px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 216 -  กายานพเก้า ธรรมดาในความไม่ธรรมดา


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 216 -  กายานพเก้า ธรรมดาในความไม่ธรรมดา

"นี้เจ้า?" เสียงที่แหบแห้งของหญิงสาวปรากฏขึ้นพร้อมดวงตาที่ดูงดงาม มันถูกเติมเต็มไปด้วยความประหลาดใจในขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างไม่น่าเชื่อ

 

"เจ้ารู้จักกับยี่เอออย่างนั้นรึ?" ชายชรากล่าวด้วยความประหลาดใจ

 

ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างงุ่มงาม เขาจะไม่หัวเราะออกมาได้อย่างไร? หรือเขาควรจะบอกผู้อาวุโสคนนี้ดีว่าเขาเคยเป็นคนที่ทำให้หลานสาวของผู้อาวุโสต้องบาดเจ็บมาก่อน

 

"พวกเราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว แต่เราก็ไม่ได้คุ้นเคยกันมากนะพวกเราได้พูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น"หญิงสาวที่ถูกเรียกว่ายี่เออ ยิ้มตอบ การเดินของเธอนั้นยังคงมีเสน่ห์แต่กลับซ่อนเร้นความแปลกประหลาดอยู่ภายใน ทุกอย่างในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนแอลงกว่าแต่ก่อน

 

"ท่านผู้ ท่านพาพวกเขามาที่นี่ทำไม?"หญิงสาวเดินไปทางชายชราและโอบกอดฉันเอาไว้ในขณะที่เธอเองก็มองไปทางชิงสุ่ย ซึ่งมันทำให้ชางห่ายหมิงเยวี่ยกับห่าวหยุนลิ่วลี่ รู้สึกแปลกประหลาดจากสายตาของเธอ

 

ยิ้มของเธอปรากฏขึ้นในขณะที่เธอเห็นชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุน ลิ่วลี่ "พี่สาวทั้งสองคนช่างมีรูปลักษณ์ดุจเทพธิดาจากสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง ตลอดช่วงชีวิตข้า ข้าไม่เคยเห็นใครที่งดงามขนาดนี้มาก่อนเลย"

 

หลังจากนั้นเธอก็หันไปจ้องมองที่ชิงสุ่ย แล้วค่อยๆส่งเสียงหัวเราะที่ดูไร้สาระออกมา

 

"สาวน้อย เจ้ากล่าวชมพวกข้าเกินไปแล้ว เจ้าเองงดงามกว่าพวกเราเสียอีก"ชางห่ายหมิงเยวี่ยยิ้มในขณะที่เธอตอบ ชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออก ถึงแม้ว่าเธอจะแสดงความสุภาพต่อหน้าหญิงสาวที่งดงาม คลื่นๆจากตัวเธอนั้นเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยาก ถ้าหากชิงสุ่ยได้มีโอกาสร่วมเตียงกับเธอ ไม่แน่ว่าเสน่ห์ของเธอนั้นอาจจะมีมากกว่าชางห่ายหมิงเยวี่ยและอี้เย่เจี้ยนเก้อรวมกันเสียอีก

 

ชิงสุ่ยรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อยหลังจากที่ได้เห็นหญิงสาวคนนี้ อย่างไรก็ตามเขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ที่เธอมาจากนิกายสราญรมย์มากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร

 

"ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าท่านมาจากนิกายสราญรมย์ใช่หรือไม่?"ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่ชายชราขณะที่เขาเริ่มเอยปากกล่าวถาม

 

"เข้ามาก่อนเถอะ เชิญทุกคนนั่งก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลัง" ชายชราเชิญให้พวกเขาเข้ามานั่งข้างใน ในขณะที่เขาเริ่มเทน้ำชาให้กับกลุ่มของชิงสุ่ย

 

"ผู้อาวุโส โปรดเล่าเรื่องอาการที่เกิดกับหลานสาวของท่านก่อนเถิด"ชิงสุ่ยกล่าวถามขณะที่ทุกคนถือถ้วยชาไว้ในมือ

 

"ก็ได้ ก็ได้ นับตั้งแต่ยี่เอ๋อยังวัยเยาว์ นางก็มีพลังงานหยินมากเกินไป ซึ่งในตำนานร่างกายของนางถูกเรียกว่ากายานพเก้า มันทำให้นางมีชีวิตได้เพียง 35 ปี พวกข้านั้นพยายามหาทั้งหมอและนักปรุงยาอีกมากมาย แต่พวกเขาตั้งบอกเค้าว่ามันหมดหนทางเกินกว่าจะทำสิ่งใดแล้ว และในท้ายที่สุด พวกเขาทําได้เพียงแค่แนะนำให้ข้าหาสิ่งของที่เป็นประโยชน์ ที่สามารถยืดอายุขัยของนางได้ ดังนั้นข้าจึงหวังเพียงว่าข้าจะได้ใช้ผลชีพยืนยาวในการต่อต้านพลังหยินที่มีร่างกายของนาง"ชาดาพูดอย่างตรงไปตรงมาและดูเหมือนว่ายี่เอ๋อเองก็รู้เกี่ยวกับสภาพร่างกายของตนเอง

 

หลังจากที่ชิงสุ่ยได้ยินคำพูดของชายชรา เขาก็ขยับตัวเข้าใกล้ยี่เอ๋อและเริ่มใช้เคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์เพื่อตรวจสอบร่างกายของยี่เอ๋อ " ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสจะเป็นกังวล เมื่อมองดูจริงๆแล้วแต่พบว่าเธอนั้นมีกระดูกดุจหยกซึ่งคล้ายคลึงกับห่าวหยุนลิ่วลี่ เพียงแต่พลังอยู่ในร่างกายของเธอนั้นรุนแรงมากเกินไป นี่คงจะเป็นกายานพเก้าอย่างแท้จริง"

 

"ข้าขอตรวจดูชีพจรของเจ้าได้หรือไม่?"ชิงสุ่ยกล่าวอย่างนิ่มนวลขนาดที่เขาต้องไปยังหญิงสาว

 

หลังจากหญิงสาวลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เธอก็ค่อยๆเอื้อมมีที่คล้ายหยกออกมา ชิงสุ่ยรู้ดีว่าเธอยังคงบริสุทธิ์ เพราะเธอนั้นมาจากนิกายสราญรมย์ แต่คนทั่วไปคงไม่อาจใช้เคล็ดวิชาเทวบ่มเพาะร่วมกับเธอได้เพราะไม่มีใครสามารถทนพลังงานยึดแข็งที่เกิดจากพลังงานหยินที่เอ่อล้นออกมาจากตัวเธอได้

 

ชิงสุ่ยรู้ดีว่าที่เธอกลายเป็นอัจฉริยะเช่นนี้ได้เป็นเพราะเธอนั้นครอบครองกายานพเก้า จึงทำให้เธอสามารถก้าวทะยานขึ้นสู่ขั้นปลายก่อนที่จะขึ้นสู่ระดับเทวะเซียนเทียน แต่เป็นเพราะอายุขัยของเธอที่สั้นลงรวมถึงขีดจํากัดที่ทุกคนต้องเผชิญมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถทำให้เธอทะลุผ่านขั้นเทวเซียนเทียนไปได้

 

ชิงสุ่ยจับข้อมือในขณะที่เขามองตาเธอ แม้ว่าความนุ่มนวลจากผิวของเธอเป็นสิ่งที่น่าสัมผัส แต่หัวใจของชิงสุ่ยไม่ได้ต้องการที่จะเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกในขณะนั้น เขาตระหนักได้ว่าเขายังมีสิ่งที่ต้องทำ ลมปราณที่เกิดจากภาพจิตรกรรมราชวังฤดูใบไม้ผลิก็เรื่องโคจรเองชื่อพลังที่ออกมานั้นดูแข็งแกร่งและราบรื่นมากกว่าครั้งก่อนในอดีต

 

ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าพลังปราณที่ไหลเข้ามาในร่างกายของเขานั้นได้รับการกระตุ้นมาจากพลังปราณหยินที่เกิดจากร่างกายของยี่เอ๋อ มันเป็นการกระตุ้นที่ทำให้เกิดความรู้สึกหลงใหลและความคิดซุกซนก็เริ่มปรากฏขึ้นในสมองของเขา ถ้าหากเขาสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะร่วมกับเธอได้และได้ร่วมรักกับเธอ คลื่นพลังที่อยู่ในจิตรกรรมราชวังฤดูใบไม้ผลิคงต้องแข็งแกร่งขึ้นอีก 80 เท่า

 

ชิงสุ่ยเริ่มไม่รู้ตัวว่าเขานั้นกำลังจับข้อมือของยี่เอ๋อ เคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะของเธอกำลังโคจรอย่างอิสระด้วยตัวเอง นอกจากนี้มันยังสร้างแรงกระตุ้นที่ต้องการจะร่วมฝึกใช้วิชาทวีบ่มเพาะไปพร้อมๆกับชิงสุ่ย เธอเองยังคงระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เธออยู่ที่นิกายกระบี่นภา ความคิดความต้องการทั้งหมดของเธอนั้นทำให้ใบหน้าของเธอที่มีเสน่ห์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศ

 

"มีหลากหลายวิธีมากที่จะสามารถรักษาร่างกายของเราได้ พวกเราจำเป็นต้องปรับสภาพพลังปราณหยินที่อยู่ในร่างกายของเจ้าเท่านั้น"ชิงสุ่ยปล่อยความลังเลออกไป และค่อยๆอธิบาย

 

"ด้วยวิธีการใด? เจ้าช่วยแจ้งให้ข้ารู้ได้หรือไม่?"หญิงสาวยิ้มให้กับชิงสุ่ยโดยไม่มีร่องรอยความคิดแง่ร้าย

 

" ถ้าจะให้ข้าพูดตามตรง….. เออ...วิธีที่ง่ายที่สุดคือการหาชายที่มีร่างกายอย่างในตำนานจากนั้นเจ้าก็แค่เริ่มเข้าสู่การฝึกฝนโดยใช้เคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะกับเขา และใช้ร่างกายหยางของบุรุษเพศปรับสมดุลให้กับพลังหยิงที่เอ่อล้นในร่างกายเจ้า"

 

คำพูดของชิงสุ่ยทำให้หญิงสาวทั้งสามใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง และมันเป็นเพราะว่าเธอนั้นมาจากนิกายสราญรมย์ มันจะทำให้เธอไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเพศชายมาก่อน

 

ชายชรายังคงไร้การเปลี่ยนแปลง ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปหาชิงสุ่ย และกล่าวถามว่า "เจ้ารู้ได้อย่างไรกันบ่ต้องใช้ร่างกายที่มีพลังหยางเพื่อปรับสมดุล?"

 

"ร่างกายหยิงและหยางเป็นทั้งสิ่งที่มีสัมพันธ์ต่อกันแล้วยังเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน พลังปราณหยางระดับเทวะเซียนเทียนมีพลังในการครอบงำมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องใช้พลังจากร่างกายหญิงสาวในการช่วยทำให้มันมีความเสถียร ซึ่งฝั่งสตรีเพศเองก็จำเป็นเช่นกัน ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดในการตามหาบุรุษเพศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังหยางนั่นก็คือการที่ชายคนนั้นสามารถ …….เออออออ……….มอบความสุขให้กับหญิงสาวนับไม่ถ้วนได้ในทุกวัน"ชิงสุ่ยกล่าว ราวกับกำลังแบกสิ่งของที่หนักอึ้งอยู่บนหลัง

 

"เห้อ วิธีการนี้มัน….ยังมีวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ หรือวิธีการที่มีประสิทธิภาพพอที่จะใช้มันได้?"ชายชรากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

 

"ตามหาสิ่งของที่อัดแน่นไปด้วยพลังหยาง อย่างเช่น ผลมังกรเทวะผสานหยาง ซึ่งจะต้องเป็นผลมังกรเทวผสานหยางเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้ สำหรับของที่มีพลังอย่างมากเกินไปอย่างอื่นมันอาจทำให้ร่างกายระเบิด ลมปราณแตกซ่านได้ หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือการตามหา เลือดของนกหงส์เพลิง ซึ่งมันจะสามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน"

 

ชายชราถึงกับเงียบ ผลมังกรเทวะผสานยางเป็นถึงผลไม้ที่อยู่ในตำนาน อีกครั้งเลือกของนกหงส์เพลิงมันเป็นยิ่งกว่าตำนานที่ซ่อนอยู่ในตำนานเสียอีก

 

"สิ่งของเหล่านี้ข้าเชื่อว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ไม่อาจหาได้ ยกเว้นท่านจะต้องชะตากับสิ่งของเหล่านั้น อันที่จริงแล้ว ข้ายังคงมีวิธีที่สามารถบรรเทาอาการให้กับนางได้ แม้ว่าสิ่งของของข้าชิ้นนี้จะไม่ใช่สมบัติล้ำค่าจากสวรรค์ แต่มันก็สามารถยับยั้งพลังหยินที่รุนแรงในร่างกายของนางได้ อย่างน้อยก็สามารถยืดอายุขัยของนางไม่ถึง 50 ปีได้" ชิงสุ่ยกำลังคิดว่าเลือดจากเต่าทองคำภาพรวมกับเลือดจากหอยพันปี มันก็จะมีคุณสมบัติเป็นพลังหยาง ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพของพวกมันจะไม่สอดคล้องกับการใช้ผลมังกรเทวะผสานหยางหรือการใช้เลือดของนกหงส์เพลิง แต่อย่างน้อยมันก็ส่งผลในระดับหนึ่ง

 

"จริงหรือ? สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงใช่หรือไม่?"ชายชราหัวเราะอย่างกระวนกระวาย สายตาของเขานั้นวูบวาบเปล่งประกายระยิบระยับ ในขณะที่เขามองไปทางชิงสุ่ย หญิงสาวกำลังมองปู่ของเธอด้วยสายตาที่มีความสุขหลังจากที่นี่เห็นปฏิกิริยาที่ปู่ของเธอแสดงออกมา หลายปีที่ผ่านมาปู่ของเธอได้เชิญทั้งหมอ ทั้งผู้ฝึกตน รวมทั้งนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงระดับมหาทวีป รวมถึงปู่ของเธอไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะนำสมบัติทั้งหมดของเขาออกมาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยืดอายุขัยหลานสาวของเขา เขายอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ

 

เขาเป็นเพียงญาติสนิทคนเดียวที่เธอเหลืออยู่หลังจากที่พ่อแม่ของเธอได้จากไป น้ำตาแห่งความสุขเริ่มไหลรินลงบนใบหน้าของเธอ

 

" ข้าขอเวลาเพียง 1 วัน แล้วข้าจะกลับมา!!"ชิงสุ่ยยืนขึ้นและค่อยๆกล่าวมา

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ในตอนนี้ใบหน้าของยี่เอ๋อสะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตระหนก

 

"มันจะทำให้พวกเจ้าลำบากหรือไม่? พวกเจ้าแค่เขียนข้อมูลของมันทิ้งเอาไว้ แล้วเดี๋ยวชายชราคนนี้จะเป็นคนไปตามหามันเอง"ชายชรารีบกล่าวเพิ่ม

 

"ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปนำมันมาเอง เพราะสิ่งที่ข้ากล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ข้ารู้จักเพียงคนเดียว"ชิงสุ่ยรู้ว่าชายชราคนนั้นเป็นไปด้วยความกังวลและยังไม่ค่อยไว้ใจเขาอย่างเต็มที่

 

ชายชราหัวเราะยังอับอาย ความพยายามของเขาที่จะโน้มน้าวให้ชิงสุ่ยอยู่ที่นี่ต่อถูกปฏิเสธโดยชิงสุ่ย

 

"เออ พวกเจ้าสามารถเลือกสมุนไพรที่อยู่ชั้นล่างได้เลย ทุกอย่างที่นี่ข้ายกให้เป็นของเจ้า ตราบเท่าที่เจ้าต้องการ ชายชราคนนี้ไม่ได้คิดเก็บจะเก็บสมุนไพรทั้งหมดเอาไว้อยู่แล้ว มันย่อมคุ้มค่าถ้าหากมันสามารถแลกเปลี่ยนให้หลานสาวของข้า สามารถมีชีวิตยืนยาวได้อีกจนถึง 50 ปี"

 

"ไม่ต้องรีบร้อนหรอกท่านผู้อาวุโส ให้ข้ารักษานางจนเสร็จสิ้นเสียก่อน"ชิงสุ่ยยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่เขาตอบกลับ

 

อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะจริงจัง และพยายามมอบสมุนไพรให้กับเขา โดยที่ชายชราพยายามเรียกร้องให้เลือกสมุนไพรไปในวันนี้ ดังนั้นหลังจากที่ชิงสุ่ยลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เขาจึงรับเอาสมุนไพรที่มีอายุกว่าพันปีมาก่อนที่เขาจะจากไป จากด้านหลังของชิงสุ่ย ปรากฏเป็นรอยยิ้มอันอบอุ่นที่แสดงออกผ่านสีหน้าของชายชรา

 

"ท่านปู่ ขอบคุณมากกกกก……………………."

 

ชายชราลูบศีรษะของหลานสาว "เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณปู่เลย ทั้งหมดเป็นความผิดของปู่เองที่ไม่อาจช่วยพ่อแม่ของเจ้าให้กลับมาได้ ดังนั้นปู่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเจ้า ถ้าหากปู่สามารถสละชีวิตของปู่เสื้อยืดชีวิตของเจ้าได้แม้เพียง 10 ปี ปู่ก็ยอม"

 

"ท่านปู่!!!!!!"

 

น้ำตายังคงไหลรินออกมาเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าของเธอ " ยี่เอ๋อไม่ยอมให้ปู่ไปไหน ยี่เอ๋อไม่อยากให้ปู่ต้องสละชีวิตเพื่อยี่เอ๋อ ท่านปูเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของยี่เอ๋อแล้ว"

 

ชิงสุ่ยและโฉมงามทั้งสองคนก็จากร้านขายโอสถพร้อมทั้งกล่องที่บรรจุโสมอายุพันปีอยู่ในมือ "ถ้าข้าหนีไป ข้าคงจะกลายเป็นโจรมืออาชีพอย่างแน่นอน?" ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ

 

ห่าวหยุนลิ่วลี่ต้องไปที่ชิงสุ่ยอย่างโง่เขลาก่อนที่เธอจะหัวเราะตาม

 

"ใช่ เจ้าจะกลายเป็นนักต้มตุ๋นมืออาชีพอย่างแท้จริง การกระทำของเจ้าสมบูรณ์แบบเกินไป"ชางห่ายหมิงเยวี่ยกล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ

 

"ชิงสุ่ย เจ้ารู้จักสาวสวยเช่นนี้ได้อย่างไร?"ห่าวหยุนลิ่วลี่ถามท่ามกลางเสียงหัวเราะ

 

"เจ้าไม่มีทางเชื่อข้าหรอก ถ้าหากข้าเล่าให้เจ้าฟัง"ชิงสุ่ยยังคงระลึกได้ว่าเขานั้นเป็นคนทําร้ายเธอมาก่อน

 

"เล่าให้ฟังหน่อยสิ ไหนๆเจ้าก็จะกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางแล้ว "ห่าวหยุนลิ่วลี่และช่างห่ายหมิงเยวี่ยกล่าวพร้อมกับกระพริบตาคู่งามอยากมีเสน่ห์

 

ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างข่มขืนในขณะที่เขาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

"อะไรนะ? เจ้าทำให้นางต้องบาดเจ็บ? นี้เรื่องจริงหรือ?"ห่าวหยุนกล่าวถามด้วยความตกใจ

 

"เจ้าคงคิดว่าค่าเป็นคนไร้ความปราณีสินะ ข้าเพียงแค่พยายามช่วยเหลือโฉมงาม พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าความงามที่สามารถโค่นล้มอาณาจักรได้นั้นเป็นเช่นไร"ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ

 

"แน่นอนข้าเองก็รู้สำนวนนี้ เพราะข้าเองก็เคยอ่านหนังสือเล่มนั้นมาก่อน ทำไมเจ้าถึงถามเรื่องนี้?"ชางห่ายหมิงเยวี่ยจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย

 

"เพราะว่าพวกเจ้าทั้งสองนั่นแหละคือหญิงสาวที่ครอบครองพลังความงามที่สามารถโค่นล้มอาณาจักรได้"ชิงสุ่ยตอบขณะที่เดินตรงไปข้างหน้า

 

"เจ้าโง่ชิงสุ่ย ความงามของพวกเราจะโค่นล้มอาณาจักรได้อย่างไร?"ห่าวหยุนลิ่วลี่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมทั้งกล่าวด้วยความโกรธ

 

"เอออ…………..เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเจ้าทั้งสองทำได้"ชิงสุ่ยตอบกลับ

 

"เจ้าก็พูดเกินจริง หยุดพูดเสียเถิด"ใบหน้าห่าวหยุนลิ่วลี่แปลเปลี่ยนเป็นสีชมพูอีกครั้ง หลังจากนั้นทั้งชิงสุ่ย ห่าวหยุนลิ่วลี่ และชางห่ายหมิงเยวี่ยก็เดินต่อไปเรื่อยๆ

 

ในคืนนั้นชิงสุ่ยได้กลั่นยาเม็ดฟื้นฟูขนาดเล็กออกมาทั้ง 12 เม็ด ภายในดินแดนห้วงมิติ จากนั้นเขาก็เก็บเลือดของเต่าทองคำ หอยพันปี แม้กระทั่งวิหคเพลิงก็เช่นกัน

 

เมื่อมองดูยาเม็ดที่กลั่นขึ้นอย่างพิถีพิถัน ชิงสุ่ยจึงตัดสินใจมอบครึ่งหนึ่งให้กับตระกูลชางห่าย

 

เขายังคงใช้เวลาทั้งหมดในการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งภายในดินแดนห้วงมิติแห่งนี้ ได้เวลาส่วนใหญ่ของเขานั้นมักจะใช้ในการฝึกฝนกระบี่ดารายุพฆาต การโจมตีของมันเปรียบดังคลื่นมหาสมุทรที่ไร้ความสงบ ทุกกระบวนท่าถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสอดคล้องกับการไหลเวียนพลังปราณในร่างกายของเขา

 

นอกจากนี้เขายังฝึกฝนฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน จนสามารถก้าวขึ้นสู่คลื่นที่ 3   พลังของมันนั้นเหนือกว่าคลื่นที่ 2 อย่างมาก

 

นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยมักจะฝึกฝนมันเป็นประจำ แม้ว่าทุกคนจะมองว่าเคล็ดวิชาบางเคล็ดวิชาจะเป็นสิ่งที่ไร้ค่า แต่เขาก็ยังคงฝึกฝนมันอย่างจริงจัง และเขาเชื่อมั่นว่าตราบใดที่เขาสามารถฝึกฝนมันได้อย่างสมบูรณ์ มันย่อมต้องมีประโยชน์กับเขาอย่างแน่นอน

 

ไม่ว่าเขาจะเข้าไปลึกซึ้งหรือไม่ ตราบใดที่ยังมีความมุ่งมั่น ความพยายาม และเวลา สักวันหนึ่งเป้าหมายของเขาก็จะบรรลุ วันนั้นจะเปรียบดังนกหงส์เพลิงที่ค่อยๆก่อกำเนิดขึ้น และทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจตำนานเทพเจ้า

 

เมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนเช้าตอนที่ผิวของเขาได้สัมผัสกับยี่เอ๋อ เคล็ดที่อยู่ในจิตรกรรมพระราชวังฤดูใบไม้ผลิก็เริ่มโคจรด้วยตัวมันเองจากการกระตุ้นของพลังปราณหยินที่อยู่ในร่างกายหญิงสาว ชิงสุ่ยก็ไม่แน่ใจว่าร่างกายของเขานั้นจะสามารถทนต่อการกัดกร่อนที่เกิดจากพลังปราณหยินจากกายานพเก้าได้หรือไม่ ถึงแม้ร่างกายของเขาจะถูกหล่อหลอมโดยเคล็ดวิชากายาบรรพกาล แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขายังคงไม่อาจเปรียบได้กลับร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังปราณหยาง

 

 

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน