The Dark King – Chapter 34 คำเชิญจากชนชั้นสูง
ความโกรธของเขากำลังเพิ่มขึ้นมา เขากำลังบอกว่าฉันไม่ควรจะอยู่ที่นี่งั้นหรือ? ฟู่เทียนอยากจะตอบโต้กับไปแต่เมื่อเขาคิดถึงคำพูดของปีเตอร์จึงพยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ “ครับ คุณปีเตอร์พาผมมาที่นี่”
“ปีเตอร์ ใครกัน?” ชนชั้นสูงวัยกลางคนขมวดคิ้ว “แม้แต่คนเก็บขยะก็มาที่นี่ได้ มันไม่มีกฎระเบียบเลยรึไง?”
“คุณเมส?” ในตอนนี้ก็มีเสียงดังขึ้น ฟู่เทียนและชนชั้นสูงวัยกลางคนมองไปที่เจ้าของเสียงนั้นพร้อมๆกัน เป็นชายชราร่างกำยำที่ฟู่เทียนได้พบในออฟฟิศ เขาสวมชุดสูทสีดำ ด้านข้างของเขานั้นเป็นหญิงวัยกลางคนที่กำลังควงแขนกับเขาอยู่ เมื่อดูจากสิ่งที่เห็นแล้วพวกเขาน่าจะเป็นสามีภรรยากัน
ในตอนนี้ชายชราก็มองมายังฟู่เทียน “เด็กน้อย ทำไมเธอยังอยู่ที่ประตู? ปีเตอร์ไม่ได้มากับเธอหรอ? ”
“คุณปีเตอร์เพิ่งจะเข้าไปครับ” ฟู่เทียนบอกไปตรงๆ
ในตอนนี้ชนชั้นสูงวัยกลางคนที่มีชื่อว่าเมสเริ่มขมวดคิ้ว “ลุงหลู่ คุณรู้จักเขาหรอ?”
ชายชราหัวเราะ “ใช่สิ ฉันเพิ่งจะพบกับเขาวันนี้ เด็กคนนี้เป็นดาวรุ่งในหมู่คนเก็บขยะ เขาจะต้องพึ่งพาการดูแลของคุณเมสในอนาคต”
“แบบนี้นี่เอง” เมสดูเหมือนจะเข้าใจแล้วจากนั้นก็บอกว่ายังฟู่เทียน “เด็กน้อย เธอมีวิสัยทัศน์ๆที่ดีจริงๆที่เลือกสมาคมเมลลอนของเรา”
ฟู่เทียนเผยสีหน้าที่น่าเกียจออกมา หมัดของเขากำเอาไว้แน่นภายใต้แขนเสื้อ
ชายชรารีบกล่าวขึ้นทันที “เด็กน้อย รีบขอโทษคุณเมสสิ เพราะเธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูขวางทางเอาไว้ รีบเข้าไปในงานซะจะได้ไม่ถูกทิ้งเอาไว้อีก” จากนั้นเขาก็ขยิบตาให้กับฟู่เทียนพร้อมกับบอกให้เขาเดินเข้าไปในงานเลี้ยง
ฟู่เทียนมองไปยังใบหน้าของลุงหลู่ในตอนนี้ เขารู้ว่าลุงหลู่นั้นกำลังช่วยเหลือเขา แต่เขาก็ยังรู้ว่าตราบใดที่เขาไม่ขอโทษเขาก็จะไม่สามารถผ่านเมสไปได้ ในตอนนี้เขารู้ดีว่ามันไม่เกี่ยวว่าจะถูกหรือผิด ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับสถานะของแต่ละคน ในโลกใบนี้หากผู้ที่มีอำนาจชี้สีขาวแล้วบอกว่าสีดำ ผู้ที่อ่อนแอกว่าก็ต้องยอมรับแบบนั้น
ความแตกต่างของทั้งสองฝ่ายนั้นขึ้นอยู่กับพลังอำนาจในมือของแต่ละฝ่าย!
เขาเข้าใจความจริงขึ้นมาทันที เมื่อไม่มีพลังอำนาจเขาก็กลายเป็นเพียงคนไร้ค่า!
“ผมขอโทษครับ … …” เขาก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษ เบื้องหลังแสงไฟที่งดงามและดนตรีที่ไพเราะ ใบหน้าของเขาที่หลบอยู่ในเงามืด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่รองเท้าของชนชั้นสูงที่อยู่ตรงหน้า
จากนั้นเขาก็เห็นรองเท้านี้หันหลังกลับและเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง
ชายชรามองตรงมาที่เขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พร้อมกับเดินตามหลังมา
“คนพวกนี้… ไม่ว่าจะสอนดีแค่ไหนพวกแกก็ไม่เคยเรียนรู้กฎระเบียบอะไรเลย…” เสียงของเมสดังก้องเข้ามาในหูของฟู่เทียนจากนั้นก็ตามด้วยเสียงหัวเราะของชายชรา ฟู่เทียนยังคงก้มหัวลงและกำหมัดของเขาเอาไว้แน่น หลังจากเวลาผ่านไปนานเขาก็เริ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ เมื่อมองไปที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่นี้เขาก็รู้สึกเป็นอิสระมากกว่าภายใต้ความมืดมิดที่อยู่ตรงหน้า
ในตอนนี้รถม้าก็เริ่มมาที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ
ฟู่เทียนปิดตาของเขาลงไม่หันไปมองที่ประตูอีกต่อไปและจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปภายในคฤหาสน์
ห้องโถงขนาดใหญ่นี้ได้รับแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันจนสว่างไสวราวกับแสงอาทิตย์ในยามกลางวัน คนรับใช้จำนวนมากนำไวน์และผลไม้เข้ามาภายในห้องนี้ เปียโนหลังใหญ่กำลังบรรเลงเพลงที่ไพเราะด้านหน้าห้องโถงแห่งนี้ เหล่าชนชั้นสูงต่างยืนเป็นกลุ่มเล็กๆเพื่อพูดคุยกัน
หลังจากที่ได้เจอสถานการณ์ก่อนหน้านี้ฟู่เทียนก็ไม่มีอารมณ์ที่จะร่วมสนุกกับงานเลี้ยงหรูหราที่หาได้ยากอีกต่อไป เขาเดินออกไปเปิดหน้าต่างและพิงมันเอาไว้ เขามองไปที่ห้องโถงที่มีผู้คนกำลังเดินไปมา มันเหมือนกับภาพวาดที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าเขา เขารู้สึกเบื่อหน่ายจนกระทั่งชาย 2 คนที่สวมเครื่องแบบสีดำปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเขา พวกเขากำลังขัดจังหวะความเพลิดเพลินของเขา
“นักล่า?” ฟู่เทียนตระหนักได้ทันทีเมื่อเห็นเหรียญตราที่อยู่บนบ่าของชายทั้งสองคน มันมีรูปเหยี่ยวสีดำที่สลักเอาไว้อยู่บนเหรียญตราซึ่งเป็นการระบุว่าพวกเขาเป็นนักล่า
พวกเขายังดูเด็กนักน่าจะอายุไม่เกิน 17 ปี ในตอนที่พวกเขาเดินเข้ามาเหล่าชนชั้นสูงก็เดินออกมาทักทายพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับความสนใจอย่างยิ่ง
ทันทีที่นักล่าทั้งสองคนเดินเข้ามากลางงานเลี้ยงนี้ก็มีชนชั้นสูงวัยกลางคนหลายคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น คนที่ฟู่เทียนต้องขอโทษก่อนหน้านี้ก็ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีสุภาพสตรีร่างอ้วนและชายวัยกลางคนร่างผอมด้วยเช่นกัน
ฟู่เทียนไม่รู้ว่าเหล่าชนชั้นสูงกับนักล่านั้นกำลังพูดเรื่องอะไรกันขณะที่พวกเขากำลังเดินไปด้วยกัน เมื่อดูจากกิริยาท่าทางของพวกเขาแล้วนั้นทำให้พวกเขาและดูสูงส่งอย่างยิ่ง
“นักล่า … …” ดวงตาของฟู่เทียนเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็นึกถึงบันทึกการเล่นแร่แปรธาตุของรอสยาร์ด มีบันทึกที่ประทับใจเขา มันเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ของพวกนักล่า
หลังจากที่รอสยาร์ดได้ก่อเหตุการณ์นั้นขึ้น นักล่าก็ถูกมอบหมายให้ค้นหาและฆ่าเขา รอสยาร์ดได้เตรียมยาที่สามารถควบคุมระบบประสาทส่วนหน้าและได้จับตัวนักล่าเอาไว้ เขาใช้มีดเชือดเฉือนนักล่าออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโดยที่ไม่ได้ใช้ยาชาแม้แต่น้อย
รอสยาร์ดนั้นได้ค้นพบว่าอวัยวะภายในและเลือดภายในร่างกายของนักล่านั้นแตกต่างจากของมนุษย์ธรรมดา เขาได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบของเขา นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาได้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับ 3 ดาว
“สวัสดีคนเก็บขยะ” ทันใดนั้นก็มีเงาปรากฏขึ้นที่ด้านซ้ายของฟู่เทียน
เป็นชายชราผมขาวที่มีใบหน้าที่ดูใจดี เขาต้องใช้ไม้เท้าในการเดิน แหวนหยกวงใหญ่สวมอยู่บนนิ้วโป้งของเขา อย่างไรก็ตามการแต่งตัวของเขานั้นดูธรรมดามากกว่าเมื่อเทียบกับผู้คนที่อยู่ภายในงานเลี้ยงนี้
“ฉันเดาว่าเธอคงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดที่จบการศึกษาภายในปีนี้ใช่ไหม ดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ได้ ฉันพูดถูกหรือเปล่า?” ชายชราผมขาวยิ้ม
ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆและกล่าวว่า “คุณเป็นใคร?”
ชายชราผมขาวยิ้มและกล่าวว่า “ฉันคือฟูริน ไรอัน ยินดีที่ได้พบ”
“ไรอัน?” ดวงตาของฟู่เทียนเริ่มเคลื่อนไหว 3 ปีที่ผ่านมาทะเลทรายที่พวกเขาได้ทดสอบนั้นดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ของตระกูลไรอัน
ใบหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ชายชราผมขาวยิ้มขึ้น “ฉันเดาว่าเธอคงจะเคยได้ยินเรื่องของตระกูลไรอันของพวกเรามาบ้าง แต่เรื่องพวกนั้นถือว่าเก่าไปแล้ว เธอสนใจที่จะมาเป็นอัศวินประจำตระกูลไรอันหรือเปล่า? ”
“อัศวิน?” ฟู่เทียนประหลาดใจ ขอปรึกษาเรื่องราวต่างๆภายในห้องสมุดตลอด 3 ปีเพื่อทำความเข้าใจโลกใบนี้ เขาได้ขจัดข้อสงสัยต่างๆที่เขาเคยสงสัยในตอนแรกออกไปได้ สิ่งที่เรียกว่าอัศวินนั้นย่อมไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดาอย่างแน่นอน สำหรับคนธรรมดาที่ได้รับตำแหน่งนี้ พวกเขาจะต้องฝึกฝนอย่างเข้มงวดและผ่านการทดสอบ
“ฉันคงอธิบายไม่หมดสินะ” ชายชราผมขาวพูดต่อ “ชื่อของเธอนั้นเชื่อมโยงกับครอบครัวของเรา พวกเราจะให้เงินเดือนอัศวินแก่เธออย่างเป็นทางกาและเธอจะต้องช่วยเหลือตระกูลไรอันของเราในการสำรวจถิ่นทุรกันดารปีละครั้ง”
ฟู่เทียนเข้าใจเรื่องนี้ทันที “ผมสามารถออกสำรวจไปพร้อมกับครอบครัวของคุณด้วยตำแหน่งของคนเก็บขยะโดยไม่มีสัญญาผูกมัดใดๆ ใช่ไหมครับ?”
“แน่นอนว่าเธอทำแบบนั้นได้” ชายชราผมขาวหัวเราะ “นี่คือธุรกิจลับๆระหว่างเรา ยิ่งไปกว่านั้นเธอจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปและกลับภายนอกกำแพงยักษ์ ความจริงแล้วครอบครัวชนชั้นสูงส่วนใหญ่ก็แอบฝึกฝนคนเก็บขยะเป็นการส่วนตัวลับๆ แม้ว่าคนพวกนั้นจะไม่อาจเทียบกับเธอได้เลยในด้านประสบการณ์”