px

เรื่อง : The Dark King
The Dark King -Chapter 35 เจนนี่ [อ่านฟรี]


The Dark King -Chapter 35 เจนนี่

เงินเดือนของอัศวินนั้นไม่ได้ถือว่าต่ำเลย จากการประมาณค่าของฟู่เทียนนั้นเงินเดือนของอัศวินนั้นมากกว่าเงินเดือนของจูร่าและเกรย์รวมกันเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นการได้คบค้าสมาคมกับไรอันนั้นจะทำให้เขาได้รับสถานะที่ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้

แต่เขาไม่ได้ตอบตกลงไปทันที เขาเข้าใจได้ว่าที่ข้าตอบแทนมันสูงเพราะอันตรายของงานนี้ยากกว่าการเก็บขยะนอกกำแพง แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินมาว่าคนเก็บขยะนั้นทำงานเฉพาะในพื้นที่ที่ปลอดภัยแต่มันก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าเขาจะปลอดภัย มิฉะนั้นทำไมพวกเขสถึงยอมจ่ายค่าตอบแทนสูงแบบนี้?

“ผมขอคิดเรื่องนี้ก่อน” ฟู่เทียนกล่าว

ฟูริน ไรอันยิ้มและกล่าว “ถ้าเธอตัดสินใจตัดสินได้แล้วครอบครัวของเขาเราก็ยินดีที่เธอจะเข้าร่วมกับเราด้วย นอกจากนี้ถ้าหากว่าเธอยังไม่มีที่อยู่บอกพวกเรามาได้เลย ในตระกูลไรอันของเรายังมีบ้านพักอีกมากที่จะมอบให้เธอได้ฟรีๆเลย”

ฟู่เทียนปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับความปรถนาดีครับ ผมจะอยู่ที่นี่ประมาณ 7 วันแต่ต่อไปผมต้องกลับไปอยู่กับพ่อและแม่ของผม ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดที่จะย้ายไปอาศัยที่ย่านการค้าเลย”


“โอเค ถ้าเธอต้องการอะไรก็บอกพวกเรามาได้เสมอ”

“ครับ”

กลังจากที่ได้สนทนากันฟูริน ไรอันก็จากเขาไปเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้เพื่อพูดคุยกับคนอื่นๆต่อ

เมื่อฟูริน ไรอันจากไปชนชั้นสูงหลายคนก็เข้ามาหาฟู่เทียนเพื่อพูดคุยกับเขา ข้อเสนอที่พวกเขาเสนอมาให้นั้นไม่แตกต่างจากของฟูริน ไรอันเลยและพวกเขาต่างถูกฟู่เทียนปฏิเสธไปทีละคน

ทันใดนั้นเพลงที่ไพเราะก็หยุดบรรเลงไป เสียงตบมือดังขึ้นและผู้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงก็หยุดพูดคุยกัน กินอาหาร หรือทำอะไรที่ก่อให้เกิดเสียงรบกวน

ผู้ที่ตบมือเป็นชนชั้นสูงวัยกลางคนที่มีอายุประมาณ 40 ปี เขามองไปที่ฝูงชนพร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานเลี้ยงครั้งที่ 8 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมเมลลอน ผมหวังว่าทุกๆคนจะมีความสุขไม่ได้อยู่ที่นี่ เพียงแต่วันนี้เป็นวันสำคัญของลูกสาวของผม วันเกิดของซาร่าห์ เมล ผมหวังว่าทุกๆคนที่อยู่ที่นี่จะร่วมอวยพรให้กับลูกสาวของผม ขอบคุณครับ!”

เมื่อเขาพูดจบเด็กสาวที่สวยกระโปรงสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ชั้น 2  เธอมีอายุประมาณ 13 ปี เธอลุกขึ้นยืนอย่างสง่างามและโค้งคำนับผู้คนเล็กน้อย

ชนชั้นสูงที่มาร่วมงานตบมือให้พร้อมกันด้วยความอบอุ่น

ฟู่เทียนรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้เขามีโอกาสได้สอบถามเรื่องของสมาคมเมลลอน มีครอบครัวชนชั้นสูงมากกว่า 10 ครอบครัวที่มีส่วนร่วมกับสมาคมนี้ แต่ตระกูลเมลและตระกูลปู้หรงนั้นเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและคนที่มีอิทธิพลมากที่สุด หญิงสาวผู้นี้เป็นคนของตระกูลเมลที่เขาเคยได้ยินก่อนหน้านี้เมื่อเขาอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าเหมยซาน

ยิ่งไปกว่านั้นอัศวินแห่งแสงเมิคล์ผู้ที่ตัดหัวนักเล่นแร่แปรธาตุเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็เป็นคนขอตระกูลเมล

บี้แสดงให้เห็นว่าตระกูลเมลนั้นหยั่งรากลึกภายในเมืองนี้มากเพียงใด

“ตระกูลพรีนของเราได้เตรียมของขวัญที่ดีที่สุดเอาไว้ให้คุณซาร่าห์แล้ว… ” ในตอนนี้มีชายหนุ่มที่ถือกล่องของขวัญสีแดงดูงดงามเดินขึ้นมามอบให้ซาร่าห์ เมล เขาเปิดกล่องออกช้าๆและภายในนั้นเป็นถุงมือสีขาว

ซาร่าห์ก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวว่า “นี่คงเป็นผลงานการสรรค์สร้างของอาจารย์ซิดนี ฉันชอบมันมาก ขอบคุณค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มและหลังจากนั้นก็มีอีกหลายคนที่ขึ้นมามอบของขวัญให้กับเธอ

ในตอนนี้ชนชั้นสูงหลายคนขึ้นไปมอบของขวัญและกล่าวคำอวยพรมากมาย

ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทหัวเราะและกล่าวมาว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณชอบบทกวี ดังนั้นผมจึงไปร้องขออาจารย์ทีซ่าเพื่อให้ท่านเขียนบทกวีนี้ขึ้นมา หวังว่าคุณจะชอบมัน”

“บทกวี?” ดวงตาของซาร่าห์เปร่งประกายขึ้นด้วยความยินดี

ชายหนุ่มยิ้มและกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “หยาดน้ำตาหยดลงบนก้อนหิน ในดวงตาล้วนเต็มไปด้วยความลังเล ใครกันที่ทำให้เธอต้องโศกเศร้า … …”

หลังจากนั้นครู่หนึ่งเมื่อบทกวีนี้จบลงเขาก็กล่าวว่า “นี่คือบทกวีที่มีชื่อว่า “ความเศร้าโศกของเด็กสาว” แต่งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อคุณซาร่าห์”

ผู้ชมก็ปรบมือให้อย่างพร้อมเพียงกัน

ซาร่าห์มีรอยยิ้มที่ยินดีบนใบหน้าของเธอ “นี่ต้องเป็นบทกวีของอาจารย์ทีซ่าแน่นอน มันลึกซึ้งไม่กินใจมาก ฉันชอบมันนะคะ ขอบคุณ!”





ฟู่เทียนกำลังฟังเสียงคําอวยพรเหล่านั้นขณะที่พิงขอบหน้าต่าง หัวใจของเขากำลังรู้สึกเสียใจเพราะเขาไม่ได้นำอะไรติดตัวมาด้วยเลย เขาหวังว่าคนพวกนี้คงไม่หันมาสนใจเขาและดังนั้นเขาจึงพยายามไม่ก่อปัญหาใดๆ


ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนๆหนึ่งวิ่งมาอยู่ใต้หน้าต่างนี้ ฟู่เทียนด่าตัวเองว่าทำไมโง่นัก ถ้าหากว่าเขาไม่มีอะไรติดตัวมาเป็นของขวัญเลยทำไมจึงไม่แอบหนีไปแบบคนอื่นๆล่ะ?

เขามองไปยังชนชั้นสูงพี่กำลังให้ความสนใจซาร่าห์ เขาใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์จึงปีนออกไปทางหน้าต่างที่มีความสูงประมาณ 2 เมตร เขาปีนหน้าต่างออกไปอย่างไม่ลังเลแล้วกระโดดลงไปบนพื้นเบื้องล่างราวกับแมวตัวหนึ่ง

เขาเดินออกไปตามทางเดินอย่างรวดเร็ว

เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะต้องพบปะคนอื่นๆฟู่เทียนจึงใช้วิธีเดินอ้อมทางเดินนี้ ที่ตรงนี้ไม่มีแสงไฟใดๆ มีเพียงแสงจันทร์และแสงจากดวงดาวเท่านั้น เขาเดินไปตามเส้นทางที่ปูด้วยหินและสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ตัดแต่งมาอย่างประณีต ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็มาถึงศาลาหลังเล็กๆ เขานั่งอยู่ที่นี่รอคอยจนกว่างานเลี้ยงจะจบลงจึงค่อยกลับไป เขาไม่ใช่คนสำคัญแต่อย่างใดดังนั้นการที่เขาหายตัวไปก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ฟุบ ~!

ทันใดนั้นก็มีเสียงของใบไม้ที่เคลื่อนไหว

ใบหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยและเขาตะโกนออกไปด้วยเสียงต่ำ “ใครอยู่ตรงนั้น!”

ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวอีกต่อไปแต่ฟู่เทียนรับรู้ได้จากเสียงของลมว่าต้องมีคนอยู่ตรงนั้น เพราะ 3 ปีที่เขาฝึกฝนอย่างยากลำบากเพื่อที่จะเป็นคนเก็บขยะนั้นเขาได้รับประสบการณ์มากมายและสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งต่างๆรอบกายจากเสียงของ

“ออกมา ผมรู้ว่าคุณอยู่ตรงนั้น!” ฟู่เทียนกล่าว

ไม่นานหลังจากนั้นร่างที่ผอมเพรียวก็เดินออกมาจากต้นไม้ที่ตัดแต่งแล้วต้นหนึ่ง ภายใต้แสงจันทร์นี้ฟู่เทียนสามารถมองเห็นได้ว่าเด็กสาวคนนี้สูงพอๆกับเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเคยเจอเธอมาก่อนแต่เขาก็นึกไม่ออก

ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจและกล่าวว่า “ออกมาเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ผมมาที่นี่เพื่อหลบงานเลี้ยงเท่านั้น ผมจะไม่พูดเรื่องของคุณและคุณก็ห้ามพูดเรื่องของผมด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นพวกเราจะแย่ทั้งคู่”

เด็กสาวผู้นี้รู้สึกกังวลในตอนแรกแต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของฟู่เทียนเธอก็รู้สึกประหลาดใจ “นายไม่ใช่คนของพ่อฉันที่จะมาพาฉันกลับไปหรอ?”

ฟู่เทียนรู้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิดเขาจึงอธิบายว่า “ไม่ใช่แน่นอน ผมไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ”

เด็กสาวมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่โล่งใจ “นายทำให้ฉันกลัว นายบอกว่านายหลบอยู่ที่นี่ หลบอะไรกัน?

ฟู่เทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ “ผมไม่ได้พาของขวัญมาด้วยจึงแอบมาหลบอยู่ที่นี่เพราะกลัวว่าจะต้องอับอาย”

“เอ๋?” เด็กสาวดูเหมือนจะสงสัยว่าเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า เมื่อคิดถึงคำพูดของฟู่เทียนเธอก็ยิ้มออกมา ‘พรึด’ (เหมือนเสียงหัวเราะในลำคอ) “โอ้ นายไม่รู้งั้นหรอว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคุณซาร่าห์ เมล?”

“ผมไม่รู้!” ฟู่เทียนยักไหล่ “เพิ่งจะรู้นี่แหละ”

เด็กสาวเดินมาตามทางจนมาถึงศาลา เธอมองมาที่เครื่องแบบของฟู่เทียนและถามขึ้น “เครื่องแบบนี้ นายเป็นคนเก็บขยะหรอ?

ทันใดนั้นสีหน้าของฟู่เทียนก็ดูคล้ำขึ้นและตอบกลับมาว่า “ใช่ แต่คุณไม่ควรพูดว่าได้เจอกับผมที่นี่ หรือไม่อย่างนั้นผมก็จะบอกว่าผมได้เจอคุณด้วยเหมือนกัน”


“ฉันจะไม่พูด” เด็กสาวยิ้มและกล่าวขึ้น “ฉันชื่อเจนนี่ นายชื่ออะไร?

ฟู่เทียนตอบกลับไป “ดีน”

รีวิวผู้อ่าน