้าด้อยคุณภาพและราคาถูก เช่นถุงเท้าหรือเสื้ออะไรประมานนั้น ส่วนเรื่องกังฟูมันก็เป็นแค่เรื่องเล่าที่จะเห็นได้เฉพาะในภาพยนตร์ไม่ใช่เหรอ..? "

 

         สิ้นเสียงพูด วัยรุ่นเหล่านั้นต่างพากันหัวเราะเยาะอย่างเสียงดัง !

 

         สิ่งที่เขาสังหรณ์ใจก่อนหน้านี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าความตั้งใจของโจเซฟคือจะทำให้เขาอับอายต่อหน้าแขกในงานของเขา

 

         "ฮันส์คุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ.. ลูคัสเป็นเพื่อนของผม" โจเซฟพูดด้วยน้ำเสียงที่เสแสร้ง

 

         ฮันส์เองก็หัวเราะอย่างซะใจเพราะเขาอยู่ข้างเดียวกับโจเซฟ ไม่นานโจเซฟก็สังเกตุไปที่เซี่ยเหล่ย

 

         "ลูคัสคุณกล้าที่จะสู้ตัวต่อตัวฮันส์ไหมล่ะ?" โจเซฟเปิดประเด็น

 

         "มันไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องสู้กับเพื่อนของคุณ" เซี่ยเหล่ยตอบโจเซฟ

 

         "เหอะ..!!!" ฮันส์กล่าวพร้อมกับเยาะเย้ยว่า "นอกจากจีนจะผลิตสิ้นค้าที่ด้วยคุณภาพแล้วยังเป็นพวกขี้ขลาดอีก"

 

         เมื่อได้ยินดังนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยโกรธมาก พร้อมพูดเสียงแข็งไปยังฮันส์ว่า "ไม่ว่ายังไง...คุณต้องการจะสู้กับผมจริงๆใช่มั้ย?"

 

         ติดตามตอนต่อไป.......

 

รีวิวผู้อ่าน