The Dark King – Chapter 37 ‘รับพร’ 2 ครั้ง
หลังจากที่เจนนี่จากไปประมาณ 10 นาทีฟู่เทียนก็เริ่มเดินออกไปเช่นกัน เขาเดินมาถึงห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้และได้ยินเสียงหัวเราะมากมายดังออกมาจากที่ไกลๆ ดูเหมือนงานเลี้ยงจะจบลงแล้วฟู่เทียนเห็นประตูของห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดออก หลังจากนั้นชนชั้นสูงก็เดินออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ฟู่เทียนไม่คาดคิดว่าเขาจะมาถึงที่นี่ตอนที่งานเลี้ยงจบลงพอดี ในใจของเขารู้สึกขอบคุณยุงตัวนั้นที่บินมากัดเขา เขาไม่ได้เข้าไปในห้องจัดเลี้ยงเพียงแต่เดินไปตามถนนหลักรอบนอกคฤหาสน์นี้เท่านั้น เขาใช้ถนนอีกเส้นที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง ไม่มีชนชั้นสูงคนไหนอยู่บริเวณนี้ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นเพิ่งเดินออกมาจากห้องจัดเลี้ยงได้ ทุกๆคนกำลังเตรียมที่จะกลับบ้านในตอนนี้
เขาเห็นว่าตอนนี้เหลือรถม้าเพียง 7 ถึง 8 คันที่เหลืออยู่ที่นี่จากรถม้าจำนวนมากที่จอดเรียงรายที่นี่ตอนที่เขามาถึง
ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจเมื่อเขาเห็นรถม้าของปีเตอร์ยังจอดอยู่ภายนอกนั่น
เขาเดินไปที่รถม้าทันทีแต่ยังไม่มีใครอยู่บนนั้น เห็นได้ชัดว่าปีเตอร์ยังไม่ออกมา
ฟู่เทียนนั่งอยู่ในรถม้าเพื่อรอคอยคนอื่นๆ
ไม่นานหลังจากนั้นปีเตอร์ก็เดินโซเซออกมาในสภาพที่เมามาย เขาเห็นฟู่เทียนนั่งอยุ่ภายในรถม้า “เธอเองหรอ?… หืม?… เธออยู่ที่นี่? เธอ… ฉัน…ชื่นชม…มานาน … ” เขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ร่างกายของปีเตอร์กำลังสั่นเมื่อฟู่เทียนช่วยพยุงเขาขึ้นมาบนรถม้า
ฟู่เทียนรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อเขากล่าวว่า “คุณดื่มมากเกินไปแล้ว นั่งพักตรงนี้ก่อนครับ”
“หัวหน้าครับ… คำสั่ง… คร้้งต่อไปจะต้อง … …” ปีเตอร์พูดออกมาคลุมเครือเกินกว่าที่จะเข้าใจ แต่ยังไงเขาก็ยังคงขึ้นมานั่งลงรถม้าโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร เขานั่งลงและพิงไปทางด้านขวาของตัวเอง
ฟู่เทียนเฝ้ามองปีเตอร์ที่ยังคงหัวเราะไม่หยุด เขาถอนหายใจออกมา เงหยน้าขึ้นและกล่าวกับคนขับรถม้า “กลับได้เลย”
“ครับท่าน” คนขับรถม้ากล่าวด้วยความเคารพจากนั้นก็สะบัดเชือกที่ผูกเอาไว้กับม้าทันที
…
…
พวกเขามาส่งปีเตอร์ก่อนและหลังจากนั้นและต่อมาก็มาที่ปราสาทในสมาคมเมลลอนที่ฟู่เทียนพักชั่วคราวอยู่
ตอนนี้ดึกมากแล้วดังนั้นเมสันและคนอื่นๆจึงหลับไปแล้ว คนรับใช้และคนสวนนั้นหลับไปหมดแล้วเหลือเพียงเหล่ายามหน้าประตูที่ยังอยู่ ฟู่เทียนกลับมาที่ห้องของเขาและขึ้นไปนอนบนเตียง หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในจิตใจของเขาหลังจากงานเลี้ยงครั้งนี้ มีทั้งความอัปยศอดสูและความโกรธ เขาคิดถึงเด็กสาวผู้นั้นที่ทำให้เขามีความสุข จากนั้นเขาก็นอนหลับไปในที่สุด
ในวันถัดมา ฟู่เทียนตื่นขึ้นในตอนเช้าปีเตอร์ได้มาที่ปราสาทแห่งนี้แล้วพร้อมกับถือกล่องไม้มาด้วย
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณปีเตอร์” ฟู่เทียนกล่าวทักทายเขา ฟู่เทียนรู้สึกประหลาดใจเพราะเขาไม่คิดว่าปีเตอร์ที่ดื่มหนักจนเมามายเมื่อคืนจะสามารถตื่นขึ้นมาในตอนเช้าอย่างสดใสแบบนี้ได้
ปีเตอร์ยิ้มและกล่าวว่า “เมื่อคืนฉันดื่มหนักไปหน่อย คนขับรถม้าบอกว่าเธอเป็นคนมาส่งฉันที่บ้าน”
“แล้วคุณเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟู่เทียนมองไปที่กล่องไม้เล็กๆในมือของเขาและกล่าวว่า “นี่อะไรครับ?”
ปีเตอร์วางกล่องไม้ไว้บนโต๊ะและเปิดมันออก นี่เป็นเข็มฉีดยาฟู่เทียนเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจทันทีว่าปีเตอร์มาที่นี่เพื่อมอบ “พรแห่งพระเจ้า” ให้กับเขา
“เมื่อวานนี้พวกเรายังยุ่งๆกันอยู่ฉันเลยไม่ได้มอบมันให้กับเธอ ฉันคิดว่าคงไม่ต้องอะไรเธอแล้วนะเรื่องนี้ ดีน เะอจะได้รับ ‘พร’ สองประการ อันแรกนั้นเป็นความสามารถพื้นฐานนี่เป็นโควต้าที่เธอจะได้รับในเดือนนี้ อีกอันเธอจะได้รับมันเดือนหน้าในวันเดียวกันนี้” ปีเตอร์หัวเราะ
“ผมขอนำมันกลับไปที่บ้านและใช้มันเองได้ไหมครับ?” ฟู่เทียนถาม
“แน่นอนว่าไม่” ปีเตอร์ส่ายศีรษะ “นี่คือพลังของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้า มันมีกฏอยู่ว่าจะต้องมีพยานคนอื่นรับรู้ในตอนที่ใช้มัน ฉันมอบมันให้นายดังนั้นฉันจึงเป็นพยานของนายในตอนนี้”
ฟู่เทียนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้นำสารในเข็มฉีดยาไปตรวจสอบดู แต่เมื่อคิดดูอีกทีเขาก็ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรที่จะใช้ตรวจสอบยานี้ได้เลย
“เข้ามาเลย” ปีเตอร์กล่าวขณะที่นำเข็มฉีดยาออกมาจากกล่องไม้
ฟู่เทียนรู้สึกไม่ไว้ใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจึงถามขึ้นว่า “นี่ … … จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ?”
ใบหน้าของปีเตอร์เย็นชาขึ้นทันที “ฉันจะลืมสิ่งที่เธอได้พูดไปเมื่อครู่นี้ อย่าแม้แต่ที่จะคิดที่ถามแบบนี้กับคนอื่นๆ นี่มันไม่ต่างอะไรกับการสงสัยในตัวพระเจ้าเลย!”
ฟู่เทียนเข้าใจอย่างถ่องแท้ในประเด็นนี้ดังนั้นเขาจึงต้องจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ หากเขาไม่ถามออกไปตรงๆก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
“อย่าห่วงไปเลย นี่คือของขวัญจากพระเจ้า มันไม่เคยมีความผิดพลาดในการใช้งานมาก่อน” ปีเตอร์ตอบ
ฟู่เทียนไม่ได้กล่าวอะไรออกมาแต่เขารู้สึกประหลาดใจ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์สร้างสารที่ส่งผลต่อยีนส์อย่างสมบูรณ์แบบได้ยังไง? มันถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากสำหรับหน่วยค้นหางั้นหรือ?
ปีเตอร์ปักเข็มฉีดยาเข้าไปบนแขนของฟู่เทียน เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแค่รู้สึกชา ไม่นานนักของเหลวสีชมพูทั้งหมดที่อยู่ภายในเข็มฉีดยาก็ฉีดเข้าไปในร่างกายของเขา
ฟู่เทียนรู้สึกได้ว่าพลังลมากมายกำลังถาโถามเข้าไปในร่างกายของเขา ความร้อนแรงได้พุ่งมายังสมองของเขาในตอนนี้ มันรู้สึกราวกับว่าเลือดภายในร่างกายของเขากำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง เขาตะโกนออกมาเสียงดังและความร้อนแรงนั้นก็ย้อนกลับมาที่ร่างกายและแขนขาของเขา มันรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งราวกับมีใครกำลังกรีดหัวใจของเขา เขากัดฟันเพื่อทนความเจ็บปวดครั้งนี้เอาไว้
ไม่นานนักความร้อนแรงนั้นก็ค่อยๆหายไป ฟู่เทียนเงยหน้าขึ้นและรู้สึกได้ถึงแตกต่างทันที การมองเห็นของเขานั้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น เขาสามารถมองเห็นรายละเอียดเล็กๆบนใบหน้าของปีเตอร์ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยตระหนักถึงได้
ฟู่เทียนนึกถึงพลังของลอเรี่ยนเมื่อก่อนหน้านี้
ฟู่เทียนรู้สึกเหมือนกับเขาสามารถบินออกไปได้ ด้วยการกระโดดครั้งเดียวเขาก็ได้พุ่งทะยานขึ้นไปเหนือศีรษะของปีเตอร์ เขาร่วงลงมาบนพื้นและยื่มมือของไปคว้าเก้าอี้เอาไว้ เขารู้สึกตัวเบาราวกับแมว
“รอสักพักดีกว่าก่อนที่เราจะใช้อันที่สอง” ปีเตอร์หัวเราะ
ฟู่เทียนมองไปยังเข็มฉีดยาอันที่ 2 ที่ปีเตอร์หยิบขึ้นมาและถามว่า “มันจะรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่ใช้หรอครับ?”
ปีเตอร์ยิ้มและกล่าวว่า “ไม่อย่างแน่นอน การใช้ครั้งแรกนั้นจะแสดงผลออกมามากที่สุด แต่ร่างกายของเธอก็จะเริ่มคุ้นชินจนการฉีดครั้งต่อไปจะเจ็บปวดน้อยลงไปเรื่อยๆ”
แม้ฟู่เทียนจะคิดไว้เช่นนี้เหมือนกันแต่ก็ยังรู้สึกเสียใจเช่นกัน หากว่าผลของมันสามารถเพิ่มขึ้นเปฌน 2 เท่าหรือ 3 เท่าได้นั่นแสดงว่าโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นสร้างสามารถสร้างสารดัดแปลงพันธุกรรมได้แท้จริง
แค่หน่วยค้นหาก็ได้รับพลังที่น่ากลัวแบบนี้ แล้วนักล่าล่ะ?
ไม่นานนักปีเตอร์ก็ปักเข็มฉีดยาเข้าไปบนแขนของฟู่เทียนอีกครั้ง ความร้อนแรงพุ่งทะยานเข้ามาภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้และฟู่เทียนรู้สึกเจ็บปวดจากความร้อนนี้น้อยลงไป
ฟู่เทียนรู้สึกว่าสายตาของเขาชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าเดิมตอนนี้ เขารู้ว่าพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เขาคิดว่าเขาสามารถฆ่าเสือด้วยมือเปล่าได้หากเขาต้องเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง
“ไปบอกคนอื่นๆเรื่องนี้ด้วยนะ” ปีเตอร์หัวเราะ
ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆ เมสันร้องออกมาเสียงดัง
ไม่นานหลังจากนั้นการรับพรทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ในตอนนี้ปราสาทแห่งนี้มีเสียงดังเป็นพิเศษ ทุกๆคนต่างกระโดดขึ้นไปเพื่อทดสอบพลังที่ได้รับมาใหม่
หลังจากปีเตอร์จากไป ฟู่เทียนก็กลับมาที่ห้องของเขาเพื่อเก็บของ เขาเตรียมตัวเพื่อที่จะกลับไปที่ย่านที่อยู่อาศัย
“พวกเรากำลังจะได้หยุด 3 วัน นายจะไปไหนวันนี้?
“พวกเรากำลังจะไปที่ตลาดย่านใจกลางเมืองในวันนี้!”
“ทำไมนายดูรีบร้อนนัก? นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ”
เมสันและอีกสองคนพยายามที่จะชักจูงฟู่เทียน
แต่ฟู่เทียนได้ตัดสินใจเอาไว้แล้ว เขาบอกลาทุกๆคน เรียกรถม้าและเดินทางไปที่ย่านที่อยู่อาศัย
ทันทีที่รถม้าได้มาถึงถนนร้อยแปดลินคัง ฟู่เทียนก็กระโดดลงทันที เขาจ่ายเงินไป 60 เหรียญทองแดง หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดเพราะรถม้าที่เขาเรียกมาในย่านการค้านั้นต้องเสียค่าโดยสารเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรถม้าที่เรียกในย่านที่อยู่อาศัยและชุมชนแออัด
ในตอนนี้ฟู่เทียนเห็นรถม้าอีกคนจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้าน “พวกเขามีแขกหรอ?” เขารู้สึกประหลาดใจ
เขาเดินผ่านรถม้าไปเปิดประตูรั้วสีขาวด้านนอกและเข้าไปในบ้านเมื่อเขาได้ยินเสียงคนถกเถียงกัน เขารู้สึกประหลาดใจ เขายกมือขึ้นและเคาะไปที่ประตู
ไม่นานนักจูร่าก็เปิดประตูออกมา เธอมองอย่างแปลกๆไปที่ฟู่เทียนและกล่าวว่า “คุณคือ?
หลังจากที่ฟู่เทียนได้ฝึกฝนเป็นหน่วยค้นหาตลอด 3 ปีร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ร่างกายของเขาดูแข็งแรงกว่าก่อนหน้านี้ ผิวของเขาก็ไม่ได้ขาวซีดอีกต่อไปแต่มีสีเข้มขึ้น จึงไม่แปลที่จูร่าจะจำเขาไม่ได้
“คุณป้า ผมเองครับ” ฟู่เทียนกล่าว
จูร่าได้ยินเสียงของเขาที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย “เธอคือเทียน!”
ฟู่เทียนหัวเราะออกมาเบาๆ “การฝึกฝนเสร็จสิ้นแล้ว ผมกลับมาแล้ว”
ดวงตาของจูร่าเป็นประกายขึ้นทันที เธอกอดฟู่เทียนเอาไว้ “เธอกลับมาแล้ว ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว! ลุงของเธอและฉันกลัวว่าเธอออาจจะต้องเจอปัญหาอะไร… ดีแล้วที่เะอไม่เป็นอะไร… …” เธอรีบดึงฟู่เทียนเข้าบ้านไปทันทีจากนั้นก็มองดูเขาทั่วทั้งตัว เธอรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นมือและเท้าของเขายังคงเหมือนเดิม
หัวใจของฟู่เทียนรู้สึกอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อเขาได้เห็นความห่วงใยของเธอ เขายิ้มและกล่าวว่า “ตอนแรกผมว่าจะซื้อของฝากจากย่านการค้ามาให้สักหน่อย แต่ผมไม่มีเงินจึงไม่ได้ซื้ออะไรมาเลย”
“เด็กโง่ แค่เธอรอดกลับมาก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว” จูร่ายิ้มและลูบศีรษะของฟู่เทียน “ผ่านมา 3 ปีแล้ว เธอดูสูงขึ้นมากและยิ่งไปกว่านั้น … …”
“อย่ามากไปหน่อยเลย!” ในตอนนี้น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดก็ดังออกมาจากห้องรับแขก นี่เป็นเสียงของเกรย์
สีหน้าของจูร่าเปลี่ยนแปลงไปทันทีและรีบกลับไปที่ห้องรับแขก