px

เรื่อง : Seized by the System
ตอนที่ 21 : ระบบครอบคลุมทุกอย่างแล้วหรือยัง?


ถึงแม้นี่จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ฟางหนิงก็ต้องรับคำเชิญไปงานเลี้ยงในการเปิดตัวของเม็ดยามหัศจรรย์อยู่ดี

“ตกลง ฉันต้องให้เกียรติประธานโจวด้วยความเคารพอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าปกติแล้ว ฉันจะไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นก็ตามที”

“เยี่ยมมาก! นี่ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะได้รับการตอบตกลงจากคุณเลยนะเนี่ย ฉันต้องขอบคุณประธานฟางจริงๆที่ไว้หน้าฉัน!” ประธานโจวที่นั่งอยู่ตรงหน้าจออีกฝั่งหนึ่ง กำลังยินดีกับข่าวที่ได้รับ

เขารู้ว่าคนมีชื่อเสียงคนนี้เป็นคนแปลกๆ เพราะคนอื่นๆที่กลายเป็นคนรวยในชั่วข้ามคืน มักจะล้อมรอบตัวเองไปด้วยรถยนต์ที่หรูหรา, บ้านพักตากอากาศในต่างประเทศ, เครื่องบิน, เรือยอชต์ และนางแบบ เพื่อหวังให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าพวกเขานั้นร่ำรวยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม คนๆนี้ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและพฤติกรรมเลย ถึงแม้ว่าเขาจะมีรายได้ต่อปีประมาณ 300 ล้านหยวนก็ตามที แต่เขาก็ยังคงใช้เวลาทั้งวันในการอ่านนิยายและเล่นเกม แม้แต่บ้านของเขายังคงเหมือนเดิม แม่ง! เขายังคงเช่าบ้านอยู่แทนที่จะซื้อเป็นของตัวเอง ตอนนี้เขาต้องเช่าห้องทั้งล็อต เพื่อให้เขาได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

นี่เป็นประเด็นที่เร่าร้อนในหมู่คนร่ำรวยและสภาหอการค้าของเมืองฉี นอกเหนือจากการกินและการนอนหลับแล้ว เศรษฐีใหม่คนนี้จะอ่านนิยายของเขาบนโซฟา หรือเล่นเกมของเขาในห้องอ่านหนังสือ ชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อหน่ายจนน่ากลัว...

หากมีคนขอให้เขาเข้าร่วมปาร์ตี้หรือการประชุม หรือแม้กระทั่งเป็นการส่งมอบความร่วมมือทางธุรกิจ ที่จะทำให้เขาร่ำรวยมากยิ่งขึ้น เขาไม่เคยแม้แต่จะตอบตกลงเลยสักครั้ง ไม่ว่าใครจะถาม หรือติดต่ออะไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขาก็จะได้รับคำตอบเดียวนั้นก็คือ ให้ไปคุยกับตัวแทนสาวงามที่ร้านอาหารเอาเอง

ประธานโจวไม่เคยคาดหวังเลยว่า คำเชิญชวนใน QQ ของเขาในคืนนี้จะได้ผล และชายหนุ่มจะยอมตอบตกลง ที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงเป็นการส่วนตัว

สิ่งนี้ทำให้ประธานโจวรู้สึกว่าตัวเขาเองมีอิทธิพลไม่เบา ใครบอกว่าสถานะของเขาในในเมืองฉีอ่อนแอกันล่ะ? แล้วใครบอกว่าคำเชิญชวนจากเล่าเหยาที่เต็มไปด้วยไขมัน จากหอการค้าจะยิ่งใหญ่มากกว่าเขา?

ฟางหนิงพูดขึ้นมา “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกประธานโจว คุณเป็นคนหนึ่งในเจ้าของร้านค้าในย่านธุรกิจที่ดีที่สุดของเมืองเรา และคุณยังเป็นหนึ่งในตัวแทนที่ดีที่สุดของเราอีกด้วย”

เหตุผลที่ฟางหนิงพยายามที่จะพูดจาดีๆกับชายคนนี้ ก็เป็นเพราะว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือเม็ดยาของตระกูลฉีนั่นเอง

ประธานโจวหัวเราะ “ฮ่าฮ่า อย่ามาล้อฉันเล่นหน่อยเลยประธานฟาง เราต้องการสถานการณ์ที่วิน-วินกันทั้งคู่ ถูกต้องไหม? ฉันไม่เหมือนกับพวกเขา ฉันเปิดร้านนั้น แต่ก็ไม่ได้รับเงินเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ฉันสามารถกินอาหารที่แสนอร่อยทุกครั้งเท่าที่ทำได้ ฉันจะไม่เป็นไรตราบใดที่ร้านอาหารไม่ได้รับความสูญเสียมากเกินไปนัก ไม่ต้องกังวลมากเกินไปประธานฟาง เครื่องปรุงพิเศษของคุณคือผู้สนับสนุนหลักของที่นี่ ยอดขายของร้านนั้นเกินความคาดหมายของฉันไปเป็นอย่างมาก!”

‘ขอบคุณพระเจ้า ที่นักชิมอย่างคุณไม่ได้เห็นการถ่ายทอดสดในการกินอาหารของฉัน ไม่อย่างงั้นคุณจะต้องมากินอาหารที่บ้านของฉันทุกวันเหมือนอย่างเฉ่าหยิงแน่ๆ ’ ฟางหนิงขบคิดกับตัวเอง และแอบดีใจอย่างเงียบๆด้วยคำเยินยอของประธานโจว ใครจะไม่มีความสุขเมื่อได้รับคำชมเชยบ้างล่ะ?

หลังจากแลกเปลี่ยนการสนทนากับประธานโจว ฟางหนิงก็รีบแจ้งให้กับระบบรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ระบบกำลังยุ่งกับการล่าสัตว์ประหลาด

“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลฉีอีกครั้ง พวกเขาต้องการเชิญคนรวยจำนวนมาก มาโปรโมทเม็ดยาที่เราได้รับมาในครั้งล่าสุด ฉันลองสำรวจเม็ดยาดูแล้ว มันควรจะมีผลบางอย่างสำหรับการรักษา แต่เพียงแค่หนึ่งเม็ดคงไม่เพียงพอสำหรับการทดลอง ดังนั้นฉันจึงคิดว่า จะซื้อเม็ดยานี่เพิ่มมาอีกสักหน่อย ถ้าเม็ดยานี่สามารถใช้งานได้จริง มันจะช่วยเราได้มากในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะนายกังวลเกี่ยวกับการจัดการกับสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังมากขึ้นในอนาคตใช่ไหมล่ะ?”

“ดังนั้นคุณได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่ได้รับการบาดเจ็บขึ้นมาแล้วสินะ ฉันภูมิใจในความก้าวหน้าของคุณเป็นอย่างมาก ไว้เราค่อยไปเมื่องานเลี้ยงเริ่มขึ้นก็แล้วกัน”

ฟางหนิงรู้สึกมั่นใจ หลังจากที่เขาได้รับการยืนยันจากระบบแล้ว เขาไม่สนใจนัยยะแฝงจากคำพูดของระบบเลยแม้แต่นิดเดียว และเขายังคงพูดขึ้นมาอีกว่า “ฉันจำเป็นที่จะต้องปรากฏตัวด้วยตัวเองในระหว่างงานเลี้ยง เพื่อที่ฉันจะได้สามารถประมูลเม็ดยาได้ อย่างไรก็ตาม ฉันกังวลว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากเม็ดยาของพวกเขามีมูลค่าสูงมาก ดังนั้นฉันอาจจะต้องใช้ตัวตนศาลเตี้ย A เพื่อป้องกันตัวเอง และเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตระหนักถึงการหายตัวไปอย่างกะทันหันของตัวฉัน เมื่อฉันต้องกลายเป็นศาลเตี้ย A ล่ะก็ ดังนั้นหุ่นเชิดจักรกลระดับต่ำจะต้องเข้ามาแทนที่ฉัน เมื่อตัวของฉันกลายเป็นศาลเตี้ย A ... เพราะฉะนั้นหุ่นเชิดจักรกลระดับต่ำสามารถอัพเกรด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในโลกแห่งความจริงนี้ได้หรือไม่?”

“การพิจารณาของคุณสมบูรณ์แบบมาก อันที่จริงแล้วฉันต้องการใช้ค่า EXP ที่เหลือเก็บไว้เพื่อการสร้างอาวุธสวรรค์ในการยกระดับของฉัน แต่เนื่องจากกรณีนี้เป็นกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นฉันจะใช้ค่า EXP ที่เหลือมาอัพเกรดหุ่นเชิดจักรกลระดับต่ำแทน เพราะดูแล้วนี่น่าจะมีความสำคัญมากกว่าในตอนนี้”

ระบบลงมือทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว มันมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ และในไม่ช้าฟางหนิงก็ได้เห็นการแจ้งเตือนของระบบ

[ระบบได้ทำการอัพเกรดหุ่นเชิดจักรกลระดับต่ำ หนังและเหล็กคุณภาพสูงมากมาย, ผมของคุณ, เล็บ, เนื้อเยื่อต่างๆ, รังแค, ของเหลว, ของแข็งบางอย่าง และเลือดของคุณที่เก็บไว้ ได้ถูกนำไปใช้ 1,000 มล. และ 10000 EXP ถูกใช้ไปในการอัพเกรด]

[หุ่นเชิดจักรกลระดับต่ำประสบความสำเร็จในการพัฒนาเป็นหุ่นเชิดจักรกลระดับกลาง]

[ฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน: ปลอมตัวสมบูรณ์แบบ (กลิ่น, เลือด, ลายนิ้วมือ, ผม และลักษณะอื่นๆทุกอย่างเหมือนกับโฮสต์) เพิ่มการควบคุมระยะไกล, ความสามารถในการสนทนาระดับกลาง และความสามารถเลียนแบบพฤติกรรมระดับกลาง]

“โอ้ว นี่มันจะยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว เหลือเชื่อ มันช่างน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ! อย่างไรก็ตาม นายเก็บเลือดของฉันไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ฟางหนิงสังเกตุเห็นจุดสำคัญในการแจ้งเตือนของระบบทันที “ผมและเล็บนั่นไม่เป็นไร พวกมันไม่ได้สำคัญอะไรมากมายนัก แต่นายเก็บเลือดของฉันไปได้ยังไงกัน?”

“โอ้ เนื่องจากคุณทานอาหารที่ดี และกระบวนการสร้างเม็ดเลือดของคุณก็ทำงานได้ดี ดังนั้นฉันจึงเอาเลือดของคุณไปเก็บไว้ภายในพื้นที่มิติของระบบ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการได้รับบาดเจ็บรุนแรง ที่อาจทำให้คุณเสียเลือดมากจนเกินไป ตอนนี้เลือดของคุณได้ถูกจัดเก็บไปทั้งหมด 3000 มล.”

ในขณะที่เขารับฟัง ฟางหนิงก็ไม่ได้โกรธที่ระบบทำการเก็บเลือดของเขาไปโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เขากลับพยักหน้าและยกย่องระบบแทน “นั่นเยี่ยมมากเลย ฉันไม่คิดเลยว่านายจะมีความรอบคอบมากขนาดนี้! คนที่มีกรุ๊ปเลือดหายากบางคน ต้องพึ่งพาการบริจาคเลือดจากตัวของพวกเขาเอง เพื่อที่จะแน่ใจว่า เลือดที่เหมาะสมกับพวกเขาจะถูกเก็บไว้ในธนาคารเลือด เพื่อไว้รับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่พวกเขาอาจต้องเผชิญ”

อย่างไรก็ตาม ฟางหนิงก็ตระหนักได้ว่า การสรรเสริญของเขานั้นเร็วเกินไป ทำให้ระบบที่น่านับถือพูดจ้อออกมาไม่หยุดหย่อน และมันยังคงพูดพล่ามออกมาอย่างต่อเนื่อง “ฉันฉลาดที่สุดอยู่แล้ว ข้อพิจารณาของฉันสมบูรณ์แบบมากกว่าของคุณในตอนนี้มาก นอกเหนือจากเลือด, ผม และเล็บของคุณแล้ว ฉันยังได้เก็บตับของคุณไว้หนึ่งชิ้น, ลำไส้ส่วนหนึ่งของคุณ, ปอดครึ่งหนึ่งของคุณ และไตข้างหนึ่งของคุณ...”

ฟางหนิงกลายเป็นตกตะลึงทันที เมื่อเขาได้ยินว่าเขาเสียอวัยวะภายในต่างๆไปอย่างล่ะครึ่งหนึ่ง ทำให้น้ำตาเริ่มไหลรินไปบนใบหน้าของเขา...

‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า สมรรถภาพร่างกายของฉันถึงได้พัฒนาช้า ทั้งๆที่กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไปตั้งมากมาย ไตของฉันหายไปข้างหนึ่ง อวัยวะภายในของฉันหายไปอย่างล่ะครึ่ง! แต่ฉันยังต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นในสภาพแบบนี้นี่นะ?’ ฟางหนิงขบคิดอย่างโศกเศร้า

ระบบนั้นไม่ได้ใส่ใจกับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่ซับซ้อนเลยสักนิด แต่มันกลับพูดออกมาด้วยความร่าเริง “โดยพื้นฐานแล้ว เมื่อพูดถึงอวัยวะทุกส่วนของคุณที่สามารถแบ่งออกมาเป็นสองส่วนได้ ฉันจะแยกเก็บอวัยวะหนึ่งส่วนที่คุณมี ตราบใดที่พวกอวัยวะยังคงสามารถทำงานได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกของคุณ น่าเศร้าที่หัวใจของคุณเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของทั้งหมด แต่มันไม่ได้มีเป็นคู่ ดังนั้นฉันจึงสามารถเก็บได้แค่เพียงเนื้อเยื่อบางส่วนเท่านั้น สิ่งเดียวที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยก็คือสมองของคุณ เพราะมันสำคัญเกินกว่าที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างอิสระ”

‘เยี่ยม เยี่ยมมาก ขอบคุณมากครับท่านระบบที่รัก ขอบคุณที่ไม่ทำให้มันเป็นอุปสรรค นั่นคือคำพูดเพียงคำเดียวที่ฉันสามารถแสดงถึงความขอบคุณ จากสติปัญญาที่ไม่สามารถอธิบายได้ของนาย ระบบได้ครอบคลุมทุกอย่างแล้วหรือยังว่ะเนี่ย? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ทำไมระบบถึงเป็นตัวตนที่งี่เง่าและแสนอวดดีแบบนี้นะ!’ ฟางหนิงคิดกับตัวเองด้วยความรู้สึกสั่นสะท้าน

ฟางหนิงแสร้งทำเป็นล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าต่อระบบ “โอ้ใช่แล้ว! ฉันกำลังคิดถึงลูกอัณฑะของคุณด้วยเช่นกัน ลูกอัณฑะของคุณก็มีความสำคัญมากเช่นกันนะ! ถ้ามันหายไปหนึ่งลูก คนอื่นๆก็ไม่สามารถรับรู้จากภายนอกได้ ถ้าคุณไม่แก้ผ้าให้ใครเห็น ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะแจ้งให้คุณทราบก่อนที่ฉันจะลงมือทำ เพราะมนุษย์ทุกคนมักจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับอวัยวะส่วนนี้ และฉันจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงความรู้สึก และความคิดในอนาคตของคุณก่อน...”

ฟางหนิงนั้นใกล้เคียงกับการพังทลายอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาได้ยินว่าระบบจะไม่ยอมปล่อยให้อวัยวะที่มีเป็นคู่ของเขาเล็ดลอดออกไปได้ เขาต้องเหลือเพื่อนสนิท ‘น้องชายคนเล็ก’ ของเขาไว้ข้างใดข้างหนึ่งงั้นหรอเนี่ย!

“ทำไมนายถึงคิดที่จะนำอวัยวะส่วนนี้มาใช้อีก ในเมื่อนายเอาส่วนอื่นๆของฉันออกไปหมดแล้ว...” ฟางหนิงส่งเสียงออกมาอย่างอ่อนแรง

‘ฉันต้องออนไลน์เข้าไปเช็คข้อมูลก่อนนะ เพื่อตรวจสอบว่า ‘น้องชายคนเล็กของฉัน’ จะได้รับผลกระทบหรือไม่ หากเพื่อนสนิทของมันหายไปหนึ่งลูก…’

ระบบได้ตอบคำถามของฟางหนิงอย่างเฉยเมยว่า “โอ้ ฉันสังเกตุเห็นว่าคุณเป็นคนที่เอาแต่ติดแหงกอยู่แต่ในร้านอินเทอร์เน็ต คุณไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกเลย และโดยทั่วไปแล้ว คุณก็ไม่ได้ใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆของอวัยวะดังกล่าวอยู่แล้ว ฉันเลยคิดที่จะเริ่มสำรองอวัยวะส่วนต่างๆตามความต้องการในปัจจุบันของเราเท่านั้นเอง”

“ประการแรก มันอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายตรงข้ามจะปรากฏตัว ก่อนที่อาวุธสวรรค์จะสร้างเสร็จ และเราจำเป็นที่จะต้องเตรียมการไว้ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ประการที่สอง ตอนนี้คุณก็เริ่มค่อนข้างที่จะแก่ตัวลงแล้ว คุณเหลือเวลาเพียง 2 ปีก่อนที่คุณจะอายุ 30 และฉันเกรงว่าสมรรถภาพทางกายของคุณจะเริ่มลดลง ก่อนที่เราจะฝึกตนจนไปถึงขั้นอาณาจักรแห่งชีวิตนิรันดร์ เมื่อเราฝึกตนจนไปถึงขั้นอาณาจักรแห่งชีวิตนิรันดร์แล้ว จากนั้นเราก็จะสามารถปลูกถ่ายอวัยวะที่ได้รับการเก็บรักษาเหล่านี้ของคุณได้ แต่ในตอนนี้ ฉันจำเป็นที่จะต้องนำลูกอัณฑะของคุณ ที่เป็นตัวการในการขัดขวางการฝึกตนของฉันออกไปก่อน”

“ก็ได้! ในฐานะที่ฉันเคยเป็นโปรแกรมเมอร์เก่ามาก่อน ฉันต้องยอมรับเลยว่า นายมีการสำรองข้อมูลที่ดีมาก หรือแม้จะเป็นแท่งอนุสาวรีย์ก็ตามที! ฉันต้องขอขอบคุณสำหรับความพยายามของนายเป็นอย่างมาก!” ฟางหนิงตอบด้วยน้ำเสียงสับสน เมื่อมาถึงจุดนี้ ฟางหนิงก็ตระหนักได้ว่า ข้อโต้แย้งของระบบมีความสัมพันธ์ที่น่าประหลาดใจมาก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถโต้แย้งกลับไปได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกที่ดูแคลนระบบว่าแสนงี่เง่า แต่ในตอนนี้เขาต้องไม่ลืมความเสี่ยงที่ซ่อนเร้นบางอย่าง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบที่น่าหวาดกลัวตามมา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไป เขาไม่สามารถที่จะใช้นิ้วในการช่วยตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากจะเห็นด้วยกับระบบไปก่อน เมื่อเขามีโอกาส เขาจะสอนบทเรียนให้กับระบบที่แสนงี่เง่านี้สักครั้ง

“ใช่ไหมล่ะ? ฉันคิดว่านี่เป็นแผนการที่ดีมากเช่นกัน คุณสามารถกินอาหารที่มีประโยชน์มากทุกวัน ทำให้อวัยวะของคุณแข็งแรงขึ้นจากการได้รับโภชนาการที่ดี ตอนนี้คุณก็ยังสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ถึงแม้ว่าคุณจะมีอวัยวะเหลือเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้นก็ตาม!” ระบบพอใจมาก เมื่อได้ยินคำยืนยันของฟางหนิง แม้ว่าโฮสต์คนนี้จะเป็นคนขี้เกียจ แต่เขาก็มีความเข้าใจในการเอาชีวิตรอดที่ดี เขาสมควรได้รับการช่วยเหลือจากฉันแล้ว!

‘โอ้นั่นคือเหตุผลที่นายเอาชิ้นส่วนอวัยวะของฉันออกมาใช่มั้ย? หะ?’ ฟางหนิงรู้ว่า ระบบจะต้องวางแผนการบางอย่าง เมื่อมันตั้งใจใช้เวลาไปทำอาหารให้กับเขา และอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ระบบได้ปรุงเอาไว้ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เขาชิมเล่นเท่านั้น แต่เพื่อไว้บำรุงตัวเขาเองที่ได้สูญเสียอวัยวะภายในเหล่านั้นไป อนิจา เขาคาดไว้ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว...

รีวิวผู้อ่าน