แม้ว่าคริสจะพูดถึงเรื่องผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก แต่ฟู่เทียนก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรแสดงตัวอ้างสิทธิ์ เขาไม่แน่ใจเช่นกันเบาะแสเรื่องใดบ้างที่เหล่าอัศวินแห่งแสงจะค้นหาได้จากห้องของนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้น เขาได้ใช้ไฟเผาทำลายทุกอย่างไปหมดแล้วแต่ร่องรองของการระเบิดก็ไม่ได้หายไป ถ้าหากต้องถูกสอบสวนเขาจะหลีกเลี่ยงมันได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น ในตัวของเขายังมีบันทึกของนักเล่นแร่แปรธาตุอยู่กับตัว ถ้าหากถูกพบเข้าอาจเกิดปัญหาร้ายแรงตามมา เขาจึงต้องการอยู่ห่างจากอัศวินแห่งแสงเอาไว้ ยิ่งไกล ยิ่งดี
“โอกาสที่จะได้เป็นอัศวิน….” หัวใจของฟู่เทียนรู้สึกปวดร้าว แต่ก็ต้องกัดลิ้นทนเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
“เทียน สุดยอด….” สีหน้าของแซคเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขากำลังจะพูดถึงเรื่องนี้แต่เมื่อได้เห็นสี่หน้าของฟู่เทียนเขาก็หยุดชะงักลง
เมสัน, แซค และ แชม ต่างรู้สึกดีใจอยู่ชั่วครู่ หลังจากผ่านมาหลายเดือนและสิบวันแห่งการทดสอบพวกเขาต่างรู้ใจกันมากขึ้น ด้วยการมองจากภายนอกพวกเขารู้ความหมายจากแววตาของฟู่เทียนในทันใด พวกเขาไม่รู้จะช่วยอย่างไรและนี่ก็ยังเป็นโอกาศทองเสียด้วย สัญลักษณ์สีทองที่คนธรรมดาจะก้าวไปถึงได้อยู่ใต้ฝ่าเท้าของฟู่เทียนแล้ว เหลือเพียงก้าวขึ้นไปเท่านั้น
มันเป็นความฝันของผู้คนนับไม่ถ้วน
อย่างไรก็ตามภายใต้การแสดงออกของฟู่เทียนพวกเขาหยุดยิ่ง ทั้งสามต่างไม่กล่าวอะไรออกมา พวกเขาเคารพในการตัดสินใจอันน่าเหลือเชื่อของฟู่เทียนและรู้สึกสับสน ทั้งสามรู้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจฟู่เทียนได้ พวกเขาจึงไม่ขัดขวางอะไร
คริสมองไปยังฝูงชนที่อยู่ในความเงียบ ไม่มีใครตอบสนอง เธอขมวดคิ้วลงเล็กน้อย และในเวลานั้นเองมีเสียงดังขึ้น “ผม ผมครับ” เด็กผู้ชายตัวเตี้ยประสานมือของตัวเองเอาไว้ เขาดูมีความกังวลเล็กน้อยในการปรากฏตัวต่อหน้าฝูงชน
คริสโล่งใจและมองไปยังเด็กชายพร้อมยิ้มและกล่าว: “ยินดีด้วย เธอจะได้รับรางวัลและมันจะถูกบันทึกอยู่ในหน่วยของเธอ และในตอนนี้ให้พวกเราได้แสดงว่าอัศวินแห่งแสงจัดการกับพวกปิศาจอย่างไร”
เมื่อสิบสุดคำพูดของเธอ มีบุคคลก้าวออกมาจากด้านหลังรถม้าสีดำ ร่างของเขาถูกคลุมไปด้วยชุดเกราะสีขาวเงิน เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูหล่อเหลาและสูง คนส่วนใหญ่มักมองว่าเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์
ความตื่นเต้นถูกแสดงออกผ่านใบหน้าของเหล่าเด็กๆ เมื่อเทียบกับพวกขุนนางชั้นสูงแล้ว ชาวบ้านต่างให้ความเคารพต่ออัศวินแห่งแสงมากกว่า
ฟู่เทียนมองไปยังอัศวินแห่งแสงที่อยู่ในวัยหนุ่ม เขาจะทำอะไรต่อไป? เขากำลังมอบรางวัลให้กับเด็กที่แอบอ้างความสำเร็จของฟู่เทียนไหม? เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อยถ้าหากทุกๆอย่างผ่านไปได้อย่างราบลื่น เขาควรจะเป็นคนก้าวขึ้นไปรับราลวัลนั่นไหม ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่โทษตัวเองเท่านั้น
เขาแอบถอนหายใจที่รู้ว่าได้พลาดโอกาสไปเสียแล้ว และทำได้เพียงเก็บเรื่องนี้เอาไว้ส่วนลึกภายในใจเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าระมัดระวังไว้ก่อนได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงการรับรางวัลจากทหารเช่นกัน… เขาส่ายศีรษะ อัศวินแห่งแสงเดินผ่านโทบุและก้าวไปยังด้านหน้าของนักเล่นแร่แปรธาตุ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขาค่อยๆดึงดาบออกมา ดวงอาทิตย์สาดแสงส่องสะท้อนกับดาบเล่มนั้น
“ข้าเมิคล์ ในนามแห่งพระบิดา ขอตัดสินโชคชะตาของปิศาจตัวนี้ ”
“แสงสว่างจะขับไล่ความมืดให้หมดไป!”
เขาพูดเบาๆ ในขณะเดียวกันก็ผลักดาบเขาไปยังศีรษะของนักเล่นแร่แปรธาตุ
ศีรษะของนักเล่นแร่แปรธาตุถูกตัดในทันใด มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากลำคอพร้อมกับร่างกายที่หล่นลงไปบนพื้น ศีรษะกลิ้งอยู่สองสามรอบก่อนจะหยุดลงพร้อมกับเลือดที่ไหลไปบนผืนทราย
ต่อหน้าเหตุการณ์การนองเลือดในครั้งนี้ เหล่าเด็กๆต่างตกอยู่ในความกลัวและพากันก้าวถอนหลัง และในไม่ช้าก็แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น และพากันตะโกนคำพูดสุดท้ายของเมิคล์ “แสงสว่างจะขับไล่ความมืดให้หมดไป!”
จากหนึ่งเสียงเป็นหลายเสียง คำกล่าวถูกตะโกนก้องไปทั่วทะเลทราย
ฟู่เทียนไม่อยากตกเป็นที่สนใจ ดังนั้นจึงตะโกนตามคนอื่นๆเช่นกัน แต่ภายในใจของเขา “ไม่มีใครเห็นเลยหรอไงว่าเลือดที่ไหลบนทรายนั้นมีสีแดง ก็เหมือนกับเลือดพวกเราทั้งหมดนั่นแหละ”
ในโลกใบนี้ มีเรื่องที่ผิดปกติบางอย่างอยู่ ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างต้องการเป็นผู้ชมในการตัดสินโทษของเหล่านักโทษที่มีความผิดร้ายแรง บางทีโลกอันน่าเบื่อใบนี้อาจเต็มไปด้วยความบันเทิงก็เป็นได้
ในไม่นานชายหนุ่มนามเมิคล์ทำความสะอาดดาบของเขาพร้อมหันหลังกลับ
คริสและโทบุให้การคุ้มกันฟู่เทียนและเด็กทุกๆคนในการใช้รถม้าสีดำเพื่อเดินทางกลับไปยังที่ฝึกของเหล่าหน่วยค้นหา
หลังจากที่ได้กลับมายังห้องนอน ทุกๆคนต่างรู้สึกได้ว่าห้องนอนอันเก่าโทรมนี้มีคุณค่าและความหมายแค่ไหน
…
…
“ฉันได้ยินมาว่ามีนักเล่นแร่แปรธาตุถูกจับตัวไปกว่าแปดคน” ดาชานั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่ม เธอยิ้มและพูดต่อ “ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ นายทำได้ดีมาก ฉันมั่นใจว่าหลังจากการฝึกในครั้งนี้สิ้นสุดลง นายจะได้เลื่อนขั้นไปที่โรงเรียนนักล่าได้แน่นอน ได้เวลาในการฝึกกับพวก ‘สัตว์ประหลาด’ พวกเขาอาจมีความรุนแรงกว่ากลุ่มในตอนนี้ ”
โทบุพูดออกมาเบาๆ “นี่ไม่ใช่ฝีมือของฉัน แต่เป็นของอัจฉริยะหนุ่มจากตระกูลเมลที่ได้สังหารนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสองดาวลง!”
“ดูเหมือนตระกูลเมลจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง....” ปากของดาชาเผยให้เห็นรอยยิ้มและกล่าวต่อ “ฉันได้ยินมาว่ามีเด็กอีกคนหนึ่งที่หนีออกมาจากนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสามดาวได้ และนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นก็ตายซะด้วย”
โทบุกล่าวตอบ “ตามความเห็นของอัศวินแห่งแสง อาจเป็นพวกนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสี่ดาวที่ลงมือสังหารเขา เพราะร่องรอยเกิดจากอำนาจการทำลายล้างสูงมาก”
ดวงตาของดาชาหรี่ลงเล็กน้อยและกล่าวว่า “เป็นเวลานานมาแล้วที่พวกเราได้ยินเรื่องการเคลื่อนไหวของนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสี่ดาว และหากมีซักหนึ่งคนอยู่ในทะเลทราย ฉันเดาได้เลยว่าคงไม่มีอัศวินแห่งแสงสว่างคนไหนรวมถึงนายจะได้กลับมาอย่างมีชีวิต ”
โทบุถอนหายใจออกมาเบาๆ “ในครั้งต่อไปถ้ามีเรื่องทำนองนี้อีก ฉันอยากให้เธอเตือนล่วงหน้าซักหน่อย ฉันไม่อยากเก็บตัวอยู่ในเบื้องหลัง”
“ฉันเหนื่อยน่ะ” ดาชากล่าว
โทบุยิ้มออกเล็กน้อย เขาขอตัวออกมาอย่างสุภาพ
…
…
“ยุคแห่งกำแพง ปีที่291 ฤดูฝน”
“การทดสอบพร้อมแล้ว ฉันเขาใจในโครงสร้างของมนุษย์อย่างละเอียด ในวันนี้จะเริ่มการทดสอบจากร่างกายตนเอง ในไม่ช้าชื่อรอสยาร์ดจะถูกบันทึกไว้ในทำเนียบของนักเล่นแร่แปรธาตุว่าเป็นอมตะ ฉันจะกลายมาเป็นผู้สร้างคนใหม่...”
ฟู่เทียนแอบอ่านบันทึกของนักเล่นแร่แปรธาตุเมื่อไม่มีใครอยู่ใกล้ นักเล่นแร่แปรธาตุคนนี้ได้ทดลองกับร่างกายตนเองและบันทึกทุกอย่างเอาไว้ด้วยขนห่าน ฟู่เทียนได้พบกับเรื่องน่าประหลาดใจและเข้าใจถึงความรู้สึกตื่นเต้นของนักเล่นแร่แปรธาตุ