px

เรื่อง : Iam in Hollywood
CHAPTER 31 – STATEMENT


 CHAPTER 31 STATEMENT

 


เอริคยืดตัวขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า "โปรดว่ามาเลย คุณไอส์เนอร์"


เมื่อไมเคิล ไอส์เนอร์ กำลังจะพูดบางอย่าง ปากของเขาก็แข็งชั่วครู่ เขาลังเลเล็กน้อย
พวกเขาพูดคุยกันสักพักหนึ่ง ไมเคิลนั้นมีความประทับใจทีดีในตัวเอริคจริงๆ
เขาไม่รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังคุยกับเด็กคนหนึ่ง แต่รู้สึกเหมือนคนที่เท่าเทียมกันคนหนึ่ง


เมื่อคิดถึงการที่ชายหนุ่มคนหนึ่งบรรลุในสิ่งที่น่าอัศจรรย์จำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ
ไมเคิล ไอส์เนอร์ เริ่มสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงที่เขาทำกับโคลัมเบีย คนหนุ่มที่มีความสามารถ
เช่นนี้มีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แน่นอนว่าในอนาคตเขาจะเติบโตขึ้นได้อีก ถ้าเอริคและเขา
กลายมาเป็นศัตรูกันเพราะเรื่องนี้ โอกาสร่วมงานกันในอนาคตคงยากมาก


ในฐานะ CEO ไมเคิล ไอส์เนอร์ เป็นคนที่เฉียบขาดมาก เมื่อคิดถึงเงื่อนไขที่ เบล้าท์ โคเฮน
เสนอให้ เขาก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่


Home Alone นั้นเป็นสิทธิของเขา หาไม่แล้วชายหนุ่มคนนี้ก็จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์อย่างนี้หรอก ตราบใดที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายก็ยังคงร่วมมือกันต่อไป แม้แต่คนที่เคยเป็นศัตรู  ถ้ามีผลประโยชน์ร่วมกันก็จะสร้างมิตรภาพขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในท้ายที่สุดก็โคลัมเบียไม่ใช่หรอไง  ที่จะกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามของเอริค ?


"เอริค ทางดิสนีย์ให้ความสนใจในลิขสิทธิ์การเผยแพร่ในต่างประเทศของ Home Alone สตูดิโอของเรานั้นขึ้นชื่อว่ามีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและวัยรุ่น ดังนั้นทางเราจึงคิดว่าภาพยนต์ของคุณเป็นอะไรที่เหมาะกับทางเรามาก  ถ้าคุณปล่อยให้ดิสนีย์จัดการเรื่อง Home Alone ผมเชื่อว่าพวกเราจะทำรายได้ดีกว่าในอเมริกาเหนือซะอีก "


เอริคถามอย่างใจเย็นว่า "คุณไอส์เนอร์ ผมอยากจะรู้ข้อเสนอของดิสนีย์ได้ไหม ?

"12%ของกำไรในบ็อกออฟฟิศต่างประเทศ คุณคิดว่าไงบ้าง ? "


เอริคขยับตัวเล็กน้อยแล้วถามว่า ""แล้วทางดิสนีย์ไม่สนใจซื้อลิขสิทธิ์หรือ ?"

ไมเคิล ไอส์เนอร์ส่ายหัวแล้วยิ้มและพูดว่า "เอริคคุณเซ็นสัญญาข้อตกลงเดิมพันกับโตลัมเบีย
เพราะคุณไม่ยอมรับการซื้อไม่ใช่หรือ ดังนั้นมันจึงเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ"


เอริคพยักหน้า "ทางคุณให้ราคาสูงมาก ทางโคลัมเบียให้ผมแค่ 8 %ของส่วนแบ่งในต่างประเทศ"

"ดิสนีย์ขอแสดงความจริงใจให้คุณ หวังว่าเราจะสามารถร่วมมือกันได้อีกในอนาคต " ไมเคิล ไอส์เนอร์ ยิ้ม
"เอาล่ะเอริค ถ้าคุณเห็นด้วยกับผมก็เซ็นสัญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  การปล่อยตัวในต่างประเทศนั้นไม่ง่าย หลังจากลงนามในข้อตกลงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในการเข้าฉายในโรงหนังของต่างประเทศ ด้วยความนิยมของ Home Alone การปล่อยตัวช้าแม้แต่วันเดียวก็ทำให้เราเสียรายได้ไปหลายล้าน"


เอริคนั่งตรงข้ามกับ ไมเคิล ไอส์เนอร์  เขาฟังอย่างเงียบๆในขณะนี้เขากำลังปะติดปะต่อในใจ ไม่นานนักเขาก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก ซึ่งหมายความว่าเขาเริ่มจะเข้าใจแผนของโคลัมเบียแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ได้ฉลาดมากนัก แต่มันมีประสิทธิภาพจริงๆ  ด้วยความสะเพร่าเล็กๆน้อยๆ นั่นอาจทำให้เขาตกหลุมพรางได้ง่ายๆ


เมื่อเอริคมองมุกเด็กเล่นนี้ออก เขาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาวางแก้วกาแฟและค่อยๆลูบแก้วไปมาก่อนจะมองไปที่
ไมเคิล ไอส์เนอร์ และพูดว่า " คุณไอส์เนอร์ ถ้าผมเห็นด้วยแล้วเราจะเซ็นสัญญากันเมื่อไหร่ดี ? "


ไมเคิล ไอส์เนอร์ เห็นการแสดงๆออกของเอริคนั้นดูแปลก เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ความรู้สึกมีความสุขก็เข้ามาแทนที่
"ให้เร็วๆที่สุดเลยดีกว่า ผมมีร่างสัญญาพอดี เราสามารถเซ็นสัญญาได้ในบ่ายวันนี้เลย"

เอริควางแก้งกาแฟลง เขาจ้องไปที่ไมเคิล ไอส์เนอร์และกล่าวว่า "แต่ผมเกรงว่ามันจะไม่เกิดขึ้น คุณไอส์เนอร์ "

"ห้ะ ? " ไมเคิล ไอส์เนอร์รู้สึกมึนงง


เอริคพูด "ทางโคลัมเบียไม่สามารถยอมรับการพ่ายแพ้ในข้อตกลงการเดิมพันของผม ดังนั้นพวกเขาเลยได้ลากคุณเข้ามาเกี่ยว บางทีพวกเขาคงให้ข้อเสนอที่คุณไม่สามารถปฎิเสธได้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะคุณกับคุณโคเฮนเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่ว่าด้วยวิธีไหน คุณก็เห็นด้วยกับมัน แต่พวกเขาก็ไม่ทราบว่าคุณจะชักชวนผมได้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยทางโคลัมเบีย
ได้เพิ่มโรงเข้าฉาย 500 โรง แทนที่จะเป็นจำนวน 1000 โรง ตามข้อตกลง และไม่ลังเลที่จะร่างสัญญาข้อตกลงชดเชยใหม่ โดยระบุว่าจะเพิ่มโรงฉายได้มากกว่า 100 โรงตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไป "


เมื่อไมเคิล ไอส์เนอร์ ได้ยินเอริคพูด เขาก็รู้สึกตะลึงก่อนจะยิ้้มอย่างขมขื่น เขาดูถูกชายหนุ่มคนนี้เกินไป

เมื่อเห็นปฎิกิริยาของไมเคิล ไอส์เนอร์ เอริครู้สึกพอใจมากเขาพูดต่อว่า "สาเหตุที่พวกเขายินดีจะทำเช่นนี้ เนื่องจากทาง โคลัมเบีย พยายามถ่วงเวลา Home Alone ให้ห่างจากเป้าหมาย 50ล้านในบ็อกออฟฟิศ และให้เวลาคุณค่อยๆ โน้มน้าวชักจูงผมมากขึ้น ข้อตกลงของผมกับโคลัมเบียระบุว่าถ้ารายได้ในบ๊อกออฟฟิศสุดท้ายมีมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านดอล ลิขสิทธิ์ทั้งหมดจะเป็นของพวกเขา แต่ตอนนี้จำนวนเงินยังไม่ถึงเป้า ถ้าผมรีบร้อนลงนามในข้อลงอนุญาติให้ใช้ลิขสิทธิ์การเผยแพร่
กับทางดิสนีย์ ในขณะที่ลิขสิทธิ์นั้นยังคงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเดิมพัน นั่นจะทำให้ผมละเมิดสัญญา และทางโคลัมเบีย ก็จะมีโอกาสที่ดีในการฉีกสัญญาการเดิมพันของเรา บอกผมทีคุณไอส์เนอร์ ผมเข้าใจถูกใช่ไหม ? "


ถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ด้วยนิสัยของไมเคิล ไอส์เนอร์ หลังจากได้ยินการวิเคราะห์อันยอดเยี่ยมของเอริค เขาจะปรบมือให้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้แต่ยิ้มอย่างอายๆเท่านั้น


เอริคยืนขึ้น " ผมคิดว่าเราจบธุระกันแล้วนะ คุณไอส์เนอร์"

ไมเคิล ไอส์เนอร์ก็ลุกขึ้นเช่นกันแล้วกล่าวว่า "ผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ผมยังคงต้องพูดว่าผมมีความสุขมากที่ได้พูดคุยกับคุณในครั้งนี้และยังหวังว่าจะมีโอกาสร่วมมือกันอีกในอนาคต "

"บางที"เอริคพยักหน้า เนื่องจากหนึ่งในยักษ์ใหญ่ถ่อมตนเช่นนี้ เอริคจะไม่เห็นแก่หน้าเขาได้ยังไง

"คุณไอส์เนอร์ พอจะบอกผมได้ไหมว่าทางโคลัมเบียเสนออะไรให้คุณ?"

ไมเคิล ไอส์เนอร์ส่ายหัว "ขอโทษด้วยเอริค มันเป็นความลับทางการค้า"

เอริคพูด " ไม่เป็นไร คุณไอส์เนอร์ คุณช่วยให้คนขับรถ พาผมกลับไปส่งบ้านได้ไหม ?"

"แน่นอนไม่มีปัญหา" ไมเคิล ไอส์เนอร์เรียกผู้ช่วยที่อยู่ไม่ไกลนักมาและสั่งไป


เอริคเพิ่งออกจากโรงแรมฮลตันก็มีนักข่าวสิบกว่าคนมาล้อมอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้รู้ผ่านทางช่องทางต่างๆว่าเอริคได้นัดพบกับ CEO ของดิสนีย์ ไมเคิล ไอส์เนอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าจะได้รู้เนื้อหาการพบกันของทั้งคู่


เมื่อเห็นนักข่าวรีบเข้ามา ทางฝ่ายรักษาความปลอดภัยของฮิลตันก็มาล้อมรอบตัวเอริคกันนักข่าวออกไป 

คนขับรถของ ไมเคิล ไอส์เนอร์ นำรถที่จะมารับชายหนุ่มมาจอดไว้หน้าโรงแรม

นักข่าวแยกกันพวกเขารู้สึกผิดหวังที่เอริคจะจากไปอย่างเงียบๆอีกครั้ง แต่พวกเขาไม่คิดว่าจู่ๆเอริคจะหยุดเท้าลง พวกเขารีบยกกล้องและเครื่องบันทึกเสียงออกมา

"เอริคคุณและไมเคิล ไอส์เนอร์ คุยอะไรกัน ?"

"หรือมันเกี่ยวกับเรื่อง Home Alone ?"


"คุณวิลเลี่ยม ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องของคุณในตอนนี้ มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ผู้ชมอายุน้อย ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของดิสนีย์ คุณจะร่วมมือกับพวกเขาไหม ?"


"เอริค......"

"......."

เอริคหันไปรอบๆท่ามกลางความวุ่นวาย เขาได้รับการคุ้มกันโดยฝ่ายรักษาความปลอดภัยและเข้าไปในรถอย่างเงียบๆ

 

รีวิวผู้อ่าน