px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
AST บทที่ 261 - ดัดกระดูก  ทักษะทวิบ่มเพาะอาจช่วยให้เธอได้?


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 261 - ดัดกระดูก  ทักษะทวิบ่มเพาะอาจช่วยให้เธอได้?

 

ใบหน้าของชิงสุ่ยเริ่มได้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด มันแทบจะไม่หลงเหลือเลือดแม้แต่น้อย ที่มุมปากของเขานั้นได้ปรากฏสายเลือดที่ไหลออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาในเวลาเดียวกัน

 

เมื่อหมิงเยวี่ยเห็นท่าทางของชิงสุ่ยในตอนนี้ และคิดว่าที่ลิ่วลี่ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้เพราะเธอ ทำให้จิตใจของเธอนั้นสับสน อย่างมาก ในขณะนั้นเธอดึงดาบของเธอออกมาและกำลังจะฟันไปที่คอของเธอเอง

 

“หมิงเยวี่ย!”

 

เสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยแรงกดดังได้ดังออกมาๆ ทำให้ หมิงเยวี่ยตื่นจากฝันร้าย และได้สติ!

 

"มันเป็นเพราะข้า ข้าทำร้ายนาง มันเป็นข้าที่ทำร้ายนาง... "

 

"ชิงสุ่ย ข้ามันคนไร้ประโยชน์ ข้าเป็นคนทำร้ายนาง ... ." ในขณะนี้ใบหน้าเธอของเธอถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำตา น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

"ถ้าเจ้าทำเช่นนั้น แล้วมันจะทำให้ลิ่วลี่หายได้หรือ?" หลังจากที่เขาพูดจบ ชิงสุ่ยได้ฝังเข็มทั้งเก้าลงไปที่ ลิ่วลี่  เข็มทั้งเจ็ดเข็มถูกฝังลงไปเป็นสัญลักษณ์ของหมู่ดาวไถ่ 7ดวง และสองเข็มที่เหลือเขาได้ใช้มันเพื่อเสริมความสามารถในการรักษา

 

ในขณะที่เข็มที่ 9 ถูกฝังลงไป  ชิงสุ่ยก็ทนไม่ไหวในขณะนั้นเขาได้พ้นเลือดออกมา

 

"ชิงสุ่ย ............... "

 

"รอข้าสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปจัดการกับพวกมัน" ชิงสุ่ย ลุกขึ้นยืนและเดินเซไปเซมาขณะที่เขาจ้องมองไปคนที่มาจาก นิกายกระบี่อมตะ  บางคนถึงกับปัสสาวะออกมา

 

บางคนถึงกับกรีดร้องออกมา บางคนถึงกับเป็นลมเพราะแรงกดดัน

 

"นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราโปรดอย่าฆ่าพวกเรา ... "

 

"นี่ไม่ใช่ความผิดของข้าได้โปรดอย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า"

 

ภาพที่เกิดขึ้นเหมือนกับเสือที่หลงเขามาในฝูงแกะ มันได้ทำการล่าสังหารอย่างเหี้ยมโหด ไม่มีใครสามารถต่อต้านมันได้ และในที่สุดเขาก็ได้สังหารพวกเขาทั้งหมด

 

หมอกสีเลือดได้กระจายไปทั่วบริเวณนั้น  ถนนเต็มนั้นเต็มไปด้วยซากศพที่เกลือนกลาด ในขณะที่ ชิงสุ่ยได้ยืนอยู่ท้ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ, เขาได้มองดูภาพที่เกิดขึ้น ร่างกายของเขานั้นถูกย้อมไปด้วยโลหิต ในตอนนี้เขาดูเหมือนเทพแห่งความตายอย่างมาก

 

เข้าเดินกลับไปที่ลิ่วลี่ จากนั้นเขาก็ป้อนยาบรรเทาทองคำให้กับเธอ

 

"ยาเม็ด 5 มังกร เม็ดฟื้นฟูขนาดใหญ่ มารดาเจ้าสิ!"  ชิงสุ่ย ตะโกนระบายความหงุดหงิดของเขาออกมา หมิงเยวี่ยที่ยืนอยู่ที่นั่นไม่สามารถที่จะเข้าใจการกระทำของเขาได้

 

ชิงสุ่ยค่อยๆยกมือลิ่วลี่ ขึ้น ในขณะที่เขาถอนหายใจด้วยความเศร้า เขาได้ใช้เข็มสีทองทั้งเก้าช่วยเธอแล้ว แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่า ลิ่วลี่จะสามารถมีชีวิตรอดหรือไม่

 

เขาเรียกวิหกเพลิงของเขาและเขาได้ยิ้มบางๆไปที่ หมิงเยวี่ยก่อนที่จะพูดว่า "หมิงเยวี่ยไปกันเถอะพวกเราจะไม่สามารถออกไปที่นี่ได้แน่ ถ้าเราอยู่ที่นี่นานกว่านี้"

 

หลังจากกลับมาที่บ้านชางห่าย  คู่สามีภรรยาชางห่าย ตกตะลึงด้วยความประหลาดใจหลังจากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ ชางห่าย  การแสดงออกบนใบหน้าของเขาแสดงถึงความโกรธมีรังสีฆ่าอย่างรุนแรงเล็ดลอดออกมา

 

"ท่านพ่อ ท่านแม่!" หมิงเยวี่ยร้องตะโกน ราวกับว่าเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆที่เพิ่งเดินทางกลับมาบ้านที่หลังจากไปเป็นเวลานาน

 

..................................................................

 

"เกิดอะไรขึ้นกับนาง?" ภรรยาของชางห่าย  รู้สึกราวกับว่าหัวใจเธอเต็มไปด้วยความขมขื่นและเจ็บปวด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ขณะที่เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของลิ่วลี่

 

"ท่านผู้อาวุโสข้าคงต้องขอรบกวนให้ท่านช่วยเฝ้าดูนางด้วย ถ้านางสามารถผ่านสามวันนี้ไปได้ก็ปลอดภัยแล้ว หมิงเยวี่ย ข้าขอให้พวกท่านช่วยอาบน้ำให้นางก่อนที่จะข้าจะกลับมาได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามอย่าแตะเข็มทองที่ฝังอยู่ในที่หน้าอกของนาง "

 

เมื่อได้ยินเสียงแหบที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า และอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงของชิงสุ่ยแล้ว พวกเขาก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขามองกับไปมองที่หมิงเยวี่ยที่ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด แต่เธอกับรู้สึกหดหู่เศร้าใจอย่างมากแม้จะไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ บนร่างกายของเธอ

 

 

"ได้เรายินดี!" พวกเขารีบตอบตกลงกันที่จะอาบน้ำให้ลิ่วลี่

 

"ชิงสุ่ยอาการบาดเจ็บของเจ้า… "

 

"ข้าสบายดี ข้าแค่ต้องการจะอาบน้ำเท่านั้น" ชิงสุ่ย ทำความเคารพ ก่อนที่เขาจะออกไปจากที่พำนักของชางห่าย ในตอนนี้เขาดูเดียวดายอย่างมาก หมิงเยวี่ยจ้องมองไปที่หลังของเขาที่กำลังห่างออกไป

"เยวี่ยเยวี่ย เกิดอะไรขึ้น?"

 

"พวกเราถูกผู้อาวุโส ทั้งสองของนิกายกระบี่นภาและสาวกกว่ายี่สิบคนจู่โจม"

 

"แล้วผลที่เกิดขึ้นละ?" ชางห่ายจ้องไปที่ หมิงเยวี่ย ด้วยความรู้สึกตกใจในน้ำเสียงของเขา

 

"ทุกคนตายหมดแล้วไม่มีแม้คนเดียวที่รอดออกไป"

 

คู่รักชางห่าย ถึงกับเงียบ ๆ , ".................................................................. "

ชิงสุ่ยได้ทำความสะอาดตัวเองอย่างดีแล้ว เข้าได้เปลี่ยนชุดๆใหม่อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาดูอ่อนเพลียอย่างมาก ทันทีที่เขามาถึงที่พักเขาได้นำวิหคเพลิงไปเก็บในดินแดนห้วงมิติของเขา และรีบออกมาตอนนี้เขาเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของลิ่วลี่อย่างมา ถ้าไม่ได้ทักษะเข็มทองที่เก้าและฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ของเขาเกรงว่าเธอคงจะตายไปแล้ว

 

หลังจากออกมาจากดินแดนห้วงมิติ เขาได้ยินเสียงเคาะประตูของหมิงเยวี่ย ในขณะที่หมิงเยวี่ยนั้นยืนอยู่ข้างนอกประตูนั้น ได้บอกเขาว่า "ไปกันเถอะ นางอยู่ในห้อง ข้าได้ทำตามทุกสิ่งที่เจ้าสั่งเรียบร้อยแล้ว"

 

ชิงสุ่ยพยักหน้าตกลงแล้วฝืนหัวเราะออกมา รอยยิ้มที่เกิดขึ้นมามันดูเศร้าสร้อยอย่างมาก และมีคราบน้ำตาข้างๆดวงตาของเขา  เขาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกผิดในจิตใจของเขาได้

ในตอนนี้กลิ่นตัวอ่อนๆของหมิงหวี่ยมันช่างดึงดูดอย่างมาก แต่ตอนนี้ชิ่งสุ่ยไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น ตอนนี้เขากังวลเกี่ยวกับลิ่วลี่ที่สุด และเขาต้องเตรียมตัวที่จะรับศึกกับนิกายกระบี่อมตะอีกด้วย

 

พวกเขาไม่ได้พูดกันสักคำในขณะเดินทาง นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยเข้ามาในที่พักอาศัยของ หมิงเยวี่ย และ ลิ่วลี่ มีห้องนั่งเล่นอยู่ที่ชั้นสอง มีโต๊ะพร้อมชุดเก้าอี้อยู่หนึ่งชุด

 

 

มีห้องอื่น ๆ อีกสองห้องทางทิศเหนือและทิศใต้ เขารู้สึกถึงกลิ่นอายปล่อยออกมาจากสถานที่เหล่านั้น ชิงสุ่ย คิดว่าห้องพักนั้นต้องเป็นของคู่รักชางห่าย

 

เมื่อเข้าไปในห้องของลิ่วลี่ เธอนอนอยู่ที่นั่นและสวมชุดนอนของเธอ ขณะที่คราบเลือดบนร่างกายของเธอได้รับการทำความสะอาดออกไปหมดแล้ว แต่สีหน้าของเธอยังคงเป็นสีซีดขาว กับแผลที่เกิดจากรอยกระบี่บนร่างกายของเธอ

 

"ชิงสุ่ยเจ้าไม่หยุดพักก่อนหรือ?" แม่ของหมิงเยวี่ยถามด้วยความห่วงใย หลังเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา

 

"ท่านผู้อาวุโส ข้าสบายดีไม่ต้องห่วงข้าหรอก หมิงเหวี่ย เจ้าควรไปพักผ่อนได้แล้ว อาวุโสท่านสามารถพาหมิงเยวี่ยไปกับท่านได้หรือไม่? ในตอนนี้นางรู้สึกสับสนอย่างมาก"ชิงสุ่ยกลัวจริงๆว่า หมิงเหวี่ยจะทำอะไรโง่ ๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจ

 

หมิงเหวี่ยกัดฟันก้มหน้าเดินออกไปพร้อมกับแม่ของเธอ ชิงสุ่ยได้ถอนหายใจออกชั่วขณะ ในตอนที่เขานั่งลงข้างๆลิ่ววี่ ผู้ซึ่งได้ก้าวเข้าสู่ประตูแห่งความตายไปแล้วครึ่งก้าว

 

เขาเอื้อมมือออกไปจับมือที่เย็นยะเยือกของลิ่วลี่  เขาได้ถอนหายใจออกมา "ลิ่วลี่เจ้าต้องไม่เป็นอะไร ตราบเท่าที่เจ้าตื่นขึ้นมาข้าจะสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ... "

 

ชิงสุ่ยยิ้มอย่างขมขื่น เขาต้องการที่จะปลุกเธอขึ้นมา ถ้าเธอไม่ตื่นขึ้นมาในอีกสามวันก็เธออาจไม่มีโอกาสตื่นมาอีกเลย เพราะที่เธอสามารถมีชีวิตรอดมาได้เพราะได้เข็มทองของชิงสุ่ยกระตุ้นการบ่มเพาะอยู่

 

อย่างไรก็ตามชิงสุ่ย รู้สึกว่าพลังปราณจากเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะกำลังประทุขึ้น มันไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขาโดยอัตโนมัติไหลเข้าสู่ร่างกายของลิ่วลี่ โดยไม่ตั้งใจ

 

สิ่งที่มากมายในโลกนี้สามารถแบ่งออกเป็นหยินหรือหยาง ถ้าไม่มีหยางก็ไม่มีหยิน ชิงสุ่ยได้ควบคุมปราณจากเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลของเขา เนื่องจากปราณที่สร้างจากเคล็ดบ่มเพาะเทวะจะไหลกลับเข้ารางของเขา

 

ชิงสุ่ย ตื่นเต้นอย่างมากในหัวใจของเขา เขาไม่รู้ว่าการบ่มเพาะนี้จะสามารถช่วยเธอได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดก็จะไม่มีอันตรายใดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะล้มเหลวก็ตาม

 

เขาค่อยๆรู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่เบาบางจากร่างกาย ของลิ่วลี่ ขณะที่เขาได้กระโดดขึ้นด้วยความปิติยินดี หมิงเยวี่ยจ้องมองมาที่ห้องด้วยความตกใจขณะที่เธอยืนอยู่นอกประตู เธอสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นข้างในนั้น

 

และตอนนี้ชิงสุ่ย ยังคงหมุนเวียน ปราณของเขาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วยาม  ผิวที่ซีดเซียวของลิ่วลี่เริ่มกลับมามีเลือดฟาดๆ

 

ในที่สุดชิงสุ่ยก็สังเกตเห็น หมิงเยวี่ยที่อยู่ข้างนอก เขารู้ว่าเธอนั้นรู้สึกแย่มากๆ ในหัวใจของเธอ เพราะอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับลิ่วลี่นั้น เกิดขึ้นเพราะเธอ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลิ่วลี่ เขารู้ว่าหมิงเยวี่ยจะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ในตลอดชีวิตนี้

 

เมื่อเห็นบาดแผลที่น่ากลัวบนร่างกายของลิ่วลี่ เธอรู้ว่าแม้ว่าลิ่วลี่จะสามารถรอดมาได้ บาดแผลนั้นก็จะถูกทิ้งไว้บนร่างของเธอตลอดไป บาดแผลนั้นอยู่ห่างจากมุมของเปลือกตาซ้ายของเธอไปจนถึงด้านล่างของริมฝีปากล่างขวาของเธอ  ถ้าไม่ได้ชุดปราการศึกช่วยไว้เธอคงตายไปแล้ว

"หมิงเยวี่ย เจ้าไม่ต้องกังวล .. ลิ่วลี่ดีขึ้นแล้ว เจ้าควรไปพักผ่อนได้แล้ว และหยุดรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลิ่วลี่ยินดีทำเพื่อเจ้า ถ้าเจ้ายังคิดถึงเรื่องนี้อยู่อีก นางคงรู้สึกเศร้ามากๆแน่ "ชิงส่ยตบไปที่ไหล่อันอ่อนโยนของชางห่าย หมิงเหวี่ย และปลอบโยนเธอขณะที่เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น

 

คู่รักชางห่าย กำลังนั่งอยู่ที่นั่น  ชิงสุ่ยได้ทำความเคารพพวกเขา

 

“เฮ้อ!”

 

ชางห่าย ไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่เขากำหมัดไว้อย่างแน่น

 

ชิงสุ่ย นั่งลงบนเก้าอีก อาการบาดเจ็บของเขาได้ฟื้นคืนด้วยความเร็วที่ประหลาด อย่างไรก็ตามเขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่หมิงเยวี่ยและชางห่ายไม่ทราบว่าจะพูดอะไรออก เมื่อมองไปที่ท่าทางอ่อนล้าของเขา

 

"ท่านอาวุโส ข้าคงต้องขอพักผ่อนสักหน่อยแล้วเดี๋ยว หลังจากนั้นข้าจะกลับมาฝังเข็มให้กับลิ่วลี่ต่อ"ร่างกายของชิงสุ่ยสั่นสะท้านด้วยความอ่อนแรง เขาทรุดตัวลงบนเก้าอี้

 

คู่รักชางห่าย พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร  ชิงสุ่ยปิดตาของเขาลง หมิงเยวี่ยได้ส่งพ่อแม่ของเธอกลับไปที่ทักของเขา เธอได้เดินกลับไปหาชิงสุ่ย

 

เธอมองไปที่ปิศาจร้ายชิงสุ่ย เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเพราะความคิดของตัวเอง เธอเดินไปที่ห้องของเธอและดึงผ้าห่มออกมา

 

เธอได้ใช้ผ้าห่มของเธอห่มลงไปที่ชิงสุย เมื่อเห็นหน้าตาซีดเซียวของเขา เธอคิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผู้ชายคนนี้ได้เจ้ามาสลักชื่อเขาเข้าไปในหัวใจของเธอแล้ว และ ในขณะนี้เธอรู้แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอไม่มีวันที่จะลืมเขาได้อย่างแน่นอน

 

เธอได้นั่งซบลงที่ชิงสุ่ยเล็กน้อยหัวใจของเธอเต้นอย่างคึกคัก ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่ามือของเธอถูกจับด้วยชิงสุ่ย เธอนั้นรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นคิ้วของชิงสุ่ย และดวงตาของเขานั้นปิดอยู่ขณะที่เขาจับมือเธอ

รีวิวผู้อ่าน