Chapter 41 – อย่าทำหก
หลังจาก 6 โมงเย็น ทีมงานของ Home Alone ก็ได้มาที่บ้านของ เอริค
มันมืดตอนที่ เอริค กลับมาที่ห้องนั่งเล่น หลังจากที่คุยกับ เชฟวาเนสซ่า แล้ว เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่านอกจากทีมงานหนังแล้วก็ยังมีสาวๆกว่าสิบคนมาร่วมงานด้วย
“ เจฟฟี่ สาวๆพวกนี้มาจากไหน ? “ - เอริค ไปหา เจฟฟี่แฮนสัน ก่อนจะถามออกมาด้วยความสงสัย
เจฟฟี่ ยิ้มออกมาและพูดขึ้น – “ หลังจากที่หนัง Home Alone ไปได้ด้วยดี นิโคลแฟรงค์ ได้ถูกจ้างเป็นผู้จัดงานเลี้ยงและตอนที่สาวๆได้ยินว่าคุณจะจัดงานเลี้ยง พวกเธอเลยตามเขามาที่นี่ด้วย สำหรับเหตุผลว่าทำไม คุณคงไม่ต้องให้ผมอธิบายสินะ “
เอริค ยิ้มออกมา สาวๆพวกนี้ชัดแล้วว่ามาที่นี่เพราะเขา แต่เขาไม่ได้รังเกียจ ทีมงาน Home Alone ส่วนมากก็เป็นผู้ชายซึ่งทำให้งานเลี้ยงนี้น่าเบื่อ
เขาเดินไปที่กลางห้องและปรบมือเพื่อเรียกแขก – “ ทุกคน ฟังผมหน่อยนะ ผมมีไม่กี่อย่างที่จะพูด “
ไม่นานห้องนั่งเล่นก็เงียบลงไปและทุกคนต่างก็หันไปมอง เอริค
“ อย่างแรกเลยผมหวังว่าพวกคุณจะมีค่ำคืนที่ดี งานเลี้ยงวันนี้เพื่อฉลองกับความสำเร็จของ Home Alone ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะผมแต่ต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนที่นี่ด้วย ถ้าไม่มีพวกคุณ ผมคงไม่ประสบความสำเร็จเร็วแบบนี้ ผมอยากจะขอบคุณพวกคุณทุกคน “
เขาพูดจบและโค้งให้กับผู้คนเล็กน้อย คนอื่นๆต่างก็พากันปรบมือให้
เอริค ยกมือขึ้นเพื่อให้คนอื่นๆเงียบ จากนั้นก็พูดขึ้น – “ แน่นอนว่าแค่ขอบคุณง่ายๆคงไม่ได้ Home Alone สำเร็จอย่างมากในบ็อกออฟฟิศและนั่นก็เพราะความพยายามของพวกคุณทุกคน ดังนั้นผมจึงเตรียมโบนัสให้กับทุกคนไว้ ผมหวังว่าพวกเราจะมีโอกาสในการทำงานด้วยกันอีกในอนาคต “
เมื่อพูดจบ เขาและ แฮนสัน ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน เอริค ได้เขียนชื่อของพวกเขาลงไปล่วงหน้าเพื่อไม่ให้สลับกัน
เช็คนั้นมีค่าตั้งแต่ 2 แสนดอลไปถึง 5 แสนดอลลาร์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและการมีส่วนร่วม แม้ว่าจะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายได้ของหนังแต่นี่เท่ากับค่าแรงหลายปีของทีมงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดของอุตสาหกรรมหนัง เงินที่พวกเขาได้ปกติมักจะอยู่ที่หลักหมื่นเท่านั้น
แน่นอนว่า เอริค ไม่ได้ลืมตัวละครหลักแต่ส่วนแบ่งนี้มันมากกว่าและมันรอได้จนกว่าเขาจะได้ส่วนแบ่งจากโคลัมเบีย
บางคนอาจจะคิดว่าการถ่ายหนังเสร็จสิ้นแล้วและคนอื่นๆอาจจะได้รับสิ่งที่พวกเขาควรที่จะได้รับแต่ทำไม เอริค ถึงได้ให้เงินก้อนใหญ่นี้ ? แม้ว่าจะไม่ได้ทำสัญญาเอาไว้แต่มันก็มีกฎในธุรกิจนี้และการให้ส่วนแบ่งแบบนี้ให้กับทีมงานหลังจากที่ทำถึงเป้าได้แบบนี้ก็คือหนึ่งในกฎนั้น
ในอดีตเพราะรายได้ของหนัง ไททานิค ในช่วงแรกนั้นน้อย ส่วนแบ่งของ เจมส์คาเมรอน ตอนแรกเลยลดลงแต่เมื่อหนังโด่งดังอย่างไม่คาดคิดจน Fox ทำกำไรได้ เขาก็ได้รับรางวัลไปมากมาย
หลังจากที่แจกจ่ายเช็คแล้ว เอริค ก็ได้ประกาศเริ่มงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการและพา เจฟฟี่แฮนสัน ออกมา
“ เจฟฟี่ นี่สำหรับคุณ มันควรจะพอในการไถ่ถอน Firefly “ - เมื่อทั้งสองคนมาถึงระเบียงชั้นสอง เอริค ก็ได้ส่งมันให้กับ เจฟฟี่ เช็คมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ มันเป็นสิ่งที่ชายวัยกลางคนนี้สมควรได้รับ ถ้าไม่มีเขา การถ่าย Home Alone คงไม่ราบรื่นแบบนี้
เจฟฟี่ รับมันไว้และสะบัดมันอยู่หลายครั้งก่อนที่จะส่งมันคืนให้ เอริค อย่างไม่ลังเล
“ หือ ? “ - เอริค สับสนขึ้นมา
“ เอริค ผมคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้วและแม้ว่าผมจะได้ Firefly กลับมาแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะเติบโตไปตามที่ โซลิน่า ต้องการ ดังนั้น...ผมมีเรื่องขอร้อง “
เอริค หัวเราะออกมา – “ เจฟฟี่ คุณจะลังเลทำไม ? บอกมาเลย “
“ คุณบอกว่าคุณจะเริ่มสร้างบริษัทถ่ายหนัง ให้ผมทำด้วย ผมอาจจะไม่ใช่นักแสดงที่ดีแต่ผมเองก็เป็นโปรดรูว์เซอร์ได้ “
เอริค ยักคิ้วด้วยความแปลกใจ จริงๆแล้วเขาก็คิดเรื่องนี้ไว้อยู่ เขาเองก็ต้องการเอาทีมงานทั้งหมดของภรรยา เจฟฟี่ มาเป็นของเขา
แต่เขารู้สึกว่าชายคนี้คงไม่ปล่อยให้บริษัทของภรรยาทิ้งและด้วยความสำเร็จของ Home Alone เอริค คงไม่มีปัญหาอะไรกับการหาคนใหม่ ดังนั้นเขาจึงเลิกคิดเรื่องนี้ไป
แต่ตอนนี้ เจฟฟี่ กลับเสนอมันขึ้นมาเอง
“ เจฟฟี่ เอาจริงๆนะผมก็อยากให้คุณมาอยู่ด้วยและช่วยผม แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากเสีย Firefly ไป ผมเลยไม่ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ”
เจฟฟี่ ฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและคำพูดของเขาก็แสดงความเข้าใจออกมา – “ เอริค จริงๆแล้วมันไม่ใช่ความต้องการหลักของผมหรอก สิ่งที่ผมหวังคือ...บริษัทของคุณเองก็จะตั้งชื่อว่า Firefly ด้วย ผมรู้ว่าขอมากเกินไปหน่อยแต่....ผมจะช่วยคุณในฐานะโปรดรูว์เซอร์...ผมจะไม่เอาหุ้นส่วน แค่ค่าจ้างก็พอ ผมหวังว่าคุณจะลองเอาไปคิดดู... ”
เอริค ตระหนักได้ว่าชายคนนี้ไม่ยอมปล่อยสตูดิโอของภรรยาเขาไป เขาแค่ลองใช้วิธีอื่นเท่านั้น
มันทำให้เขาตื้นตันเล็กน้อยและ เอริค ก็รีบตัดสินใจ มันก็แค่ชื่อ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก แต่เดิมแล้วเขาคิดว่าจะเอาชื่อของพวกดิสนีย์, วาเนอร์,รึฟ็อกซ์มาตั้งชื่อตามด้วย วิลเลียม แต่นี่ก็ดี
อย่างน้อยมันก็มีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังชื่อนี้
“ ไม่มีปัญหา เจฟฟี่ ผมจะตั้งชื่อว่า Firefly ผมเองก็ค่อนข้างชอบชื่อนี้เหมือนกัน “
เจฟฟี่ ยกมือขวาขึ้นมาเล็กน้อย เขาคิดเรื่องการกล่อม เอริค แต่ตอนที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาถามออกมาด้วยสีหน้าตะลึง – “ เอริค คุณ...คุณว่าไงนะ ? ”
“ แน่นอนว่าผมตกลง “
“ นั่น....ขอบคุณมาก เอริค ผมจะทำงานเพื่อคุณ ผม... ” – เจฟฟี่ ไม่รู้ว่าจะแสดงความขอบคุณออกมายังไง เขาอ้าแขนแล้วกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
เมื่อแยกกันแล้ว อีกริค ก็ได้คืนเช็คให้กับอีกฝ่าย – “ มันก็แค่ชื่อ เจฟฟี่ ผมไม่ปฏิเสธคุณอยู่แล้ว งั้นก็เอานี่ไป นี่ก็เพราะคุณ “
เจฟฟี่ ชั่งใจจนสุดท้าย เอริค ก็เอาเช็คไว้ในกระเป๋าของเขา – “ เจฟฟี่ แม้ว่าเราจะอายุต่างกันแต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน และอย่างที่ผมบอก ไม่ใช่แค่ว่ามันเป็นแค่ชื่อรึไง ? รับเช็คนี่ไป นี่คือค่าตอบแทนสำหรับงานของคุณ งั้นก็หยุดงี่เง่าซะ ผมต้องการให้คุณช่วยสร้างปาฏิหาริย์อีกเยอะ “
หลังจากที่โดนกล่อมอีกรอบ เจฟฟี่ ก็รับเช็คไป ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องสตูดิโอและจากนั้นก็ได้กลับไปที่งานเลี้ยง เอริค ได้ประกาศก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาชื่อ Firefly และเมื่อผู้คนได้ยิน หลายคนต่างก็พากันดีใจ
พวกเขาน่ะมองไปที่เงินโบนัสที่ เอริค ให้มาและคาดหวังกับเขาไว้สูงแต่ทีมงาน ที่เหลืออยู่นั้นต่างก็รู้ว่า เจฟฟี่ ต้องการเก็บ Firefly ไว้ ส่วนมากตัดสินใจติดตามชายคนนี้ต่อ ส่วนคนอื่นนั้นรู้สึกว่า เอริค บังคับมากกว่า
แต่เมื่อทั้งสองกลุ่มได้ทำการตัดสินใจแล้วพวกเขาก็น่าคาดหวัง บรรยากาศในงานเลี้ยงดูอบอุ่นขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันโล่งใจ
.……
ในตอนที่หัวเราะกับช่างภาพ นิโคลแฟรงค์ เอริค ก็ได้หันกลับมา ตอนที่เขาเห็นเด็กสาวที่ใส่ชุดสีแดงเดินเข้ามาหาเขาที่ซึ่งกำลังจะเดินออกไปและตัดสินจากทิศทางแล้ว เธอคงชนเขาก่อนแน่ๆ
“ หยุด “ - เอริค ตะโกนพร้อมรอยยิ้ม เขายกมือซ้ายขึ้นเพื่อหยุดเธอ
เด็กสาวหยุดเดินและยืนนิ่งด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนโดยห่างจากเขาไปหนึ่งเมตร ไวน์บางส่วนหกออกมาจากแก้วของเธอ เพราะการเคลื่อนไหวของเธอที่อยู่ๆก็หยุดเดิน หน้าของเธอเต็มไปด้วยความเขินอายจากที่เห็น
“ สาวน้อยคนนี้ ถ้าเธออยากหาเรื่องคุย เธอก็มาสวัสดีเลยก็ได้ อย่าทำไวน์หกใส่ผมสิ นี่ชุดสุดท้ายของผมแล้วนะ ถ้าเธอทำมันเลอะ ผมคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแก้ผ้าต่อหน้าทุกคนซึ่งมันคงน่าอายมากแน่ๆ “
เด็กสาวที่ตอนแรกรู้สึกแย่ก็เริ่มหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น – “ คุณวิลเลียม คุณนี่คุยสนุกจริงๆ “
“ แน่นอน ผมน่ะฝึกมาเพื่อดึงดูดความสนใจจากสาวสวย “ - เอริค เล่นมุข – “ งั้นเธอคือ... ”
“ คุณเรียกฉันว่า ลูซี่ ก็ได้ คุณวิลเลียม “
“ ลูซี่ เป็นชื่อที่ดี ไปคุยกันตรงนั้นกัน “ - เอริค ชี้ไปที่ว่างที่อยู่ไม่ไกล เพื่อที่จะสลัดสาวๆคนอื่นๆ เอริค จึงเลือกคู่ของเขาชั่วคราว
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ถ้า แอนนี่ เด็กสาวดื้อด้านอยู่ที่นี่ด้วย เขาคงไม่มีปัญหาพวกนี้ เขาสงสัยว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ จากที่เวลาทางตะวันออกและตะวันตกนั้นต่างกัน ตอนนี้ที่นิวยอร์คน่าจะเป็นตอนเช้า