px

เรื่อง : Iam in Hollywood
Chapter  1 – ฮอลลีวูด 1988




Chapter  1 – ฮอลลีวูด 1988

 

"เฮ้ เอริค  สเต็กที่โต๊ะ 9"


"โอเค" เอริค กล่าว และเสต็กสองชิ้นถูกส่งไปที่สามีภรรยาที่โต๊ะข้างหน้าต่าง
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปยังตำแหน่งเดิมของเขาที่ด้านหลังเคาเตอร์ด้วยความสับสน


วันที่ 13 กรกฎาคม ปี 1988 เป็นวันที่สามหลังจากเขาเกิดใหม่ใน ลอสแองเจลิส ทิศเหนือของ ฮอลลิวู้ด
ในร้านอาหารอิตาลี่ เอริคมองไปยังกระตกหน้าต่างที่สะท้อนภาพชายหนุ่มสูงประมาณ180 เซนติเมตร
มีใบหน้าได้รูป จมูกโด่ง ผมสั้นสีทอง และนั่นคือตัวเขาในตอนนี้

 

เมื่อไม่กี่วันก่อน เอริคยังคงอาศัยอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทธแปซิฟิกในปี 2014 เขาอายุ 44 ปี
จบการศึกษาจากคณะผู้กำกับการแสดงของมหาลัยชื่อดัง เขาต้องการจะเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก   เขาใช้เวลาต่อสู้ฝ่าฟันเป็นเวลาสิบปี ในที่สุดก็เข้าใจความเป็นจริงอันโหดร้าย แม้จะมีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ  แต่อาศัยแค่ความขยันขันแข็งอย่างเดียวไม่ได้


เขาแต่งงานเมื่อตอนอายุ 35 ปี และเมื่อมีลูกชาย เขาก็หาที่ปักหลักสร้างความมั่นคง
ไม่กี่ปีต่อมาในงานเลี้ยงรุ่น เขานั่งดื่มระลึกความหลังกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน


คล้ายกับหนังแนวระทึกขวัญแบบคลาสสิกหลังจากตื่นขึ้นมา
เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในอดีตเมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งเขาได้กลายเป็นเด็กหนุ่มอายุ18ปี
ที่ชื่อ 'เอริค วิลเลี่ยม' ที่เพิ่งเรียนจบในปีนี้ แต่ว่า....


"เอริค สบายดีไหม  ? " มืออ้วนๆแตะบ่าของเอริค เอริคหันมาแล้วเห็นเจ้าของร้านอาหาร เจฟ โจนส์


" ขอโทษทีเจฟ ผมเหม่อไปหน่อย "


"ไม่เป็นไร" เจฟถูมือแล้วดูเหมือนจะพยายามนึกคำพูด และพูดว่า
"เกี่ยวกับราล์ฟ ฉันเสียใจด้วยนะ แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป เข้าใจใช่ไหมเอริค?"


ราล์ฟ วิมเลี่ยม พ่อของเอริค เขาเป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมมาก เขาทำอาหารอิตาเลี่ยนมาหลายปี
แต่ราล์ฟนั้นติดเหล้าอย่างหนัก ตามความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมนั้น
ที่ราล์ฟเป็นอย่างนี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับแม่ซึ่งเขาไม่เคยเจอมาก่อน


เมื่อเดือนที่ผ่านมา ราล์ฟได้เสียชีวิตเพราะพิษสุราเรื้อรัง เนื่องจากดื่มเหล้ามากเกินไป


"ขอบคุณเจฟ สำหรับความช่วยเหลือของคุณ ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง"


หลังจากราล์ฟเสียชีวิต เกิดความปั่นป่วนกับชีวิตเอริค ในตอนแรกเขาได้สมัครเข้ามหาลัยแคลิฟอร์เนีย
แต่เมื่อพ่อเขาไม่อยู่ เอริคก็หมดหวังที่จะเข้ามหาลัย
แม้เป็นมหาลัยของรัฐ แต่ค่าใช้จ่ายก็ยังอยู่ที่ 20,000 ดอล ต่อปี  นี่ยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ในฐานะเพื่อนและเจ้านายของราล์ฟ เจฟได้ให้เอริคเริ่มทำงานเป็นเด็กเสริฟในร้านอาหารของเขา
ก็อย่างที่เจฟบอก ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป


"ราล์ฟทำงานกับฉันมาหลายปี มันเป็นธรรมดาที่ฉันต้องช่วยเหลือ แต่ฉันก็ช่วยได้แค่นี้
ที่เหลือนายต้องพยายามด้วยตัวเองแล้ว"


เอริคพยักหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณ เจฟเดินออกไป และเด็กหนุ่มก็กลับไปที่ของเขา
แล้วจมอยู่กับความคิด เพราะพระเจ้าที่ไร้ยางอาย ได้ส่งเขามาฮอลลิวู้ดเมื่อยี่สิปปีก่อน
ถ้าเขายังคงเป็นเด็กเสริฟต่อไป ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้


สามวันหลังจากทำความเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง เอริคก็ได้ครุ่นคิดถึงความเป็นจริง
ในชีวิตที่แล้ว เขามีฐานะเป็นนักเรียนที่โดดเด่นของสถาบันชื่อดัง ยังไม่บรรลุความฝันของตัวเองได้
แต่ตอนนี้เขาไม่มีปริญญา หรือประวัติความเป็นมาใดๆ
แม้เขาจะไปหาบริษัทภาพยนต์และขอสมัครงานก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ


หลังจากวันที่วุ่นวายในร้านอาหารอิตาเลี่ยน เอริคขับรถฟอร์ดมัสแตงสีแดงราคาถู ที่พ่อของเขาซื้อไว้ออกไป
หลังจากการตายของราล์ฟ เอริคต้องการขายรถคันนี้ เพื่อจ่ายค่าเล่าเรียน
แต่หลังจากที่ได้งานเป็นเด็กเสริฟเขาก็เก็บมันไว้ก่อน อเมริกาเป็นประเทศที่รู้จักกันดีว่าถ้าไม่มีรถการเดินทางจะไม่สะดวกมากนัก

 

เมื่อขับผ่านโรงหนังเอริคก็เห็นป้ายโปสเตอร์ 'แรมโบ้ 3' ที่ฉายอยู่ใกล้ทางเข้า เป็นภาพถ่ายในภูเขาหิมะ
สโตโลน เมื่อเขายังหนุ่มและกล้ามของเขามากพอที่จะทำให้แฟนหนังสาวๆกรีดร้อง


เอริคจอดรถไว้ที่ลานจอดรถใกล้ๆและถามเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และเมื่อเขาบอกว่าอีกไม่นานหนังจะเริ่ม    เอริคก็ซื้อตั๋วและเดินเข้าไปข้างใน


ในตอนนี้มีเพียงสามสิบถึงสี่สิบคนในโรงหนัง แต่คนเริ่มทะยอยเข้ามาอีกเกือบสองร้อยคน
เอริคหาที่นั่งและนั่งลง


ไฟดับลง แล้วหนังก็เริ่มฉายอย่างเป็นทางการ


พันเอกแซม ทรัทแมน ถามแรมโบ้ที่กำลังอาศัยอยู่ที่ไทยให้ไปทำงานที่อัฟกานิสถานด้วยกันแต่แรมโบ้ปฎิเสธ
ต่อมาหลังจากพันเอกถูกจับ แรมโบ้ก็ลุกขึ้นอีกครั้งเพื่อช่วยเพื่อนที่ดีของเขา


ในอดีตเอริคเคยดูหนังเรื่องของสโตโลนทุกเรื่องที่เคยแสดงและก็ดูซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง
เหตุผลที่ซื้อตั๋วเพราะต้องการระลึกถึงสโตโลน รวมถึงตัวเขาในอดีตด้วย
ในช่วงสิบปีที่เขาดิ้นรน เมื่อเขาอยากจะยอมแพ้ก็จะนึกถึงบุคคลในตำนานที่สร้างแรงบัลดาลใจ
ซึ่งคนที่ว่ารวมถึง ซิสเวอเตอร์ สโตโลน ด้วย

 

 

หนังยังคงฉายต่อไป เอริคผ่อนคลายร่างกายของเขาลงแล้วก็ได้ตระหนักถึงสิ่งหนึ่ง
เพราะเขาเคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน เขาเลยรู้เนื้อเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไป และเขารู้สึกเหมือนบางอย่างกระแทรกมาที่หัว
เขามองไปที่จอหนัง และจำเกี่ยวกับพวกมันได้ทั้งหมด
พูดได้เลยว่าเขาจำเกี่ยวกับหนังทุกเรื่องได้ทั้งหมด ฉากทุกอย่าง เสียงประกอบ ทุกอย่างปรากฎขึ้นเหมือนถูกสลักไว้ในจิตใจเขา


เอริคระงับความตื่นเต้น แล้วปิดตา นึกถึงภาพยนต์เรื่องหนึ่งของคาเมรอน   ไททานิค และตระหนักถึงผลลัพพ์เดิม
เรียกได้ว่าเขาสามารถจำมันได้ทุกวินาทีของหนัง เขาลองพยายามนึกถึงหนังเรื่องอื่นอีกหลายต่อหลายเรื่อง
แต่ก็ยังคงได้รับผลลัพพ์เดิม เอริคลองพยายามนึกถึงหนังที่เขาเคยได้ยินแต่ไม่เคยดูมาก่อน
ผลก็ตามคาดมันไม่ได้ผล ดูเหมือนเขาจะจำได้เฉพาะหนังที่เคยดู แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว


เอริคคิดว่าเมื่อเขาเกิดใหม่ เขาสามารถใช้ความรู้ในอดีตสร้างหนังบางเรื่องได้
เนื่องจากเคยเป็นผู้กำกับมืออาชีพเขารู้ว่ามันยากแค่ไหน อย่างดีที่สุดเขาสามารถเขียนบางอย่างที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับ


แต่ตอนนี้ความทรงจำในที่ชีวิตที่แล้วของเขาชัดเจนยิ่งกว่าเดิม เอริครู้ว่ามันหมายถึงอะไร ตราบใด
ที่ได้รับความตอบสนอง เขาสามารถที่จะสร้างภาพยนต์ในอดีตเหล่านั้นได้ ทุกรายละเอียด


เอริคตื่นเต้นมากเขากำมือแน่น จนทนไม่ไหวต้องตบที่พักแขนเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น


ความเจ็บปวดได้นำเอริคกลับสู่ความเป็นจริง ดูเหมือนผู้ชมหลายๆคนมองเขาอย่างไม่พอใจ
เอริคทำเพียงยิ้มอย่างอายๆ หนังใกล้จะจบลงเร็วๆนี้ แรมโบ้ช่วยเพื่อนของเขาได้


ในความมืดเอริคไม่ได้สังเกตในตอนแรกเพราะตื่นเต้นมาก เขาไม่มีความทรงจำที่ดี  ในอดีต เขา
เหมือนคนทั่วไปที่ใช้เวลาอ่านหลายครั้งเพื่อท่องจำ  หรือฟังเพลงหลายครั้งเพื่อร้องเพลง
แต่ความสามารถใหม่นี้เห็นได้ชัดว่ายอดเยี่ยม...ดูเหมือนพระเจ้าจะเห็นใจเขา


เอริคค้นพบความหวังใหม่ และกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น  ด้วยความสามารถเช่นนี้
ถ้าเขายังล้มเหลวอย่างน่าสังเวชเหมือนชีวิตที่ผ่านมา เขาคงจะอยากบีบคอตัวเองตายเป็นแน่

 

รีวิวผู้อ่าน