“นี่คือความแตกต่างระหว่างเรา” แอนเนียกวาดตามองไปยังใบหน้าของฟู่เทียนอย่างไม่แยแสและกล่าวต่อไปว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแม่ของนายสามารถรักษาการเจ็บป่วยของพ่อฉันได้ พวกเราก็คงไม่เคยพบกัน อย่าคิดจะให้ความเมตตาของแม่ของฉันหวังปีนป่ายขึ้นมาเป็นใหญ่และเกาะครอบครัวของพวกเรา ฉันแอนเนีย จะไม่แต่งงานกับสามีที่ไร้ความสามารถและทำให้ฉันต้องเสียหน้า”
“แม้ว่าแกจะพยายามเลียนแบบความสง่างามและความสูงศักดิ์เพื่อที่จะทำให้ดูเป็นชนชั้นสูง แต่แกก็ไม่ได้มีรากเหง้าของชนชั้นสูงที่แท้จริง! คนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่มีสายเลือดของความสูงศักดิ์ การฝึกฝนมาเพียงแค่วันเดียวหรือสองวันย่อมไม่อาจปกปิดรากเหง้าที่แท้จริงของแกได้”
แอนเนียมองไปยังฟู่เทียนด้วยความเย็นชา “แกอาจจะดูสะอาดแตกต่างจากพวกคนงานตัวเหม็นพวกนั้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าประหลาดใจ ฉันจะบอกอะไรบางอย่างให้แกกลับไปลองคิด การจะเข้ามายังบ้านเอวริลหรือการช่วยให้พ่อแม่ของแกนั้นได้มาอาศัยอยู่ที่ย่านธุรกิจนั้นเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น! นี่คงเป็นความปราถนาของแกสินะ”
“ความเมตาของพ่อของฉันที่มีต่อครอบครับของแกนั้นมันมากเกินไป แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกแกจะสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างไร้ยางอายและโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งไป! แกไม่รู้ถึงผลกระทบที่ตามมาหรอก!”
ฟู่เทียนเพียงมองเงียบๆและรอคอยจนกว่านางจะกล่าวจบ
หลังจากที่ได้พูดออกไปมากมายในหนึ่งลมหายใจ นางก้ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นสีหน้าของฟู่เทียนนั้นยังคงสงบนิ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เธอกล่าวออกไปอีกครั้งด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า “ที่ฉันพูดออกไปทั้งหมดนี้เพื่อที่จะให้แกได้เข้าใจว่าแกไม่เหมาะสมสำหรับฉันและฉันก็จะไม่ยอมให้แกมาเป็นสามี หยุดความฝันลมๆแล้งๆของแกซะ!”
ฟู่เทียนยังคงเงียบขณะที่เขามองไปที่เธอและกล่าวว่า “จบแล้วหรอ…?”
แอนเนียหัวเราะเยาะ “จบแล้ว ถ้าแกไม่มีอะไรจะพูด ก็ไปซะ”
ฟู่เทียนหัวเราะออกมาและมองไปที่ดวงตาของเธอจากนั้นก็พูดออกมาเบาๆ “อย่างแรก ผมน่าจะขอบคุณคุณ”
สีหน้าของแอนเนียนั้นมีทั้งความสับสนและไม่อยากจะเชื่อ
ฟู่เทียนไม่สนใจท่าทีของเธอและกล่าวต่อไปว่า “อย่างแรกต้องขอบคุณที่คุณปฏิเสธผม! ด้วยวิธีนี้ผมจะได้หลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับพ่อแม่ของผมได้”
แอนเนียรู้สึกสงสัยในใจของเธอ พ่อของเขาไม่ได้พยายามยัดเยียดเขาเข้ามาในบ้านของพวกเราหรอกหรอ?
“อย่างที่ 2 ก็ต้องขอบคุณคุณอีกครั้ง ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้ว่าแม้แต่เด็กสาวตัวเล็กๆอย่างคุณก็ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย”
คิ้วของแอนเนียนั้นยกขึ้น เธอนั้นถือเป็นผู้ใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆที่ยังคงเล่นสนุกอยู่ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เธอได้วางแผนอนาคตไว้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่อย่างไรก็ตามเด็กที่อยู่ตรงหน้าของเธอนี้พูดด้วยน้ำเสียงล้าสมัยราวกับว่าเขาได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย
เมื่อเธอจะกล่าวอะไรออกมาอีกครั้งฟู่เทียนก็หันกลับไป เขาไม่ได้หยุดนิ่งหรือหันหลังกลับมา “บางทีผมอาจจะใช้ดาบไม่ได้ หรือผมอาจจะขี่ม้าไม่ได้เก่งกาจ แต่ผมมีอุดมการณ์และความปรารถนาของตัวเอง!”
เธอหยุดนิ่งไปจนกระทั่งเงาของเขาหายไปจากสายตา เธอไม่คิดว่าเด็กตรงหน้าจะกล่าวเช่นนี้ออกมา เขากล้าที่จะจากไปก่อน! ใบหน้าที่แดงฉานของเธอแสดงถึงความโกรธภายในหัวใจ แต่ด้วยการศึกษาและการฝึกฝนด้านต่างๆทำให้เธอสามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เธอกัดฟันไปพร้อมกับกระทืบเท้า พร้อมรีบเดินตามไปโดยเร็วที่สุดแต่ก็ยังคงรักษาความเรียบร้อยของตนเองเอาไว้
เมื่อฟู่เทียนกลับมายังห้องโถงแห่งนี้ เขาก็เริ่มเดินช้าลงจนแอนเนียตามเขาได้ทัน เขาหยุดนิ่งแต่ก็ไม่ได้หันหลังกลับไป ไม่นานหลังจากนั้นแอนเนียก็ได้มองมาที่ด้านหลังของเขาด้วยสายตาของหญิงสาวที่สูงศักดิ์ของเธอ “รอก่อน! ถ้าพวกผู้ใหญ่ถาม บอกไปว่าแกมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ฟู่เทียนยังคงสงบนิ่งและตอบกลับไปว่า “ทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้น?”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด พ่อของคุณก็น่าจะเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้” เขาพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าหากว่าคุณไม่ยอมรับ แบบนั้นถ้าผมตกลงที่จะแต่งงาน พวกเราก็คงได้แต่งงานกันใช่ไหม?”
สีหน้าที่โกรธเกรี้ยวของแอนเนียซีดลงไปในทันที ถ้าหากว่าฟู่เทียนตอบตกลงพ่อของเธอคงจัดงานแต่งงานครั้งนี้ขึ้นมาแน่นอน ในวันนี้เธอและแม่ของเธอวางแผนที่จะจงใจกดดันคู่สามีภรรยาเกรย์เพื่อให้พวกเขาไม่กล้าที่จะขอนางแต่งงาน
“แกรู้ได้ยังไง?!”
“คุณบอกผมมาตั้งมากมาย” ฟู่เทียนกล่าวออกมาเบาๆ “ถ้าคุณมีตัวเลือกในเรื่องนี้คุณย่อมที่จะเลือก ‘ไม่’ แต่งงานกับผม ยิ่งไปกว่านั้นคุณคงไม่ต้องมาพูดอะไรมากมายหรือข่มขู่ผมแบบนี้ แม่ของคุณก็คงไม่ต้องวางแผนแบบนี้ ผมคิดว่าคุณคงไม่สามารถปฏิเสธพ่อแม่บุญธรรมของผมโดยตรงได้”
แอนเนียตกตะลึง ฟู่เทียนมองแผนการของเธอและแม่ออกได้อย่างชัดเจน ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเด็กชายตรงหน้าของเธอนี้มองเธอออกได้อย่างทะลุปรุโปร่งด้วยท่าทีที่สงบนิ่งของเขา แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่ตนเองได้เลือก หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่งนางก็กล่าวออกมาว่า “ถ้าฉันปฏิเสธ ฉันแค่กังวลว่าพ่อแม่ของแกจะไปหาพ่อของฉัน”
ฟู่เทียนส่ายศีรษะเบาๆ “ไม่ ตราบใดที่คุณปฏิเสธ ‘การแต่งงาน’ ครั้งนี้เรื่องนี้ก็จะผ่านไปด้วยดี ทุกๆอย่างนั้นเรียบง่ายแต่เป็นคุณเองที่ทำให้มันยุ่งยาก”
“แกรู้ได้ยังไง?” แอนเนียขมวดคิ้ว เธอหงุดหงิดกับน้ำเสียงที่มั่นใจของฟู่เทียน
“คุณประเมินพวกเขาสูงเกินไปและประเมินตัวเองต่ำเกินไป” ฟู่เทียนอธิบาย เธอไม่มีความมั่นใจและไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแต่ก็ยังคงอยากที่จะพยายามทำเรื่องนี้
แอนเนียขมวดคิ้วและคิดเล็กน้อย “ทำไมแกไม่บอกไปว่าแกชอบผู้หญิงคนอื่น?”
“คุณไม่ใช่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์หรอกเหรอ? คุณไม่เข้าใจหรอว่าผมปฏิเสธไม่ได้แต่คุณทำได้?” ฟู่เทียนกล่าวขณะที่เขามองตรงไปที่เธอ
แอนเนียมองไปที่เขาและยิ้มออกมา “ถ้าฉันปฏิเสธ แกต้องการให้ทุกๆคนคิดว่าแกไม่ดีพอสำหรับฉันเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องโกรธแก”
ฟู่เทียนรู้ว่าแผนการของเขาถูกมองออกแล้วแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอายแต่อย่างใด “ไม่ว่ายังไง ผมก็ได้บอกเรื่องที่คุณควรทำไปแล้ว ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ดังนั้นคิดถึงผลที่ตามมาด้วยตัวคุณเอง!” เมื่อฟู่เทียนกล่าวจบเขาก็เดินจากไปโดยไม่รอแอนเนีย
“แก…!” แอนเนียทำได้เพียงมองตรงไปยังแผ่นหลังของเขา เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธและเดินตามเข้าไปในคฤหาสน์
“ยินดีต้อนรับกลับขอรับ นายหญิง” ชายในชุดสูทสีดำกล่าวทันทีเมื่อเขาเห็นฟู่เทียนและแอนเนียปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
แอนเนียนั้นเกิดมาในตระกูลที่สูงศักดิ์ เพียงไม่นานความเกรี้ยวกราดของเธอก็สงบลงทันที
…
…
รถม้าที่มีธงรูปดอกไม้ขาวเดินทางจากย่านการค้าไปสู่ย่านที่อยู่อาศัย ครอบครัวของฟู่เทียนลงจากรถและเดินเข้าไปที่บ้านของพวกเขาทันทีที่รถม้าหยุดลง
จูร่า มองไปที่ใบหน้าที่มืดมนของสามี เธอจับมือของฟู่เทียนเอาไว้ขณะที่เธอเปิดประตูบ้าน
“นี่มันข้ออ้างอะไรกัน!”
“เห็นได้ชัดว่าพวกเขารังเกียจพวกเรา! ชนชั้นสูง… ฮ่าฮ่า…. ไอพวกคนหน้าซื่อใจคด!”
เมื่ออยุ่ในบ้านเกรย์ตะโกนสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา
“เงียบ!” จูร่ากล่าวขึ้น “คุณต้องเงียบลงหน่อย ไม่คิดว่าคนอื่นๆจะรำคาญบ้างหรอ!”
เกรย์ปิดปากเงียบด้วยความขมขื่น การให้ร้ายชนชั้นสูงถือเป็นความผิดครั้งใหญ่
“เทียน กลับไปที่ห้องของลูกก่อน ลูกคงเหนื่อยมามาก เดี๋ยวจะไปเรียกตอนถึงเวลาอาหารเย็น” จูร่ากล่าวกับฟู่เทียน
เกรย์มองไปยังเด็กชายผู้นี้ ปากของเขาขยับเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แม้ว่าเขาจะหนักใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เขาก็รู้ว่าฟู่เทียนนั้นเป็นเด็กดีอยู่เสมอและไม่มีวันไหนที่เขาทำอะไรไม่สุภาพเลย เขาต้องโทษตัวเองกับภรรยาเท่านั้นที่หวังสูงจนเกินไป ฟู่เทียนพยักหน้าและเดินกลับไปที่ห้องของเขา
…
หลังจากผ่านไปกว่า 4 เดือนฤดูฝนก็ได้หมดลงแล้วและดวงอาทิตย์ก็ได้กระจ่างใสบนท้องฟ้า
เกรย์มองไปยังฟู่เทียนที่ตื่นขึ้นตั้งแต่เช้า เขายิ้มและกล่าวออกมาว่า “เทียน โรงเรียนต่างๆกำลังจะเปิดขึ้นอีกไม่นานแล้ว ลูกอยากไปเรียนการเขียนการอ่านหรือไม่?”