px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 222 – กระเรียนขาวสยายปีกและหญิงสาวลึกลับ


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 222 – กระเรียนขาวสยายปีกและหญิงสาวลึกลับ

 

ภาพวาดของแม่น้ำและภูเขาที่งดงาม! ฉากกั้นห้องถูกวาดลวดลายเต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำอันวิจิตรบรรจง มันมีสีสันสวยงาม เป็นงานฝีมือที่ประณีตและช่วยเพิ่มความรู้สึกของความสุขและความสะดวกสบายให้กับบ้าน

 

ชิงสุ่ยมีความสุขที่ได้เห็นเครื่องเรือนระดับสาม!

 

เมื่อมองลวดลายภาพวาดของแม่น้ำที่ตั้งตระหง่านและทิวภูเขาอันสง่างาม ชิงสุ่ยตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความหลงใหลในงานชิ้นนี้ มันมีความงามอันเย้ายวนใจและไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำว่างดงามเพียงแค่คำเดียว ไม่ว่าจะงดงามหรือประณีตของสิ่งใดก็ตาม มันก็จะดูด้อยกว่าและไม่อาจจะเทียบได้เมื่ออยู่ต่อหน้าฉากกั้นห้องนี้

 

มันช่างเหมือนกับความงดงามอันล้ำค่าของชางห่ายหมิงเยวี่ย มันสวยงามดั่งความงามของอีเย่เจี้ยนเก้อซึ่งอาจทำให้เกิดการล่มสลายของเมืองและอาณาจักรลงได้ และสวยงามมากจนนึกไปถึงห่าวหยุนลิ่วลี่ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความทุกข์และทรมานจากการไม่ได้ครอบครองเธอ แต่สามสิ่งที่กล่าวมานี้ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

 

ฉากกั้นห้องนี้มีความยาว 5 เมตรและสูงกว่า 3 เมตร ภาพวาดภูเขานั้นราวกับว่ามันเป็นศูนย์รวมและจิตใจของแม่น้ำ ส่วนแม่น้ำก็เป็นดั่งจิตวิญญาณของสวรรค์ที่หลั่งไหลลงมา มีลำธารไหลรินและมีคนมองเห็นสัตว์อสูรขนาดยักษ์บินอยู่บนท้องฟ้า บนทิวเขามีสัตว์อสูรประหลาดจำนวนไม่มากนักและมีคนภาพเล็กๆอยู่บนยอดภูเขา มันเป็นภาพวาดที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก แม้กระทั่งชิงสุ่ยก็รู้สึกว่าคนที่วาดภาพนี้นั้นมีทักษะที่ล้ำเลิศและมีทางพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง

 

การมองไปที่ฉากกั้นห้องชิ้นนี้ทำให้เขารู้สึกว่าคนเรานั้นไม่มียิ่งใหญ่ที่สุดเสมอไป เพียงแค่เขายืนอยู่หน้าฉากกั้นห้องอันสง่าผ่าเผย มันก็สามารถทำให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้ ชิงสุ่ยอยากรู้ว่าระดับการฝึกตนของผู้วาดภาพชิ้นนี้อยู่ที่ระดับใด เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมฉากกั้นห้องระดับสูงเช่นเดียวกับจิตรกรรมภาพเขียนจึงถูกนำมาจัดขายรวมกับเครื่องเรือนอื่นๆเช่นนี้ ฉากกั้นห้องนั้นชิ้นงานที่ประณีตและยอดเยี่ยม

 

ชิงสุ่ยยืนอยู่ห่างๆมองดูฉากกั้นห้องและคิดกับตัวเองว่านี่ช่างเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม

 

ชิงสุ่ยชื่นชอบในภาพวาด โดยเฉพาะภาพวาดของหญิงสาวแสนสวยและภาพวาดของภูเขาและแม่น้ำ เช่นภาพวาดของฉากกั้นห้องที่อยู่ข้างหน้าของเขา มันไม่เพียงแต่จะทำให้มุมมองทางความคิดกว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้หัวใจของเขาเปิดกว้างขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่เหมือนดั่งกบที่อยู่ในกะลา

 

ชิงสุ่ยเดินเข้าไปมองภาพวาดให้ใกล้ขึ้นและเขาก็ตระหนักว่ายิ่งเขาดูมันมากเท่าไหร่ เขาก็ชื่นชอบมันมากเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามันติดป้ายราคาไว้ 500,000 เหรียญเงิน ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเป็นราคาที่เขาสามารถยอมรับได้ ถึงแม้มันจะมีราคาแพงกว่าจิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์ถึง 5 เท่า ชิงสุ่ยก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่า

 

เนื่องจากชิงสุ่ยยืนมองภาพวาดของฉากกั้นห้องนี้อยู่เป็นเวลานาน หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งสวมเครื่องแบบร้านเครื่องเรือนเมฆามรกตจึงเดินเข้ามาทักทาย

 

"ยินดีต้อนรับ! มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?" เสียงของเธอช่างหวานจับใจ รอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นและรูปร่างของเธอก็ดูดีเช่นกัน เธอเป็นสตรีตัวสูงและมีผิวพรรณที่สวยงาม เมื่อเธอพูดก็สามารถมองเห็นฟันสีขาวที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามซึ่งอยู่ภายใต้ริมฝีปากอันเรียวเล็กของเธอ มันช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

 

ชิงสุ่ยมองไปยังสตรีที่มีเสน่ห์ตรงหน้าเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณดวงตาที่สดใสของเธอ ซึ่งเป็นเหมือนดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน เขารู้สึกเสียดายว่าเพราะเหตุใด สตรีสาวสวยเช่นนี้ถึงเป็นแค่ผู้ช่วยร้านได้

 

"ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่อยากรู้ว่ามีสินค้าที่มีคุณภาพเช่นฉากกั้นห้องอันนี้มากน้อยเพียงใด? มีอะไรอื่นที่มีคุณภาพสูงกว่านี้หรือไม่" ชิงสุ่ยถามออกไปอย่างลวกๆ

 

"นี่ถือสินค้าที่โดดเด่นมากในชั้นที่สอง แต่ยังมีอีกสองสามชิ้นที่พอจะเทียบได้กับสิ่งนี้ ท่านต้องการให้ข้าแนะนำสินค้าเหล่านั้นหรือไม่?"

 

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเสียงของหญิงสาวนั้นนิ่งสงบมากและเป็นเสียงที่น่ารื่นรมย์

 

เสียงของเธอช่างนุ่มนวล เสียงไม่แหลมและดูมีชีวิตชีวามากๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนกำลังร่วงหล่นลงไปในน้ำเสียงนั้น

 

เมื่อมองไปที่จำนวนอันน่าตกใจของเครื่องเรือนรอบๆตัวเขา เขาคิดว่าเขาจะต้องใช้เวลาไม่น้อยไปกับสินค้าดีๆเหล่านี้ เป็นความจริงที่ว่าหญิงสาวคนนี้นั้นช่างงดงามยิ่งนักและให้ความรู้สึกที่น่ารื่นรมย์ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่วิเศษมากที่มีเธอมากับเขาด้วย

 

"ข้าคงต้องรบกวนเจ้าแล้วล่ะ ข้าตกลงใจจะซื้อมัน เจ้าช่วยพาข้าไปดูสินค้าได้หรือไม่" ชิงสุ่ยรู้ว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องได้รับเงินส่วนแบ่งการขายจากสิ่งที่เขาซื้อไป

 

"ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร โปรดตามข้ามา" สตรีนางนี้ช่างอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เร่งเร้าและแสดงอาการดีใจออกนอกหน้าใดๆ เมื่อได้ยินว่าชิงสุ่ยกำลังจะซื้อฉากกั้นห้องและสินค้าอื่นๆ แน่นอนเธอยังคงยิ้มแย้มเหมือนตอนแรกที่ทักทายเขาอยู่ตลอดเวลา

 

ชิงสุ่ยเดินตามหญิงสาวไป เขามองไปที่ก้นอันเรียวงามของเธอ สะโพกของเธอขนาดกำลังเข้ารูป มันไม่ใหญ่จนเกินไปและเหมาะกับเอวของเธอเป็นอย่างมาก เช่นเดียวขาทั้งสองข้างอันงดงาม เธอเดินอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ทำให้เขารู้สึกดีมากๆ

 

"นี่คือ กระเรียนขาวสยายปีก มันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสินค้าที่ดีที่สุดของที่นี่" เสียงอันนุ่มนวลและน่ารื่นรมย์ของหญิงสาวดังออกมาขัดขวางความคิดอันลามกของเขา

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินชื่อของสินค้า เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก

 

ชิงสุ่ยไม่สนใจเรื่องคุณภาพของสินค้า เนื่องจากเขาพอจะมีความรู้เกี่ยวกับมันมาจากช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ตราบเท่าที่มันมีประโยชน์สำหรับเขา เขาไม่สนใจว่ามันจะเป็นของที่อยู่ในระดับหนึ่ง สอง หรือสาม

 

ชิงสุ่ยมองไปทางที่หญิงสาวหันมาและเห็นผ้าม่านที่มีความยาวและความกว้างกว่า 3 เมตร ในขณะที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันทำจากวัสดุอะไรเขารู้สึกว่ามันอาจจะถูกทอมาจากผ้าไหมล้ำค่า

 

ลายบนม่านเป็นกระเรียนขาวที่กำลังจะโผบินออกไปท่ามกลางต้นไม้เขียวขจี ม่านนี้ทำให้เขาเกิดความสั่นสะท้านที่แตกต่างไปจากการจิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์และลวดลายบนฉากกั้นห้อง

 

จิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์ให้กลิ่นอายของความเด็ดขาด มันเหมือนกับว่าได้สะสมกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเอาไว้และปล่อยออกมา เป็นกลิ่นอายของราชาที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ

 

ฉากกั้นห้องนั้นจะล้ำค่ามากขึ้น เมื่อวางไว้ด้วยกันกับมัน แม้แต่จิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์ก็จะดูเหมือนกับเด็กที่ยืนอยู่หน้าชายร่างกำยำ ภาพเขียนนั้นจะให้กลิ่นอายที่เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่สองสิ่งนี้ที่ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายของสวรรค์และโลก มันไม่สามารถหาสิ่งอื่นใดเปรียบได้เลย!

 

อย่างไรก็ตามกระเรียนขาวสยายปีกนั้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ลายของต้นไม้เขียวขจีในม่านนั้นงดงามมาก มีกระเรียนยืนอยู่ข้างแม่น้ำและกำลังจะเริ่มโผบิน มันเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาขณะที่มันกำลังชะโงกตัวเพื่อโผบิน ดูแล้วให้รู้สึกที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติ ชิงสุ่ยมองไปที่กระเรียนตัวนั้นเงียบๆ ราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างจากมัน รอยยิ้มอันเคลิบเคลิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา หญิงสาวในเครื่องแบบจ้องมองเขาจนจู่ๆก็หันไปอย่างเอียงอาย

 

หลังจากช่วงเวลาที่ยาวนาน ชิงสุ่ยได้สติกลับคืนมาจากความลุ่มหลงและพบว่าราคามันมีราคาเท่ากับ 500,000 เหรียญเงิน ชิงสุ่ยไม่ได้ยึดติดเกี่ยวกับเรื่องเงินทองและตราบเท่าที่เขามีเงินเพียงพอ เขาก็ยังคงซื้อได้โดยไม่ลังเล แม้ว่าจะเป็นเงินล้านหรือสองล้านเหรียญเงิน

 

"ยังมีสินค้าอื่นใดอีกบ้าง? พาข้าไปดูสิ!" ชิงสุ่ยยิ้มกว้าง

 

เขาจะซื้อกระเรียนขาวสยายปีกและแม้ว่าเขาจะใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญเงินในคราวเดียว แต่เขาก็มีความสุขกับสิ่งที่เขาได้รับ หากมองไปที่เงินจำนวนหนึ่งล้านเหรียญเงิน แม้แต่บางครอบครัวที่มีฐานะก็ไม่อาจจะสามารถจ่ายเงินมากจำนวนเท่านี้ได้ ถ้าคนหนึ่งคนมีเงินล้านเหรียญเงิน ก็จะถือว่าเขาเป็นคนร่ำรวย

 

หญิงสาวยิ้มหวานและพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ส่วนอื่น คราวนี้ชิงสุ่ยไม่ได้มองไปที่ก้นอันงามงามของเธอ แต่เขามองไปทางเครื่องเรือนด้านซ้ายและขวาของเขาระหว่างทางเขา มันเป็นเพียงสิ่งของธรรมดาๆไม่ได้พิเศษอะไร

 

รายการสินค้าบนชั้นสองต่างก็เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แม้แต่ของที่เลวร้ายที่สุดในชั้นนี้ก็เทียบได้กับของที่ดีที่สุดในชั้นล่าง ชิงสุ่ยชอบสินค้าเหล่านี้ แต่เมื่อเขาเห็นราคาของมัน เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่ามูลค่าเครื่องเรือนในเมืองนี้ทั้งหมดมีค่าเท่าไร

 

อย่างไรก็ตามเขาอยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของเมืองเครื่องเรือนแห่งนี้? ชิงสุ่ยรู้สึกว่าควรเป็นนิกายเทพกระบี่ นิกายสราญรมย์ หรือราชนิกูลจักรพรรดิอสูร

 

เขาเดินไปยังบริเวณจัดขายโต๊ะ เขาพบว่ามีโต๊ะบางแบบที่มาพร้อมกับเก้าอี้ อย่างไรก็ตามคุณภาพของสินค้าที่นี่เห็นได้ชัดว่าสูงกว่าชั้นล่าง

 

"นี่คือโต๊ะพิชิตร้อยอสูรที่ทำมาจากไม้จันทน์แดงที่มีอายุกว่า 1,000 ปี และเป็นงานฝีมือที่ประณีต มีคนบอกว่าลายสัตว์อสูรร้อยตัวสามารถยับยั้งสิ่งชั่วร้ายและสัตว์ที่อ่อนแอกว่าไม่ให้ย่างกรายเข้ามา" หญิงสาวชี้ไปที่ชุดโต๊ะไม้จันทน์แดงและเก้าอี้ที่มีภาพของสัตว์อสูรชนิดต่างๆอยู่โดยรอบ

 

เมื่อเขาเห็นมัน ชิงสุ่ยตระหนักว่าโต๊ะและเก้าอี้พวกนี้แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ล้นหลาม ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมีหลายคนที่มีนิสัยในการเก็บรวบรวมสะสมสิ่งของเหล่านี้

 

ภาพสัตว์อสูรร้อยตัวถูกแกะสลักอย่างประณีตโดยมีหน้าตาหลากหลายสายพันธุ์ แต่ก็มีการประสานกันอย่างลงตัว มันมาพร้อมกับเก้าอี้ที่คล้ายกับที่ชิงสุ่ยคุ้นเคยเพียงเพิ่มภาพสัตว์อสูรที่แกะสลักลงไป

 

ชิงสุ่คิดขึ้นมาอย่างกะทันหันเกี่ยวกับเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูรของเขา เขาคิดถึงคุณค่าของจิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์ขึ้นมาและตัดสินใจว่าเขาจะไม่พลาดที่จะซื้อมัน

 

"มีอะไรอีกหรือไม่? สินค้าที่คล้ายกับพวกของเหล่านี้" ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าเวลาผ่านไปเยอะแล้ว เขาก็สงสัยว่าชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่กำลังทำอะไรอยู่

 

"มีอีกหนึ่งชิ้นที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับสิ่งนี้ มันทำจากไม้จันทน์แดงที่มีคุณภาพอายุมากกว่า 1000 ปี ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าท่านจะสนใจสิ่งนี้หรือไม่" หญิงสาวดูเอียงอายเล็กน้อยเมื่อพูดขึ้นมา

 

ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจการแสดงออกของหญิงสาวมากนัก เขารีบตอบออกไปทันที เมื่อเขาได้ยินว่ามันมีคุณภาพเหมือนกับโต๊ะพิชิตร้อยอสูร "งั้นพาข้าไปดูซิ"

 

จำนวนผู้ที่อยู่บนชั้นสองมีเพียง 10% ของผู้ที่มาจากชั้นหนึ่ง ดังนั้นชิงสุ่ยจึงสามารถมองเห็นผู้คนที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณชั้นสองได้ แต่ในขณะนี้มีผู้คนเบาบางเพียงแค่ 2-3 คน

 

เมื่อชิงสุ่ยเห็นสินค้าที่มีค่าเหล่านี้ เขารู้สึกแย่มาก เป็นเพราะหญิงสาวที่งดงามพาเขามาที่โถห้องน้ำและพบกับสิ่งที่เขาคุ้นเคย

 

โถห้องน้ำไม้จันทน์แดง!

 

ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าทำไมหญิงสาวจึงมีท่าทีเอียงอายก่อนหน้านี้ หลังจากมองไปที่หญิงสาวแล้ว เขาก็หันกลับไปที่โถห้องน้ำที่มีราคาแพงมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นโถที่ทำมาจากไม้ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าไม้จันทน์แดงนี้มีความสวยงามมาก

 

ถ้าความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ใช้โถห้องน้ำไม้จันทน์แดงนี้ มันก็อาจจะเป็นฉากที่สวยงามมากก็เป็นได้

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ตัดสินใจซื้อโถห้องน้ำไม้จันทน์แดง เขาซื้อฉากกั้นห้อง กระเรียนขาวสยายปีก และโต๊ะพิชิตร้อยอสูร ในชั่วพริบตาเขาใช้เงินไปแล้ว 2 ล้านเหรียญเงิน

 

ชิงสุ่ยมองไม่เห็นชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ เขาจึงลองถามถึงพวกเขาดู ก็พบว่าพวกเขาได้กลับไปก่อนแล้ว ชิงสุ่ยขอบคุณหญิงสาวที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาที่โหยหา เมื่อเธอเห็นรายการสินค้าที่ชิงสุ่ยซื้อไปในวันนี้ สายตาอันอ่อนโยนของเธอก็ทำให้ชิงสุ่ยต้องรีบหลบหน้าไป

 

เขาอยากจะลองขึ้นไปที่ชั้นสาม แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้เปิดกว้างให้กับประชาชนทั่วไปและไม่ได้มีเครื่องเรือนอยู่บนนั้นเลย ดังนั้นหลังจากเสร็จสินค้าการซื้อสินค้า เขาจึงจ้างรถม้าให้ไปส่งของ

 

หญิงสาวที่แสนงดงามจนไม่อาจจะหาผู้ใดเทียบได้เช่นชางห่ายหมิงเยวี่ยกำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างบริเวณชั้นสามของร้าน เธอมีคิ้วสวยและดวงตาสีดำสว่างจ้าซึ่งเป็นประกาย เธอตัวสูงและหุ่นเพรียวบางโค้งงอนได้สัดส่วน แม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าที่เรียบง่ายแต่เธอกลับดูสง่างามยิ่งนัก

 

เสน่ห์อันงดงามที่เธอเปล่งออกมาช่างคล้ายกับอีเย่เจี้ยนเก้อ แต่เธอไม่ใช่ความงดงามที่เย็นชาแบบนั้นเพียงอย่างเดียว ความงดงามของเธอเป็นสิ่งที่ดูเหนือธรรมชาติและทำให้กระวนกระวายใจ!

 

เธอรู้มาว่ามีสินค้าสามชิ้นถูกซื้อไปโดยชายหนุ่มคนหนึ่งและดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับสินค้าที่มีภาพวาดหรือลวดลายของสัตว์อสูร

 

"ไปตรวจสอบว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร!" หญิงสาวไม่ได้หันหน้าไปมองใดๆ ขณะที่เธอกล่าวออกไป เสียงของเธอเหมือนกับกำลังสับสน มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ

 

หลังจากที่พูดถึงสินค้าดังกล่าวแล้ว เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆอีกเลย ราวกับว่าเธอกำลังคุยอยู่กับอากาศ

 

ในพื้นที่ห่างไกล ชิงสุ่ยเก็บเครื่องเรือนทั้งหมดไว้ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ก่อนที่เขาจะหายไปจากรถม้า มันทำให้คนขับรถม้ารู้สึกราวกับว่าเขากำลังฝันอยู่ที่ของทุกอย่างหายไปพร้อมกับชิงสุ่ยและเขาอาจจะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่า เขาได้รับเงินค่าจ้างในการส่งของมาแล้ว

 

ไม่นานหลังจากที่ชิงสุ่ยหายตัวไป ชายวัยกลางก็เริ่มออกรถม้าจากไปอย่างงุนงง

 

หลังจากเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยได้วางฉากกั้นห้องไว้บนที่ดินเปล่าใกล้ๆบริเวณที่เขามักจะพักผ่อนและทานอาหาร

 

หลังจากนั้นเขาก็แขวนภาพจิตรกรรมภาพเขียนพยัคฆ์ไว้ด้านบนฉากกั้นห้อง กระเรียนสยายปีกไว้ที่ด้านหลังฉากกั้นห้อง และโต๊ะพิชิตร้อยอสูรไว้ข้างหน้า

 

หลังจากการตกแต่งบางอย่างแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกดีที่เห็นว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นห้องที่มีทั้งเตียง โต๊ะ เก้าอี้ ฉากกั้นห้อง ม่าน หม้อ และชามข้าว

 

หลังจากการตกแต่งอย่างเรียบง่าย ชิงสุ่ยได้มองไปรอบๆบริเวณโดยเฉพาะที่ขวดโหลก้อนเชื้อเห็ดหลินจืออายุ 5000 ปี ชิงสุ่ยได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มันมาเมื่อเร็วๆนี้

 

ชิงสุ่ยรีบออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ หลังจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอกแล้ว ก่อนที่เขาจะเตรียมตัวมุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ชางห่าย เขาพอใจมากกับผลประโยชน์ของเขาในวันนี้ แต่เขาคิดว่าการใช้จ่ายเงิน 2,000,000 เหรียญเงินในวันเดียวนั้น เงินช่างเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน

 

ของบางสิ่งที่มีค่าไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินและสิ่งที่ล้ำค่าบางอย่างก็อาจจะต้องใช้เงินซื้อในจำนวนที่มากจนไม่น่าเชื่อ ชิงสุ่ยมีดินแดนหยกยุพราชอมตะและเขาต้องการที่จะแอบเก็บสิ่งของที่มีค่าทั้งหมดจากเมืองเครื่องเรือนที่ได้มาเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะโดยไม่ให้มีใครสังเกตเห็น

 

เมื่อเขากลับไปยังที่คฤหาสน์ชางห่าย มันก็ใกล้จะเที่ยงวันแล้ว นับตั้งแต่ที่ชิงสุ่ยมาที่นี่ เวลาที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยปรุงอาหารอะไรก็ตามแต่ เมื่อพวกเขาจะกินอะไรพวกเขาก็จะปรุงเครื่องเทศของชิงสุ่ยลงไปด้วย

 

สิ่งนี้ทำให้คู่ผัวเมียช่างห่ายมีความสุขอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่างห่าย ตอนนี้เขาสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารรสเลิศที่เขาไม่เคยลิ้มรสมาก่อนและสุราวิศิษฎ์พิสุทธิซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายและหญิง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้า ชิงสุ่ยกำลังจะจากไป?

 

 

 

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน