CHAPTER 32 -WAVES
เมื่อกลับไปถึงบ้าน เอริคก็พบว่าประตูหน้าบ้านยังคงถูกล้อมด้วยคลื่นนักข่าว เขาไม่ออกไปข้างนอกอีกแต่ตัดสินใจโทรเรียกทนายความมาหาเขา เพื่อให้ตรวจสอบข้อตกลงชดเชย แม้ว่าเขาจะมองกับดักของโคลัมเบียออก เขาก็ไม่กล้าลดการป้องกันลง
เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็โทรไปหาอนิสตัน เขาโทรหาเธอหลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้
เวลานี้แอนนี่ควรจะอยู่ที่บ้าน เอริครู้สึกกังวล ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"นี่บ้านวิลเลี่ยมครับ" เอริครับสาย
"เอริค นี่ฉันเอง" เสียงของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ดังขึ้นปลายสาย
เอริคกล่าวอย่างมีความสุขว่า"แอนนี่คุณสบายดีไหม ? ผมโทรไปหาคุณหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครตอบเลย "
"ตอนนี้ฉันย้ายไปพักอยู่กับพ่อ เอริครู้ไหม บรรดาปาปารัสซี่ได้พบความสัมพันธ์ของเราและเริ่มติดตามฉันไปทุกที่แม้จะทั้งแกล้งเดินผ่านและเริ่มเคาะประตูที่พักของฉัน ฉันกลัวมาก" เสียงของแอนนี่เต็มไปด้วยความกลัว
เอริคถามด้วยความกังวล" แอนนี่คุณโอเคไหม ? เดี๋ยวนะที่เมื่อวานผมโทรหาคุณไม่ติดเพราะคุณกำลังขึ้นเครื่องอย่างนั้นหรอ?"
"ฉันไม่เป็นไปแล้วเอริค ฉันไม่รู้ว่าปาปารัสซี่ค้นพบความสัมพันธ์เราได้ยังไง ในหนังสือพิมพ์ตอนเช้า
พวกเขาบอกว่า....." เสียงของอนิสตันดูแย่ลง เอริคตะหนักว่านี่ไม่ได้เป็นผลดีเท่าไหร่ เขาปลอบโยนว่า " ไม่เป็นไรนะแอนนี่ ช่วงนี้คุณควรพักอยู่กับพ่อคุณก่อน และอย่าไปที่ร้านสะดวกซื้อด้วยนะ"
อนิสตันบ่นอย่างไม่พอใจ"เอริคมันจะไม่เป็นอย่างนี้ตลอดไปใช่ไหม? แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ยังไง?"
เอริคกล่าว "แน่นอน เมื่อเวลาผ่านไปมันจะดีขึ้นเอง ตอนนี้บ้านผมเองก็ถูกล้อมไว้อยู่เหมือนกัน บอกที่อยู่พ่อคุณมาหน่อย เมื่อมีเวลาผมจะเยี่ยม"
อนิสตันฟังถ้อยคำปลอบใจของเอริค สิ่งที่บอกนั้นทำให้เธอสงบใจลง ก่อนจะวางสายไป
........
ในบ้านพักแห่งหนึ่งในเบเวอร์ลีฮิลส์ อนิสตันรู้สึกเศร้าทันทีเมื่อวางสายลง เธอเหลือบไปมองกองหนังสือพิมพ์ที่กระจัดกระจายบนพื้น ก่อนจะหยิบหมอนฟาดเข้าใส่โซฟาอย่างไม่ปราณี
ในบทความเหล่านั้นเขียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเอริคว่าเป็น เจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์และซินโดเรล่ายุคใหม่
โดยบทความนั้นเน้นประเด็นไปที่ด้านที่ดีของเอริค และดูหมิ่นเธอ หนังสือพิมพ์เกือบทั้งหมดทำนายชีวิตคู่ในอนาคตของเธอไว้อย่างเลวร้าย ในขณะที่บางฉบับนั้นเปรียบเทียบเธอกับดรูว์ และระบุว่าดรูว์เหมาะสมเป็นแฟนเอริคมากกว่า
เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ อนิสตันรู้สึกกังวลอย่างช่วยไม่ได้ ความภาคภูมิใจในตัวเองของเธอถูกทำลายราวกับถูกหินทุ่มเข้าใส่ เมื่อเทียบกับแฟนหนุ่มผู้โดดเด่นแล้วเธอก็เป็นแค่คนธรรมดาสามัญ
ตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งของฮอลลีวูด ในขณะที่หนังสือพิมพ์เรียกเธอว่า 'พนักงานร้านสะดวกซื้อ' ช่องว่างระหว่างพวกเขาเริ่มมีมากขึ้น
..........
เอริคไม่ทราบเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของแฟนสาว หลังจากโทรเรียกครึ่งชั่วต่อมาทนายของเขาก็มาถึงอย่างเร่งรีบ
"สวัสดีคุณเอ็ดเวิร์ด ขอบคุณที่มา" เอริคกล่าว นี่คือทนายที่ดูแลข้อตกลงการเดิมพันของเขา เอ็ดเวิร์ด ลูอิส เอริคเชิญเขาและผู้ช่วยเข้ามาในบ้าน
เอ็ดเวิร์ด ลูอิส จับมือกับเอริคและพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมเล็กน้อย "เอริค ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ Home Alone นี่เป็นผู้ช่วยของฉันคาร์เตอร์ "
ทั้งสามคนนั่งลงบนโซฟา เอริคนำเอาข้อตกลงชดเชยที่โคลัมเบียเสนอให้มาให้พวกเขาดูและบอกเล่า
ถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เอ็ดเวิร์ด ลูอิสฟังเอริคอย่างเงียบๆ หลังจากฟังจบก็หยิบร่างข้อตกลงชดเชยมาอ่านสองสามนาทีก่อนจะกล่าวว่า
"เอริคข้อตกลงชดเชยฉบับนี้ไม่มีปัญหาใดๆ คุณสามารถมั่นใจในการลงนามได้ "
"ดีจังแฮะ" เอริคพยักหน้าและเอาปากกามาลงนามในเอกสาร
เอ็ดเวิร์ด ลูอิส มองไปที่ชายหนุ่มด้านหน้าเขาอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "เอริค ฉันคิดว่าคุณควรจะต้องการทีมนักกฎหมายที่คอยดูแลเรื่องต่างๆให้คุณเป็นประจำ"
"โอ้ ?" เมื่อเอริคได้ยินคำพูดของเอ็ดเวิร์ด ลูอิส เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เอ็ดเวิร์ด ลูอิส มองไปที่รอยยิ้มของเอริค เขาไม่พูดอ้อมๆอีกต่อไป "ฉันคิดว่าบริษัทของตัวเองมีกำลังมากพอที่จะจัดการดูแลเรื่องพวกนี้ได้ เอริคจากสิ่งที่คุณเพิ่งบอกเราเมื่อครู่ว่า ถ้าคุณไม่ได้ระวังตัวไว้ก่อนคงจะหลงกลแล้ว
ดังนั้นถ้าคุณให้สำนักงานกฎหมายของฉันเป็นตัวแทนของคุณต่อไปในอนาคต ทางเราจะเข้าเจรจาเรื่องข้อตกลงกับทางโคลัมเบียอย่างเต็มที่ และหากพวกเขากล้าที่จะฝ่าฝืนข้อตกลงทางเราก็พร้อมจะสู้ในศาลเพื่อผลประโยชน์ของคุณ"
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขามาช่วยร่างข้อตกลงการเดิมพัน เอริคก็รับรู้ถึงความเป็นมืออาชีพของเอ็ดเวิร์ดและทีมของเขา และตัวเขาเองก็ต้องการใครสักคนที่จะเป็นตัวแทนทางกฎหมายอย่างเต็มเวลา ดังนั้นทั้งสองคุยกันไม่นานก็ทำความเข้าใจตรงกัน เอ็ดเวิร์ดหยิบหนังสือมอบอำนาจมาให้ เอริคก็เซ็นสัญญาลงไป
" เอ็ดเวิร์ดผมฝากจัดการทุกอย่างด้วยนะ แล้วก็ผมไม่ต้องการจะเจรจากับคนของโคลัมเบียอีกต่อไปแล้ว"
"ไม่มีปัญหาเอริค ถ้าไม่มีอะไรแล้วทางเราขอตัวก่อน"
หลังจากบอกลาเอ็ดเวิร์ดและผู้ช่วย เอริคก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในที่สุดเขาก็จะได้มุ่งความสนใจไปที่อาชีพของเขาอย่างเต็มที่สักที
เขารู้สึกสบายใจที่ปล่อยให้เอ็ดเวิร์ดดูแลเรื่องพวกนี้ ทีมกฎหมายส่วนตัวนั้นจะต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่กังวลแม้แต่น้อยแม้พวกนั้นจะสมคบกับทางโคลัมเบียต่อต้านเขาแต่เมื่อความจริงถูกค้นพบพวกนั้นจะได้รับความรังเกียจจากทั่วประเทศและเส้นทางอาชีพของเขาจะถูกทำลายนอกจากนั้นทางโคลัมเบียไม่อาจจะทำความผิดอะไรเพิ่มได้อีกในตอนนี้
เขาคือจุดหักเหของโคลัมเบีย ทำให้ทางโคลัมเบียตกอยู่ในวังวนความคิดเห็นของประชาชน
หลังจากนั้นเอริคก็ได้ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน นักข่าวหลายคนได้ทบทวนพาดหัวข่าวนี้
ก็พบว่านี่เป็นประเด็นที่ร้อนมาก เย็นวันนั้นชายหนุ่มได้แถลงการณ์ประณามทางโคลัมเบียปรากฎในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
ความเห็นที่หลากหลายปรากฎในทุกที่ บางคนก็เริ่มใส่ไฟลงไปเพื่อเพิ่มยอดขาย
เมื่อได้รับรู้คำแถลงของเอริค เหล่านักข่าวนั้นได้เริ่มตั้งสมมุติฐานของตัวเอง
หนังสือพิมพ์บางแห่งเริ่มเชื่อมโยง ไมเคิล ไอส์เนอร์กับคำแถลงของเขา ก่อนที่เขาจะแถลงการณ์
เอริคได้เปิดเผยว่าเขาและไอส์เนอร์ เข้ากันได้ดี และจะมีความสุขมากถ้าได้ร่วมงานกันในอนาคต
ด้วยสิ่งนี้ทำให้คนอื่นๆคาดการณ์ว่า CEO ของดิสนีย์คนนี้อาจมีส่วนร่วมในการเปิดเผย 'วิธีที่ไม่ดี'ของโคลัมเบีย
ไมเคิล ไอส์เนอร์ ก่อนหน้านี้ลังเลที่จะบอกเพื่อนเก่าของเขาว่าเอริคได้ล่วงรู้ถึงแผนการของพวกเขา
แต่ไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรดี แต่เมื่อเขาได้เห็นหนังสือพิมพ์ เขารีบโทรหาโคเฮน และอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ อีกฝ่ายไม่ได้เชื่อเขา
ไอส์เนอร์ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เขาตระหนักได้ถึงนิสัยขี้ระแวงของ เบล้าท์ โคเฮน
ดูเหมือนว่ามิตรภาพระหว่างพวกเราจะไม่มีค่าอะไรเลย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจต่อเอริค
สิ่งที่เขารู้สึกนั้นใกล้เคียงกับคำว่าชื่นชมมาก
ผู้สื่อข่าวหลายคนได้พบว่า Home Alone นั้นเข้าฉายแค่เพียง 1500 โรงในสัปดาห์นี้ ซึ่งน้อยกว่า 17 Again อันดับ 2 ในบ๊อฟออสฟิศที่เข้าฉาย 1600 โรง การค้นพบนี้ทำให้พวกเขามุ่งเป้าโจมตีไปที่โคลัมเบีย
สิ่งที่เห็นอยู่ทนโท่นี้ ทำให้ต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับความถูกต้องของบริษัท
ทางสตูดิโออื่นที่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสื่อ ก่อนหน้านี้พวกเขาได้อิจฉาโคลัมเบียที่ Home Alone นั้นประสบความสำเร็จ ตอนนี้พวกเขาได้ออกมาประณามเรื่องนี้อย่างเต็มที่ บางสื่อๆก็เรียกร้องให้แฟนๆคว่ำบาตรโดยการหยุดดูหนังที่ผลิตโดยยักษ์ใหญ่นี้
ทันทีที่หนังสือพิมพ์ที่พากหัวข่าวถึงโคลัมเบียปรากฎสู่สาธารณะชน นั้นได้กระตุ้นความรักความยุติธรรมของประชาชนพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป ทำให้พนักงานรับสายหญิงเต็มไปด้วยน้ำตาหลังจากเจอโทรศัพท์ดูถูกหลายชั่วโมง สองคนในพวกเธอส่งจดหมายลาออกในวันรุ่งขึ้น
เบล้าท์ โคเฮน นั้นได้ทุบทุกอย่างเท่าทีทำได้ในห้องทำงานเขา แล้วรีบประชุมกับฝ่ายประชาสัมพันธ์
เพื่อหากลวิธีเผชิญกับปัญหา
ในตอนเย็น ทางสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ใต้การควบคุมของโคลัมเบียได้ออกแถลงการณ์ พวกเขาอ้างว่าเกี่ยวกับจำนวนโรงฉายของ Home Alone พวกเขาได้ทำข้อตกลงชดเชยแทนไปแล้ว ในส่วนแผนการของโคลัมเบียที่เอริคอ้างถึงนั้น พวกเขาบอกว่าเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ เขาแค่ไม่พอใจที่โรงฉายได้น้อย เลยทำเช่นนี้เพื่อตอบโต้
อย่างไรก็ตามเอริคนั้นไม่ได้ตอบสนองผ่านสื่อและประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้เชื่ออะไรเรื่องนี้