px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 240 -  ชิงห่านยี่ ความสามารถที่ถูกยกระดับขึ้นของชิงสุ่ย


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 240 -  ชิงห่านยี่ ความสามารถที่ถูกยกระดับขึ้นของชิงสุ่ย

 

"เพราะมันแพงเกินไปและข้าไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น" ชิงห่าน ยี่ กระพริบตาของเธอและทำหน้าเศร้าสร้อย ขณะที่เธอยิ้มและกล่าวออกมา

 

ชิงสุ่ยยืนอึ่งทึ่ง และเขาก็ค่อยยิ้มอย่างขมขื่นไปทางชิงห่ายยี่ "ถ้าเจ้าชอบมัน จงรับมันไป ข้าไม่ได้ต้องการเงินตราใดๆจากเจ้า"

 

"จริงเหรอ??"ชิงห่านยี่มองไปทางชิงสุ่ยด้วยสายตาแห่งความประหลาดใจ

 

"แน่นอน ข้ามิใช่คนโป้ปด หรือว่าเจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่ได้ชอบมัน?"ชิงสุ่ยถามด้วยความงุนงง อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็รู้ดีว่าบางสิ่งบางอย่างมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล

 

"ถ้าไม่ชอบมัน เพราะว่ามันมีราคาที่แพงมากเกินไป ถ้าหากข้าเกิดชอบมันขึ้นมา แต่ถ้าไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น มันคงจะทำให้ข้ารู้สึกแย่จริงหรือไม่?"ชิงห่านยี่ยิ้มและกล่าวออกมา

 

ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีความสุข ซึ่งการปรากฏตัวของพวกเขานั้นดูราวกับเป็นคู่รักที่กำลังเข้ากันได้อย่างดี เสน่ห์ความเป็นหญิงจากตัวตนของชิงห่านยี่ดึงดูดสายตาจากบุรุษเพศมากมายที่อยู่บริเวณนั้น

 

ทันใดนั้น ชิงสุ่ยก็ตกอยู่ในอาการแข็งทื่ออีกครั้ง เขาค่อยๆมองไปข้างหน้าอย่างข่มขืน เมื่อชิงห่านยี่มองเห็นท่าทางของชิงสุ่ย เธอก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมาดูไม่ได้

 

ไม่นานนัก ห่าวหยุนลิ่วลี่และชางห่ายหมิงเยวี่ยที่กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุขซึ่งพวกเธอกำลังเดินตรงมาทางชิงสุ่ย มันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกอึดอัดมากจนไม่รู้ว่าเขาควรพูดอะไรดี

 

ตัวเขานั้นจะสามารถเกลี้ยกล่อมคนที่เขาเคยปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนได้หรือไม่?

 

ชิงสุ่ยเริ่มรู้สึกอึดอัด และค่อยๆอึดอัดมากขึ้น

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่มองสายตามาที่ชิงสุ่ยเล็กน้อย มันเป็นสายตาที่คล้ายกับมองคนแปลกหน้าก่อนที่พวกเธอจะเดินผ่านเขาและจากไป

 

ชิงสุ่ยมองไปที่ชิงห่ายยี่ซึ่งกำลังแสดงท่าทางผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็มองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของห่าวหยุนลิ่วลี่ซึ่งแตกต่างจากสายตาที่เต็มไปด้วยความเฉยเมยของชางห่ายหมิงเยวี่ย

 

สุภาพสตรีที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือแร้งอัสนีปีกทองคำ ได้หวนกลับคืนมาแล้ว ชิงสุ่ยรู้ว่าเขาคงไม่อาจทำเรื่องตลกๆ หรือค่อยหยอกล้อเธอได้อีกต่อไปแล้ว

 

มันจะเป็นสิ่งที่พวกเธอไม่เข้าใจในตัวเขา มันเป็นเรื่องธรรมชาติมากสำหรับชางห่ายหมิงเยวี่ยที่เธอมักจะแซงระยะห่างระหว่างเธอกับชิงสุ่ยในลักษณะแบบนี้ แต่สำหรับดวงตาของห่าวหยุนลิ่วลี่แม้จะหลงเหลือร่องรอยแห่งความหวัง แต่มันก็เป็นข้อบ่งบอกได้เลยว่าเธอกำลังโทษตัวเขา

 

"ชิงสุ่ย ที่พวกนางทำตัวเช่นนี้มันเป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ? ข้าจะอธิบายเรื่องต่างๆให้พวกนางฟังเอง"หลังจากกล่าวจบ ชิงห่ายยี่ก็พยายามหันหน้ากลับไปเพื่อไล่ตามหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ในสายตา

 

"มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า ผู้หญิงที่ข้ารักกำลังทำให้ข้าวุ่นวาย!!!"ชิงสุ่ยหยุดชิงห่าย ยี่รอยยิ้มด้วยความข่มขื่น

 

ชิงสุ่ยไม่ทันได้สังเกต แต่เมื่อเขาฝืนความรู้สึกกลับมา เขาก็รู้สึกได้ว่ามือของเขานั้นกำลังจับมือของชิงห่านยี่เอาไว้ มันเป็นความรู้สึกที่อ่อนโยนอย่างมาก

 

ชิงห่ายยี่ทุ่มนึงไว้โดยมือของชิงสุ่ย มือเล็กๆน้อยๆของเธอถูกปกคลุมไปด้วยความอบอุ่น มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจ เธอรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้ยินคำพูดต่างๆของชิงสุ่ยซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม

 

อาจเป็นเพราะการปรากฏของเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะของชิงสุ่ย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกสนใจ และบางครั้งมันอาจเป็นเพราะว่าชิงสุ่ยได้ช่วยยืดอายุไขของเธอแม้ว่าจะเป็น แต่แน่นอนมันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเธอ

 

เมื่อชิงสุ่ยกำลังจะปล่อยมือของเธอไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะที่เดิมโคจรออกจากแขนของเขาไปสู่ร่างกายของชิงห่านยี่อย่างไม่หยุดหย่อนราวกับธารน้ำไหล

 

ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึง "พลัง" อันน่าทึ่งที่ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของชิงห่าน ยี่ ร่างกายของเธอนั้นเริ่มสั่นเทาราวกับว่าร่างกายของเธอนั้นกำลังกำลังจมดิ่งสู่ความเหน็บหนาว แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังทำให้เข้ารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังร่วมรักกันจนเกือบเข้าถึงจุดสุดยอด

 

ช่วงเวลาสั้นๆดวงตาคู่เสน่ห์บนใบหน้าของชิงห่านยี่เต็มไปด้วยความฝ้าฟางและใบหน้าที่แดงกล่ำ ชิงสุ่ยตกอยู่ในสภาวะอาการเคลิ้มตอนที่เขามองใบหน้าที่น่าทะนุถนอม เขาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของชิงห่านยี่ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเดียวกันกับเขา

 

ความรู้สึกนั้นเปรียบดัง "ความฝัน"แต่มันกลับรู้สึกเหมือนความจริงอย่างมา ในความฝัน ชิงสุ่ยและชิงห่านยี่อยู่ในห้องสีชมพู พร้อมกับเตียงสีชมพู ห้องทั้งห้องมีความงดงาม มากพอที่จะทำให้เลือดลมสูบฉีดโดยเฉพาะอย่างยิ่งยามเมื่อพวกเขาทั้งสองมองไปที่เตียงอันดึงดูดใจ

 

ชิงสุ่ยไม่เคยเห็นเตียงที่ให้ความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน มันเป็นเตียงคู่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเพ้อฝัน ที่นอนสีชมพูหนา พร้อมกับผ้าห่มและผ้าคลุมปุ่ยนุ่นสีชมพูนุ่ม เมื่อเขานั่งลง เขารู้สึกราวกับว่ากำลังจมอยู่ในเตียงแห่งความสุข

 

ภาพในความฝัน ชิงสุ่ยกำลังจับมือของชิงห่านยี่ซึ่งเธอนั้นยืนอยู่ข้างเตียง ชิงสุ่ยมองไปที่ชิงห่านยี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ตรงนั้นด้วยความยินดีแต่มันก็ยังคงความไม่เต็มใจของเธอเอาไว้

 

หรือว่านี่อาจจะเป็นภาพสะท้อนความจริงที่อยู่ในใจลึกลึกของชิงห่านยี่?

 

ชิงสุ่ยรู้สึกได้เลยว่าในขณะนั้นพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลกำลังโคจรอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าพลังวิญญาณของชิงสุ่ยและชิงห่านยี่กำลังโคจรเข้าผสานกัน ราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในความฝันเดียวกันแต่ไม่อาจควบคุมความคิดของตนเองได้ ทำได้เพียงแค่รับรู้และสังเกตเท่านั้น

 

ภาพฉากต่อไปที่ปรากฏมันถึงกับทำให้ลำคอคอชิงสุ่ยแห้งผาด!!!

 

ในความฝันชิงห่านยี่ค่อยๆปลดเสื้อผ้าภายนอกออกเหลือไว้แต่เพียงชุดชั้นในของเธอ รูปลักษณ์แสนงดงามและร่างกายที่เรียวยาว ค่อยๆเปลือยเปล่าต่อหน้าชิงสุ่ย!!!

 

ในความเป็นจริงตัวของชิงห่านยี่เองก็เริ่มถูกเติมเต็มไปด้วยความรู้สึกเขินอาย แต่เธอก็สังเกตเห็นว่าเธอเองนั้นก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เธอต้องการที่จะสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเองเอาไว้ แต่เธอก็ตระหนักดีว่าภายใต้ความฝันนี้เธอไม่อาจต่อต้านทุกสิ่งอย่างได้

 

ภาพที่ปรากฏต่อไปยิ่งทำให้เธอลำบากใจอย่างมาก มันเปรียบดังภาพที่กำลังบีบคั้นเธอจนตาย!!!

 

ชิงห่านยี่ที่ยืนเปลือยกายต่อหน้าชิงสุ่ย ค่อยๆเอื้อมมือไปปลดเสื้อผ้าของชิงสุ่ยออกในขณะที่สายตาของชิงสุ่ยนั้นเริ่มอยู่ใกล้กับผิวหนังสีขาวนวล และเข้าใกล้ยอดหน้าอกคู่งามได้รูปทรง……...

 

ท้องที่แบนราบของเธอนั้นยิ่งทำให้รูปร่างของเธอดูสมบูรณ์แบบ การได้สานสัมพันธ์อันลึกซึ้ง กับสตรีที่มีรูปร่างอันงดงามและกระปรี้กระเปร่า ขาที่เรียวยาวของเธอนั้นยิ่งดูดึงดูดสายตาอย่างยิ่งในยามที่ไร้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

 

ในตอนนั้น เสื้อผ้าของชิงสุ่ยก็ถูกปลดออกโดยสิ้นเชิง แม้ว่ากล้ามเนื้อของชิงสุ่ยจะไม่ได้ดูใหญ่โตมโหฬารจนน่าอัศจรรย์ แต่การฝึกฝนเคล็ดวิชากายาบรรพกาลมันช่วยฟุตบอลให้กล้ามเนื้อและกระดูกพวกร่างกายของชิงสุ่ยกระชับเต่งตึงและเป็นประกายแวววาวจนน่าดึงดูดใจ

 

ชิงห่ายยี่ ดึงมือของชิงสุ่ยและมุ่งตัวลงนอนบนเตียง พื้นที่แห่งความฝันนี้ทุกอย่างล้วนเป็นภาพสวยงาม ทุกสิ่งทุกอย่างภาษากันอย่างลงตัวจนทำให้ผู้ที่พบเห็นไม่อาจหลับตาลืมเลือนมันลงได้

 

ความเร่าร้อนในจิตใจของชิงสุ่ยก้าวเข้ามาถึงขีดสุด เขารู้สึกว่าเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมจิตใจของเขานั้นกำลังจะเผาไหม้เขาจนกลายเป็นขี้เถ้าภายในเวลาเสี้ยววิ เคล็ดวิชานิรนาม และเคล็ดวิชากายาบรรพกาล เริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่งภายในร่างกายของเขา

 

ชิงสุ่ยค่อยๆเคลื่อนไหวมือของเขาไปบนร่างกายที่งดงามและสมบูรณ์แบบดุจนางอัปสร มือของเขาค่อยๆนวดคลึงไปบนยอดหน้าอกอวบอิ่มและนุ่มนิ่ม

 

ความปรารถนาของชิงสุ่ยเริ่มปรากฏออกมา เขาเริ่มแทรกใบหน้าของเขาลงบนลูกหิมะสีขาวอวบทั้งสองลูกและเริ่มเมามันส์กับการดูดดื่ม และเริ่มใช้ลิ้นในการเลียตวัดพวกมันอย่างเพลิดเพลิน

 

เหตุใดเขาจึงรับรู้ได้เหมือนความจริง? ทั้งๆที่นี่มันเป็นเพียงแค่ความคิดของชิงสุ่ยและเขารู้ตัวดีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ตัวของเขานั้นไม่ได้ลิ้มรสชาติของสตรีมานานพอสมควรแล้ว ทุกๆครั้งเขามาแต่คิดถึงภาคที่เขาได้มีความสุขร่วมกับหมิงเยวี่ยเก้อโหลว ชิงสุ่ยจึงที่จะใช้วิธีดับเพลิงแห่งกามจากการฝึกฝนในครั้งนี้

 

เมื่ออยู่ใน "ความฝัน" ของชิงสุ่ย มือของเขาก็เริ่มเพลิดเพลินไปกับเรือนร่างของชิงห่ายยี่ โดยที่ร่างกายของเธอนั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและกำลังสั่นเครือไปด้วยเปลวเพลิงแห่งกาม

 

…………………………………..

 

ในขณะนั้นชิงสุ่ยและชิงห่ายยี่ความรู้สึกของทั้งสองนั้นได้แสดงออกอย่างชัดเจน มันเหมือนกับพวกเขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามองดูภาพลามกอนาจารที่เต็มไปด้วยท่วงท่าอันสวยงามและมีชีวิตชีวาโดยคนที่กระทำนั้นคือร่างกายของพวกเขาเอง มันและประโยชน์อย่างมากแม้ว่าพวกเขาจะปิดตาเพื่อไม่ให้เห็นมัน ภาพเหล่านี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขาโดยตรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

ชิงห่ายยี่หันตัวและผลักตัวของชิงสุ่ยลงไปอยู่ด้านล่างตัวของเธอ ในขณะที่เธอเริ่มนั่งลงบนเอวของชิงสุ่ย ร่างกายที่เริ่มกระแทกขึ้นลงปรากฏเป็นภาพที่สวยงาม ร่างกายที่สัมผัสร่างกายกันมันช่วยเติมเต็มความรู้สึกบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป

 

ดวงตาที่งดงามของเธอบนใบหน้าที่สุดแสนจะยั่วยวน เสียงร้องครวญครางที่ดังออกมาจากปากของเธอนั้นทำให้จิตใจของชิงสุ่ยเริ่มสั่นสะท้าน เสียงของเธอนั้นค่อยๆซึมเข้าสู่จิตใจของชิงสุ่ย

 

มันเหมือนกับว่าภูเขาไฟกำลังเปิดฉากที่จะระเบิด พวยพุงลาวาของมันออกมา ยิ่งชิงสุ่ยขยับตัวมากเท่าไหร่ เขายิ่งสูญเสียการควบคุมของตนเองมากขึ้นเท่านั้น เคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะโคจรด้วยความรุนแรงที่บ้าคลั่ง

 

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าชิงห่านยี่น้ำแตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นๆ เมื่อเขาใกล้ชิดกับร่างกายของเธอ เขารับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นที่กำลังเฉือนร่างกายให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมาน ถึงแม้ร่างกายของชิงห่านยี่กำลังลุกไหม้ดุจทะเลเพลิง แต่ภายในของเธอนั้นกลับเย็นยะเยือก ชิงสุ่ยรู้ว่ามันเป็นเพราะพลังปราณจากกายานพเก้า ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นหากผู้ใดกำเนิดมาพร้อมกับกายานพเก้า คนเหล่านั้นถ้าหากโชคดีที่สุดในชีวิตบั้นปลายพวกเขาจะต้องเป็นอัมพาตตลอดชีวิต พวกเขาจะต้องสูญเสียความรู้สึกของร่างกายส่วนล่างทั้งหมดไป แต่ถ้าหากโชคร้ายที่สุด พวกเขาก็จะอายุสั้นและสุดท้ายก็ต้องพบจุดจบไวกว่าคนทั่วไป

 

ชิงสุ่ยค่อยๆอ่อนเพลียลงเรื่อยๆ พลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลเนื่องโคจรผสมผสานกับเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะ มันช่วยปรับเปลี่ยนพลังปราณที่หนาวเย็นให้กลายเป็นพลังปราณที่รู้สึกอบอุ่นในทันที

 

ชิงห่ายยี่เปรียบเสมือนหญิงสาวพรหมจารีที่กำลังสนุกและเพลิดเพลินกับการประสานระหว่างกายกับกายที่มีความรู้สึกราวกับความจริงแม้มันจะอยู่ในโลกความฝัน มันสามารถทำให้เธอลืมเลือนความรู้สึกที่เจ็บปวดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่พวกเขาพบเจอกัน

 

ท่วงท่าต่างๆที่ปรากฏนั้น เป็นไปตามความนึกคิดของชิงสุ่ย ทุกท่านั้นล้วนมาจากภาพจิตรกรรมราชวังฤดูใบไม้ผลิ แต่ยิ่งกว่านั้นชิงสุ่ยก็ค่อยๆสังเกตเห็นว่าเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะของชิงห่ายยี่ค่อยๆเริ่มโคจรผสานจังหวะและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของชิงสุ่ยอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะที่ชิงห่ายยี่รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้รับรู้ว่าชิงสุ่ยนั้นได้เรียนรู้และวิชาทวิบ่มเพาะมันทำให้เธอนั้นทำได้เพียงเป็นฝ่ายช่วยเสริมเท่านั้น

 

เธอรู้ดีว่าชายและหญิงย่อมหลงระเริงในยามเมื่อต้องร่วมกิจกรรมอย่างว่า!!!  ความรู้สึกเสียวซ่านนั้นแฝงลึกเข้าไปในกระดูกของเธอราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอนั้นกำลังบินและโหยหาสิ่งที่เติมเต็ม

 

ความรู้สึกนี้เปรียบดัง "ความฝัน" มันคล้ายเรื่องจริง และทุกเสียงร้องก็ได้ยินอย่างชัดเจน ทั้งสองเกิดการประสานงานกันอย่างสมบูรณ์ในแต่ละท่วงท่า

 

ชิงห่านยี่นั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง สายตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเขินอายในทุกๆการกระทำของเธอ ก้นกลมมนขาวนวลของเธอยกสูงขึ้น เธอหันศีรษะเป็นมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่เย้ายวนใจราวกับว่าเธอกำลังแสดงอาการโหยหา แต่เธอก็พยายามฝืนใบหน้าเหล่านั้น

 

เวลาในความฝันที่เธอรู้สึกนั้นเปรียบดังเวลา 1 คืน ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงทุกๆกระบวนการที่เกิดขึ้น มันทำให้เขารู้สึกถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโคจรพลังปราณเคล็ดวิชากายาบรรพกาล ในความฝันนั้น ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่ามันสามารถทะลวงขึ้นไปถึงรอบที่ 89 เมื่อเริ่มโคจรเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะ ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงความเข้มข้นของพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลที่ยกระดับขึ้นอย่างรุนแรง หยดของเหลวที่อยู่ในจุดตันเถียนจากที่มีผลเท่าเม็ดองุ่น ปัจจุบันมันได้กลายเป็นเมล็ดถั่ววอลนัทขนาดใหญ่

 

รีวิวผู้อ่าน