px

เรื่อง : Iam in Hollywood
Chapter. 5 – เงื่อนไข  


Chapter. 5 – เงื่อนไข  

 

ในร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฮอลลีวู้ด เอริคและไมเคิลกำลังพูดคุย

รายละเอียดเกี่ยวกับจูราสสิกปาร์ค


เอริคประสบความสำเร็จในการเจรจาและได้เงินปันผลเพิ่ม 7%

ทว่าการเจรจาลิขสิทธิ์ฉบับดัดแปลงเป็นภาพยนต์ยังมีปัญหา


ไมเคิลที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าตัวฉกาจของวงการสำนักพิมพ์ ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าหากหนังสือ

เล่มนี้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนต์จะมีศักยภาพเพียงใด เอริคไม่ได้คัดค้านอะไรเมื่อเขาบอกว่าจะจ่ายเงินปันผล นั่นจึงทำให้ไมเคิลรู้สึกว่าเขายังเด็กมาก  เขาจึงเสนอให้สำนักพิมพ์ของตัวเองจัดการกับฉบับดัดแปลงภาพยนต์ให้

แล้วทั้งสองคนก็แบ่งผลกำไรกัน


เมื่อได้ยินข้อเสนอของไมเคิล เอริคปฎิเสธในทันที "นั่นมันเป็นไปไม่ได้ มิสเตอร์ไครช"


ไมเคิล ไครชรู้สึกอึ้งกับการปฎิเสธในทันทีของเอริค เขารีบตั้งสติแล้วพูดว่า

"เอริค ฟังฉันนะหากเมื่อ 20th Century Fox ต้องการซื้อลิขสิทธิ์ฉบับดัดแปลงเป็นภาพยนต์ ฉันจะเป็นคนเจรจากับพวกเขา แล้วเราจะได้กำไรมากกว่าหนึ่งล้านดอล ถ้าปัญหานี้ถูกจัดการโดยผู้เขียน นายอาจได้แค่ 500,000 ดอล นี่คือความแตกต่างระหว่างบุคคลและสำนักพิมพ์ "


ทั้งสองคนยังคงคุยกันมากกว่าสิบนาที ไมเคิลยังคงพยายามจะชักจูงเอริค เขาเริ่มแม้แต่ลดส่วนแบ่งของตัวเอง

 

จนถึงที่สุดไมเคิล ไครชก็ได้พบแต่ความผิดหวัง ชายหนุ่มคนนี้ไม่ง่าย  เขาเป็นเหมือนปลาฉลามที่อยู่ในน้ำลึกมาหลายปี   แม้ว่าดูจะไม่คุ้นเคยกับวงการสำนักพิมพ์ แต่ก็มีการคาดเดาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำเกี่ยวกับตื้นลึกหนาบางของอุตสาหกรรมหนัง


สิ่งนี้ทำให้ไมเคิลรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นไปอีก ชายคนนี้ไม่เหมือนกับชายหนุ่มที่เพิ่งหัดเดินตามอายุเขา  ถึงแม้เขาได้ค้นพบความตั้งใจของไมเคิล แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมาตรงๆ เขาปฎิเสธแบบเป็นนัยๆแทน


ไมเคิลยิ้มอย่างขมขื่นและยอมแพ้ในลิขสิทธิ์ จูราสสิก ปาร์ค ฉบับดัดแปลงภาพยนต์


การเจรจาต่อไปนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นแล้วทั้งสองคนก็ได้ลงนามในสัญญาอย่างรวดเร็ว


"เอริค วางใจได้ เมื่อเราเป็นหุ้นส่วนกันคุณจะไม่เสียใจที่ให้ฉันดูแลจูราสสิก ปาร์ค" หลังจากการเจรจาไมเคิล ก็กลับไปสู่ท่าทางดูสุภาพและอ่อนโยนก่อนหน้าที่เขาทำตัวฉลาดแกมโกงมันเหมือนเป็น
ภาพลวงตา


"ผมก็หวังจะมีความสุขกับการเป็นหุ่นส่วนของเราเช่นกัน"


ทั้งสองคนจับมือกัน แล้วนั่งคุยกัน เอริคพูดขึ้นว่า "คุณมีเส้นสายส่วนบุคคลเกี่ยวกับบริษัททำหนังบ้างไหม ?"


คิ้วของไมเคิล ยกขึ้น "แน่นอน! นอกจากเคยแนะนำนวนิยายเรื่องอื่นให้ 20th Century Fox ฉันยังมีเส้นสายกับบริษัทภาพยนต์อื่นๆอีกด้วย  รู้ไหมตอนที่ฉันเคยทำงานที่ Simon & Schuster ฉันเคยรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เอริค คุณควรจะปล่อยให้สำนักพิมพ์

ของฉันดูแลจูราสสิก ปาร์ค ฉบับดัดแปลงภาพยนต์ ฉันสามารถแนะนำหนังสือของคุณกับบริษัทผู้ผลิตได้โดยตรง "

 

เอริคส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีกไมเคิล ผมจะไม่ยอมในเรื่องนี้ ตอนนี้ผมกำลังเขียนบทหนังอีกเรื่องอยู่  ถ้าเป็นไปได้ผมก็หวังว่าคุณจะช่วยแนะนำผมด้วย "


ไมเคิลเคิลไม่ได้สนใจเกี่ยวกับบทหนังของเอริคมากนัก แต่เขาก็ตอบอย่างสุภาพว่า "คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม"


"เรื่องมันเป็นแบบนี้" เอริคจัดความคิดแล้วพูดว่า "เมื่อ 18 ปีก่อน ไมค์ โอ ดอนเนล วัย 17ปี มีส่วนร่ามในการแข่งบาสเก็ตบอลที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา  ตราบเท่าที่เขายังเล่นได้ดีเขาจะได้รับทุนการศึกษาและถูกคัดเลือกให้เข้ามหาลัยชื่อดัง อย่างไรก็ตาม

ก่อนเริ่มการแข่งขัน  แฟนสาวของเขาก็บอกว่ากำลังตั้งครรภ์ในระหว่างทางไปสนามกีฬาไมค์ก็ได้ทิ้งลูกบาสที่อยู่ในมือของเขาและตัดสินใจที่จะรับผิดชอบ  เขาเดินออกจากการเป็นนักกีฬา 18ปีต่อมา เวลานั้นล่วงเลยผ่านไปสง่าราศีของเขาได้จางหายไป ตอนนี้เขาเป็นเพียงชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความเสียใจ และชีวิตแต่งงานของเขากับสกาเล็ตแฟนสาวก็กำลังจะพังลง...."


เอริคนั้นพูดถึงเรื่องคร่าวๆ หลังจากที่เขาเห็นการทะเลาะวิวาทกันของคู่สามีภรรยารังเคิลในวันนั้น

เขาก็ได้คิดเกี่ยวกับหนังเรื่อง 17 Again  ชายวัยกลางคนในร่างของเด็กหนุ่มนั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องแต่งสำหรับเขา

ดวงตาของไมเคิลเริ่มสว่างสดใสขึ้น เขาถูกใจเอริคมาก เด็กหนุ่มคนนี้ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นจริงๆ

วงการภาพยนต์เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขว้างในไม่กี่ปีมานี้แม้ว่าความนิยมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การตลาดของพวกเขาเบาบางอย่างน่าเวทนา ดราบใดที่หนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดี มันก็ควรเป็นที่น่าพอใจใน box office

 

ไม่ต้องพูดถึงหนังทำเงินเรื่องเยี่ยมอย่าง Back To The Future ในปีนี้มีหนังทั้งสองเรื่องที่เป็นประเภทเดียวกัน ซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี เรื่องหนึ่งชื่อ 18 again! ในสองสัปดาห์

พวกเขาก็ได้รายได้เท่าต้นทุนหนังของพวกเขา แล้วยังมีอีกเรื่องก็คือหนังเรื่อง Big

หนังเรื่องนี้ทำให้ เพนนี มาร์แชล กลายเป็นผู้กำกับหญิงคนแรก ที่ได้รายได้เป็นร้อยล้านในอเมริกาเหนือ

"มันเป็นเรื่องที่ดีเอริค แต่คุณรู้ไหมบทแบบนี้มีเป็นโหลในปัจจุบัน และนี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุณเป็นคนไร้ชื่อเสียงอีก"

เพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเจรจาไมเคิลสวมหน้ากากเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เขาเพิ่งจมอยู่กับความหงุดหงิดในเรื่องฉบับดัดแปลงของจูราสสิก ปาร์ค นี่เป็นโอกาสที่เขาจะเอาคืน

 

เอริคยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำไมเขาจะไม่รู้สิ่งที่ไมเคิลคิด เขายื่นมือออกมาชู 5 นิ้วแล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า

"ค่านายหน้า 50 %"

"อะไรนะ!?" ไมเคิลตกตะลึง


เอริคกล่าวว่า "ไมเคิลถ้าคุณไม่คิดร้ายกับผม ถ้าการขายบทหนังนี้สำเร็จ ผมจะให้คุณ 50% เป็นค่านายหน้า"


แน่นอนไม่มีอะไรฟรีในโลก เมื่อไมเคิลได้ยินประโยคสุดท้ายของเอริคเขาก็ถอนหายใจ

ออกดูเหมือนเขาจะอยู่ในอุ้มมือของชายหนุ่มตรงนี้ซะแล้ว

"คุณต้องการอะไรกันแน่ ?"

"ผมต้องการแสดงเป็นตัวเอก ไมค์ โอ ดอนเนล ตอนหนุ่ม"

 

"เป็นไปไม่ได้" ไมเคิลพูดในทันทีว่า "แม้แต่ผู้กำกับก็ยังไม่มีอำนาจตัดสินในเกี่ยวกับการให้คุณ  ที่เป็นนักเขียนมือใหม่ขึ้นแสดง"


เอริคกล่าวว่า "คุณคิดว่าเรื่องบางเรื่องเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ? ดูอย่างเรื่อง BIG ที่ได้ถูกปล่อยตัวไปเมื่อเร็วๆนี้สิ หนังที่ผมเขียนก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเหมือน"


ไมเคิลไม่เคยดูบิ๊กมาก่อน เขาถามว่า "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?"


เอริคคนช้อนในถ้วยกาแฟแล้วพูดว่า"ผมคิดว่ามีแนวโน้มว่าหนังเรื่องนี้จะทำเงินได้มากกว่า 100 ล้านดอล ในบ๊อกซ์ออฟฟิศ

ถ้าผมจะพูดให้ถูกต้อง ถ้าใครสักคนได้ดูบทหนังของผม จะเห็นว่ามันเป็นหนังรูปแบบเดียวกัน ซึ่งทำให้มีโอกาสขาดทุนน้อยมาก"


ไมเคิลไม่ได้สงสัยในคำพูดของเอริค "โอเค เอริคผมจะลองคิดดูก่อนละกันเกี่ยวกับค่านายหน้า..."


"ไมเคิล ตาเฒ่าจอมโลภ!! ยังจะพยายามเอาให้มากกว่านี้อีกงั้นหรอ"

 

ไมเคิลเกาจมูกด้วยความลำบากใจ"อย่าพูดแบบนั้นสิ เมื่อคุณถูกเลือกใหม่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ ผลตอบแทนของคุณก็คงไม่น้อยกว่า 5 แสนดอลล่าละมั้ง เมื่อลองคิดเกี่ยวกับบทหนังอีกทีแล้วผมว่ามันคงดีที่เราจะแบ่งกันคนละ2แสนดอล "

 

แม้ว่าไมเคิลจะพูดอย่างนั้น แต่เอาจริงๆเขาก็ไม่ได้คิดจะเพิ่มค่านายหน้าไปอีก เมื่อพวกเขาออกจากร้านกาแฟเขาก็พูดว่า

"เอริค ฉันอดคิดไม่ได้เลยว่า เมื่อตอนเราคุยกันเรื่องสัญญา ฉันรู้สึกเหมือนคุณเป็นจิ้งจอกเฒ่ามากกว่านักเรียนมัธยมวัย 18 ปี"

 

เอริคยิ้ม " อย่าไปสนใจเรื่องเล็กน้อยๆน่า ไมเคิลอีกสองวันผมจะส่งบทหนังไปให้ ผมหวังว่าคุณจะนำข่าวดีมาให้นะ"

 

รีวิวผู้อ่าน