ฟู่เทียนเข้าใจแล้วว่าแขนของชายแก่กลายมาเป็นแบบนั้นได้อย่างไร การทดลองส่วนใหญ่ของนักเล่นแร่แปรธาตุมักจะเริ่มที่ร่างกายของตนเอง แม้ว่าส่วนใหญ่จะเกิดความล้มเหลวก็ตาม และส่วนที่ถูกเสริมเพิ่มเติมเข้าไปบนร่างกายจะทำงานตามสัญญาณของระบบประสาท แต่การดำเนินการแต่ละครั้งก็จะต้องจ่ายด้วยราคาที่สอดคล้องกัน ไม่เช่นนั้นพวกกลายพันธุ์คงกลายเป็นอาวุธที่ไร้เทียมทานไปแล้ว
ดูเหมือนว่าชายแก่ต้องการที่จะพักผ่อน เขากล่าวกับฟู่เทียนด้วยเสียงเย็นชา : “เดินไปทางนั้น” มือของชายแก่จับหน้าไม้ขนาดเล็กเอาไว้ เขาต้องการเตือนให้ฟู่เทียนรู้ว่าถ้าเล่นตุกติก เขาพร้อมที่จะยิงออกไปในทันที
ฟู่เทียนยืนขึ้น ในช่วงเวลาเป็นตายเช่นนี้ความคิดต่างๆผุดขึ้นมาในหัว เขาสูดหายใจเขข้าลึกๆเพื่อทำให้จิตใจสงบลง ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ฟู่เทียนเริ่มขยับไปในทิศทางที่ชายแก่ชี้ไว้ มันเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องมือทั้งหลายที่ใช้สำหรับหั่น บางส่วนยังคงถูกย้อมไปด้วยเลือดซึ่งยังไม่ได้ทำความสะอาด
ฟู่เทียนได้ยินเสียงมาจากด้านซ้ายของเขา เขาหันไปมองก็พบกับกรงขังขนาดใหญ่ มีงูจำนวนมากโผล่ขึ้นมาภายในกรง เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นอีกส่วนหนึ่งของการทดลอง
ชายแก่ไม่ได้ยุแหย่ฟู่เทียนแต่อย่างใด เขาเพียงจ้องมองมาอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นนักล่าที่เฝ้ารอดูเหยื่อที่จะต่อสู้อีกครั้ง เมื่อเขาได้เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฟู่เทียน ปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้ายเล็กน้อย ในเวลานี้ฟู่เทียนมุ่งเดินไปที่โต๊ะ
“เห็นโซ่นั่นใช่ไหม? มัดแขนของตัวเองไว้ซะ” ชายแก่ออกคำสั่งฟู่เทียน
ฟู่เทียนมันไปยังโซ่จำนวนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งพวกโซ่และเครื่องมือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก่อนจะทำการทดลอง ดวงตาของเขากระพริบพร้อมคว้าโซ่และพันรอบมือตัวเองเอาไว้
ใบหน้าของชายแก่เต็มไปด้วยการดูถูกและเยาะเย้ย เมื่อฟู่เทียนได้มัดตัวเองเอาไว้ นั่นก็หมายความว่าได้เอาชีวิตตัวเองไปผูกไว้กับความตายแล้ว
ปัง!
ฟู่เทียนหมอบลง พร้อมกับคว้าโซ่ฟาดเข้ากับกรง งูที่อยู่ในกรงต่างเริ่มเลื้อยไปมาและพยายามหากทางหลบหนี
ชายแก่กล่าวออกมา : “ไอ้ตัวปัญหา แกทำตัวเฮงซวยอีกแล้วสินะ? คิดหรอว่าจะหนีออกไปจากที่นี่ได้? ถ้าแกยอมเชื่อฟังในครั้งนี้ฉันจะให้อภัยแกสักครั้ง”
ฟู่เทียนไม่เชื่อคำกล่าวของชายแก่ เขาเริ่มเตะเข้ากับกรงเหล็ก ในตอนนี้เขาใช้โต๊ะเป็นที่กำบังจากหน้าไม้ของชายแก่ พร้อมพยายามหาทางเข้าใกล้ตัวอีกฝ่ายให้ได้เพื่อโอกาสที่จะได้ต่อสู้
แม้ว่าชายแก่จะมีส่วนขยายเพิ่มเติมบนร่างกายของเขา แต่ก็ยังต้องใช้พลังมากมายที่จะสั่งการมัน ข้อเสียของการใช้งานร่างกายในส่วนนี้คือจะทำให้รู้สึกอ่อนล้าลงไปอย่างมาก
ด้วยการเตะออกไปสองถึงสามครั้ง กรงเหล็กตกลงมายังบนโต๊ะ โชคดีที่ประตูกรงด้านหนึ่งถูกเปิดออก งูจำนวนมากต่างพากันเลื่อยออกมา บางส่วนเลื้อยเข้าสู่ที่มืด ส่วนน้อยเลื้อยเข้าหาชายแก่ และงู่ส่วนใหญ่ต่างมุ่งเข้าหาฟู่เทียน
ชายแก่ยิ้มออกมา “สำหรับฉันการมีชีวิตอยู่หรือตายมันก็ไม่ต่างกันหรอก!”
ในเวลาถัดมา รอยยิ้มของเขาก็หุบลง เขามองไปยังกลุ่มงูที่กำลังเคลื่อนเข้าหาฟู่เทียนกำลังเปลี่ยนทิศทาง สองถึงสามตัวต่างแยกย้ายกันไป ส่วนอีกสี่หรือห้าตัวกำลังมุ่งตรงเข้าหาเขา
“ได้ยังไง...” ดวงตาของชายแก่เบิกกว้าง เขามองไปยังโต๊ะสหน้าของเขามีความมืดมน “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงกล้าปล่อยงูออกมา”
ฟู่เทียนปัดมือของตนเอง มีขวดบรรจุผงเล็กๆบางอย่างไว้ ซึ่งเขาได้เทมันบนรอบๆตัว ซึ่งเป็นการเดิมพันกับสิ่งของในขวดนี้เหลือเกิน เขาคาดไว้แล้วว่าคงเป็นสิ่งของบางอย่างที่ชายแก่ใช้เวลาที่ต้องจับงูพวกนั้น
แม้ชายแก่จะกล่าวอ้างว่าตนเองเป็น “นักเล่นแร่แปรธาตุ” แต่ในความเป็นจริงก็ยังต้องใช้สารเคมีอยู่หลายอย่าง
ด้วยเหตุนี้ชายแก่เองคงไม่สามารถจับงูทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง เขายังคงต้องพึ่งพาสิ่งของหลายสิ่ง ผลลัพธ์ที่ปรากฏอยู่เป็นไปตามกับที่เขาคิดเอาไว้ ขณะที่กำลังเดินไปที่โต๊ะเขาสังเกตุเห็นขวดบรรจุผงบางอย่างเอาไว้ และชายแก่คนนั้นคงไม่ได้กลับมาที่นี่สักระยะแล้วเลยวางมันเอาไว้บนโต๊ะ เขาจึงแอบคว้ามันเอาไว้ในขณะที่กำลังเคลื่อนไหว
“ฮึ!” ชายแก่คว้าเสื้อคลุมสีน้ำตาลเอาไว้ พร้อมกับรีบพันร่างกายของตัวเองเอาไว้ ผลลัพธ์เป็นไปตามคาด ฝูงงูต่างหยุดนิ่งลงในทันที และต่างกระจายตัวออกไปในความมืด
ฟู่เทียนเข้าใจได้ในทันทีว่าเสื้อคลุมตัวนั้นคงมีผงชนิดเดียวกันเคลือบอยู่และมันมีผลใช้ไล่งูพวกนั้นออกไป
“เจ้าเด็กน้อย แกเชื่อฟังฉันดีๆเสียดีกว่า” ชายแก่จ้องมองไปยังหน้าไม้ที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ ถ้าหากฟู่เทียนโผล่หัวออกมาแม้แต่นิดเดียว เขาก็พร้อมที่จะยิงมันในทันที แม้ว่าฟู่เทียนจะยังเป็นเด็ก แต่เขาก็ได้ทำความผิดพลาดมหันต์เสียแล้ว ชายแก่จึงไม่คิดที่จะให้โอกาสกับเขาอีก
ฟู่เทียนหันไปมองรอบๆห้อง หนทางเดียวที่เขาจะรอดออกมาไปได้คงต้องจัดการกับนักเล่นแร่แปรธาตุคนนี้ให้ได้ แม้จะมีมีดสั้นวางอยู่แต่ระยะห่างอยู่ไกลออกไปเกินไป
เขาฉวยโอกาสหยิบอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ในการหั่นจากโต๊ะ ซึ่งมันมีรูปร่างคล้ายกับมีดสั้น
ในตอนนี้ฟู่เทียนเห็นขวดและกระป๋องจำนวนมากวางอยู่ใกล้ๆกับกรงที่หล่นลงมา มันมีป้ายติดเอาไว้ซึ่งอ่านได้ใจความว่า ถ่านและกำมะถัน!
สายตาของฟู่เทียนเป็นประกาย หัวใจของเขาเต้นรัวในทันใด เขามองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบกับกรดไนตริก และต้องพบกับความผิดหวังเล็กน้อยเพราะเพียงสองสิ่งไม่เพียงพอสำหรับการสร้างดินปืน
เขากำหมัดเอาไว้แน่น และมีความหวังในการเอาชีวิตรอดในขณะเดียวกันก็กำลังเสี่ยงต่อการถูกโต้กลับ
“ฉัยรู้ว่าแกมีมีดสั้นอยู่หลังมือนั่น พร้อมจะสู้กับฉันหรือยังล่ะ?” เสียงของชายแก่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จิตใจของฟู่เทียนตกวูบ เป็นเพราะชายแก่รู้ถึงเรื่องนี้เขามีมีดสั้นถืออยู่ในมือ “แกหิวแล้วยัง?” ชายแก่กล่าวต่อ
เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ฟู่เทียนหิวกระหายเป็นอย่างมาก น้ำย่อยในกระเพาะของเขากำลังเดือดพล่าน
อย่างไรก็ตาม เขายังมีความรู้สึกโล่งใจอยู่บ้าง อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีเวลาคิดหาหนทางในการหนี
ในเวลาเดียวกันก็ปรากฏหมอกสีเขียวกระจายไปทั่ว
ดวงตาของฟู่เทียนหรี่ลงและรีบปิดปากพร้อมกับจมูกของตนเองอย่างรวดเร็ว เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายแก่จะกล้าปล่อยสิ่งๆนี้ออกมาในสถานที่ที่คับแคบแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าชายแก่อาจจะมียาแก้พิษและใช้มันออกมา
ฟู่เทียนบีบจมูกของตัวเองเอาไว้ หัวใจของเขาเต้นรัวและรู้ว่าเวลาของตัวเองกำลังจะหมดลงแล้ว เขายังไม่กล้าที่จะยืนขึ้นเนื่องจากหน้าไม้ที่กำลังเล็งมาอยู่ ถ้าหากเขายืนขึ้นก็อาจจะถูกยิงได้ทุกเมื่อ
เขากัดฟันแน่นกำมีดสั้นในมือเอาไว้แน่น ในตอนนี้เขากำลังขว้างขวดนั่นออกไป มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา