CHAPTER 35 – I LL SHOW YOU ANOTHER DAY
เอริคกำลังจะอ้าปาก แบร์รี่ ดิลเลอร์ก็กล่าวเสริมว่า "เอริคก่อนที่คุณจะปฎิเสธ คุณรู้ไหมว่า
ตัวเอกของเรื่อง สจ๊วต รังเคิล จาก Home Alone ได้เซ็นสัญญากับ CCA ที่เพิ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความต้องการของพวกนั้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อเร็วๆนี้ ไมเคิล โอวิตซ์
ได้บุกไปสำนักงานใหญ่ของ Metro-Goldwyn-Mayer เพราะไม่พอใจในข้อตกลง เขาต่อสู้กับ CEO
ของที่นั่นจนท้ายที่สุดทาง MGM ต้องยอมประนีประนอม หากคุณปล่อยตัวภาคต่อของ Home Alone
เอง ทาง CAA ก็จะบีบลมหายใจคุณด้วย "
แม้ว่าสิ่งที่แบร์รี่ ดิลเลอร์ พูด จะฟังดูสมเหตุสมผล แต่เอริคปฎิเสธมันอย่างทันที จริงอยู่ที่ Home Alone ต้องการ สจ๊วต รังเคิล แต่ทางสจ๊วต รันเคิล ก็ต้องการ Home Alone เพื่อรักษาชื่อเสียงของเขาด้วยเช่นกัน
ในอดีต แม็กเคาเลย์ คัลกิน ประสบความสำเร็จในหนังชุดนี้เพียงอย่างเดียว หนังทุกเรื่องที่เขาเล่น
อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น เอริคไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะให้ผลลัพธ์แตกต่างกันนัก
หาก CAA ต้องการที่จะเข้าแทรกแซงภาพยนตร์เรื่องนี้ งั้นก็ไม่เป็นไร มาดูกันดีกว่าว่าใครจะอดทนได้นานกว่ากัน ระหว่างนั้นเขาก็แค่ทำหนังเรื่องอื่นคั่นเวลารอเท่านั้น
"คุณดิวเลอร์ ผมสามารถขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศของ Home Alone ให้กับทาง 20th Century Fox
ได้ในราคา 25 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามผมกำลังจะสร้างหนังในปีหน้า 3 เรื่อง รวมถึงภาคต่อของ Home Alone ด้วยและถ้าผมลงนามใจข้อตกลงการเผยแพร่ร่วมกันกับทาง Fox ผมต้องการ 35% ของบ็อกออฟฟิศในอเมริกาเหนือ และ 10% ในต่างประเทศ "
เหตุผลที่เอริคลดราคาลิขสิทธิ์ในต่างประเทศลง เนื่องจากเขาพบว่าตัวเองต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน
เงินจำนวน 25 ล้านเหรียญก็มากพอที่จะแก้ปัญหาทางการเงินในปัจจุบันของเขาได้
แบร์รี่ ดิลเลอร์ ฟังสิ่งที่เอริคพูดก็ขมวดคิ้ว " เอริค ทาง Fox ยินดีจ่ายเงิน 25 ล้านเหรียญ สำหรับลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ แต่สำหรับข้อเสนออื่นๆที่คุณพูดถึงนั้นคงยาก หนังของคุณเป็นหนังงบประมาณต่ำ .....มีเพียงหนังฟอร์มยักษ์ต้นทุนสูงเท่านั้นที่จะได้ส่วนแบ่งแบบนี้คุณก็รู้ดี ถ้าคุณทำภาคต่อของHome Alone กับทาง Fox อาจพิจารนาข้อเสนอสองข้อหลังดู..."
เมื่อเห็นแบร์รี่ ดิลเลอร์ ส่ายหัว เอริคก็ยิ้มอย่างมั่นใจและกล่าวว่า "ผมเชื่อมั่นว่าภาพยนต์ของผมคุ้มค่ากับราคานั้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยอะไร คุณจะเซ็นสัญญาเดิมพันกับผมไหม คุณดิวเลอร์ ?"
"นั่นมัน....."
แบร์รี่ ดิลเลอร์เกือบสำลักออกมา เพราะการเดิมพันก่อนหน้านี้ทำให้สถานะของ เบล้าท์ โคเฮน ในโคลัมเบียกำลังจะพังทลายลงมา เขาอาจต้องเก็บของและโดนไล่ออกได้ตลอดเวลา แบร์รี่ไม่โง่พอจะเดินตามรอยเท้าเขา
"บางทีผมควรลองเสนอเงื่อนไขเหล่านี้กับที่อื่นดู ผมเชื่อว่าบริษัทอื่นๆจะสนใจเป็นอย่างมาก
เร็วๆนี้ ไมเคิล เอสเนอร์ ก็ได้ติดต่อมาหาผมเมื่อเร็วๆนี้ "
แบร์รี่ ดิลเลอร์หัวเราะ "เอริค คุณหลอกฉันเรื่องนี้ไม่ได้หรอก ผมรู้จักกับไมเคิลเป็นการส่วนตัว"
เอริคส่ายหัวและพูดว่า "ผมไม่ได้โกหกคุณดิวเลอร์ หลังจากเหตุการณ์นั้น คุณไอส์เนอร์ ติดต่อมาจริงๆ"
ในฐานะอดีตผู้ช่วยของเขา แบร์รี่ ดิลเลอร์รู้จักไมเคิล ไอส์เนอร์ ดียิ่งกว่าใคร ผู้ชายคนนั้นเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมากสำหรับเรื่องที่เขายังติดต่อกับเอริคหลังการเรื่องนั้น ดิวเลอร์รู้สึกประหลาดใจจริงๆ แต่เขานั้นไม่รู้ถึงเหตุผลนั้นเป็นเพราะเอริคได้ทิ้งความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้แก่ CEO ของดิสนี่ย์คนนั้นในการพูดคุยกันครั้งก่อน
แบร์รี่ ดิลเลอร์ ไม่คิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะโกหก เพราะเขานั้นสามารถโทรตรวจสอบเรื่องนี้ได้ในทันที
เขาเริ่มประเมินเอริคอย่างรอบคอบ วิสัยทัศน์ของอดีตผู้ช่วยของเขาอย่าง ไมเคิล เอสเนอร์ นั้นต่างจาก
สายตาคับแคบของ เบล้าท์ โคเฮน หลังจากครุ่นคิดคำนวนข้อดีและข้อเสียเขาก็กล่าวว่า
" เอริค ทางเรารับข้อเสนอของคุณ"
"ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน หุ้นส่วน" เอริคยื่นมือออกมา
แบรี่ ดิวเลอร์ ยิ้มและยื่นมืออกไปจับ ทั้งสองผ่ายได้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว เหลือแต่เพียงการลงนามในสัญญาเท่านั้น
.......
"เฮ้ เอริคฉันคิดถึงคุณ" เอริคที่เดินกลับไปห้องโถงจัดเลี้ยง นั้นเห็นร่างในชุดสีเขียวพุ่งตรงเข้ามาในอ้อมอกเขา
เมื่อได้ยินเสียงเด็กสาวเต็มไปด้วยความเร่าร้อนดังขึ้น เสียงนั้นนั้นดึงดูดสายตาของคนจำนวนมากในห้องโถงจัดเลี้ยง
เอริครีบหยุดเธอ ก่อนที่เธอจะทำอะไรอย่างอื่น "ดรูว์ คุณออกมาได้ยังไงแล้วการบำบัดของคุณล่ะ ?"
"จริงๆฉันควรถูกปล่อยตัวออกมาพรุ่งนี้ แต่ฉันได้ยินว่าคุณมางานเลี้ยงนี้ ฉันก็เลยขออกมาก่อน"
"ครูว์ คุณเพิ่งออกมาจากสถานบำบัด ไม่ควรจะดื่มนะ"
"บริกรจะเสริฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฉันได้ยังไง ? ฉันเป็นแค่เด็กอายุสิบสามนะ " ดรูว์มองเขาอย่างแปลกประหลาด
เอริคก็นึกขึ้นได้ว่า มีเรื่องแบบนี้ในอเมริกา ตามกฎหมายคุณจะดื่มได้ต้องอายุสิบแปดขึ้นไป
และงานเลี้ยงนี้ก็จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังอย่างฮิลตัน แน่นอนว่าพวกเขาต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว
ประเทศที่เอริคอยู่ในอดีตนั้น ผู้ใหญ่มักจะสนับสนุนให้เด็กอายุราวๆ 7-8 ปี ดื่มเหล้านิดๆหน่อย เพราะเชื่อว่าเป็นลางดี
อย่างไรก็ตามเขาก็ตายเพราะดื่มหนัก แม้จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายในความคิดของเอริค คนในประเทศทางตะวันตก มักจะดื่มมากกว่าในประเทศตะวันออก
" นี่เอริค พวกเราไม่ได้เจอกันเลยทั้งอาทิตย์ ฉันได้ข่าวมาว่าคุณจะเกษียณก่อนกำหนดจริงรึเปล่า? " เพนนี มาร์แชล หัวเราะเบาๆขณะเดินมาหา ดรูว์และเอริค
เอริคหยิบแก้วไวน์มาจากถาดเสิร์ฟพร้อมยิ้มแล้วพูดว่า "จะเป็นงั้นได้ไงเล่า ผมเพิ่งจะ 18 ไม่ใช่ 80 จะเกษียณได้อย่างไรกัน ผมเพิ่งจะเขียนต้นฉบับนวนิยายเรื่องใหม่เสร็จเอง "
"นวนิยายเรื่องใหม่? ฉันอยากเห็น ฉันอยากเห็น!" เพนนี มาร์แชลยังไม่ทันตอบ ดรูว์ก็ดึงแขนเสื้อเอริคแล้วพูดขึ้น
เพนนี มาร์แชลกล่าว "นี่ดรูว์อย่าทำตัวแบบนั้น เอริคจะไม่ชอบคุณ เขาดูเหมือนจะชอบคนที่มีมารยาทดีนะ"
"ไม่มีทางอ่ะ" ดรูว์ตอบ "อนิสตันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีมารยาทที่ดีซะหน่อย เอ๋? ดูเหมือนยัยสาวไซต์ยักษ์นั้นจะไม่ได้มาด้วย ? ฮิฮิ เอริคพวกคุณเลิกกันแล้วหรอ ? "
เอริคเคาะหัวเธอ "มีเรื่องบางอย่างในคืนนี้ แอนนี่เลยมาด้วยไม่ได้ พวกเราจะเลิกกันได้ไง?
ผมจะแสดงความรักกับเธอวันอื่นๆ "
"เอริค คำพูดของคุณทำให้ฉันเจ็บปวดมาก" ดรูว์ลูบลงบนหัวเล็กๆของเธอในขณะเบ้ปากลง
..........
"ทางนี้ " เพนนี มาร์แชลพาเอริคและดรูว์มาใกล้โต๊ะยาวและแนะนำตัว "นี่คือเอลิซาเบธ เพอร์กินส์ นักแสดงหญิงเรื่อง BIG และนี่คือคนที่คุณต้องคุ้นเคย ทอม แฮงค์"
"สวัสดีครับ ผมเอริค วิลเลี่ยม" เอริคบอกกับทั้งสองคน "คุณแฮงค์ ผมรักการแกล้งแสดงเป็นเด็กของคุณใน BIG มากคุณทำแบบนั้นได้ยังไง ?"
ทอม แฮงค์กล่าวด้วยรอยยิ้มถ่อมตน "โปรดเรียกผมว่าทอมเถอะ เอริค ส่วนเรื่องที่คุณอยากรู้ต้องถามเพนนีดู..."
เมื่อประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมา เพนนีรู้สึกภูมิใจเล็กน้อยและได้อธิบายว่า "ตอนที่เราถ่ายทำกัน ฉันปล่อยให้เด็กที่เล่นบท จอร์ชตอนเด็ก ที่ชื่อ เดวิด มอสโก ลองเล่นตามบทหนัง(ตอนเป็นวัยผู้ใหญ่) และจากนั้นก็ให้ทอมลองทำท่าเลียนแบบดู ในขณะเดียวกันเดวิด
ก็ได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากทอม พูดจริงๆนะ ถ้าเดวิดอายุน้อยกว่าสิบปี เขาสามารถเล่นบทเควินใน Home Alone ได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เอริค คุณมีแผนสำหรับภาคต่อหรือยัง?"