Chapter 9 – IN THE FLESH
"แบรด พิตต์คนนี้สูงกว่าเอริคและเขาก็ยังให้ความรู้สึกแบบแก่กว่า" เมื่อแบรด พิตต์เดินออกไปนอกประตู
หลังจากพวกเขาทดสอบเสร็จแล้ว เจม บรูคก็ได้เริ่มพูดคุยกับกรรมการคนอื่นๆ
เพนนี มาร์แชล กล่าวว่า "ฉันคิดว่าหมายเลข 7 เบลค ควินน์ นั้นค่อนข้างดี"
กรรมการคนอื่นๆก็ยังผลัดกันแสดงความคิดเห็นต่างๆ
เอริคมองไปที่ข้อมูลของหมายเลข 7 นั้นเป็น เด็กวัยรุ่นอายุ 17 ปี ผมบลอนด์ทอง ตัวผอม
สูงประมาณ 170 เซนติเมตร รูปลักษณ์ของเขาสอดคล้องกับอเล็กต้นฉบับอย่างแท้จริงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่เอริคต้องการ
เขาไม่อาจทนนิ่งได้อีกต่อไปแล้วพูดขึ้นว่า " เพนนีผมคิดว่า เบลค ควินน์ดูจะปวกเปียกเกินไปหน่อย ถึงแม้ว่า
เขาจะเหมาะกับภาพของนักเรียนมัธยมที่ถูกรังแกในภาพยนต์ก็จริงๆ แต่เมื่ออเล็กเริ่มเข้าทีมบาสเขาก็เข้มแข็งมากขึ้น
รูปร่างหน้าตาแบบนี้มันจะเป็นปัญหาผู้ชมจะพากันหัวเราะเยาะ ผมเพิ่งเรียนจบมาไม่นอน ผมสามารถบอกคุณได้เลย
พวกเขาไม่มีทางให้คนที่มีส่วนสูงอย่างเบลค ควินน์ เข้าไปอยู่ในทีมแน่นอน "
เจม บรูค นั้นคิดตามแล้วก็พยักหน้า "ถูกของคุณเอริค แล้วคุณคิดว่าใครเหมาะสม ?"
"แบรด พิตต์ หละเป็นไง ?"
เพนนี มาร์แชลพูดขึ้น "แต่ว่าแบรด พิตต์สูงกว่าคุณเล็กน้อย"
เอริคยักไหล่และตอบว่า "ความสูงไม่ได้เป็นปัญหาเด็กบางคนก็สูงกว่าพ่อแม่ของพวกเขา มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ และนี่จะช่วยเสริมให้อเล็กดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น"
เจมถาม" จะเอาแบบนั้นหรอ ? "
"แบรดพิตต์นั้นมีความสามารถในการแสดงมาก แม้จะไม่เคยแสดงนำมาก่อน แต่เขาก็เคยแสดงละครเวทีมาหลายเรื่อง หลังจากเห็นการแสดงของเขาในการออดิชั่น ผมเชื่อว่าเขาสามารถจะสร้างภาพลักษณ์เด็กอ่อนแอและท้อแท้ในส่วนต้นเรื่อง และต่อมาเมื่อได้รับกำลังใจและการฝึกจากไมค์ เขาก็ได้รับความกล้าหาญที่จะยืนหยัดด้วยตนเองและไล่ตามหญิงสาวที่เขาชอบ ในส่วนบทตรง การเปลี่ยนแปลงมันจะเป็นไปตามลำดับผู้ชมจะไม่คิดว่ามันแปลก ให้อารมณ์แบบว่า สู้ๆเข้า อเล็ก! "
ผู้คนรอบๆพยักหน้าเห็นด้วยกับเอริค แม้ว่าเจม บรูคจะรู้สึกเอนเอียงไปบ้างแต่เขาก็ยังไม่ตัดสินใจในทันทีและพูดต่อว่า
"เอาล่ะเราจะคุยเรื่องนี้อีกทีในภายหลัง เริ่มการแสดงของฝ่ายหญิงกันก่อน"
คนแรกที่เข้ามาก่อนคือ แองเจลิน่า โจลี่ การแสดงของเธอนั้นทำได้ดี แต่ไม่ได้ดูโดดเด่น การแสดงของเธอนั้นดูดราม่าเกินไปหน่อย ทำให้เธอดูแย่นั่นทำให้เอริครู้สึกปวดหัว ถ้าเขาเป็นผู้รับผิดชอบบางทีอาจให้บทเล็กๆน้อยๆ อย่างอื่นที่น่าสนใจกับเธอ แต่โชคร้ายที่เขาไม่มีอำนาจเรื่องนี้
ถึงตาสาวๆอีกหลายคนและในที่สุดก็ถึงตาของ ดรูวส์ แบร์รีมอร์
เธอมีใบหน้าที่ดูไร้เรียงสา เธอสวมกระโปรงสีขาวยาวถึงหัวเข่าและรองเข้าบู้ทหนังคู่เล็กสีดำกับเสื้อกล้ามสีขาว ตัดกันกับสายชุดชั้นในสีดำที่จะโผล่ออกมาบางครั้งเวลาเธอเดิน ดูแค่เพียงลักษณะภายนอกคุณจะไม่สามารถ เชื่อมโยงเธอว่าเป็นวัยรุ่นที่ติดยาเสพติดได้
ขณะที่เธอนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วลูบผมของเธอ ดรูวส์ แบร์รีมอร์ได้หันไปมองทางเอริคในทันที เอริคนั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชายและผู้หญิงวัยกลางคนอายุ 40-50ปี ความแตกต่างระหว่างอายุทำให้เขาดูเด่น รวมถึงใบหน้าที่ได้รูปและดวงตาที่คมเข้มทำให้เขาดูหล่อเป็นพิเศษริมฝีปากของดรูวส์เผยรอยยิ้มซุกซนซึ่งทำให้เอริคสะดุ้ง
เจมและคนอื่นๆราวกับนัดกันไว้พวกเขาทั้งหมดหันไปมองเอริคด้วยสายตาแปลกๆ เอริคหันมองตอบพวกเขา ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก "ทำไมพวกคุณจ้องมาที่ผม ? ผมยังไร้เรียงสาอยู่นะรู้ไหม ผมเป็นเหยื่อนะ!"
เจมเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ "เอาหล่ะดรูวส์ เรามาเริ่มอย่างจริงจังกันได้แล้ว"
"ไม่มีปัญหาค่ะ คุณบรูค" ดรูวส์ยิ้มอย่างโอน เธอกลายร่างเป็นหญิงสาวมารยาทงามในทันที
เอริคอยากจะตะโกนออกมาตังๆออกมาว่า ยัยจิ้งจอก !
"แม็กกี้ หยุดๆ ผมไม่ใช่คนที่เหมาะกับคุณ" ฉากเกิดขึ้นภายในห้องนอนในบ้านของเนท
ไมค์ทำหลีกหนีการรุกเร้าของลูกสาวของเขา
"ใช่ นายเป็น"
"ไม่ ฉันไม่ใช่แม็กกี้ ฉันไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิดว่าฉันเป็น"
"นายถูกต้อง นายไม่ใช่ นายมีดีกว่านั้น นายไม่เหมือนกันคนอื่นๆ"
"ไม่เหมือนคนอื่นๆ ฉันแตกต่างอย่างมาก แตกต่างจากความเป็นจริง เธอกับฉันเราต่างกันมาก
จนไม่มีวันได้คบกัน หยุด แม็กกี้" ไมค์พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ราวกับว่าเข้าใจบางอย่าง สิงโตที่ดูเร่าร้อนเมื่อครู่นั่งลงบนเตียงอย่างผิดหวัง เธอพูดว่า
"โอ้พระเจ้า นายจะพูดอะไรของนาย? นายกำลังสับสนหรอ?"
"ฉันสับสน ใช่ ฉันสับสนอย่างมากๆ"
"โอ้พระเจ้าฉัน...ฉัน...ฉันเข้าใจแล้วตอนนี้ ผมของนายมักจะหวีเป็นลอนอยู่เสมอและก็ทำไฮไลท์ด้วย"
"เธอกำลังพูดถึงอะไร?" ไมค์งุงงง
"ฉันหมายถึง...แล้วนายก็ใส่กางเกงยีนฟิตปั๋งเลย"
ไมค์มองไปที่ช่วงล่างของเขาก่อนจะบอกว่า "ฉันไม่ใช่เกย์แม๊กกี้ ฉันมีความรัก แม็กกี้ฉันมีความรัก.
ฉันหลงรักเธอคนนั้นมาตั้งแต่อายุ 17 แล้วแม็กกี้"
ราวกับรู้สึกโล่งอกแม็กกี้ลุกขึ้นยืนแล่วถามว่า"เธอคนนั้นอยู่ในโรงเรียนเรารึเปล่า ฉันอยากรู้ชื่อของเธอ บอกฉันหน่อย ฉันแค่อยากรู้ชื่อเท่านั้น?"
"ไม่ แม็กกี้ ไม่ใช่"
"งั้นก็ได้"แม็กกี้เข้ามาใกล้ไมค์แล้วหยิกแก้มของเขาแล้วพูดว่า "บอกแฟนของนายให้เฝ้านายไว้ให้ดีๆล่ะ"
.....
ทุกคนในห้องเฝ้าดูการแสดงของทั้งสองคนอย่างหลงใหล ถ้าไม่รู้มาก่อนพวกเขาคงนึกว่าเป็นความจริง
บางส่วนของผู้ตัดสินนั้นได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พระเจ้าไม่ยุติธรรม พวกเขาอยู่ในวงการนี้มาหลายปี เห็นนักแสดงที่พยายามอย่างขันแข็งมามาก แต่สองคนนี้ให้ความรู้สึกว่าอยู่คนละระดับกัน กระดูกพวกเขาคนละเบอร์กันจริงๆ
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือมีแค่ความสามารถของดรูวส์เท่านั้นที่เป็นของจริง ส่วนอีกคนเขาแค่เล่นฉากตามภาพยนต์ ที่ปรากฎอยู่ในหัวอย่างหน้าไม่อาย
"เอริคคุณเยี่ยมจริงๆ ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย มันน่าทึ่งมากๆ"ดรูวส์มองไปที่เอริคแล้วพูดขึ้น
เอริคตอบ "ขอบคุณ แต่ทางคุณสิโดดเด่นกว่าผมอีกคุณดรูวส์"
"ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมนะ" ดรูวส์ยกมือขึ้นมาด้านหน้า
เอริคก็ยื่นมือไปเช็คแฮนเธอเช่นกัน เมื่อมือของทั้งสองสัมผัสกันเขารู้สึกว่าเธอนั้นลูบไล้ฝ่ามือของเขาไปมาอย่างเบาๆ
เขายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เอริคไม่ใช่คนโง่ เขาเข้าใจว่ายัยเด็กคนนี้พยายามที่จะได้ความโปรดปรานจากเขา บางทีเธออาจจะหวังให้เขาช่วยพูดเกี่ยวกับการคัดตัวให้
หลังจากที่ ดรูวส์ แบร์รีมอร์ ออกไปเหล่าผู้ตัดสินก็เงียบลงเป็นป่าช้า ตอนแรกที่เธอพยายามที่จะเข้าออดิชั่น พวกเขาจะคัดจะคัดเธอออกไปก่อน แต่ตอนนี้เธอได้กลายเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดในตอนนี้ไปซะแล้ว
ในการออดิชั่นคนต่อไป ทุกคนต่างดูเหม่อลอยรวมทั้งเอริค
เกือบชั่วโมงต่อมาเมื่อถึงเวลาใกล้เที่ยงเอริคก็เห็นชื่อที่คุ้นเคยในรายชื่อนักแสดง
เจนนิเฟอร์ อนิสตัน
ในช่วงเวลานี้ เอริคได้แต่ร้องอุทานในใจอย่างช่วยไม่ได้ว่า: หวานใจของคนอเมริกา.ตัวเป็นๆ !
.......
เจม บรูค เปิดปากพูดขึ้นว่า"คุณอนิสตัน โปรดแนะนำตัวเอง"
เจนนิเฟอร์ อนิสตัน รู้สึกดีที่สุดที่เห็นชายหนุ่มเพียงคนเดียวในห้องมองเธอตาเป็นมัน สายตานั้น
ทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ยังคงมีความกังวลในใจเธอ เธอแนะนำตัวต่อผู้กำกับและได้แสดง
คู่กับชายหนุ่มคนก่อนหน้านี้แล้วก็จบการออดิชั่นลง
เธอสามารถบอกได้จากท่าทางของพวกเขาว่า พวกเขามีคนที่ถูกเลือกบทนี้ไว้ในใจแล้ว
อนิสตันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยๆพ่อแม่ของเธอก็อยู่ในวงการนี้ดังนั้นเธอจึงรู้ว่า การทำงานนั้นยากเพียงใด อยากไรก็ถามเธอก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด
เมื่อ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ออกจากห้องไปแล้ว เอริคมองอย่างไม่เต็มใจ เธอดูเหมือนกับภาพถ่ายที่เขาเห็น
ในชีวิตที่แล้วนั้น ตัวเธอในตอนนี้สวยงามอยู่ ส่วนสูงของเธอประมาณ 167 เซนติเมตร แต่เธอดูสง่างามมากเมื่อสวมรองเท้าส้นสูงของเธอ
แม้ว่าเธอจะไม่อ้วน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องมันขยายทำให้เธอดูอ้วนกว่าความเป็นจริง
"มีอะไรผิดปกติรึเปล่าเอริค หรือว่าคุณจะชอบผู้หญิงคนนนี้กัน ? ฉันว่านะเธอมีรอยยิ้มที่สวยเลยหละ"
เมื่อเพนนี มาร์แซลล้อเขา คนอื่นๆยังคงจดสมุดโน็ตอยู่ เอริคยิ้มอย่างอายๆเขาเกาหลังศีรษะ
แล้วตอบอย่างกระวนกะวายว่า"เพนนี อย่าล้อฉันเล่นสิ ฉันก็เพียงแค่...."
เจม บรูคเก็บของในมือเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"น่าสนุกแฮะ เอริคถ้าคุณชอบผู้หญิงคนนั้น ก็ลองไปส่งเธอกลับบ้านหลังจากออดิชั่นเสร็จแล้วสิ
บางทีคุณอาจจะชวนกันไปทานอาหารกลางวันด้วยเลยก็ได้"
"เจม ลืมมันเถอะน่า" เอริคไม่รู้จริงๆว่าถ้าชวนเธอจะเป็นยังไงบางทีเขาคงต้องคุกเข่าขอร้องเธอ ?
"เอาน่าเอริค อย่าทำตัวปอดแหกสิ " เจม บรูคพยายามสนับสนุน "โลกนี้มันกว้างใหญ่และถ้า
คุณพลาดโอกาสจากผู้หญิงคนหนึ่งบางทีคุณอาจจะไม่ได้รับโอกาสนั้นอีกครั้ง แม้เด็กผู้หญิง
คนนั้นจะดูอวบไปบ้าง แต่รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์มาก บางทีหลังจากนี้ฉันอาจให้บทเล็กๆน้อยๆ
กับเธอก็ได้บางทีคงในบทหนึ่งในสามเพื่อนสนิทของแม็กกี้ ถ้าทำแบบนี้คุณจะมีโอกาสได้เจอเธออีก"
"จริงหรอ? ขอบคุณเจม ผมขอบคุณมาก" เอริคเองก็อยากจะขอร้องให้เจมให้โอกาสกับอนิสตันเหมือนกัน
แต่เขาไม่มีโอกาสได้พูด
เอริคคว้ากระกระเป๋าแล้วสะพายลงบนหลังของเขาแล้ววิ่งออกนอกประตู
ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่น่ายินดีของทุกคน