px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
ASTบทที่ 201 - เคล็ดฝึกตนดุจสรวงสวรรค์ขั้นต้น


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 201 - เคล็ดฝึกตนดุจสรวงสวรรค์ขั้นต้น

"ข้าเองก็ไม่ทราบ แต่ท่านไม่ต้องกังวลในตัวของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ แค่ได้คิดวิธีแก้ไขปัญหาไว้แล้ว หลังจากนี้ ถ้าจะเขียนบันทึกเคล็ดวิชาในการฝึกฝนให้กับท่าน ถ้ามั่นใจว่าท่านจะสามารถแนะนำการฝึกฝนเหล่านั้นให้แก่นางในอนาคตได้" ชิงสุ่ยกังวลใจเล็กน้อยในเรื่องของเด็กหญิงตัวน้อย ขณะที่เขากล่าวกับอีเย่เจี้ยนเก้อ

"อืมมม เจ้าเองก็ต้องระวังตัวเพราะโลกภายนอกนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เราไม่รู้จักแล้วเจ้าก็ต้องอยู่"

ชิงสุ่ยได้ยินเสียงที่ลังเลใจของอีเย่เจี้ยนเก้อ ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยรู้สึกกังวลกับคนอื่นเฉกเช่นชิงสุ่ย มันจึงทำให้เขายิ้มด้วยรู้สึกค่อนข้างพอใจ

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาควรจะกล่าวอำลาอูซวงและ…...จรู้ชิง เพราะนี่ก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาได้พบเจอกับจรู้ชิงเป็นครั้งสุดท้าย

"เวลาช่างผ่านไปเร็วยิ่งนัก!!"

เมื่อชิงสุ่ยเดินทางมาถึงหุบเขาจรู้ชิง ในตอนนี้มันแปรเปลี่ยนไปมาก ในปัจจุบันมีสาวกชายปรากฏตัวขึ้นในหุบเขาจรู้ชิง แม้กระทั่งคู่รักก็สามารถพบเห็นได้ที่นั่น

มันช่างเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ!! เขาได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ที่อูซวงอาศัยอยู่ และพบว่าเธอยังคงอยู่ภายในพื้นที่ของเธอ การที่เธอได้เป็นผู้พิทักษ์ของนิกายกระบี่นภาก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรนัก

"ทำไมหุบเขาจรู้ชิงถึงยกเลิกกฎข้อห้ามและให้สาวกนิกายชายเข้ามาได้?"ชิงสุ่ยถามอูซวง เมื่อตอนที่เขาได้พบกับเธอ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสับสน

"ใช่แล้วล่ะ เมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว ท่านอาจารย์แม่ยกเลิกกฎ และอนุญาตให้สาวกนิกายหญิงและสาวกนิกายชายสามารถครองรักกันได้"เหวินเหริยอูซวงตอบกลับ

ชิงสุ่ยยิ้มหัวเราะในขณะที่เขาค่อยๆถามว่า "เจ้าไม่คิดที่จะเชิญข้าเข้าไปนั่งข้างในหน่อยหรือ?"

เหวินเหรินอูซวงใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย และลังเลใจก่อนที่จะเชิญชิงสุ่ยเข้าไปยังสถานที่ของเธอ ซึ่งในห้องมีขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป มีเพียงห้องครัวเล็กๆและที่นั่งที่แสนสบาย

กำแพงหิมะขาวพร้อมทั้งเบาะนั่งสีชมพู เบื้องหน้าของเบาะนั่งเป็นโต๊ะอาหารขนาดเล็กที่ทำขึ้นจากไม้ ชิงสุ่ยยังคงจ้องมองไปที่เหวินเหรินอูซวงที่ยืนอยู่ข้างเบาะนั่ง

"ข้าอาจจะไม่อยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง"ชิงสุ่ยจับมืออูซวงขณะที่พวกเขานั่งลงบนเบาะ

"นานแค่ไหนกัน?" อูซวงจ้องไปที่ชิงสุ่ยด้วยความตกใจและแฝงไปด้วยความไม่สบายใจ

"ข้าเองก็ไม่รู้ แต่มันค่อนข้างจะนานกว่าที่ข้าจะกลับมา"ชิงสุ่ยตอบกลับ

เหวินเหรินอูซวงเงียบลงในขณะที่เธอก้มศีรษะและไม่พูดอะไร ชิงสุ่ยไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ เขาจึงค่อยๆเอื้อมมือไปกอดอูซวงและมืออีกข้างก็สัมผัสเข้ากับหน้าอกของเธอ

"อร๊ายยย!!!"

อูซวงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อต้านใดใดและยอมให้ชิงสุ่ยกอด

ในตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นเดินไปไกลเกินกว่าจุดที่เรียกว่าเพื่อน ชิงสุ่ยไม่ลังเลแม้แต่น้อยในขณะที่เขาค่อยๆขยับไปด้วยความชำนาญ และค่อยๆกดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของเหวินเหรินอูซวง และเริ่มสอดใส่ลิ้นเข้าหาลิ้นของอูซวง

ช่วงเวลานี้อูซวงเริ่มประสานการเคลื่อนไหวเข้ากับชิงสุ่ย และเธอเองก็ค่อยๆหลับตาลงและล้มตัวลงบนโซฟา อูซวงค่อยพลิกตัวขึ้นไปอยู่บนร่างกายของชิงสุ่ย ทั้งสองคนยังคงบรรจงจุมพิตโดยไร้การสื่อสาร เธอเริ่มรับรู้ถึงบ้างสิ่งบางอย่างที่กำลังแข็งตัวกระแทกเธอ มันจึงทำให้ใบหน้าของอูซวงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

อากาศบริเวณโดยร้อนลุ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อูซวงบับขาของเธอเข้าหากันอย่างเขิลอ มือที่ซุกซนของชิงสุ่ยกำลังเคลื่อนไหวที่บริเวณบันท้ายของเธอและเขาก็ค่อยๆบรรจึงนวดคลึงบันท้ายของเธอ

มือที่ซุกซนของเขา ค่อยๆขย้ำบันท้ายของเธอด้วยความรุนแรง มังกรน้อยของเขาที่กำลังเสียดสีก็ค่อยๆแข็งตัว จนตั้งตระหง่านชี้ตรงไปสู่สวรรค์!!!

"อร๊ายยยยยยยยย~~~~~~"

เสียงครางเบาๆด้วยออกจากปากของอูซวง ดวงตาของเธอค่อยๆเปิดออก ความมีเสน่ห์ที่คลุมเครือสะท้อนอยู่เบื้องหน้าของเขา ชิงสุ่ยพลิกตัวของเธอและกดเธอลง ยอfอกคู่แฝดของอูซวงตั้งตระหง่านอย่างน่าดึงดูดใจ

ชิงสุ่ยค่อยๆบรรจงจูบลงบนใบหน้าและริมฝีปากของเธอ ลิ้นของเขาค่อยๆเคลื่อนไหวลงไปเรื่อยๆจนถึงหน้าอกยอดแฝดคู่ของอูซวง มันเป็นความรู้สึกที่ชัดเจนมาก แม้จะผ่านเสื้อผ้าของเธอก็ตาม ความเต่งตึงและกลิ่นหอมมันช่างยั่วยวนยิ่งนัก

"ชิงสุ่ย อย่านะ!!" เหวินเหรินอูซวงคว้ามือของชิงสุ่ยในขณะที่เขากำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอ

ชิงสุ่ยยังคงกอดเธอเอาไว้อย่างแน่นแต่เขาหยุดการกระทำของเขาลง เขาเห็นล่องลอยแห่งราคะและความโศกเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอูซวง

ชิงสุ่ยค่อยๆเคลื่อนลิ้นของเขากลับไปประกบกับริมฝีปากของเธอ และค่อยๆบรรจงจูบเธออีกครั้งจนริมฝีปากของเธอนั้นบวมขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะปล่อยปากของเขาออก

"อูซวง ข้าอยากที่จะสัมผัสเจ้า"ชิงสุ่ยหายใจอย่างหนักแน่นขณะที่เขาจ้องมองอูซวง

ความเงียบครอบงำ ชิงสุ่ยยังคงไร้ซึ่งคําตอบ!!

"เออ ข้า…..?"ชิงสุ่ยกระซิบที่หูของอูซวง

"อืมมมมม……"เสียงตอบกลับที่นิ่มนวลดังขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นการตอบสนองจากความรักของอูซวงหรือเป็นการบังคับของชิงสุ่ย

มือของเขายกคางที่งดงามของเธอ มืออีกข้างหนึ่งยังคงอยู่ที่บริเวณหน้าอก ชิงสุ่ยจ้องมองอย่างมั่วเมา มันเต็มไปด้วยความสง่างาม และใบหน้าที่เขินอายของอูซวง

เขาหยุดชั่วครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยจ้องมองที่เสื้อผ้าและผมที่กระเซอร์ของอูซวง จนจมหายไปกับความงามของเธอ

ช่างน่าเศร้าอย่างมาก ที่อูซวงอนุญาตให้มือของชิงสุ่ยสามารถเคลื่อนไหวบนร่างกายของเธอได้อย่างอิสระ ยกเว้นเพียงแต่พื้นที่จุดสำคัญเท่านั้นที่เธอยังคงลงเหลือติดใจในการปกป้องพวกมันอย่างหนาแน่น ชิงสุ่ยถูกเติมเต็มไปด้วยกิเลส แต่ตอนนี้เขาเองก็พอใจมากพอแล้ว ใบหน้าสีชมพู และหน้าอกที่ตั้งตระหง่านสูง และแสงสีขาวเปล่งปลั่งดาวกับหิมะจากพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมครั้งกลิ่นความหอมกำลังเข้าครอบงำจิตใจของชิงสุ่ย

เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมทั้งหมดไป ศีรษะของชิงสุ่ยเริ่มเคลื่อนที่ลงและปากของเขาก็เริ่มประกบลงบนยอดภูเขาแฝด เขาเริ่มดูดมันเบาๆ อูซวงใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศ ร่างกายของเธอเริ่มสั่นสะท้านราวกับกำลังรับคลื่นแห่งความสุข

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่เขากลับไปยังหุบเขาหมอกเมฆา ชิงสุ่ยผมพยายามลบเลือนความทรงจำอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันเป็นสิ่งที่เขาได้ทำล่วงเกินไป ชิงสุ่ยจึงรีบหนีออกมาจากความหวาดกลัวเรานั้น เขากลัวว่าถ้านานกว่านั้นเขาอาจจะสูญเสียการควบคุมทั้งหมดไป เขาอาจจะไม่มีหน้าไปพบกับจรู้ชิงอีกด้วย เขาจึงตัดสินใจหนีก็กลับไปยังหุบเขาหมอกเมหาไม่ทันที

ในตอนนั้นชิงสุ่ยกำลังถูกแรงกระตุ้นครอบงำจนพร้อมที่จะและทำบางสิ่งบางอย่างต่อตัวของเหวินเหรินอูซวง แต่เขาเองก็เริ่มสังเกตเห็นว่าอูซวงคงจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นปัญหาแต่เธอไม่อาจกล่าวมาได้ เขาจึงตัดสินใจในทันทีว่าจะไม่ทำอะไรต่อ

3 วันผ่านไป ชิงสุ่ยยังคงเล่นกับเด็กหญิงตัวน้อยร่วมกับอีเย่เจี้ยนเก้อในทุกๆวัน ชิงสุ่ยชอบมากเวลาที่เขามีเจี้ยนเก้ออยู่ข้างๆ

หลังจากที่ผลเสริมปราการสุกงอม ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องจากไป แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ไปหาอูซวงแต่เขาเลือกที่จะไปหาจรู้ชิงแทน

ตลอดเส้นทางผู้คนมากมายต่างทักทายข่าว แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดสิ่งใดหลังจากที่พวกเขารู้ว่าชิงสุ่ยกำลังมุ่งหน้าไปหาจรู้ชิง ทุกคนรู้ดีว่าชิงสุ่ยมีความใกล้ชิดและสนิทกับเหวินเหรินอูซวง แต่กลับจรู้ชิงซึ่งเป็นอาจารย์ของอูซวง จึงมีบางคนที่เริ่มคิดอย่างอื่นผิดแปลกไป

"เจ้าคิดว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างผู้อาวุโสชิงสุ่ยกับอาจารย์หรือไม่?"สาวกนินจาหญิงของคุกเข่าจรู้ชิงกำลังพูดคุยกับสาวกนิกายหญิงอีกคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายลูกเมล่อน

"อะไรจะเกิดขึ้นรึ? เจ้าหมายถึงอะไร? ข้าเห็นว่าพวกเขานั้นเป็นเพียงผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับเดียวกันก็เท่านั้น"สาวกนิกายหญิงใบหน้ารูปเมล่อนกล่าว

"เจ้าช่างโง่งมยิ่งนัก!! ข้าได้ยินข่าวลือมาว่าท่านอาจารย์กำลังมีความรักกับผู้อาวุโสชิงสุ่ย และได้ยินมาว่าพวกเขาได้ลงเอยกันแล้ว"สาวกนิยายหญิงคนแรกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาและต่ำ

สาวกนิกายหญิงใบหน้ารูปเมล่อนตอบกลับด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด "ข้าไม่เชื่อหรอก มันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร?"

ชิงสุ่ยยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งจนไม่ได้ฟังบทสนทนาระหว่างสาวกนิกายหญิงทั้งสองคน

ในตอนนี้ไม่มีทหารยามสักคนเดียวที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าลานของจรู้ชิง เมื่อชิงสุ่ยมองเห็นจรู้ชิง เขาจึงรีบเดินเข้าไป

ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟทันทีที่พบกับร่างกายของจรู้ชิง แม้ว่าเธอจะค่อนข้างผอมลง กลิ่นอายของเธอไม่ได้ดูมืดมนเฉกเช่นแต่ก่อน กระดูกเชิงกรานของเธอมีลักษณะปราณีตราวกับถูกแกะสลักจากสรวงสวรรค์ แม้เธอจะสูญเสียน้ำหนักไปจำนวนมาก แต่หน้าอกและบั้นท้ายของเธอก็ไม่ได้มีขนาดที่ลดลง ในทางกลับกัน เพราะเธอสูญเสียน้ำหนักไปจำนวนหนึ่ง มันจึงทำให้หน้าอกและบั้นท้ายของเธอดูเต่งตึงยิ่งกว่าแต่ก่อน

ตอนนี้จรู้ชิงดูราวกับหญิงสาวที่พึ่งโตเต็มวัย เพียงแค่รอยยิ้มก็มาพอที่จะสะกดทุกสายตาของชายหนุ่ม เธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ดึงดูดและน่าหลงไหล เธอเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างแท้จริง "ชิงสุ่ย"เสียงของเธอแม้ว่าจะแหบแห้งเล็กน้อยแต่มันเต็มไปด้วยความรู้สึกสบายใจเมื่อเข้าได้ยิน

"ทำไมเจ้าช่างดูผอมเหลือเกิน?"ชิงสุ่ยค่อยๆกอดเธอดุจเจ้าหญิง ขณะที่เดินเข้าไปในห้องของเธอ

"เออ เจ้าลืมไปแล้วรึว่าวันนั้นเจ้าพยายามทำอะไรบ้าง"จรู้ชิงแสดงท่าทางอย่างเขิลอาย

"ฮ่าๆๆๆ ข้าต้องการ…………….."ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขากระซิบที่หูของเธอ

"ลงกลอนประตูด้วย"

ชิงสุ่ยอุ้มจรู้ชิงและเดินเข้าไปในห้องนอนและเริ่มดำเนินเรื่องราวต่อจากอดีต หลังจากปิดประตู ชิงสุ่ยก็เริ่มกดจรู้ชิงลงบนเตียงทึ่นุ่นสบาย

"ข้าคิดถึงเจ้า!!"ชิงสุ่ยจ้องมองจรู้ชิงขณะที่เขากล่าววาจา

จรู้ชิงยิ้มอย่างมีความสุข "ข้าก็เช่นกัน เจ้าทำให้ข้าฝันถึงเจ้าทุกวัน"

ชิงสุ่ยจูบอย่างดูดดื่มลงบนริมฝีปากที่เร่าร้อนสีแดงสดของจรู้ชิง ก่อนที่มือทั้งสองข้างของเขาจะเริ่มประทับลงบนสองยอดภูเขาคู่ที่ตั้งตระหง่านราวกับกำลังรอคนมาสัมผัส

"ข้าจะเดินทางจากที่แห่งนี้ไปในวันพรุ่งนี้"ชิงสุ่ยหยุดการจุมพิตลง

"จรู้ชิงตกสู่อาการงุนงงเพียงชั่วครู่ก่อนที่เธอจะเริ่มยิ้มอย่างขมขื่น "ถ้าเป็นเช่นนั้น วันนี้ทั้งวันข้าคงขอให้เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ด้วยพลังของเจ้าทั้งหมด"หลังจากนั้นเธอก็ดึงคอของชิงสุ่ยลงไปจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

เสื้อคลุมของพวกเขาถูกปลดลงไปกองบนพื้น ชิงสุ่ยค่อยๆบรรจงจูบร่างกายของจรู้ชิงอย่างนิ่มนวล รูปลักษณ์ที่งดงามของจรู้ชิงไม่อาจปิดบังความปรารถนาของเธอได้

นี้คือความรู้สึกขั้นสุดยอด!!!

ชิงสุ่ยค่อยๆเล่าเรื่อง "การฝึกตนแบบเทวบ่มเพาะ" เมื่อเห็นความปรารถนาบนใบหน้าของจรู้ชิง เขารู้ดีว่าเธอกำลังติดพันในห้วงแห่งความรัก

ชิงสุ่ยกำลังเพลิดเพรินไปกับรูปลักษณ์ของจรู้ชิง เมื่อแท่งสวรรค์สอดใส่เข้าสู่ร่างกายของเธอ ทันทีที่มันทะลวงลึกเข้าไป เขาก็เริ่มโคจรพลังปราณตามหลักการของการฝึกตนแบบเทวบ่มเพาะ ซึ่งมันยิ่งทำให้เธอมีความสุข

บางทีอาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังจะจากไป จรู้ชิงก็ปลดปล่อยอารมณ์ที่น่าหลงใหลและรุนแรงทั้งหมดในวันนี้ เมื่อพลังปราณโคจรเข้าสู้แท่งสวรรค์ของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่บริสุทธิ์อย่างชัดเจน เมื่อพลังหยินและหยางเชื่อมต่อร่างกายสู่ร่างกาย ทุกอย่างเหมือนถูกแช่แข็ง เขาเองค่อนข้างกังวลว่าเคล็ดวิชานี้จะเป็นดั่งเคล็ดวิชามารที่จะขโมยพลังหยินของสตรีมาหล่อเลี้ยงพลังหยางของเขา ซึ่งในช่วงเวลาแห่งความลังเลใจของเขา พลังงานบริสุทธิ์ก็เริ่มไหลเข้าสู่จุดตันเถียนของเขา ซึ่งมันช่วยเพิ่มขนาดของเหลวสีทองที่อยู่ภายใน

เพียงชั่วขณะความหวาดกลัวก็ปรากฏ พลังปราณจากเคล็ดกายาบรรพกาล ก็เริ่มโคจรโดยไม่รู้สาเหตุ และมันก็เริ่มกระจายไปทั่วร่างกายของเขาก่อนที่จะเริ่มไหลเข้าสู่ร่างของจรู้ชิง

หลังจากการแลกเปลี่ยนพลัง ชิงสุ่ยรู้สึกอบอุ่นอย่างยิ่ง พลังงานที่แสนมหัสจรรย์เกิดขึ้นในร่างกายของเขา จุดตันเถียนกำลังปรับปรุง รวมทั้งเส้นลมปราณ ช่องพลังปราณ แม้กระทั่งของเหลวสีทองที่อยู่ภายใน หลังจากที่เขารู้ว่าจรู้ชิงไม่ได้รับการสูญเสียใดๆ เขาจึงไม่ใส่ใจมันอีก และเริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเองอีกครั้งขณะที่เขาเล้าโลมร่างกายของเธออย่างเพลิดเพลิน

ชิงสุ่ยพบว่าปริมาณพลังปราณเริ่มลดลงเมื่อเกิดการแลกเปลี่ยนกัน พลังของเขาลดลงอย่างรวดเร็ดจนตอนนี้มันเหลือเพียงพลังที่น่าอัศจรรย์

"จรู้ชิง ได้โปรดขึ้นมาอยู่บนร่างกายข้าด้วยเถิด"

 

รีวิวผู้อ่าน