px

เรื่อง : Iam in Hollywood
Chapter 19 – DIRECTOR WILLIAMS


 

 Chapter 19 – DIRECTOR WILLIAMS

 

"บอกตามตรงนะ ฉันไม่ชอบคุณเลย มิสเตอร์วิลเลี่ยม" ในช่วงเวลาที่ลูกสาวของเขาเข้าห้องน้ำ
จอร์น อนิสตัน ผู้ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเอริคพูดขึ้นอย่างกะทันหัน


แม้ว่าเอริคจะตกใจอยู่บ้างแต่เขาก็ยักไหล่แล้วถาม" ขอทราบเหตุผลหน่อยได้ไหมจอร์น"


จอร์น อนิสตันกล่าวว่า " หลายปีที่ผ่านมาเจนนี่เกลียดฉันมาก ฉันเองก็รู้สึกผิดมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันได้แต่หวังให้เธออภัยให้ฉัน แต่เมื่อคืนเธอโทรมาหาฉัน เธอเป็นคนโทรมาหาด้วยตัวเองคุณรู้ไหม?ฉันมีความสุขจนนั่งไม่ติด แต่เหตุผลที่เธอโทรมาก็คือ ให้ฉันช่วยแฟนหนุ่มของเธอ คนที่จะพรากเธอไปจากฉัน "


นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่ได้แย่เกินไป ลูกสาวนั้นเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพ่อ และโดยทั่วไป
พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกเขยเท่าไหร่นัก


เอริคยักไหล่อีกครั้ง ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัดใจ


อนิสตันเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำ เธอยิ้มและนั่งลงข้างๆเอริค ความสนิทสนมนี้เพิ่มความวิตกกังวงให้จอร์น แต่ลูกสาวของเขาเพิ่งจะเริ่มคุยกับเขาอีกครั้ง เขาไม่โง่พอที่จะทำลายสิ่งเหล่านี้


พวกเขาปรองดองกัน การทานอาหารนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อจอร์นปล่อยบรรยากาศความเป็นผู้ใหญ่และตำหนิเอริคว่าทะเยอทะยานเกินไป แอนนี่เปล่งประกายความโกรธใส่เขาทันที ในที่สุดเขาก็ตอบตกลงที่จะช่วย  ด้วยเส้นสายของเขาสามารถหานักแสดงได้ไม่ยาก


ด้วยเครือข่ายที่กว้างขว้างของจอร์น อนิสตันในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ เอริคจัดการเลือกบทส่วนใหญ่ได้ในไม่ช้า ค่าตัวของพวกเขาไม่สูงเกินไป ทำให้เอริครู้สึกโล่งใจ

อย่างไรก็ตามเอริคยังลังเลระหว่างนักแสดงหลายคนที่จะเลือกมารับบทโจรคู่หู จนกระทั่งอนิสตันแนะนำเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของเธอ มองไปที่ใบหน้าที่ดูมีอายุอย่างเป็นธรรมชาติ เอริคตัดสินใจเลือกทันที  เพราะเขามีชื่อว่า แมตทิว เพอร์รี หนึ่งในหกนักแสดงนำจากซีรี่ย์เรื่อง Friends


หลังจากนั้นเอริคและเจฟฟรีย์บินไปแคนาดาสองสามครั้ง และเลือกบ้านที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำ พวกเขายุ่งตลอดทั้งวัน ทั้งคืน จนเอริคน้ำหนักลดหลายปอนด์
ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ทำให้แอนนี่ทั้งเป็นห่วงทั้งอิจฉา


17 ตุลาคม งานแรกของเอริคในฐานะผู้กำกับนับตั้งแต่เกิดใหม่ไนลอสแองเจลิสได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
พวกเขาได้ส่งทีมงานบางส่วนไปไปยังแคนนาดาเพื่อดูแลบ้านที่จะใช้ถ่ายทำ ส่วนฉากที่เหลือในสนามบินและสถานีตำรวจ ในฉากนั้นไม่จำเป็นต้องมีหิมะ พวกเขาตัดสินใจถ่ายทำในฮอลลีวู้ดที่เป็นฐานภาพยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การถ่ายทำที่นี่จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น


ทีมงานทั้งหมดตั้งแต่คนจัดแสงจนถึงนักแสดง พวกเขาไม่ได้ตกลงเป็นส่วนหนึ่งของงานเพราะเงิน
แต่เพราะเห็นแก่หน้าจอร์นและเจฟฟรีย์ พวกเขาจะวิตกกังวลเกี่ยวกับเอริคอยู่บ้าง


เมื่อพวกเขาได้รู้เกี่ยวกับเนื้อหาของ Home ALone พวกเขาดีใจมาก ที่ผู้กำกับหนุ่มคนนี้ไม่เหมือน
ผู้กำกับหน้าใหม่คนอื่นๆ ที่คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นและตะหนี่ในการถ่ายทำ พวกเขาไม่ได้คิดว่ามัน
เป็นแค่ศิลปะ (แต่มันเป็นธุรกิจ)ที่มีโอกาสมากในการประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่า ภาพยนต์เรื่องนี้จะมีงบประมาณต่ำ เพียงแค่หนึ่งล้านดอลล่า และอาศัยชื่อเสียงของเอริคจาก17 Again และจูราสสิก ปาร์ค แต่พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะได้รับโบนัสเพิ่ม เอริคได้สัญญาว่าจะให้โบบัส ถ้าหนังเรื่องนี้มันยิ่งใหญ่


เพื่อตอบแทนที่เอริคได้มอบงานให้กับทีมงานของภรรยาเขา เจฟฟรีย์ แฮนสันปรากฎตัวทุกวัน
เขาอยากจะแนะนำมือใหม่คนนี้ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเขา แต่ในวันหนึ่ง
เจฟฟรีย์ได้เริ่มตั้งคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับความเป็นธรรมของพระผู้เป็นเจ้า


 

เด็กๆนั้นมักจะไม่มีความอดทนมากนักในการทำงานครั้งแรก แต่เอริคนั้นเขาเป็นเหมือนกับ
ผู้กำกับที่มีประสบการณ์ในการถ่ายทำมานานหลายปี เขามีระเบียบมากและได้มีการวางแผน
เกี่ยวกับการออกแบบชุดและอุปกรณ์เข้าฉากอย่างละเอียด เขายังหารือในการถ่ายทำกับ
ช่างกล้องมืออาชีพ เขายังกำกับการจัดแสงเพื่อให้ได้ผลลัพพ์ตามที่ต้องการ เขายังมีความอดทน
รับมือต่อนักแสดงหญิงที่รับบทเป็นแม่ของเควินที่แก่กว่าเขาเป็นสิบปี


แน่นอนว่าเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น เขาก็แสดงทักษะเฉพาะที่สำคัญของผู้กำกับ มันคือ
เสียงตะโกนของผู้กำกับ !


"มิสเลสลี่ ผมต้องการความรู้สึกที่งงงวยและสับสนไม่ใช่ความรู้สึกว่าเจอเรื่องน่าสนใจ! ตามที่ผมสังเกตคุณดูเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า มันควรจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ! แค่ลองจินตนาการว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในเวลากลางคืน เมื่อคุณได้ยินเสียงก๊อกน้ำไหลในห้องครัว แต่ไม่สามารถหารอยรั่วได้ ลองจินตนาการแบบนี้ เมื่อเวลาคุณแสดง เราเช่าเครื่องบินลำนี้ได้แค่สามชั่วโมงนะ! ตอนนี้พวกเรา
อยู่ที่นี่นะ นิโคลนายคิดว่าเรากำลังถ่ายท้องฟ้าแสนสดใสอยู่หรอไง ยกกล้องของนายมองไปที่โลหะ
บนเพดานเครื่องบินสิ โฟกัสมันอีกนิด ฟัค ! "


เนื่องจากการทำงานอันยอดเยี่ยมของเอริค ทีมงานทั้งหมดได้ยอมรับเขาในฐานะผู้กำกับแล้ว
เมื่อมิสเลวลี่ทำผิดพลาดในฉากบนเครื่องบิน เอริคเป็นกังวลเพราะกลัวถ่ายทำไม่ได้ตามกำหนดการ
เขาตะโกนออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เสียงตะโกนนั้นทำให้ทุกคนในปัจจุบันลืมเกี่ยวกับอายุของเขา
พวกเขาทั้งหมดเงียบไปหมด


นิโคล แฟรงค์ ช่างกล้องอายุ 30 ปี ไม่ได้นึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเพิ่งถูกตำหนิโดยเด็กคนหนึ่ง
เขาขอโทษอย่างสุดซึ้ง "ผมขอโทษด้วยผู้กำกับวิลเลี่ยม ผมจะให้ความสนใจมัน"


หลายปีผ่านไปเมื่อนิโคล แฟรงค์ได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับภาพยอดเยี่ยม ฉากในตอนนี้
ได้ประทับอยู่ในความทรงจำเขาเมื่อเขายืนอยู่บนเวทีของโกดักเธียเตอร์เขาพูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า
"ในช่วงเวลานั้นจิตใต้สำนึกทั้งหมดของผมตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเอริคที่อยู่ในฐานะผู้กำกับ
ผมเห็นเขาเป็นมากกว่าเด็กหนุ่มวัย18ปี ผมเห็นคนหนึ่งๆที่เกิดมาเพื่อออกคำสั่งโดยแท้ "

หลังจากถ่ายพลาดอีกครั้งในที่สุดฉากนี้ก็เสร็จสิ้น เอริคถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มขอโทษมิสเลสลี่

"ผมขอโทษที่พูดรุนแรงกับคุณด้วยมิสเลสลี่"


"ไม่เป็นไรค่ะ ผู้กำกับวิลเลี่ยม ฉันเป็นฝ่ายผิดเอง นอกจากนี้คุณยังดูน่ารักเมื่อคุณโกรธ"


"นี่มัน..." เอริคอยากเตือนเธอตั้งแต่ต้นๆว่าเธออาจจะเป็น Stockholm syndrome
เพื่อให้เธอได้ไปตรวจดู


 

ในอีกไม่กี่วันต่อมาเอริคได้ตะหนักว่า ทีมงานทุกคนได้เปลี่ยนมาเรียกเขาว่า "ผู้กำกับวิลเลี่ยม"ทุกคน
แม้แต่เจฟฟรีย์ ก็ไม่มีข้อยกเว้น เอริครับรู้ว่าคนเหล่านี้ยอมรับเขาจากเบื้องลึกของหัวใจโดยไม่เกี่ยวกับอายุ  มันทำให้เขารู้สึกกะตือรือร้นขึ้น หลังจากนั้นอีก4วัน พวกเขาก็เสร็จสิ้นการถ่ายทำในฉากที่อยู่ในแอลเอ ทีมงานทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังเมืองเล็กๆในแคนาดา


ก่อนหน้านี้ทีมงานส่วนหนึ่งได้ถูกส่งไปดูแลบ้านที่ใช้ถ่ายทำของเควิน ในเรื่อง เขาสั่งการผ่านโทรทัศน์ เอริครู้สึกพอใจมากหลังจากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เขาตั้งใจจะเก็บทีมงานของเจฟฟรีย์ไว้รอบๆตัวเขา


เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา ไม่เคยมีการถ่ายทำภาพยนตร์ที่นั่นมาก่อน ดังนั้น
ชาวเมืองเลยกะตือรือร้นและอยากรู้อยาเห็น เอริคยังมาไม่ถึงก็มีคนขอเล่นบทเล็กๆกับทีมงาน
ยิ่งไปกว่านั้นในเรื่องของพวกเขานั้นเป็นเนื้อเรื่องช่วงคริสมาสต์ ชาวเมืองทุกคนได้ตกแต่งบ้าน
ทั้งเมืองให้อยู่ในบรรกากาศรื่นเริง


เมื่อเห็นแบบนี้ เอริคก็ตอบสนองต่อพวกเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว เขาเชิญเด็กๆแถวนั้นหลายคน
ให้มาปรากฎตัวในหนัง


เหตุผลที่พวกเขาต้องถ่ายในบ้านที่แคนาดาก็คือ เควินวางกับดักจัดการโจรสองคน ในภาพยนต์ไม่ได้
เน้นหรือมีความหมายแฝงเกี่ยวกับคริสมาสมากนัก มันเป็นแค่หนังตลกล้วนๆ และประสิทธิภาพ
ของสจ๊วตนั้นดียิ่งกว่าแม็กเคาเลย์ คัลกิน คนที่แสดงบทนี้ในชีวิตที่แล้วของเขาซะอีก  การถ่ายทำ
นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วเอริค ตัดสินใจว่าจะทำทั้งหมดให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์


ในเวลาเดียวกัน ในลอสแองเจลิส ทีมงานของ 17 Again กำลังตื่นตะหนก เพนนี มาร์แซล
ต้องการให้เอริคอัดภาพเพิ่มบางส่วน แต่ก็พบว่าเขาขาดการติดต่อ โทรศัพท์ของเขาโทรไม่ติด
ประตูบ้านของเขาก็ปิดแน่นสนิท เพนนีตกใจและคิดว่าบางทีเขาอาจเจอปัญหาบางอย่าง
เธอติดต่อหาอนิสตันเพื่อถามที่อยู่ของเขา


เมื่อได้หมายเลขติดต่อของเขา เพนนีบ่นว่าให้เขากลับลอสเองเจลิสในอาทิตย์นี้ เพราะนอกจาก
ต้องถ่ายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยๆและเขายังต้องอยู่เพื่อโปรโมตหนังอีกด้วย


แน่นอนว่าการถ่ายทำเรื่อง Home Alone ของเอริคถูกเปิดเผย ในเรื่องนี้เพนนี มาร์แซลทำหน้าที่เป็น
ผู้ใหญ่ที่ดีเตือนเขาว่าอย่าคาดหวังสูงเกินไป แค่เธอไม่ได้คิดอะไรมากนัก บางทีเขาอาจจะหา
ทีมงานด๊อกด๋อยและเริ่มถ่ายหนังไร้สาระแบบเดียวกับผู้กำกับเด็กๆทุกคนทำกัน


ในความเป็นเป็นจริงในการถ่ายทำความสัมพันธ์ของเอริคกับทีมงานเป็นไปได้ด้วยดี
แมทธิวเพอร์รี่จะคุยกับเขาเป็นครั้งคราว ฝ่ายเช็ตฉากก็มีความสนใจมากในตัวเขา แต่น่าเสียดาย
คืออย่างเดียวที่เขาสนใจในตอนนี้ก็คือทำ Home Aloneออกมาให้สมบูรณ์เร็วที่สุด พวกเขาจึง
ไม่มีเวลาทำความคุ้นเคยกันให้มากขึ้น


อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาการถ่ายทำก็เสร็จสิ้นลง ต้องขอบคุณการวางแผนอย่างพิถีพิถันของเอริค
กับเจฟฟรีย์ พวกใช้ใช้งบเพียง 600,000 ซึ่งทำให้พวกเขามีเงินเหลืออีกว่า 300,000 ในการโปรโมท


เอริคแสดงใจกว้างโดยการเปิดงานฉลองการถ่ายทำให้คนในเมืองได้เข้าร่วมด้วย
วันรุ่งขึ้นขณะที่หลายๆคนยังอยู่ในอาการเมาค้าง เอริคก็ได้เดินทางกลับลอสเองเจลิส


ใช้เวลาครึ่งวันในการถ่ายฉากเพิ่มเติมใน 17 Again และเขาก็ใช้เวลาทำงานที่เจฟฟรีย์ฝากเขาทำให้
อย่างบ้าคลั่ง


ทั้งวันเขาทำงานมากกว่า 16 ชั่วโมงทำให้ทุกคนประหลาดใจมากที่เขาเสร็จสิ้นการตัดต่อแก้ไขแผ่นฟิมล์ภายในเวลาเพียง 5 วัน ซึ่งทำให้ทีมงานมองมาที่เขาด้วยความเคารพบูชา


ห้าวันถัดไปผู้คนนับสิบกว่าคนเข้ามาอัดแน่นในโรงหนังเก่าๆที่มีที่นั่งเพียงห้าหกที่เท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นทีมงานของ Home Alone อนิสตันเองก็มาดูผลงานของเอริคเช่นกัน


หลังจากเสียงเครื่องเล่นทำงานบนหน้าจอก็ปรากฎภาพหลังคาบ้านสีฟ้าภายใต้แสงจันทร์
และแล้วภาพยนต์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น...

 

รีวิวผู้อ่าน