Chapter 9: สุดยอดเด็กติดเกม
“ไอ้ขยะห้องเก้า! จงหวาดกลัวอยู่ใต้เงาของท่านผู้นี้เสียเถอะ!” ซูเฮ่าห้องหกก็ตะโกนออกมาแล้วเขาก็ยกมือของเขาขึ้นยั่วยุห้องเก้า แล้วเขาก็แย่งลูกบาสไปจากห้องเก้าและกระโดดขึ้นไป ขาของเขาทรงพลังอย่างมากจนกระโดดผ่านการป้องกันของห้องเก้าได้อย่างง่ายดายและส่งลูกบาสไปให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขา เมื่อซูเฮ่าเข้ามาในวงแล้วผู้เล่นคนนั้นก็ส่งลูกบาสกลับมาให้กับเขา พร้อมกับแรงกระโดดที่ไม่มีใครหยุดได้ เขาก็รับบอลกลางอากาศและยัดลูกบาสเข้าในห่วง
*หวีดดดด*
ผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดและแสดงให้เห็นว่ารอบสองได้จบลง ในจุดนี้นี่เอง คะแนนก็เป็น 77-13 คะแนนที่ต่ำกว่านั้นก็เป็นของห้องเก้าได้อย่างเห็นได้ชัด
“พวกนาย! อย่าพึ่งยอมแพ้! นี่ เอาน้ำนี่ไป!”ซุนเมิ่งเมิ่งก็ตะโกนออกมาแล้วเธอก็วิ่งไปหาทีมบาสเก็ตบอลและส่งเครื่องดื่มไปให้ แม้ว่าจะมีกลุ่มหญิงสาวจำนวนมากมาเชียร์พวกเขา มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก
มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดใจอย่างมาก เพียงแค่แข่งไปสองรอบ(20นาที) ห้องหกก็ได้ทำลายจิตวิญญาณของห้องเก้าไปอย่างสมบูรณ์ นี่ไม่ใช่การแข่งขันแล้วละ พวกเขามันอยู่กันคนละระดับกันแล้ว พวกกลุ่มเด็กเนิร์ดและพวกเด็กติดเกมจะไปแข่งกับผู้เล่นระดับ NBA ไหวได้ยังไงกัน?!
“เฮ้ออ…ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะสามารถทำมันได้นะสิ…”หวังเฉินครวญครางออกมา เสื้อยืดกีฬาของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ คุณไม่สามารถที่จะหาจุดที่มันแห้งได้เลยด้วยซ้ำไป! เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นฉ่ำ คุณก็สามารถที่จะมองเห็นไอที่ลอยออกมาจากหัวของเขาที่พวยพุ่งออกมาเหมือนกับเครื่องจักรไอน้ำ!
“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน! มีใครสักคนในห้องเราที่เล่นบาสเก็ตบอลเป็นอีกไหม?”จาวเฟิงบ่นออกมา
“หวังเฉินและพวกนายทำดีที่สุดแล้ว พวกเรายอดเยี่ยมที่สุด พวกเราสามารถที่จะพึ่งได้แค่พวกเขาเท่านั้น ไม่มีใครที่สามารถเลี้ยงบอลได้เลย ถ้าไม่ติดเท้าเสียก่อน!”
ซุนเมิ่งเมิ่งถอนหายใจออกมา นี่คือสิ่งที่ “ห้องเรียนอันทรงเกียรติ” เป็น นักเรียนอาจจะเรียนได้ดี แต่พวกเขากลับเลวร้ายอย่างมากในด้านกีฬา
“โย่! ไอ้ขยะ! พวกเรายังจะเล่นต่ออีกไหม?”ซูเฮ่า คนเดียวกับที่ยั่วยุห้องของเขาก่อนหน้านี้ เมื่อเขาทำได้เพียงเงียบงันกลับ เขาก็รวบรวม “สหายของเขา”และเดินไปหานักเรียนห้องเก้า ในการแข่งขันอย่างอื่น ห้องหกก็จะทำลายพวกเขาอย่างยับเยิน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงเกิดความบาดหมางระหว่างนักเรียนของ “ห้องเรียนอันทรงเกียรติ” อย่างน้อยห้องหกจึงไม่ได้ไปกว่าพวกเขาและพวกเขาก็ใช้ประโยชน์จากมันเพื่อทำให้ห้องเก้าเสื่อมเสีย
“นาย!”
จาวเฟิงก็ชี้นิ้วที่สั่นสะท้านซูเฮ่า
“อะไร? ไม่มีความสุขงั้นเหรอ? แล้วนายทำอะไรได้ไหม?”
ซูเฮ่าขมวดคิ้วและหัวเราะออกมา
“ไอ้อ้วน ถ้านายต้องการทำคะแนนก็ลงสนามและเล่นซะ!”ซูเฮ่าพูดออกมา เมื่อเขาหันกลับไป ในขณะที่จาวเฟิงหันหน้าชนกับแผ่นหลังของเขาและเขาก็พูดออกมา “ฉันจะบดขยี้นายให้ยับเลย ไอ้อ้วนเวร!”
“อะไรนะ… มึง..”
จาวเฟิงพูดยังไม่จบ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อเกี่ยวกับมัน เจียงเฟยก็ก้าวเข้ามาแทรกระหว่างพวกเขา
“ซูเฮ่า….ใช่ไหม?”เจียงเฟยพูดออกมาอย่างใจเย็น เขาไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของคลาสเลยสักอย่าง แต่ว่าจาวเฟิงเป็นพี่น้องที่สนิทของเขา เขาก็จะไม่อนุญาตให้พี่น้องของเขาถูกรังแก
“ดูสิว่านี่ใคร….เจ้าเด็กเนิร์ดห้องเก้าที่น่าอับอายนี่เอง นายต้องการอะไร? เช็ดพื้นโดยใช้หน้าของนายเองงั้นเหรอ?”ซูเฮ่าพูดออกมาแล้วเขาก็หันกลับไปหัวเราะและก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับเจียงเฟย
“เฮ้ เจ้าเนิร์ด ถ้านายต้องการที่จะเล่นแล้วละก็นายควรที่จะฝึกก่อนนะ พวกเราไม่ได้เล่นสนุกกันที่นี่ เข้าใจไหม? พวกเรามีการแข่งขันจริงๆ ไม่มีใครต้องการที่จะเล่นเกมกับนายหรอก! ทำไมนายไม่ไสหัวไปเล่นเกมของนายซะละ ไม่มีใครต้องการที่จะเล่นเกมกับนายหรอก!”
ลี่เฉียง ผู้เล่นบอสเก็ตบอลที่ยอดเยี่ยมอีกคนหนึ่งก็มาจากห้องหกและล้อเลียนเจียงเฟย ในความเป็นจริงแล้วเขาก็หวาดกลัว ถ้าเจียงเฟยแก้ไขสถานการณ์นี้ได้มันก็คงเป็นฝันแล้ว เจียงเฟยก็เป็นที่โด่งดังในโรงเรียนเกี่ยวกับเกมออนไลน์ รวมทั้งกีฬาออนไลน์อีกด้วย!
“เกมจริงงั้นเหรอ? ได้ พวกเราจะเล่นกัน ฉันจะรอดูนายบนสนามนะ!”
เจียงเฟยยิ้ม มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาสวมรองเท้าจิตวิญญาณแมวแห่งความแม่นยำ อีกอย่างการแข่งขันนี้ก็เป็นสถานที่ดีที่จะทดลองมัน!
“เจียงเฟย? นายมั่นใจนะว่านายจะลงไปเล่น?”ซุนเมิ่งเมิ่งก็ดึงเจียงเฟยไปด้านข้างและถามออกมาอย่างกังวล เธอมีเหตุผลที่ดีที่ถามออกมาแบบนั้น ตั้งแต่ที่เจียงไม่เคยลงเล่นอะไรสักอย่าง
“ฉันโอเคดี มันก็เป็นแค่เกม ใช่ไหมละ?”เจียงเฟยพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วละก็ลงไปเล่นเลย”
ซุนเมิ่งเมิ่งพยักหน้า ตั้งแต่ที่คะแนนมันไหลไปแล้ว มันจะแย่ไปกว่านี้ได้ยังไงกัน?
“พี่เฟย พี่มั่นใจจริงๆเหรอว่าพี่เก่งหน่ะ?”จาวเฟิงพูดออกมาอย่างกังวลใจ เขาก็กังวลเกี่ยวกับเพื่อนของเขาด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้ว ห้องหกก็พึ่งจะยั่วยุเขาไป การหลงไปเล่นในเกมของเขาและพ่ายแพ้และอับอายขายหน้าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะยอมรับมัน
“ผ่อนคลายหน่า เมื่อไหร่กันที่ฉันเคยทำให้ตัวเองอับอาย?”
เจียงเฟยยิ้มออกมาและตบไหล่ให้จาวเฟิงผ่อนคลาย
*ปรี๊ด*
กรรมการก็เป่านกหวีดออกมาและเริ่มการแข่งขันรอบที่สาม
“มันถึงเวลาแล้ว เจียงเฟย! นายชอบเล่นตำแหน่งไหนกัน?”หวังเฉินถาม
“ฉันไม่สน แค่ส่งบอลมาให้ฉันก็พอเมื่อนายมีโอกาส”เจียงเฟยตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้าของเขา
“นี่เขาเล่นจริงจังหรือเปล่าเนี่ย?”หยางหมิงถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้วะ แม้ว่าเขาจะเล่นไม่เป็น แล้วมันจะแตกต่างกับตอนนี้ยังไงละ?”หวังเฉินกรอกตา เขาไม่สนใจเกี่ยวกับการแข่งขันนี้อีกต่อไปแล้ว มันเกินกว่าที่จะกลับมาได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจียงเฟยหรือคนอื่น มันก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม
“มานี่มา! ให้ห้องหกสอนนายว่าบาสเก็ตบอลมันคืออะไร!”ซูเฮ่าตะโกนออกมาแล้วเขาก็ส่งลูกบาสให้กับผู้เล่นข้างๆ
“ทุกคน! เคลื่อนที่ซะ! รวมตัวกันด้านหน้าและบดขยี้พวกเขากัน!”หลังจากบดขยี้ห้องเก้าอย่างราบคาบสองรอบก่อนหน้านี้ ซูเฮ่าก็หมดความคาดหวังกับความสามารถของคู่ต่อสู้ ทันทีที่ลูกบาสอยู่ในมือของเขา เขาก็เลี้ยงฝ่าเข้าไปในสนามเหมือนกับพายุ
“ฮ่าๆ! ไอ้เด็กติดเกม! ให้ฉันสอนนายนะว่า – เหี้*อะไรวะเนี่ย!”
ซูเฮ่ากำลังหัวเราะอยู่ในตอนที่เขากำลังเข้าไปใกล้กับเจียงเฟย ในตอนแรกเขายังอยู่ตรงนี้ แต่ในชั่วพริบตาต่อมา เขาก็หายไปจากสายตาของเขา!
“ขอบคุณสำหรับลูกบาสนะ!”
เจียงเฟยก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังผู้เล่นด้านข้างพร้อมกับลูกบาสในมือของเขา
“ปัง!’
เจียงเฟยก็ดังค์ลูกบาสเข้าไปอย่างง่ายดายและรับไป 2 แต้ม!
“มันเกิดเหี้*อะไรขึ้นกันวะเนี่ย?”พอยต์การ์ดร้องออกมา ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ลูกบาสก็หายไปจากมือของเขาอย่างลึกลับและมันก็อยู่ในมือของเจ้าเนิร์ดที่ข้ามสนามมาแล้ว
“ฟิ้ววว มันไม่ได้ยากเท่าไหร่ ใช่มะ?”
เจียงเฟยยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
การเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ของผู้คนขึ้น 3 แต้ม ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ในโลกของเกม แต่ในชีวิตจริงแล้ว…มันมากมายมหาศาล! สามเมตรในหนึ่งวินาทีก็ไม่ใช่มนุษย์แล้ว! นอกจากนี้แล้ว ความคล่องแคล่วที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมมาก็ทำให้เจียงเฟยเป็นดั่งผู้เล่น NBA จริงๆ!
“เพื่อน ดูเด็กนี้ไว้ เขาเร็วมาก!”
ซูเฮ่าขมวดคิ้ว มันมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติกับเจ้าเนิร์ดนี่ คะแนนสองแต้มที่เสียไปมันไม่ได้มากอะไรเมื่อเทียบกับคะแนนรวม แต่เจียงเฟยพึ่งทำลายความมั่นใจของเขาไป ทั้งทีมก็ยังไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อยและลูกบาสก็ถูกแย่งไปในชั่วพริบตา
“วู้ววววว! นี่สิพี่ของฉัน! พี่เฟย! ยัดลูกลงห่วงแม่งเลย!”จาวเฟิงตะโกนออกมาสุดเสียง
“เจียงเฟย! เจียงเฟย! เจียงเฟย!”ผู้หญิงทั้งหมดของห้องเก้าต่างเริ่มเชียร์เจียงเฟยกัน
ใครรจะไปคิดว่าพวกเขาจะมีผู้เล่นระดับมืออาชีพแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องกัน! กับความจริงเพียงแค่นี้ก็ทำให้หญิงสาวของห้องเก้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแล้ว
“ระวัง!”ซูเฮ่าตะโกนใส่พอยต์การ์ดที่ส่งบอลกลับหลัง ในครั้งนี้มันไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ประมาทอีกแล้ว พวกเขากลับมาเล่นกลยุทธ์เดิมและแยกตัวออกไป
“หื้มมม…”เจียงเฟยขมวดคิ้ว มันเป็นเรื่องง่ายดายในตอนเริ่มต้น ตั้งแต่ที่ทุกคนนั้นดูถูกเขาเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้ทุกคนกลับระมัดระวังตัวเต็มรูปแบบ ความเร็วการเคลื่อนที่ที่ได้รับการบัฟมานั้นก็ดี แต่มันก็เป็นเรื่องยากหรือพูดให้ถูกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับห้าคนด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว เขาจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เขาจำเป็นต้องให้ทีมของเขาร่วมมือเล่นด้วยกัน!
“ฟังนะทุกคน ยืนป้องกันรอบนอกวงไว้และไม่ต้องกันห่วงไว้!”เจียงเฟยร้องออกมา
มันก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี…
พอยต์การ์ดของฝ่ายศัตรก็ทั้งสูงและแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าทีมของเจียงเฟยจะพุ่งเข้าไปด้านหน้าพร้อมกับ พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะข้ามผ่านการป้องกันของพวกเขาได้ ไม่ต้องพูดถึงจะเข้าใกล้กับห่วงของฝั่งตรงข้ามเลย! มันไม่มีที่ให้พวกเขายืนเลยด้วยซ้ำไป
“ส่งลูกบาสมา!”เจียงเฟยก็ร้องออกมา เมื่อพอยต์การ์ดฝั่งตรงข้ามกันเขาไว้ ในตอนนี้ซูเฮ่าก็พุ่งฝ่าฝูงชนออกมาและพุ่งผ่านพอยต์การ์ดของห้องเก้าและจับลูกบาสไป แม้ว่าหวังเฉินจะมีทีมทั้งทีมป้องกันตำแหน่งนั้นไว้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!
“เยี่ยม!”ซูเฮ่าร้องออกมาในตอนที่เขากำลังจะยิง เขารู้ดีว่าเจียงเฟยไม่ได้เป็นคนเดิมที่เขาเคยคิดไว้อีกแล้ว เขาเป็นตัวปัญหาและห้องหกก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเขาอีกต่อไป
“ให้สามแต้มฉันซะ!”ซูเฮ่าร้องออกมาแล้วเขาก็ก้าวถอยหลังออกไปสองก้าวและสร้างพื้นที่ระหว่างหยางหมิงและตัวของเขาเองก่อนที่จะกระโดดยิง!
“ได้แต้ม!”ซูเฮ่าตะโกนออกมาอีกครั้งหนึ่งและเขาก็มั่นใจมาก เมื่อลูกบาสถูกส่งออกไป
“ฝันไปเถอะ!”
เพียงแค่ซูเฮ่ากำลังจะยิ้มกริ่นด้วยความมั่นใจ เจียงเฟยก็พุ่งมาที่ด้านหลังอย่างรวดเร็วและอยู่ระหว่างซูเฮ่าและห่วง ระยะห่างของมันเพียงแค่สี่ช่วงคน แต่เจียงเฟยก็มาถึงตำแหน่งนี้ได้ในชั่วพริบตา
*ปัง*
ก่อนที่ลูกบาสจะเข้าไปในห่วง เจียงเฟยก็ทุบลูกบาสออกไป
“นี่มันบ้าอะไรกันวะ….พี่เฟยแม่งโคตรเท่ห์เลย!”จาวเฟิงร้องออกมาพร้อมกับความตื่นเต้น เหมือนกับว่าเขาเป็นคนแสดงเสียเอง