px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 236 – การสร้างพิมพ์เขียว ดอกไม้ที่ปรากฏบนกิ่งนิรนาม!


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

 

บทที่ 236 – การสร้างพิมพ์เขียว ดอกไม้ที่ปรากฏบนกิ่งนิรนาม!

 

หลังจากที่เขาเดินกลับไปยังที่อยู่ไปที่พัก ชิงสุ่ย ได้วางชุดอุปกรณ์ของเขาไว้ในบ้าน หลังจากนั้นเขาก็ออกไปซื้อโต๊ะอาหารของเขา ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาได้จัดวางมันในห้องครัวของเขา ไม่แน่ในอนาคตเขาอาจจะอยู่ที่นี่

 

สำหรับวัสดุอาหาร เขาได้ในมันมาจากห้วงมิติของเขา  เพราะในที่แห่งนั้นมีวัตถุดิบที่มากมายนอกจากนี้ยังมีปลาสีดำและเต่ามากมายสำหรับใช้ทำอาหารรสชาติของพวกมันนั้นไม่ได้แย่เลย ในทางตรงกันข้ามพวกมันมีรถชาติที่อร่อยมาก

 

ชิงสุ่ย คิดว่าเขาจำเป็นต้องเพิ่มชนิดของสัตว์น้ำบางประเภทลงไปเพื่อให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากสระน้ำของเขาให้เกิดประโยชน์ที่สุด ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีโอกาสทำเช่นนั้น หลังจากทานอาหารมื้อง่ายๆเสร็จแล้ว เขาก็ได้เข้ากลับไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

ชิงสุ่ยเริ่มต้นปลูกฝังเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลของเขาอีกครั้ง ไม่ว่าเขาจะยุ่งมากแค่ไหนเขาก็ไม่คิดที่จะละเลยการบ่มเพาะของเขา  ปัจจุบันเขาสามารถโคจรพลังปราณของเขาได้ 77รอบ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มฝึกเพลงกระบี่พื้นฐานต่อ  เมื่อมองไปที่ชิงสุ่ยในตอนนี้ราวกับว่าเขากำลังทำการแสดงอยู่บนเวที ท่วงท่าที่สง่างามและเป็นธรรมชาติของเขามันทำ ภาพที่แสดงออกมาเป็นภาพที่สวยงามและมีเสน่ห์

 

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกเพลงกระบี่ เขาได้หยุดพักลง และเต็มท้องของที่หิวโหยของเขา ก่อนที่จะเริ่มต้นฝึกฝนทักษะเพลงหมัดของเขา โดยที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังฝึกฝนทักษะฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขากำลังฝึกหมัดอสูรสันโดษ แม้ว่าหมัดอสูรสันโดษจะมีการเคลื่อนที่เพียงครั้งเดียว แต่ศักยภาพของมันนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ความชำนาญและความรุนแรงของมันขึ้นอยู่กับความเข้าใจของผู้ใช้ มันไม่ใช่แค่ทักษะการโจมตีเท่านั้น แต่มันยังเป็นทักษะที่เช้าเพิ่มความคล่องแคล่วของมืออีกด้วย ซึ่งมันนั้นมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเขาใช้ทักษะอาวุธอื่นๆ!

 

ทักษะจู่โจมทั้งหมดของชิงสุ่ยในตอนนี้ประกอบด้วยทักษะเพลงกระบี่พื้นฐาน ทักษะฝ่ามือพุทธองค์ทองคำเก้าสะท้าน รูปแบบพยัคฆ์และ หมัดอสูรสันโดษ แน่นอนว่ายังมีทักษะอื่นที่ซ่อนเล่นอยู่อีกมามายรวมไปถึงทักษะการฝังเข็มเขา!

 

เมื่อเขากลับออกมา เขาจะใช้ทักษะการฝังเข็มให้กับฮูยู และใช้ทักษะฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ บรรเทาความเจ็บปวดของฮูยู

 

ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ ได้รวมพลังปราณของ เคล็ดเสริมกายาบรรพกาล มันสามารถเชื่อมต่อโครงสร้างของกระดูกให้แกร่งแกร่งขึ้น มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและความว่องไวให้เขาได้ และยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายสำรับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยทักษะนี้

 

หลังจากนั้นเขาก็พักผ่อนและรับประทานอาหารบางอย่าง ในขณะนั้นเขาได้สื่อสารพูดคุยกับวิหคอัคคี  และเขาก็ได้มองไปที่ค้อนที่วางอยู่พื้นดิน  ชิงสุ่ยได้ตะหนักว่า ทักษะพันค้อนกัมปนาทในตอนนี้ของ มันยังไม่สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างชิ้นงานได้อย่างดีเยี่ยม แต่เขาก็ยังสามารถใช้ทักษะค้อนนี้ในการจู่โจมได้ หลังจากนั้นชิงสุ่ยได้ยกค้อนขึ้นมองอย่างมีความสุข

 

ในขณะยกค้อนขึ้นในอากาศพลังปราณของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลได้เล็ดรอดออกมาจากมัน ค้อนเป็นอาวุธหนักและถูกดูถูกอย่างมากเมื่อนำมันมาใช้เป็นอาวุธ “ค้อนสามารถใช้ได้กับมือทั้งสองข้างได้หรือไม่ หรือใช้แค่กับมือเดียว” โดยที่มือข้างขวาของชิงสุ่ยได้ถือค้อนไว้ ในขณะที่เขากำลังสับสน  ความคิดที่สับสนนี้มันเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ มันได้ผลักดันเขาให้ก้าวหน้ามาโดยตลอด...

 

เขาได้ควงค้อนของเขาและค่อยๆหมุนมันให้เร็วยิ่งขึ้น ทักษะค้อนของชิงสุ่ยได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มันมีความเร็วเหมือนสายฟ้าฟาด แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่สามารถเข้าถึงทะเลแห่งปัญญาในช่วงเวลาสั้น ๆนี้  แต่เขาก็อาจสามารถเข้าถึงดินแดนทะเลแห่งปัญญาในอนาคต

 

นี่เป็นทางลัด ในการเรียนรู้ของเขา เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู มันทำให้เขาสามารถมองเห็นเส้นทางการโจมตีของศัตรู มันจะช่วยให้เขาสามารถทำการหลบหลีกได้ง่ายขึ้น และแม้กระทั่งให้โอกาสที่จะ 'โจมตี- สังหาร' อีกฝ่าย

 

ค้อนในมือของชิงสุ่ยเปลี่ยนเป็นเงาจางๆ เพราะการหมุนของและคล่องแคล่วของเขา รวมถึงหลักการที่นำไท้เก๊กมาช่วย เขา มีแนวคิดที่จะนำหมัดอสูรสันโดษ ผสานเข้ากับทักษะค้อนกัมปนาท ในตอนนี้ค้อนในมือของเขาๆได้หมุนต่อเนื่องอย่างสง่างาม แต่หลังจากนั้นการเคลื่อนไหวของเขาได้ปล่อยความรู้สึกที่หน้ายำเกรงออกมา มันเกิดจากการผสมผสานของ "ความแข็งแรง", "ความนุ่มนวล", "ความรวดเร็ว" และ "ความเชื่องช้า"

 

ตูมๆๆ!

 

เสียงที่ดังสนั่นดัง ดังขึ้นมาจากค้อนของเขาที่กระแทกกับพื้นที่เขายืนนิ่งอยู่ ความรู้สึกนี่มัน เขาได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ความรู้ต่างได้ถูกปลดปล่อยออกมาภายในทะเลแห่งปัญญาของเขา

 

มันเหนือว่าที่เขาคาดคิด  ความรู้ต่างๆได้ถาโถมเขามาในจิตสำนึกของเขา จิตใจและความคิดของเขาถูกแช่แข็งอยู่ในจิตสำนึกของเขา พิมพ์เขียวในการผลิตต่างๆก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา  ชิงสุ่ยจ้องเขม็งไปที่ข้อมูลใหม่ที่ปรากฏ หมวก ปิ่นหยก สร้อยข้อมือ ต่างหู สร้อยคอ เสื้อคลุม แส้หนังวัว ศิลาเมฆาห้าสี หน้ากาก  เครื่องชั่ง จดหมาย แส้ม้า รองเท้าหนัง

 

กระบี่มรกต, กระบี่นภาสัมฤทธิ์, หอกทะลวงศูนย์, ทวนฟันเลื่อย, ขวานนภาสัมฤทธิ์, ขวานผ่าคีรี, กระบี่โลหะลึกลับ, กระบี่คู่วิหกเพลิงมังกร ,ผงเงินมายา, ผ้าปิดหน้าทองคำ, กรงเล็บโลหะ, กรงเล็บหมาป่านภา, คันเบ็ดวิเศษทองคำ, จี้หยก, ค้อนเหล็ก, ดาบใบหลิว, ยอดดาบทองคำนิล

 

ไม่เพียง แต่มีอาวุธระดับต่างๆเท่านั้น มันมีแม้กระทั้งพิมพ์เขียวอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการล่าสัตว์อสูร! ชิงสุ่ย รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนที่หลงทางอยู่บนถนนเส้นที่ไม่รู้จัก และเห็นได้รับแผนที่บอกทางมา พิมพ์เขียวทั้งหมดเหล่านี้ล้ำค่ามาก ชิงสุ่ยรู้ว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ได้มาจาก ที่เขาได้ปลูกฝังทักษะพันค้อนกัมปนาทในโบราณ

 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการปรับแต่งอัญมณีระดับสอง  เขาไม่เคยคิดเลยว่าทักษะการขึ้นรูปง่ายๆที่เขาเรียนรู้ไปในตอนแรก เป็นประตูนำทางเขาให้ได้รับสิ่งที่น่ากลัวมากมายมาเช่นนี้ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าประสบการณ์ที่ได้จากทักษะขึ้นรูปโบราณนั้นไม่สามารถแยกออกจากทักษะพันค้อนกัมปนาทได้  ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดที่จะใช้ทักษะพันค้อนกำจัดศัตรู  ชิงสุ่ยก็คงจะไม่ใส่ใจและใช้ความพยายามอย่างมากนัก เขาได้เงียบไปและ บอกกับตัวเองว่าตราบเท่าที่มันเป็นทักษะสนับสนุนเขา เขาจะทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อเรียนรู้พวกมัน

 

แม้ว่าเขาจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ 10 เท่า  แต่เขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาต้องการเวลามากยิ่งขึ้น

 

ตอนนี้เข้ามีสิ่งที่จำเป็นต้องเรียนรู้มากขึ้น มันทำให้เขาคิดว่าเวลาของเขานั้นไม่เพียงพออีกต่อไป

 

 

ชิงสุ่ย รู้ดีว่าเมื่อเขาผ่านเข้าไปในทะเลแห่งปัญญา จะมีวิธีการสร้างอุปกรณ์ต่างๆ และพิมพ์เขียวสำหรับสร้างยุทธภัณฑ์ จะปรากฏขึ้นมา หรือเมื่อเข้าก้าวหน้าขึ้น เขาอาจพบเจอพิมพ์เขียวที่ลึกลับมากยิ่งขึ้น

 

ในจินตนาการ  เขาสวมชุดอุปกรณ์ต่างๆจากดินแดนแห่งพระเจ้าและเหยียบย่ำลงไปที่ตระกูลเยียน เพื่อที่จะเหยียบย่ำพวกเขาให้จมดิน เขาพัฒนาเกี่ยวกับเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลที่ทรงอำนาจและทักษะการขึ้นรูปยุทธภัณฑ์

 

ชั่วครู่ต่อมาเขาก็เห็นไม้อโศกที่เขาทิ้งไว้  ด้วยแรงบันดาลใจที่เขาพบมันที่ป่า ชิงสุ่ย จึงตัดสินใจที่จะปลูกมัน ถ้ามันเติบโตขึ้นมันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามันไม่เติบโตเขาก็ไม่ได้สูญเสียอะไร ถ้ามันสามารถเจริญเติบโตได้ ในอนาคตเขาก็คงจะไม่ขาดแคลนไม้อโศกอีกต่อไป แก่นแท้ปิศาจ, กระดองเต่าดำ และ ไหมสวรรค์  เขาสามารถหาซื้อได้จากที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้ห่วงเกี่ยวกับพวกมันมากนัก

 

หลังจากปลูกต้นอโศก แล้วชิงสุ่ยก็เหลือบไปมองด้วยความประหลาดใจ ที่กิ่งก้านนิรนาม ใน ปัจจุบันมันได้มีดอกไม้กำลังงอกขึ้นมา!

 

"100 ปีสำหรับการเติบโต และอีก 100 ปีสำหรับการงอกดอก! นี่มันอะไรกันเจ้าต้นไม้ต้นนี้? ทำไมต้องใช้เวลายาวนานขนาดนี้ด้วย? "ชิงสุ่ยตะลึง

 

"ดอกเหมย?"

 

ชิงสุ่ยค่อยๆจ้องมองไปที่ดอกไม้สีชมพูที่ดูคล้ายดอกเหมย มันดูคล้ายดอกเหมยจริงๆ แต่ก็ยังมีความแตกต่างอยู่ ดอกไม้นี้ส่องประกายแสงระยิบระยับและปล่อยกลิ่นหอมที่น่ารื่นรมย์ออกมา

 

ต้นไม้ชนิดนี้คืออะไร? มันต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการเติบโตในดินแดนหยกยุพราชอมตะก่อนที่จะงอกกิ่งขึ้น  ในตอนท้ายเขาจ่องมองไปที่กิ่งของมัน และมองดูดอกไม้ที่มีสีชมพูหลากหลายขนาด มันดูสวยงามราวกับผลงานศิลปะ

 

ชิงสุ่ย กำลังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเวลาที่ต้นไม้เติบโต โดยหลักการแล้วเห็นได้ชัดว่ามันต้องใช้เวลาอีกนาน!

รีวิวผู้อ่าน