px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 239 - ทักษะในการเอาชีวิตรอด


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 239 - ทักษะในการเอาชีวิตรอด

ชิงห่าน ยี่ แห่งนิกายสราญรมย์

 

เมื่อเห็นเธอ ชิงสุ่ยได้ตกตะลึงไปกับความงามของเธอ เขาเกือบลืมไปเลยว่าเธอนี้มาจากนิกายสราญรมย์ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดว่าเธอจะมาที่นี่

 

เมื่อเธอเห็นคิ้วที่มุ่ยติดกันของชิงสุ่ย และใบหน้าดูงงงวยเล็กน้อย ปากเล็กๆ ที่ดึงดูดใจของชิงห่าน ยี่ ก็ได้เปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นฟันสีขาวมุก ทำให้ใบหน้าที่น่ารักของเธอ ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นมันได้จารึกลงไปในจิตวิญญาณของเขา อย่างไรก็ตามการแสดงออกดังกล่าวมันเป็นดังเสน่ห์ที่ดึงดูดอย่างมากจนเทียบเท่ากับลิ่วลี่เลยที่เดียว

 

"เจ้าไม่อยากเห็นหน้าข้ามากอย่างนั้นรึ?" รอยยิ้มได้ปรากฏบนริมฝีปากที่เย้ายวนเมื่อครู่ได้จางไปหายขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ย เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่จริงแล้งเธอมาที่นี้ด้วยความบังเอิญ เธอนั้นไม่ได้ตั้งใจมาหาชิงสุ่ย

 

เธอได้ยินมาว่ามีช่างโลหะที่แข็งแกร่งอย่างมาก และสามารถสร้างอาวุธที่น่าอัศจรรย์ได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจมาเพื่อดูเกี่ยวกับมัน อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดคิดว่าช่างตีเหล็กที่เลื่องลือจะเป็นชิงสุ่ย

 

และ ชิงห่าน ยี่ ก็รู้สึกแปลกใจอยู่เมื่อกัน ที่เธอพบว่าชิงสุ่ยไม่ได้ดูดีใจที่ได้พบเธอ ความรู้สึกที่ร่าเริงของเธอที่ส่องไสวเหมือนเปลวไฟ ได้ถูกดับลงทันทีด้วยน้ำที่เย็นจัด เมื่อมันกำลังเปล่งประกายออกมา

 

"ท่าทางของข้าอาจดูเป็นอย่างนั้น? ข้าแค่รู้สึกแปลกใจที่ได้พบเจ้า และไม่ทันได้เตรียมใจ กับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ ความสามารถในการควบคุมตัวเองของข้าแย่ลงเมื่อพบกับสาวงาม "ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ

 

ชิงห่าน ยี่ ตะลึง เธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของชิงสุ่ยมาก่อน ท่าทางที่เย็นชาและอารมณ์ที่ดุดันที่เขาแสดง ตอนที่เขาอยู่บนลานประลอง ที่นิกายกระบี่นภา มันได้สลักลึกลงไปในใจของเธอ

 

การที่เขาได้เขาไปช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเมตตา และความยุติธรรม มันคือความหลงใหลที่สลักไว้ลึกลงในหัวใจของ ชิงห่าน ยี่ เธอคิดว่าที่ชิงสุ่ยได้ใช้ความรุนแรงกับเธอ เขาแค่ต้องการไปช่วยผู้หญิงคนนั้น ขณะที่เธอรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นได้รับบาดเจ็ดสาหัสแต่เธอก็อยากที่จะทดสอบเขาและผลที่ออกมามันก็คุ้มค่าอย่างมาก มันทำให้เธอรู้สึกอิจฉากับผู้หญิงคนนั้นอย่างยิ่ง

 

"เจ้ากำลังทำงานเป็นช่างตีเหล็กหรอ?" ชิงห่าน ยี่ มองไปที่การกระทำของชิงสุ่ย เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกับเขา เธอหวังว่าชิงสุ่ยจะพูดคุยกับเธออย่างเป็นธรรมชาติ และปฏิบัติต่อเธอเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง

 

"ถูกต้องแล้วชีวิตมันช่างลำบาก ข้าต้องทำงานที่นี่เพื่อหารายได้เสริมเพื่อช่วยเหลือครอบครัวข้า "ชิงสุ่ยวางค้อนของเขาลง และพยายามยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดและกล่าวออกมา

 

ชิงห่าน ยี่ ได้ไต่ตรองคำพูดของชิงสุ่ยอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามเธอไม่เข้าใจการกระทำของชิงสุ่ยในตอนนี้เลย ชิงสุ่ยในตอนนี้ดูไม่เหมือนคนที่เธอเคยพบก่อนหน้านี้มาก่อน เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไนอยู่

 

"เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าอยู่ที่นี่?" ชิงสุ่ยถามออกไปอย่างเป็นกันเอง

 

"ข้าเพิ่งผ่านไปในเมืองมา และได้ยินเรื่องราวที่ว่ามีช่างโลหะคนหนึ่งที่ขายอาวุธในราคา5 ล้านเหรียญ และเขายังกล้าลงมือกับคนของนิกายกระบี่อมตะ "ชิงห่าน ยี่ มองไปที่ใบหน้าของชิงสุ่ยอย่างจริงจัง โดยคาดหวังที่จะเห็นอะไรบางอย่างจากใบหน้าของเขา อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ผิดหวังในตอนนั้น

 

เมื่อ ชิงห่าน ยี่ รู้ว่าชิงสุ่ยได้เป็นปรปักษ์กับกับนิกายกระบี่อมตะ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เป็นห่วงเขา ใครจะรู้ว่าถ้าอมตะนิกายกระบี่อมตะนั้นได้โกรธแค้นมากขนาดไหน และจะมาตามแค้นเขาตอนไหนก็ไม่รู้ เธอไม่แน่ใจว่าชิงสุ่ยจะสามารถปกป้องตัวเองได้

 

แต่เมื่อคิดถึงความสามารถของเขา เธอก็สามารถคาดเดาได้ว่าแม้กระทั้งบรรดาผู้ที่บรรลุปราณเทวะกษัตริย์ก็ไม่ใช้คู่มือของเขาไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ระดับต่ำกว่านั้น  นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าขั้นกษัตริย์ของนิกายกระบี่อมตะ ก็คงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา เป็นเพราะทรัพย์สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชิงสุ่ยในตอนนี้คือตัวตนของเขาเอง

 

ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดชิงสุ่ยสามารถซ่อนตัวอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ นี้เป็นเทคนิคเอาตัวรอดที่ดีที่สุดของเขา แต่มันมีข้อจำกัดอยู่ที่ระยะเวลาชิงสุ่ยสามารถอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะได้ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้นในโลกแห่งความเป็นจริง

 

สี่ชั่วโมงอาจไม่สามารถกล่าวว่ายาวนานแต่ก็ไม่อาจกล่าวว่าสั้นเช่นกันถ้ามีคนอดทนที่จะเป็นเวลาสี่ชั่วยาม แต่นั้นพวกเขาต้องรู้ถึงความลับนี้ของชิงสุ่ยก่อน แต่ยังไงไม่ว่าพวกเขาจะฉลาดขนาดไหนพวกเขาก็ไม่มีทางเข้าใจและเข้าถึงความลับดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยยังมีข้อได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด เข้าสามารถหลบหนีเข้าไปดินแดนหยกยุพราชอมตะได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะพบกับผู้บ่มเพาะที่แกร่งขนาดไหน ก็ไม่มีใครสามารถหาเขาพบถ้าเข้าหลบหนีเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะและถ้าเขานำผ่านตรงข้ามเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาก็มีโอกาสชนะมากยิ่งขึ้น เขาสามารถใช้ประโยชน์จากวิหกอัคคี และพื้นที่ต่างในดินแดนหยกยุพราชอมตะ โดยนำฝ่ายตรงข้ามไปในบริเวณที่เป็นอันตราย จะทำให้เขากับจัดฝ่ายตรงงามได้อย่างง่าย

 

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขานั้นไม่ได้มีเรื่องที่จะคุยกับชิงห่านยี่มากนัก ทั้งสองแทบจะไม่คุ้นเคยกันเลย และแทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน หลังจากคำพูดก่อนหน้านี้แล้วเขาแทบไม่มีอะไรจะคุยกับเธอเลย ส่วนเรื่องของนิกายสราญรมย์นั้น  ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจอะไร เกี่ยวกับมัน

 

"ในที่สุดข้าก็พบกับเจ้าอีกครั้ง ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้าก่อนหน้านี้ ข้ารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นอย่างมากและมันยังช่วยให้ความสามารถของข้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นความรู้สึกแปลกประหยาดอย่างมาก  "ชิงห่าน ยี่ ได้คิดถึงครั้งที่ชิงสุ่ยได้ช่วยเหลือเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ กับเขา

 

"ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก  ท่านปู่ของเจ้าได้ตอบแทนข้าเพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังทำให้เจ้ารับบาดเจ็บอีกเช่นกัน ที่นิกายกระบี่นภา "ชิงสุ่ย ยิ้มและพูด

 

เธอนึกถึงตอนที่ได้รับบาดเจ็บจากผู้ชายคนนี้  เขาแทบจะไม่ลังเลเลยที่จะจัดการกับเธอ มันทำให้เธอรู้สึกพิเศษอย่างมาก นั้นเป็นครั้งแรกที่ผู้ชายสามารถทำให้เธอบาดเจ็บ มันจึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับชิงสุ่ยอย่างชัดเจน

 

"นี่เป็นอาวุธที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง มันเป็นสิ่งที่เจ้าทำหรือ?" ชิงห่าน ยี่ มองไปที่กระบี่นภาสัมฤทธิ์ของชิงสุ่ยแล้วค่อยๆถามด้วยความอยากรู้

 

"มันยังไม่ได้อัศจรรย์อะไรหรอก มันเป็นเพียงสิ่งที่ข้าทำหลังจากเรียนรู้ศิลปะช่างโลหะ ข้าได้สร้างมันเพื่อฆ่าเวลา เมื่อข้าว่างเท่านั้น" ชิงสุ่ยตอบแบบลวก ๆ

 

"ข้าสามารถดูมันได้หรือไม่? ทุกคนบอกว่ามันน่าทึ่งมาก! "ชิงห่าน ยี่ มองไปที่ชิงสุ่ย ดวงตาทั้งคู่ของเธอมีเสน่ห์อย่างและใช้มันจ้องมองมาที่ชิงสุ่ย  เขานั้นกล้าที่มองตรงๆเข้าไปในตาของเธอ

 

เขาได้ส่งกระบี่นภาสัมฤทธิ์ ให้กับเธอ!

 

เมื่อเธอคว้ามัน ดวงตาที่สวยงามของชิงห่าน ยี่ ได้เกิดประกายขึ้น ดวงตาคู่นั้นของเธอได้เปิดกว้างขึ้น ขณะที่เธอจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างประหลาดใจ ในขณะนั้นเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติที่เธอถูกแสดงออกมา มันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับชิงสุ่ยที่จะหลบเลี่ยงมัน

 

ชิงสุ่ย ได้ถอนห่างจากชิงห่าน ยี่ ไม่เช่นนั้น เขาคงได้กระโดดกอดเธอเป็นแน่น แรงกระตุ้นดังกล่าวมีความรุนแรงอย่างมากดังนั้นเมื่อชิงห่าน ยี่เงยหน้าขึ้นมองไปที่ชิงสุ่ย เขาได้ถอยหลังออกมา

 

เขาก้าวถอยหลังไปสองก้าว!

 

ชิงสุ่ย กลัวว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเองและทำในสิ่งที่เขาเสียใจในที่สุด การแสดงออกดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประหลาดอย่างมากสำหรับเขา แต่มันก็ดีว่าเขาได้ทำเรื่องที่น่ากลัวออกไป เขากังวลว่าเขาจะทำอะไรผิดพลาดออกไป อย่างไรก็ตามในดวงตาของชิงห่าน ยี่ ได้แสดงความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

 

ขณะจับที่กระบี่นภาสัมฤทธิ์ เธอจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยที่ได้ถอยหลังไปสองก้าว เธอน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยหรอ? เธอจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยที่กำลังเบี่ยงเบนความสนใจความสนใจเล็กน้อย

 

"ข้ามันแย่ขนาดเลยนั้นหรือ? แม้ว่าข้ามาจากนิกายสราญรมย์ แต่ข้าก็ไม่มีคู่ในการฝึกฝนเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะ "ชิงห่าน ยี่  ก้มศีรษะลงเล็กน้อย

 

"เจ้าไม่ได้แย่หรอก แต่ข้ากลัวว่าข้าจะห้ามตัวเองไม่ได้ แล้วพาเจ้าไปที่ห้องนอนและทำอะไรที่ทำให้เจ้าต้องเสียใจเท่านั้น "ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสุภาพ

 

ชิงห่าน ยี่ ได้ยินคำพูดที่หน้าอับอายของชิงสุ่ย มันทำเธอรู้สึกเขินอาย แม้แต่หูของเธอก็ยังสวยงามและละเอียดอ่อน มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงสด และสีแดงค่อยรามลงไปจนถึงคอของเธอ สายตาที่จ้องมองชิงสุ่ยนั้นเต็มไปด้วยความเขินอาย การแสดงออกของเธอนั้นเหมือนกำลังตอบรับคำพูดของชิงสุ่ยในขณะที่วางท่าเป็นฝืนใจเช่นกัน

 

ชิงสุ่ยถูจมูกของเขาและยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขามองไปที่ ชิงห่าน ยี่ แม้แต่การควบคุมร่างกายของเขาก็ได้ตอบสนองท่าทางของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาสัมผัสถึงปราณเก้าหยินของชิงห่าน ยี่ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าทักษะการบ่มเพาะเทวะ ได้เริ่มต้นทำงานโดยอัตโนมัติ เขารู้สึกอึดอัดมากที่มีต่อกลิ่นอายที่มีเสน่ห์จากตัวเธอ

 

ชิงห่าน ยี่รู้สึกไม่สบายใจและอึดอัดใจเมื่อเธอเห็นสายตาของชิงสุ่ย ซึ่งมีประกายของการรุกไหม้ปรากฏออกมา เธอได้มองไปที่ตัวเขาอย่างเป็นธรรมชาติและยิ้มอย่างมีความสุข เสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลง  มันทำให้ชิงสุ่ยต้องการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งกับเธอ มันได้กระตุ้นให้เขาต้องเดินเขาไปหาเธอ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ชิงสุ่ยมีมีความรู้สึกที่ย้อนแย้งกับผู้หญิงที่มีปราณเก้าหยินคนนี้ เขาไม่ต้องการที่จะกระตุ้นให้ชีวิตข้องเธอสั้นลง

 

"เที่ยงวันนี้ข้าสามารถทานอาหารกลางวันร่วมกับเจ้าได้หรือไม่?" ชิงห่าน ยี่ จับที่กระบี่นภาของชิงสุ่ยและพูดออกมาเบา ๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก

 

เธอกลัวว่าชิงสุ่ยจะปฏิเสธเธอ ดังนั้นเธอจึงก้มหน้าลงเล็กน้อยไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาโดยตรง เธอกลัวว่าชิงสุ่ยจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอผิดหวัง

 

"ได้สิ ออกไปรอข้าข้างนอก ข้าขอเก็บของก่อน ! "ชิงสุ่ยรู้ทันความคิดของชิงห่าน ยี่ เมื่อเขาเห็นทางที่เธอแสดงออกมา ชิงสุ่ยเป็นคนที่ไม่ชอบการดูถูกตัวเอง เขาเป็นคนที่อ่อนโยนผู้อื่นสัมผัสด้านนี้ของเขาได้อย่างง่าย

 

"กระบี่เล่มนี้ของคุณเป็นที่น่าอัศจรรย์จริงๆ มันสวยงามมาก"

 

เมื่อชิงสุ่ยเดินไปตามถนนกับชิงห่าน ยี่ หลังจากที่ปิดประตูร้านแล้ว ชิงห่าน ยี่มองไปที่ชิงสุ่ยและกล่าวออกมาอย่างมีความสุข

 

ชิงสุ่ย เริ่มคิดที่จะพาเธอไปยังที่พักของเขา และปรุงอาหารให้กับเธอท่าน แต่เขาก็เลิกคิดอย่างนั้นทันที เขากลัวว่าเขาจะสูญเสียการควบคุม ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เกิดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงไปยังร้านอาหารใกล้ๆ เท่านั้น

 

"เจ้าชอบมันไหม" ชิงสุ่ย เดินเคียงข้างชิงห่าน ยี่ มีกลิ่นหอมจาง ๆ คล้ายกับของกล้วยไม้ลอยมาในอากาศ ในวันนี้อากาศช่างแจ่มใส ไม่มีฤดูร้อนที่รุนแรงในโลกของเก้าทวีป ไม่ว่าความร้อนอย่างไรก็จะไม่ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย

 

"ฮ่าๆ ไม่หรอก!"

 

คำตอบของชิงห่าน ยี่ ทำให้ ชิงสุ่ยประหลาดใจมาก! เขาไม่สามารถที่จะห้ามตัวให้ถามว่า "ทำไม?"

 

"เพราะมันแพงเกินไปและข้าไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น" ชิงห่าน ยี่ กระพริบตาของเธอและทำหน้าเศร้าสร้อย ขณะที่เธอยิ้มและกล่าวออกมา

รีวิวผู้อ่าน