px

เรื่อง : Iam in Hollywood
Chapter  11 – BURNT


Chapter  11 – BURNT

 

Cut ! เอาหล่ะเอริคคุณพักผ่อนและเตรียมพร้อมสำหรับฉากต่อไปได้" เพนนี มาร์แชล

โบกมือของเธอ ในตอนนี้เหล่าทีมงานกำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง

 

ฉากที่กำลังจะถึงคือไมค์สวมชุดสูทตัวใหญ่ที่กำลังเปียกโชนเดินไปรอบโรงเรียน

เพื่อค้นหาภารโรงลึกลับ

 

มันเป็นช่วงบ่ายของวันแรกในการถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้ พวกเขายกกองถ่ายไปที่

โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเบเวอร์ลีฮิลส์ เมื่อทางโรงเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของ

ภาพยนตร์พวกเขาก็พร้อมจะให้ถ่ายสถานที่ฟรีโดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียน

ใหม่

 

นี่เป็นผลประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายโดยทางทีมงานก็ได้ประหยัดงบประมาณและทาง

โรงเรียนก็ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่ดี ทีมงานคุยกันไม่นานก็เห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

 

พวกเขาถ่ายฉากทั่วไปง่ายๆหลายฉากในตอนเช้า พวกเขาตัดสินใจถ่ายฉากของไมค์

ที่กำลังมองหาภารโรงในตอนบ่าย

 

"เอริค คุณแต่งตัวตอนนี้มันดูแย่มากๆ คุณดูยังกับลูกโป่งสกปรกในสลัมเลย"

ดรูวส์ แบร์รี่มอร์หัวเราะเยาะเอริคขณะที่เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้


 

เอริคไม่สนใจคำพูดของเด็กผู้หญิงอายุสิบสามปีเขาตอบอย่างไม่แยแสว่า

"เฮ้ แม็กกี้เธอไม่ควรพูดกับพ่อของเธอแบบนี้นะ"

 

ดรูวส์เยาะเย้ย "เจ้าเวอร์จิ้นวัยสิบแปด นายใช้เวลานานไปนะ"

 

อนิสตันที่ถือผ้าเช็ดตัวให้เอริคอยู่ในตอนนี้ ได้ยินดรูวส์เยาะเย้ยคนรักของตัวเอง

เธอก็โต้แย่งขึ้นมาในทันที "เขาก็ยังดีกว่าใครบางคนเป็นร้อยเท่า"

 

ดรูวส์มองตั้งแต่หัวจรดเท้าของอนิตตัน เธอเผยรอยยิ่มเยาะเย้ยเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง

และจงใจทำท่าทางโชว์หุ่นและเอวอันบอบบางของเธอ

 

เอริคหันไปมองทันที

 

ร่างอวบๆของอนิสตันนั้นเป็นจุดอ่อนของเธอ จุดเดือดของเธอปะทุขึ้นเล่นมาล้อเลียนหุ่นเธอต่อหน้า

ผู้ชายที่เธอชอบแบบนี้ อนิสตันเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง เธอโยนผ้าขนหนูและประจัญหน้ากับดรูวส์

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มหวานมีเสน่ห์และดูบริสุทธิ์ แอนนี่ยังเป็นผู้หญิงที่ทำงานตัวคนเดียว

ในลอสแองเจลิส ทำไมคนอย่างเธอจะไม่รู้วิธีป้องกันตัว ?

 

เมื่อฉากสงคราวกำลังจะเกิดขึ้น เอริคก็เข้ามาห้ามอนิสตัน เขากุมมือและเอามืออีกข้างวางไว้ที่บ่าของเธออย่างนุ่มนวลและกระซิบอะไรบางอย่าง อนิสตันรู้สึกได้ถึงลมหายใจจองเอริคที่ต้นคอ เธอหัวเราะคิกคัก

แล้วเอากำปั้นเธอกระแทกไหล่เขาออก "เอริคคุณแย่มาก พูดแบบนั้นได้ยังไง"

 

ดรูวส์โน้มหูของเธอแต่ไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เอริคพูด เธอย่นจมูกของเธอแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจ




"เอริค เตรียมพร้อมถึงฉากของคุณแล้ว"

 

"โอเค เพนนี" เอริคลูบมือน้อยๆของแอนนี่แล้วลุกขึ้นเดินไปเข้าฉาก

 

ส่วนเหตุผลที่ดรูวส์แหย่เอริคตั้งแต่เช้านั้น มาจากเอริคและแอนนี่ ทุกคนไม่รู้เกี่ยวกับ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาใกล้ชิดกันมาก บางคนอาจรู้สึกสนุก

บางคนอาจจะอิจฉา ส่วนดรูวส์นั้นรู้สึกรำคาญ

 

เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เมื่อเธอเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม

มันทำให้ดรูวส์รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เห็นอนิสตันเผยรอยยิ้ม

อย่างมีความสุขในฐานะผู้หญิง ดังนั้นเธอจึงแหย่เอริคทุกครั้งที่เจอ ยกเว้นตอนที่เข้าฉากด้วยกัน

 

ทีมงานทุกคนรู้ว่าเอริคกับดรูวส์เป็นเหมือนน้ำกับไฟเมื่อเผชิญหน้ากัน แต่เมื่อเข้าฉากแสดงด้วยกัน

ทั้งคู่มีความเป็นมืออาชีพพวกเขาแทบจะไม่เคยแสดงผิดพลาดเลย เพราะถ้าหากท่าทางของดรูวส์

ไม่ส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำเพนนีกับเอริคก็ไม่ได้สนใจอะไร

 

ทั้งๆที่เมื่อครึ่งเดือนก่อนเธอยังดูเป็นผู้ใหญ่อยู่แท้ๆแต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเด็ก

 

"เฮ้ ยัยสาวไซส์ยักษ์ ผู้ชายคนนั้นบอกอะไรกับเธอ ?" ดรูวส์ไม่สามารถแสร้งไม่สนใจได้อีก

เธอถามออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

 

"เธอรู้ไหม เธอดูน่าสงสารมากๆ" หลังจากเอริคออกไป อนิสตันก็เงียบไป แต่คำพูดของเธอ

รุนแรงขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่เขาไม่อยู่

 

"น่าสงสาร ? ฉันเนี่ยนะ ?" ดรูวส์มองไปที่อนิสตันด้วยสายตาเบิกกว้าง

 

"ฮ่าฮ่า" คางที่น่ารักของอนิสตันขยับเมื่อเธอหัวเราะ

 

"ห้ะ เรื่องตลกน่า! ฉันเป็นนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้ในขณะที่เธอเป็นแค่ตัวประกกอบ ที่โผล่มา

หน้าจอไม่กี่นาที เธอประสาทรึเปล่าที่พูดแบบนั้นออกมา"

 

อนิสตันก้าวล้าว"แล้วไงหละถึงเธอจะเป็นนักแสดงนำแต่ก็เป็นได้แค่กระเป๋าสตางค์ของใครบางคน แม้บทฉันอาจจะเล็ก แต่อย่างน้อยฉันก็มีอิสระ แล้วฉันยังมีแฟนที่มีพรสวรรค์และอ่อนโยน เป็นคนเขียนบทหนัง

ทั้งๆที่เพิ่งอายุ 18 เท่านั้น และเป็นนักแสดง อ่อแล้วนิยายเล่มใหม่ของเขาก็ได้วางขายแล้วด้วย

แล้วเธอหละ ? พ่อของเธอทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนและในสายตาแม่ก็เป็นแค่เครื่องมือในการหาเงิน

เธอไม่สามารถรับความจริงได้ก็เริ่มดื่มเหล้าและเสพยาเพื่อหนีความเป็นจริง ฉันเห็นเอริคไม่ค่อย

แยแสเธอ พอเห็นฉันกับเขาก็เลยทำให้เธออิจฉาสินะ เด็กผู้หญิงที่เจ็บปวดและไร้อิสระ สาวน้อยผู้น่าสงสาร "

 

ตู้มมม -

 

ราวกับมีระเบิดขึ้นในหัวใจเธอ ดรูวส์รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฤดูอันหนาวเหน็บ

 

แม้ว่าเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ในความจริงเธอก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ13ปีเท่านั้น เด็กหญิงวัยนี้

นั้นส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและคาดหวังในความรักครั้งแรกของพวกเขา

ถ้อยคำของอนิสตันได้ฉีกแผลในใจที่ดรูวส์พยายามจะปิดมันเอาไว้

 

เมื่อเห็นดรูวส์เงียบ อนิสตันก็แสดงรอยยิ้มพอใจ ถ้าหากเอริคอยู่ที่นี่แน่นอนว่าเขาต้องทำ

ทุกอย่างเพื่อไม่ให้เธอพูดคำพูดที่โหดร้ายออกมาอย่างแน่นอน

 

หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ เอริคก็เดินเข้ามาบริเวณที่พักและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นดรูวส์นั่ง

ขดตัวกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องแล้วเอาหัวเล็กๆซุกไปยังแขนของเธอด้วยความอยากรู้เขาถามว่า

 

"แอนนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณสองคนเงียบกันจัง"

 

อนิสตันตอบอย่างภูมิใจ"ฉันชนะเธอได้ด้วยคำพูด เธอถึงกับพูดไม่ออกและเถียงไม่ได้"

 

"โห น่าทึ่งแฮะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับปากของดรูวส์ เอาหละถึงฉากของเธอแล้วนะ

รีบไปกันเลยเพื่อให้ผู้กำกับประทับใจ"

 

"ฉันจะไป"


เมื่อเห็นฉากทั้งสองคนเดินกันอย่างใกล้ชิดออกไปจนลับสายตา พายุในใจก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะผ่านไป

หรือว่าที่จริงแล้ว......

 

ในการถ่ายทำฉากต่อไปดรูวส์ก็หยุดยั่วยุเอริค และเงียบผิดปกติ เอริคและอนิสตันกำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายทำ

เลยไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกติของเธอ

 

"เยี่ยม ทำได้ดีมากทุกคน!" ในช่วงท้ายของกำหนดเวลาถ่ายทำ ฉากสุดท้ายของวันได้เสร็จสิ้นลงไป

 

เพนนี มาร์แชลถือปากกาในมือเธอพูดกับเอริคว่า "ตอนแรกเราวางแผนจะถ่ายให้เสร็จสมบูรณ์ภายในสิบวัน

แต่ตัดสินจากที่ดูวันนี้ ดูเหมือนจะใช้เวลาแค่สัปดาห์เดียวก็น่าจะทัน ฉันรู้ตั้งแต่ได้เห็นการออดิชั่นของคุณ

แต่ว่าฉันต้องบอกเลยนะเอริค ผลงานการแสดงของคุณมันยอดเยี่ยมจริงๆทั้งที่ไม่มีประสบการณ์คุณทำได้ยังไง?"

 

เอริคหัวเราะ "จริงๆแล้วเพนนี ผมโกหก ผมเคยเล่นภาพยนต์หลายเรื่องในชีวิตที่แล้วของผม แล้วดูเหมือนผมยังคงเก็บรักษาประสบการณ์นั้นไว้อยู่"

 

"ชีวิตที่แล้ว ? อ่อ คุณกำลังพูดถึงทฤษฎีการกลับชาติมาเกิดของพุทธศาสนาสินะ " แพนนี มาร์แซล คิดว่า สิ่งที่เอริคพูดนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องตลก "ดูเหมือนแฟนตัวน้อยของคุณกำลังรออยู่ แล้วพรุ่งนี้อย่ามาสายหล่ะ"

 

"เจอกันพรุ่งนี้เพนนี"

 

"เจอกันพรุ่งนี้"

 

เอริคสตาร์ทรถและออกไปพร้อมกับอนิสตัน

 

ไม่มีใครสังเกตถึงร่างอันโดดเดี่ยวของดรูวส์ แบร์รี่มอร์ ที่ยืนในมุมจอดรถแล้วมองรถที่ออกไปด้วยความไม่พอใจ

แล้วพึมพัมว่า "รอดูเถอะ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ยัยสารเลวน้อย เราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะทำให้เธอเสียใจกับสิ่งที่เธอพูดวันนี้"

 

 

รีวิวผู้อ่าน