The Dark King – Chapter 31 อย่างแรก
“เป็นลอเรี่ยน” เมสันกล่าว “เขากำลังทำอะไร?”
ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและเส้นเลือดก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขามากมาย ลอเรี่ยนร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด ในตอนนี้ผิวสีน้ำเงินเข้มของเขาก็หายไป ราวกับว่าด้วยเสียงตะโกนนี้ทำให้ความเจ็บปวดของลอเรี่ยนนัน้หายไป กล้ามเนื้อของเขาคลายตัวลง เส้นเลือดที่ปรากฏขึ้นก็หายไป เขาหายใจเข้าลึกๆและก้มลงไปมองฝ่ามือของตัวเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็ย่อตัวลงและกระโดดขึ้นไปบนฟ้า
“ว๊าว!” ทุกๆคนร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
ลอเรี่ยนกระโดดขึ้นไปได้สูงกว่า 2 เมตร!
ไม่ใช่หัวแต่เป็นเท้าของเขาที่อยู่สูงจากพื้น 2 เมตร!
ตอนนี้ฝูงชนได้ตกอยุ่ในความเงียบ
ทุกๆคนต่างมองไปยังลอเรี่ยนด้วยความตื่นตระหนก พวกเขาทุกๆคนต่างได้รับการฝึกนรกนี้มาตลอด 3 ปี แม้ว่าสภาพร่างกายของพวกเขาจะดีขึ้นกว่าหน้านี้นับ 10 เท่าแต่มันก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ การกระโดดขึ้นไปสูง 2 เมตรนี้ไม่ใช่สิ่งที่พะวกเขาสามารถทำได้เลย
แต่ลอเรี่ยนทำได้! เขาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางด้านร่างกายของตัวเองไปแล้ว
ฟู่เทียนรู้ดีว่าศักยภาพของลอเรี่ยนในตลอดการฝึกฝน 3 ปีที่ผ่านมานั้นบอดเบี่ยมอบ่างยิ่งแต่มันก็ยังห่างไกลสภาพร่างกายที่ทรงพลังแบบนี้
“นี่คือพรแห่งพระเจ้า?” ฟู่เทียนพึมพัม
แชมได้ยินคำพูดของเขาและตกตะลึงทันที “เอ๋?”
ในตอนนี้หญิงสาวที่สง่างามผู้นี้มองไปที่ใบหน้าของลอเรี่ยนด้วยความตกตะลึง เธอยิ้มและกล่าวว่า “นี่คือพรแห่งพระเจ้า จากตอนนนี้เธอจะได้รับพรนี้ทุกๆเดือน ฉันหวังว่าเธอจะมันในการทำใช้ประโยชน์ต่อส่วนรวมให้ดีที่สุด!”
ลอเรี่ยนลังเลเล็กน้อย จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคารพว่า “ชีวิตนี้ ข้า ลอเรี่ยนจะศรัทธาในพระเจ้าเสมอ!”
หญิงสาวยิ้มขึ้นและมองไปยังคนอื่นๆ “ทุกๆคนก็จะได้รับการอวยพรจากพระเจ้าหลังจากที่เข้าร่วมสมาคมสเตอร์ลิง”
ขณะที่เธอพูดนั้นเด็กคนอื่นๆนั้นก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่าความสามารถของลอเรี่ยนนั้นเป็นผลมาจากพรแห่งพระเจ้า ในตอนนี้เด็กทุกๆคนรู้สึกตื่นตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
“โนนิ เธอจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ?” ชายร่างผอมอีกคนกล่าว “พวกเราจะมอบพรแห่งพระเจ้าให้กับทุกๆคน!”
หญิงสาวผู้งดงามยิ้ม “กฏไม่ได้บอกว่าข้าจะต้องบอกพวกเขาโดยตรงหนิ?”
ชายอีกคนหยุดหายใจไปครู่หนึ่งแต่ยังคงพูดออกมาดัง ๆ “ทุกๆคนที่เข้าร่วมกับสมาคมกรีนของเราจะได้รับพรแห่งพระเจ้าทันทีที่ลงนามในสัญญา ทุกๆคนจะได้รับส่วนแบ่งของตัวเองเมื่อเรากลับไปที่ยังสมาคมค้าดังนั้นอย่ากังวลเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เด็กทุกๆคนต่างรู้สึกไม่เชื่อ อย่างไรก็ตามหนึ่งในพวกเขารู้สึกลังเลและเดินไปหาโนนิเพื่อเข้าร่วมกับสมาคมสเตอร์ลิง
ในตอนนี้เสียงร้องดังออกมาอีกครั้ง
ฟู่เทียนเห็นเด็กชายร่างเตี้ยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าโนนิ เหตุการณ์เกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับที่เกิดต่อลอเรี่ยน เขาสามารถสามารถกระโดดขึ้นไปได้สูงกว่า 2 เมตร
เด็กๆต่างตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าตนเองมีโอกาสที่จะสามารถได้รับพลังเช่นนี้
หัวใจของฟู่เทียนรู้สึกตกตะลึง ในตอนนี้เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวที่มีนามว่าโนนิได้ฉีดยาที่อยู่ในเข็มฉีดยาสมัยก่อนเข้าไป มีของเหลวสีชมพูอยู่ในเข็มฉีดยานี้ เธอฉีดมันเข้าไปในแขนของเด็กผู้ชายคนนั้นและหลังจากนั้นพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที!
พรแห่งพระเจ้า อ้า! เห็นได้ชัดว่ามันเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมภายในร่างกาย!
ฟู่เทียนไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะเรียกมันว่า “พรแห่งพระเจ้า” แต่ด้วยเทคโนโลยีที่อยู่ในยุคนี้พวกเขาสามารถสร้างยาที่มีผลเช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน? การสกัดยีนเป็นเทคโนโลยีระดับนาโน พวกเขาไม่ได้มีกล้องจุลทรรศน์ ไฟฟ้า หรือเครื่องมือวัดที่แม่นยำ พวกเขาสร้างมันขึ้นมาได้ยังไง?
“มันเรียกว่าพรแห่งพระเจ้า ดังนั้นมันน่าจะถูกสร้างขึ้นโดยโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์!” ฟู่เทียนเริ่มคิดหนัก เขามักจะรู้สึกว่าโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นกุมความลับที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ บางทีเทคโนโลยีทางด้านพันธุกรรมนี้อาจจะเป็นหนึ่งในความลับของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์?
“มันมหัศจรรย์จัง!”
“นี่คือพรแห่งพระเจ้า!”
“นายรู้ไหมว่ามันกินเวลานานแค่ไหน?”
เมสัน แซค และแชมต่างรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคิดว่าจะได้มีอำนาจเหนือขีดความสามารถของคนธรรมดาทำให้พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ลึกๆในใจของฟู่เทียน เขากำลังกังวลเพราะไม่รู้ว่าผลข้างเคียงของยานี้นั้นเป็นแบบไหน เขาได้แต่หวังว่าผลข้างเคียงของมันนั้นจะมีไม่มากนัก
นักเล่นแร่แปรธาตุอย่างรอสยาร์ดอุทิศทั้งชีวิตของเขาเพื่อการทดลองและศึกษาผลของมัน เมื่อเทคโนโลยีด้านพันธุกรรมเช่นนี้ตกอยู่ในมือของนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีฝีมือดุจปีศาจ มันย่อมเหมือนกันกับที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นสร้างขึ้นต่างกันแค่เพียงเรื่องกฏหมายเท่านั้น!
“ดูสิ นั่นมันเป่ยเว่ย!”
“เธอเลือกสมาคมเมลลอน!”
ในตอนนี้แซคและแชมรีบตะโกนออกมาทันทีเมื่อมองไปยังเด็กสาวคนนี้ เธอมีอายุเท่ากับพวกเขา เธอมีร่างสูงและผิวขาว หน้าอกของเธอนั้นไม่ได้เติบโตเต็มที่ เธอเป็นที่หมายตาของเด็กชายหลายคน สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดของเธอนั้นคือแก้มกลมของเธอ
เมสันรู้สึกเขินและกล่าวว่า “นายหมายความว่าอะไร?”
แซคหัวเราะและตอบกลับมาว่า “มาเถอะ นายจะอายอยู่ทำไม? นายไม่ชอบเธอหรอ?”
เมสันมองไปที่เขาและกล่าวว่า “นายอยากจะโดนรัดคอตายหรอ?”
“บอกเลยว่ายาก! ” แซคมองไปที่เขาและกล่าวเยาะเย้ย
ฟู่เทียนยิ้ม เขารู้ว่าเป่ยเว่ยเป็นหนึ่งในเด็กสาวที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในค่ายฝึกฝน เธอคือคนในฝันของเมสัน ฟู่เทียนไม่คิดว่าเธอจะเลือกสมาคมเมลลอน เขาคิดถึงคำแนะนำของโทบุและกล่าวออกมาว่า “อย่างนี้พวกเราควรเลือกสมาคมเมลลอน”
แชมรู้สึกตกตะลึง “จริงหรอ?
“ดีน นายชอบคิดถึงคนอื่นๆอยู่เสมอ” แซคส่ายศีรษะของเขา
เมสันหน้าแดงและมองตรงไปที่ฟู่เทียนด้วยความขอบคุณ
ฟู่เทียนยิ้มและจากนั้นก็ไปต่อแถวเพื่อลงทะเบียน
ไม่นานนักก็ถึงคิวของพวกเขา
“เธอคือฟู่เทียนหรอ?” ชายที่สง่างามดูเหมือนจะจำฟู่เทียนได้ รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้นใบหน้า “ฉันได้อ่านข้อมูลของเธอแล้ว ผลลัพธ์นั้นยอดเยี่ยมมาก เธอเป็นคนแรกที่มีความอดทนและมีความรู้มากมาย เธอยังมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินเรื่องการหาวัสดุของเธอในปีที่แล้ว เธอเป็นคนที่ 2 ที่สามารถค้นหาวัสดุที่จำเป็นทั้ง 4 อย่างได้ ”
ฟู่เทียนยิ้มและกล่าวว่า “มีอะไรพิเศษสำหรับผมหรอครับ?”
“ฉันไม่คาดคิดว่าเธอจะเข้าร่วมสมาคมของเรา” ชายที่สง่างามยิ้มและกล่าว “เมื่อมาร่วมกับเราเธอจะได้รับการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยม ฉันเชื่อว่าถ้าเธอร่วมกับสมาคมอื่นก็จะได้ข้อเสนอแบบเดียวกัน นี่คือสัญญาของเธอ” จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือสัญญาออกมาจากกระเป๋าของเขา
เมสัน แชมและแซคเต็มไปด้วยความอยากรู้ พวกเขายื่นคอออกไปดู
ฟู่เทียนมองเนื้อหาของสัญญานี้ที่เหมือนกับสัญญาทั่วๆไป แต่ประโยชน์ที่ระบุภายในนั้นมากกว่าสัญญาทั่วๆไป อย่างแรกภายใน 1 เดือนเขาจะได้รับพรแห่งพระเจ้าก่อนที่จะเริ่มภารกิจของตนเอง นอกเหนือจากจำนวนครั้งที่จำกัดของงานและภารกิจรายเดือนแล้ว เขาจะได้รับรางวัลเพิ่มขึ้นอีก 30% ของวัสดุที่เขาสามารถค้นหาได้
สิ่งที่สะดุดตาของเขามากที่สุดคือการที่เขาสามารถเข้าอยู่อาศัยในย่านการค้าได้ชั่วคราวอีกด้วย!