px

เรื่อง : Seized by the System
ตอนที่ 3: ระบบทำการปล้นสะดม


[ระบบได้พบอาชญากร: หวังฮง]

[เมื่ออีกฝ่ายโจมตีใส่ระบบด้วยมีดสั้น ระบบจึงได้ใช้หมัดตัดขั้วโจมตีสวนกลับไปที่หน้าอกของเขา หวังฮงไม่มีพลังป้องกันที่สูงมากนัก จึงเกิดการโจมตีคริติคอลขึ้น! โดยไม่สนพลังป้องกันของอีกฝ่าย!]

[หวังฮงได้รับดาเมจ 225 หน่วย (DMG)]

[หวังฮงตายแล้ว!]

[ระบบได้รับ Exp 100 แต้ม โดยอีก 400 แต้มระบบถึงจะเลื่อนเลเวล]

‘เชี่ยแล้ว! ฉันเพิ่งฆ่าคนตาย’ ฟางหนิงตื่นตกใจ เมื่อเขาเห็นการแจ้งเตือนจากระบบ ทั้งๆที่เขาเพิ่งฆ่าคนเป็นครั้งแรก แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เมื่อเห็นเลือดในครั้งแรกแบบนี้ล่ะ!

หลังจากที่เขาขบคิด บางทีอาจเป็นเพราะจริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่มันเป็นเพราะว่าระบบควบคุมร่างกายของเขาฆ่าผู้ชายคนนี้ต่างหาก เขาเป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้นเอง เหมือนเช่นเดียวกับพวกไทยมุงที่เวลาเจออุบัติเหตุต่างๆ ก็มักจะชอบมายืนดูกันโดยที่ไม่กลัวเลือดเลย ทั้งๆที่มันอาจจะมีเลือดมากกว่านี้อีก!

นอกจากนี้ฟางหนิงยังรู้สึกว่า การมีระบบควบคุมร่างกายก็ดีไปอีกอย่าง ปัจจุบันนี้เขาแทบไม่สามารถต่อสู้หรือฆ่าใครได้เลย เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและลื่นไหลได้แบบนี้ ถ้าเขาสามารถใช้พลังของระบบได้สัก 30% แล้วล่ะก็ เมื่อเขาต้องเผชิญกับวิกฤติที่รุนแรง รับรองได้เลยว่า เขาแทบไม่ตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน

ฟางหนิงไม่ได้รับผลกระทบจากการตายของหวังฮงเลย เพราะเขารีบหาเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองว่า เขาแค่เพียงป้องกันตัวเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม เขากลับรู้สึกประหลาดใจมาก ที่เห็นหญิงสาวที่ระบบได้ช่วยเหลือไว้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สะทกสะท้าน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้เลย

หญิงสาวยกมือถือของเธอถ่ายร่างชายอ้วน จากนั้นมือถือของเธอก็หันมาทางฟางหนิง!

ฟางหนิงรู้สึกตัวว่ากำลังโดนเธอถ่ายรูปอยู่ เมื่อตอนมีแสงเฟลชกระพริบมาที่เขา จากนั้นหญิงสาวก็กวาดนิ้วไปบนมือถืออย่างรวดเร็ว เธอก้มหัวลงและจดจ้องอยู่ที่หน้าจอมือถืออย่างจริงจัง โดยเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเลย

ด้วยสายตาที่คมกริบและความสูงที่เกินปกติของเขา ฟางหนิงสามารถมองเห็นหน้าจอมือถือของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน เขารู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นข้อความในนั้น ‘ผู้หญิงคนนี้กำลังโพสสถานะลงในเว่ยป๋ออยู่ข้างๆศพนี่นะ!’

ทันใดนั้น ก็มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นต่อหน้าเขา

ระบบควบคุมร่างกายของเขาเดินเข้าไปหาศพชายอ้วน เหมือนเช่นว่าไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุ จากนั้นมือของเขาก็กำลังจะแตะศพ

“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ! หาถุงมือหรืออะไรก็ได้ใส่ก่อนสิ ถ้าขืนยังทำแบบนั้น มันจะทิ้งลายนิ้วมือเอาไว้ได้!” ฟางหนิงรีบตะโกนเตือนระบบอยู่ในใจ

เป็นอีกครั้งที่ระบบได้ฟังข้อมูลของเขาและเลือกที่จะทำตาม จากนั้นเขาก็เห็นระบบดึงถุงพลาสติกสองใบจากในกระเป๋ากางเกงมาห่อไว้รอบๆมือ ถุงพลาสติกเหล่านี้อาจจะเป็นระบบยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เมื่อตอนเขาทำความสะอาดห้อง หลังจากนั้น เขาก็เห็นระบบก้มตัวลงและค้นไปทั่วศพ

ในที่สุดเขาก็เห็นการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมา ฟางหนิงอยากร้องไห้อย่างมาก เมื่อเห็นการกระทำของระบบแบบนี้

ตอนนี้เขาเข้าใจเจตนารมณ์ของระบบแล้ว!

ถ้าคำสั่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของระบบคือการมีชีวิตรอด ทำไมมันถึงไม่เลือกที่จะนอนหลับและพักผ่อนอยู่เฉยๆ หลังจากที่ทำความสะอาดห้องและเหนื่อยล้าจากการวิ่งล่ะ!? แต่มันกลับเลือกที่จะเดินออกมาตั้งไกล เพื่อมาต่อสู้กับความอยุติธรรม?

[ระบบใช้กรงเล็บมังกรครามตรวจสอบ เพื่อค้นหาสิ่งของในร่างของอาชญากรหวังฮง ระบบได้พบเงิน 4250 หยวน, ไอโฟน 7 หนึ่งเครื่อง, บัตรเดบิต 2 ใบ, สร้อยคอทองคำ 1 เส้น, แหวนทอง 1 วง ... ]

‘โอ้ ระบบต้องรู้จากหน่วยความจำของฉันว่า ในตอนนี้ฉันมีเงินเพียงแค่ 850 หยวนที่เหลืออยู่ในบัตรเดบิตเท่านั้น และมันก็ยังรู้ดีอีกว่า ฉันต้องหาเงินมาจ่ายค่าเช่าห้องในวันพรุ่งนี้ แต่เงินเดือนของฉันจะออกในอีกสองวัน!’

ฟางหนิงพูดอะไรไม่ออก การที่ร่างของเขาถูกระบบยึดครอง มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรไปเสียหมด อย่างน้อยนี่ก็เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาเกิดมา ที่มีคนดูแลเอาใจใส่เขาอย่างจริงจัง นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครบางคนต้องการที่จะทำให้เขามีเงินใช้!

เนื่องจากเหตุผลที่สำคัญบางอย่าง เขาไม่ได้มีเงินเก็บมากนัก แม้ว่าเขาจะเริ่มทำงานมาตั้งแต่วัยเด็กและได้รับเงินเดือนที่เหมาะสม แต่เขามักจะดิ้นรนหาเงินในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนที่เงินเดือนจะออกอยู่เสมอ

หลังจากที่ระบบใช้มือล้วงไปทั่วร่างกายหวังฮงแล้ว ฟางหนิงก็พบว่าตัวเองได้รับตัวเลือกการสนทนาจากระบบอีกครั้งหนึ่ง

[ระบบได้ช่วยหญิงสาวผู้อ่อนแอจากอาชญากรหวังฮง ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะบอบช้ำทางจิตใจอย่างมาก จนอาจเกิดการช็อคขึ้นมาได้ ดังนั้นคุณควรจะทำบางอย่าง ให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ... ]

“ไม่เอาหน่า คุณระบบ ฉันรู้สิ่งที่นายกำลังคิดอยู่นะ นายไม่ได้ต้องการทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจหรอก แต่นายอยากได้รับค่าตอบแทนที่นายช่วยเหลือเธอต่างหากล่ะ และนายก็ยังเข้าใจผิดด้วย เธอไม่ได้อยู่ในอาการช็อคหรอกนะ เธอเพียงแค่ก้มหน้าเล่นมือถือมากเกินไปเท่านั้น”

ฟางหนิงกำลังลุ้นว่า จะมีตัวเลือกใดปรากฏขึ้นมา เมื่อเห็นร่างของเขาขยับเข้าไปใกล้ผู้หญิงมากขึ้น และในที่สุด ก็มีสามตัวเลือกจากระบบปรากฏขึ้นในใจของเขา

[ตัวเลือกที่ 1: คุณปลอบโยนเธออย่างนุ่มนวลและพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว คุณต้องการให้ผมไปส่งคุณกลับบ้านไหมครับ! คุณอาศัยอยู่ที่ไหน?”]

[ตัวเลือกที่ 2: คุณเอามือถูกันไปมาและหัวเราะเบาๆ “ชีวิตของคนเรามีค่ามหาศาล คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่ามากแค่ไหน?”]

[ทางเลือกที่ 3: คุณเดินเข้าไปหาเธอและรู้สึกผิดหวังมาก เมื่อคุณเห็นว่าเธอยังคงเล่นมือถืออยู่ โดยที่ไม่สนใจผู้ช่วยชีวิตของเธอเลย จากนั้นคุณก็หันหลังกลับและเดินออกไปจากจุดที่เกิดเหตุ]

‘นั่นไง! ทฤษฎีของฉันถูกต้อง’ จากนั้นฟางหนิงก็กลับไปวิเคราะห์ตัวเลือกทั้งหมด เห็นได้อย่างชัดเจนว่า 2 จาก 3 ตัวเลือกที่ระบบให้ไว้ แฝงไปด้วยการขอค่าตอบแทน ถึงแม้ว่าฟางหนิงจะไม่ต้องการให้ระบบทำงานฟรี แต่ยังไงซะ ความปลอดภัยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขาเพิ่งฆ่าคนไป แทนที่หลังจากขโมยทรัพย์สินจากศพแล้ว ควรจะรีบหนีออกไปให้พ้นจากที่เกิดเหตุ แต่ระบบงี่เง่านี้ก็ยังคงต้องการที่จะขอเงินจากผู้หญิงอีก! ‘อืมๆ ดูท่าระบบจะยังไม่ค่อยฉลาดในการวิเคราะห์สถานการณ์’

หลังจากที่ฟางหนิงกำลังคิดอยู่ในใจ เขาก็เลือกตัวเลือกที่ 3

ในขณะที่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น แต่เฉ่าหยิงผู้เสพติดมือถือและเว่ยป๋ออย่างรุนแรง ก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งที่ฟางหนิงกำลังทำอยู่เลย สิ่งเดียวที่เธอตระหนักได้ในตอนนี้ก็คือว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสดีสำหรับเธอ ที่จะก้าวกระโดดไปสู่การเป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมในเว่ยป๋อ

“นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และก็เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเลย ชายอ้วนในภาพเป็นเพื่อนที่ฉันรู้จักผ่านทางแชท และเขายังต้องการที่จะข่มขืนฉันในระหว่างการพบกันครั้งแรกของเรา แต่ผู้ชายที่หล่อเหลาคนนี้ได้เข้ามาช่วยฉันเอาไว้ โดยเขาต่อยชายอ้วนจนหมดสติไปเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น และตอนนี้ชายอ้วนก็กำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้น”

โพสที่มีรูปภาพชายหล่อเหลาเหมือนพระเอกหนังเข้ามาช่วยหญิงสาวจากอันตราย โพสแบบนี้อาจดึงดูดผู้คนจำนวนมากได้ ถึงแม้ว่าเครื่องแต่งกายของเขาจะดูซอมซ่อก็ตาม เพราะในความจริง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะสังคมสมัยนี้มีแต่คนเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น!

หลังจากที่เธอโพสไปได้เพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็มีคอมเม้นท์หลายร้อยข้อความเข้ามา และมีคนกดไลค์มากถึง 1,000 คน นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับเธอ และมันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจมาก

“เขาเป็นชายที่หล่อเหลาจริงๆด้วย มันหายากมากสำหรับคนแบบนี้ @xxx @xxxx @ xxxxx ... รีบมาดูโพสนี้เร็วๆเข้า และมาช่วยชื่นชมผู้ชายที่หล่อเหลาคนนี้หน่อย”

“โอ้! เขาหล่อเหลาจริงๆด้วย หรือว่าเขาจะเป็นดาราคนหนึ่ง? แต่เขาดูผอมเกินไปนะ ...”

“ด้วยเสื้อผ้าที่เขาใส่ มันอาจทำให้ดูเหมือนว่าเขาผอมมาก แต่เมื่อเขาถอดเสื้อออกแล้ว เขาต้องมีร่างกายกำยำและแข็งแรงมาก”

เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ ฟางหนิงก็ใช้สายตาที่คมกริบของเขา มองสแกนผ่านหน้าจอมือถือของเธอและอ่านเนื้อหาในเว่ยป๋อ ในที่สุดเขาก็รู้ว่า เธอกำลังทำอะไรอยู่

‘อ่า นี่เป็นสาเหตุที่เธอไม่วิตกกังวลใดๆเลย เธอคิดว่าชายอ้วนแค่หมดสติไป ดีแล้วที่เธอเข้าใจผิดแบบนี้ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้เป็นพวกหมอหรือตำรวจ เธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่สามารถระบุคนหมดสติหรือคนตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคนดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่เมื่อหลายนาทีก่อน

อย่างไรก็ตาม ฟางหนิงรู้ว่าทุกคนไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไปเหมือนกันหมด ในไม่ช้าความจริงจะถูกเปิดเผยจากคนที่มีความรู้และมีประสบการณ์สูง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมต่างๆบนโลกอินเทอร์เน็ต

โชคดีที่ระบบยังคงทำตามตัวเลือกที่เขาได้เลือกไว้อยู่ ระบบแสดงสีหน้าผิดหวัง หลังจากที่มันเห็นว่าผู้หญิงยังคงเล่นมือถือของเธออยู่ โดยที่ไม่สนใจมันเลย มันจึงเลือกที่จะเดินจากไป แต่ช่วงเวลาที่ระบบเดินผ่านเฉ่าหยิงไป จู่ๆเขาก็สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดในโพสของเธอ

“เป็นเรื่องแล้ว! เธอควรจะรีบวิ่งหนีไปในตอนนี้เลย และอย่าหันกลับมามองนะ!”

“เธอไม่รู้สึกหรือว่า เจ้าอ้วนที่นอนอยู่บนพื้นดูเหมือนว่าจะ ... ตาย? @เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพหลินชง”

“ใช่แล้ว! ฉันก็ไม่คิดว่าเขากำลังนอนหมดสติอยู่หรอกนะ เธอต้องรีบออกจากสถานที่นั้นให้เร็วที่สุด ตอนนี้ฉันได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว สังเกตง่ายๆนะ จากในรูปของเธอ เจ้าอ้วนคนนั้นนอนตาค้างอยู่ ถ้าเป็นคนหมดสติจริง เขาต้องหลับตาลงสิ เขาต้องตายแล้วแน่ๆ @สถานีตำรวจ XXXX”

เฉ่าหยิงกลัวจนตัวสั่น เมื่อเธออ่านความคิดเห็นเหล่านี้ เธอดึงตัวเองกลับเข้าสู่โลกความเป็นจริง เธอไม่ได้จดจ่ออยู่ที่เว่ยป๋อบนมือถืออีกต่อไปแล้ว เธอชำเลืองมองไปที่ชายอ้วน ในความไม่เชื่อว่าเขาจะนอนตายห่างจากเธอเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ใบหน้าของชายอ้วนยังคงน่ากลัวอยู่ดี แต่เขาดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อดวงตาของเขาเปิดกว้างอยู่ ทั่วทั้งตัวของเขาไม่ไหวติงเหมือนโดนแช่แข็งไว้ เขาไม่ได้ดูมีชีวิตชีวาเลย

หลังจากที่เธอสังเกตบริเวณรอบๆก็พบว่า ฮีโร่ของเธอหายไปแล้ว! ในตอนนี้เธออยู่ตามลำพังกับซากศพ และเมื่อมีสายลมอ่อนๆโชยมากระทบผิวของเธอ เธอขนลุกขึ้นมาทันที จนทำให้สถานที่แห่งนี้ มันดูน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม!

“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ! มีคนตาย!” เธอกรีดร้อง ขณะที่เธอวิ่งเข้าไปในที่ที่สว่างมากที่สุด เท่าที่เธอจะสามารถทำได้

...

ฟางหนิงวิ่งหนีออกไปไกลจากที่เกิดเหตุแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนนั้น เขาถึงกลับถอนหายใจออกมา ‘ในที่สุด ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อฉันอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุตั้ง 200 เมตรนี่นะ! เธออาจจะรู้สึกตัว หลังจากที่เธออ่านความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางออนไลน์ ดูเหมือนว่าสติปัญญาของเธอจะมีน้อยกว่าระบบอีกนะ’

ฟางหนิงไม่คิดสนใจเธออีกต่อไป เขากลับมาสนใจกับร่างกายของตัวเองต่อ หลังจากที่เขาเตือนให้ระบบนำร่างของเขาไปหาสถานที่ที่เงียบสงบและไม่มีผู้คน เพื่อหลบการปลอมตัวออกก่อน จากนั้นค่อยกลับห้องเช่า โดยใช้เส้นทางสายใหม่

‘หือ!? ทำไมฉันถึงวิ่งเร็วขนาดนี้?’ ฟางหนิงรู้สึกว่าเขาเร็วกว่าตอนที่เขาขี่มอเตอร์ไซด์เสียอีก ‘หรือว่าระบบจะใช้วิชาตัวเบาในขณะวิ่ง?’

น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เห็นการแจ้งเตือนใดๆจากระบบเลย

หลังจากกลับมาถึงห้องเช่าแล้ว เขานั่งหอบหายใจอยู่เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ฝางหนิงก็ยังคงไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้อยู่ดี เขาทำได้แค่วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่พบเจอมาทั้งหมด เขาค้นพบว่าระบบจะฟังคำแนะนำของเขา ตราบเท่าที่มันสามารถเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของระบบได้

หากเป็นกรณีนี้ ระบบอาจคืนการควบคุมร่างกายให้เขาในสักวันหนึ่ง เมื่อระบบรู้สึกว่าเขาอาจจะสามารถเอาตัวรอดได้ดีกว่ามัน

หนึ่งในจุดแข็งที่ฟางหนิงมีก็คือ การเป็นคนมองโลกในแง่ดี ตอนนี้เขาใช้พลังความคิดของเขาเพื่อค้นหาทางเลือกใหม่สำหรับการใช้ชีวิตให้กับตัวเอง

ระบบควบคุมร่างกายฟางหนิงไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ฟางหนิงกำลังคิดว่าระบบจะเลือกนอนหลับ และในที่สุดเขาก็จะสามารถกลับมาควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกครั้ง แต่จู่ๆเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนใหม่จากระบบ

[ระบบได้ตัดสินใจที่จะฝึกการโคจรพลัง]

ฟางหนิงรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง สิ่งต่อไปที่เขาเห็นก็คือ ระบบนั่งลงบนเตียงโดยการเอาขาทั้งสองข้างไขว้กัน และชูฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นบนฟ้า ราวกับกำลังนั่งสมาธิในหนังจีน

“เอาล่ะ นายชนะ” ฟางหนิงบ่น จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงการไหลเวียนของพลังงานบางอย่างที่อบอุ่นเกิดขึ้นที่ท้องน้อย จากนั้นพลังงานก็แยกออกเป็นสี่สาย โดยไหลลงข้างล่างสองสาย ผ่านไปยังขาจนไปถึงปลายเท้าทั้งสองข้าง และไหลขึ้นข้างบนอีกสองสาย ผ่านหน้าอกทั้งซ้ายและขวาจนไปถึงปลายมือทั้งสองข้าง เมื่อพลังงานไหลไปจนสุดปลายมือและปลายเท้าทั้งสองข้างแล้ว มันก็ไหลย้อนกลับไปยังท้องน้อยของเขาอีกครั้ง

มันดำเนินวงโคจรแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รีวิวผู้อ่าน