px

เรื่อง : the city of terror เมืองแห่งความหวาดกลัว
Chapter 17 -คาลูลูจิ


Chapter 17 -คาลูลูจิ

อย่างน้อย เว่ยเฉียวเฟ่ย ก็เข้าใจการทำงานของมัน
ผมควรเอาแต้มวิวัฒนาการใส่ส่วนไหน
?
เว่ยเฉียวเฟ่ย่ ลังเล
จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจว่าหนึ่งแต้มนั้นสามารถเพิ่มสเตตัสอันหนึ่งได้ 0.01 หน่วย  งั้น 30 แต้มก็ต้องเพิ่มเสเตตัสหนึ่งได้ 0.3 หน่วย
ตอนนี้ เว่ยเฉียวเฟ่ย ไม่ได้เพิ่มมันใส่ส่วนไหน
เขาคิดเรื่องนี้เล็กน้อยแต่เขาก็ลดความอยากของตัวเองในการใช้แต้มวิวัฒนาการ
“ คาลูลูจิ คาลูลูจิ ! “
เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากถนน
เว่ยเฉียวเฟ่ย แอบมองผ่านประตูและตรวจสอบเส้นทางว่าเสียงมันมาจากไหน
สัตว์ประหลาดพวกนั้นกลับมาอีกรอบ
เมื่อเห็นเงาที่คุ้นเคยของสัตว์ประหลาด เว่ยเฉียวเฟ่ย ก็รีบก้มหัวลงทันที
สัตว์ประหลาดพวกนี้เหมือนจะไม่ฉลาด สัตว์ประหลาดอาจจะเรียกเพื่อนของมันที่อยู่ที่นี่และไม่ได้รับการตอบรับอะไร แม้จะแบบนั้นแต่พวกมันก็ไม่ได้ระวังตัวและแยกย้ายค้นหาตามท้องถนน
เว่ยเฉียวเฟ่ย ซ่อนอยู่ที่มุมพร้อมกับถือกระบองสองอัน เขามองไปที่ประตูบ้านอยู่ตลอดเพื่อรอให้สัตว์ประหลาดโผล่เข้ามา
“ กาด้า ! “
เสียงฟังดูแปลกใจดังขึ้นมาจากสัตว์ประหลาดที่เข้าไปในอพาทเมนต์ข้างๆ
เสียงเท้าดังขึ้นมาจากบ้านข้างๆเขา...
สัตว์ประหลาดน่าจะเจอศพแล้ว  เว่ยเฉียวเฟ่ย ค่อยๆขยับเก้าอี้และขึ้นไปแอบดู  เขาเห็นสัตว์ประหลาดหลายตัวที่รีบเข้าไปในอพาทเมนต์ จากนั้นเขาก็มองไปที่ถนนก่อนจะเห็นสัตว์ประหลาดสองตัวที่อยู่ด้านนอก  ดูเหมือนว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้จะไม่ได้ยินเสียงร้องของเพื่อนมันรึไม่เห็นการเคลื่อนไหวของตัวอื่นๆ ทั้งสองตัวยังคงเดินอยู่ใกล้กับร้านค้าราวกับว่าพวกมันอยากจะเข้าไป
นี่แหละโอกาส
เว่ยเฉียวเฟ่ย ไม่คิดจะนั่งเฉยๆรอความตาย
ด้วยการปรากฏตัวอย่างรวดเร็วของพวกมัน ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีแคมป์อยู่ใกล้ๆ ดังนั้นพวกมันต้องอยู่กันเป็นกลุ่ม จำนวนของพวกมันอาจจะมากกว่าที่เห็นก็ได้
เว่ยเฉียวเฟ่ย ต้องได้แต้มวิวัฒนาการเพียงพอก่อนที่สัตว์ประหลาดพวกนี้จะเข้ามาที่บ้านเขา
การฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้คือตัวเลือกที่ดีที่สุด !
การได้ยินของพวกมันนั้นแย่  เว่ยเฉียวเฟ่ย รอจนสัตว์ประหลาดตัวอื่นเข้าไปในอพาทเมนต์ก่อนที่จะแอบออกไปจากรอยแตกที่ประตูแล้วเดินออกไป
ตอนนั้นหนึ่งในสองสัตว์ประหลาดได้เขาไปในร้านค้าแล้ว ส่วนอีกตัวนั้นยังทุบประตูจนทำให้ฝุ่นร่วงลงา
สถานการณ์เป็นใจ !
ระยะห่างระหว่างเขากับร้านค้านั้นอยู่ที่ 30 ม. เว่ยเฉียวเฟ่ย ได้เดินไปมากกว่าสิบก้าวไปแอบอยู่หลังสัตว์ประหลาดแล้วฟาดที่หัวของมันด้วยกระบองในมือขวา ส่วนกระบองในมือซ้ายก็ตามไปติดๆ
หลังจากที่โจมตีออกไปสมองของมันก็กระจายออกมา
เว่ยเฉียวเฟ่ย รู้อย่างหนึ่งจากการโจมตีครั้งนี้ พวกมันด้อยกว่ามนุษย์ทุกด้าน
แม้แต่กะโหลกของมันก็ยังบอบบางกว่าของมนุษย์
การตายของสัตว์ประหลาดด้านนอกนั้นทำให้สัตว์ประหลาดในร้านตกใจ
แต่ถ้าสัตว์ประหลาดนั้นไม่ได้ซุ่มโจมตีเหยื่อของมัน การตอบโต้ของมันก็จะช้าอย่างมาก
สัตว์ประหลาดในร้านถือกระบองในมือขวาและถือห่อขนมปังที่มือซ้าย  ในตอนที่มันเดินออกมาและเห็นศพของเพื่อและ เว่ยเฉียวเฟ่ย มันก็ไม่ได้มีแม้แต่โอกาสจะยกกระบองของมันและโดนกระบองจาก เว่ยเฉียวเฟ่ย อัดเข้าใส่
สัตว์ประหลาดนั้นไม่สามารถตอบโต้การโจมตีของ เว่ยเฉียวเฟ่ย ได้เลยก่อนที่จะตายไป
สองแล้ว !
เว่ยเฉียวเฟ่ย หยิบเอาขนมปังเปื้อนเลือดขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในร้าน เขาเอาขนมปังและน้ำทั้งหมดใส่ในกระเป๋าของเขา
ต่อไปเขาอาจจะไม่มีโอกาสกลับไปซ่อนที่อพาทเมนต์ของเขาอีก ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมอาหารและน้ำให้ตัวเอง
แต่ เว่ยเฉียวเฟ่ย เห็นว่าสัตว์ประหลาดยังไม่ได้ออกมาจากอพาทเมนต์หลังจากที่เขาออกจากร้านค้า จากนั้นเขาจึงเริ่มคิด
พวกมันทำอะไรอยู่ ?
เว่ยเฉียวเฟ่ย กลับไปที่ประตูบ้านตัวเองแล้วปิดมัน เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยพร้อมกับนอนไปที่ริมกำแพงและมองออกไปด้านนอก
สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งเดินออกมาจากอพาทเมนต์ตอนนั้นพอดี มันถือกระบองในมือขวา และถือบางอย่างไว้ในมือซ้ายพร้อมกับเคี้ยวอย่างมีความสุข
เว่ยเฉียวเฟ่ย ขยี้ตาตัวเอง หลังจากที่สัตว์ประหลาดเข้ามาใกล้  เว่ยเฉียวเฟ่ย ก็รู้ว่ามันถืออะไรอยู่
มันกำลังเขี้ยวแขนของชายคนตะกี้
เว่ยเฉียวเฟ่ย เกือบที่จะอ้วกในตอนที่เห็นมัน
มันมีสำนวนบอกไว้ แม้แต่สัตว์ป่าก็ยังดูแลพวกของมัน
มันหมายความว่าหมาจะไม่กินเนื้อหมาและมนุษย์จะไม่กินเนื้อมนุษย์
งั้นหากเอาคำพูดนี้มาคิด งั้นมันคงเหมาะที่จะเรียกพวกนี้ว่าสัตว์ประหลาด
คนธรรมดาที่เห็นฉากนี้คงต้องท้องไส้ปั่นป่วนแน่
อย่างน้อยๆนี่มันก็ดีกว่าการเห็นคนกินกันเอง
ไม่นานสัตว์ประหลาดก็ค่อยๆโผล่ออกมาทีละตัวๆ สามตัวสุดท้ายแบกศพของเพื่อนมันมาด้วยแล้วเดินไปที่อีกด้านของถนน
ศพพวกมันแน่นอนว่าต้องกลายเป็นอาหาร
สัตว์ประหลาดสี่ตัวที่เหลือเริ่มเดินตรวจไปรอบๆอีกครั้ง
พวกมันเห็นศพของเพื่อนอีกสองตัวหลังจากที่เดินไปถึงร้านค้า
หัวหน้าสัตว์ประหลาดเหมือนจะโกรธ มันได้สั่งให้สัตว์ประหลาดสองตัวแบกศพกลับไปทันที
หัวหน้าและสัตว์ประหลาดที่เหลือแยกย้ายกันออกไปเคาะตามประตูบ้านทีละแห่งๆราวกับว่าจะหาฆาตกร
เรื่องที่พวกมันโดนฆ่าตายนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลอะไรกับพวกมันเลยเพราะพวกมันไม่ได้ระวังตัวกันเลยสักนิด
ไม่ต้องเดาเลยว่านี่เป็นการให้โอกาส เว่ยเฉียวเฟ่ย อีกครั้ง
เว่ยเฉียวเฟ่ย เปิดประตูของเขาเล็กน้อยและรอให้สัตว์ประหลาดเคาะประตู จากนั้นเขาก็ได้ยกมือซ้ายขึ้นเปิดประตูแล้วใช้มือขวาฟาดกระบองใส่หัวของสัตว์ประหลาด
เว่ยเฉียวเฟ่ย ชินกับการใช้กระบองนี้แล้วหลังจากที่ฆ่าสัตว์ประหลาดห้าตัวก่อนหน้านี้
แค่เพียงทีเดียวสัตว์ประหลาดก็มึนไปและจากนั้นมันก็โดน เว่ยเฉียวเฟ่ย ฟาดอีกครั้ง
เสียงของกะโหลกที่แตกดังขึ้นมาอีกครั้ง สัตว์ประหลาดไม่อาจที่จะยืนอยู่ได้และล้มลงไปกองกับพื้น รอยแตกที่หัวของมันเริ่มมีเลือดและสมองไหลออกมาที่พื้น
หลังจากที่ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ไปเขาถูกเห็นโดยหัวหน้าของพวกมัน   เว่ยเฉียวเฟ่ย หยิบกระบองที่พื้นขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่หัวหน้าสัตว์ประหลาดพร้อมกระบองในมือทั้งสองข้างทันที
หัวหน้าสัตว์ประหลาดนั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์ประหลาดทั่วไปมาก  เว่ยเฉียวเฟ่ย รีบฟาดกระบองในมือซ้ายทันทีที่เขาเข้าใกล้แต่เขาก็ถูกกันไว้โดยกระบองของมัน
แม้จะแบบนั้นกระบองในมือขวาของเขาก็สามารถฟาดที่ไหล่ของมันได้สำเร็จ
แต่เขาคงไม่คาดไม่ถึงผลที่ตามมา ในตอนที่หัวหน้าสัตว์ประหลาดโดนโจมตี ปากของมันอ้าออกและได้พ่นน้ำเข้าใส่ เว่ยเฉียวเฟ่ย

รีวิวผู้อ่าน