px

เรื่อง : My Master Disconnected Yet Again ยอดนักดาบจืดจาง
ตอนที่5 เซียนดาบ


เมื่อราชินีปีศาจใกล้เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ยี่หลิงก็เห็นปีศาจตนนั้นชัดขึ้น ด้านหลังของราชาปีศาจนั้นมีเงาสีขาวที่เล็กกว่าเงาของราชาปีศาจนั้นเพียงเล็กน้อยนั้นคือมีปีศาจกระต่ายที่ติดตามราชินีปีศาจ และมันมีมากกว่า 20 ตน

มันเป็นกลุ่มของปีศาจกระต่ายที่แข็งแกร่ง

ใจของยี่หลิงหล่นไปอยู่ตาตุ่ม แค่ราชินีปีศาจตนเดียวเขาก็ต้องเร่งพลังจนกระอักเลือดแล้ว แต่นี้มีเป็นฝูงเลย

ในขณะที่ยี่หลิงกำลังจะพุ่งโจมตีราชาปีศาจกระต่ายและเขาก็คิดว่าเขาจะสู้ขาดใจแต่ราชาปีศาจกระต่ายกลับสั่นหูยาวๆของมัน ทันใดนั้นมันก็อ้าปากค้างกับภาพตรงหน้าที่เห็นก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงอันไพเราะว่า

“สวัสดี ข้าขอถามหน่อยได้ไหมว่าท่านเทพอยู่ที่นี้เปล่า ?

“นี่เจ้า” ยี่หลิงมองราชากระต่ายตรงหน้าอย่างประหลาดใจ

“โอ้ ข้ามีนัดกับท่านเทพวันนี้แหล่ะ” ราชินีปีศาจกระต่ายอธิบายด้วยเสียงที่ปนหัวเราะฟังดูเหมือนคนที่กำลังคลั่งไคล้เฉินหลิงสุดๆ

“เทพผู้สูงส่งอยู่ไหม ? ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรข้ารอได้”

เมื่อมันพูดจบแล้วก็หมุนตัวไปมาเหมือนสำรวจ แล้วก็กระต่ายอีกหลายตัวก็ใช้อุ้งมือของมันสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ ปีศาจกระต่ายทั้งหมดนั่งเรียงกันเป็นแถวและไม่กระดิกหางไม่พูดคุยกัน ทุกอย่างเป็นระเบียบมาก

ยี่หลิงสับสนกับการกระทำของปีศาจกระต่ายพวกนี้ พวกนี้คือปีศาจจริงๆเหรอ? แล้วสิ่งที่เขาได้ยินมาละ ที่บอกว่าปีศาจนั้นชั่วร้ายและพวกมันจะกินมนุษย์ทุกคนที่เจอละ ?

Σ(°°|||)

“เจ้าอย่าได้กลัวพวกข้าเลย พวกข้าเป็นกระต่ายและพวกข้าก็เป็นสัตว์กินพืช” ดูเหมือนว่าปีศาจกระต่ายกลัวว่ายี่หลิงจะเข้าใจผิด และรีบอธิบายต่อว่า “ข้าพูดจริงๆนะ เผ่าพันธุ์ข้าแตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่นเราไม่เคยกินมนุษย์” ช่วงท้ายของประโยคนั้นราชินีปีศาจตรงหน้าก็เก็บกรงเล็บเข้าอุ้งมือ

“เฮ้ เจ้ากระต่าย มาแล้วเหรอ ?” ยี่หลิงตกใจกับสิ่งที่เห็นทันทีและเมื่อเขาเห็นเฉินหลิงนั้นกำลังเดินไปล้างมือแล้วหยิบเสื้อคลุมสีเทาของเธอก่อนจะพูดต่อว่า “เจ้ามาเร็วเหมือนกันแฮะ”

“ถวายบังคม ท่านเทพผู้สูงส่ง!” ร่างของราชากระต่ายนั้นสั่นราวกับว่าโดนไฟฟ้าช็อต ร่างของกระต่ายที่จากเดิมนั้นยืนตัวตรงก็ได้คุกเข่าลงอย่างกับแขนขาของพวกมันอ่อนแรง ถ้าเขาไม่ได้เห็นกับตาเขาคงไม่เชื่อเรื่องนี้

“ตามคำสั่งของท่านเทพตอนนี้ข้าได้นำกองกำลังกระต่ายที่ท่านต้องการมาให้แล้ว”

เฉินหยิงหันไปมองและถามขึ้นว่า “ทำไมถึงเป็นกระต่ายทั้งหมดเลยละ ? แล้วเจ้าแน่ใจเหรอว่ามันจะได้ผล ?

“เทพผู้สูงส่งท่านอย่าพึ่งหงุดหงิดไป” ราชากระต่ายรีบอธิบาย “ลูกหลานกระต่ายของข้ามักจะกระตือรือร้นกับงานของพวกเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าท่านจะสั่งงานอะไร พวกเขาก็จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถเลยละ”

“แต่พวกเขา” เฉินหยิงเหลือบไปมองกองทัพกระต่ายด้านหลังราชากระต่ายและถามว่า “มันจะดีเหรอ ?

“อ้อ” ราชากระต่ายงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเขาจะหันไปด้านหลังแล้วเข้าใจสิ่งที่เธอพูด “ไม่เป็นไรพวกเขาแค่ชินกับร่างของกระต่ายแต่เผ่าพันธุ์เราถนัดเรื่องการเปลี่ยนร่างเพราะงั้นท่านไม่ต้องกังวลหรอกนะ”

หลังจากคำพูดนั้น กระต่าย20กว่าตัวด้านหลังก็ยืนขึ้นพร้อมกับร่างกายที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปภายในไม่กี่นาทีพวกเขาก็กลายร่างเป็นมนุษย์ แต่ที่หัวยังเป็นกระตาย

-__- III

ปากของเฉินหยิงกระตุกเล็กน้อยแล้วเบือนหน้าหนีเพราะเธอทนมองภาพตรงหน้าไม่ไหว การที่ได้เห็นกระต่ายขนปุยมาเปลี่ยนเป็นคนหัวกระต่ายแบบนี้มันไม่โสภีเอาซะเลย

“เอาล่ะๆ งั้นฝากด้วยละกันนะ” เธอโบกมือไปมาอย่างปลงๆ

ราชินีกระต่ายเดินนำฝูงกระต่ายเข้ามาในบ้าน ยี่หลิงไม่แน่ใจว่ามันเป็นภาพลวงตาเปล่า แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ว่ากระต่ายทุกตัวนั้น ดูเคารพเฉินหยิงเอามากๆ

“ท่านหญิงเอ่อ พวกนี้คือ” ยี่หลิงอดจะถามคำถามไม่ได้ เพราะดูเหมือนกับว่า เธอเองเป็นคนที่ชวนปีศาจกระต่ายพวกนี้เข้ามา

 “อ้อ ฉันขอให้พวกเขามาช่วยเองแหล่ะ” เฉินหยิงชี้ไปที่กระท่อมฟางด้านหลังและพูดว่า “วันนั้นบ้านฉันพัง แล้วฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่โชคยังดีที่ฝนไม่ตกในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เพราะงั้นฉันก็เลยซ่อมแซมบ้านไปได้นิดหน่อย แล้วพวกกระต่ายเองก็รู้วิธีซ่อมบ้านด้วย ฉันเลยขอให้พวกเขามาช่วยหน่ะ

_” ขอให้ราชินีปีศาจมาช่วยซ่อมบ้านเนี่ยนะ!

ยี่หลิงผงะเล็กน้อย ปีศาจไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายหรอกเหรอ พวกนั้นเป็นฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับมนุษย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี้ แล้วที่เห็นนี้คืออะไร ปีศาจระดับราชินียินดีรับที่จะทำตามคำสั่งของมนุษย์ผู้หญิงงั้นเหรอ ?

แต่ความสงสัยของเขาก็หายไปในทันทีเมื่อได้เห็นกระต่ายกำลังช่วยกันซ่อมบ้านอย่างจริงจัง!

-___- III

ฝูงปีศาจกระต่ายได้เริ่มทำการซ่อมแซมกระท่อมอย่างรวดเร็วแล้วแต่ละตัวก็ทำหน้าที่ที่รับมอบหมายต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการตัดฝืน วางถมดิน และสร้างคาน ด้วยการแบ่งงานที่ชัดเจนพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันเป็นอย่างดีราวกับว่าพวกเขาถูกฝึกมาหลายครั้งแล้ว

ตอนนี้ในหัวของยี่หลิงนั้นเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาเห็นว่าเฉินหยิงกำลังพับแขนเสื้อของเธอขึ้นอย่างใจเย็น แล้วเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือกระต่ายพวกนั้นซ่อมบ้าน

ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปลงมือทำงานนั้นเอง จู่ๆกระต่ายที่อยู่ใกล้กับเธอก็ทำคานไม้ที่ถืออยู่หลุดมือ ทำให้มันจะลงหัวกระต่ายอีกตัวนึง เฉินหยิงรับไว้ได้ทันก่อนที่มันจะตกลงมาทับกระต่ายตัวนั้น

 “นี้เป็นอะไรมากไหม” เฉินหยิงถาม

แต่ถึงอย่างนั้น กระต่ายทุกตัวแถวนั้นกลับคุกเข่ากับพื้นแล้วน้ำตาแตก “ท่านเทพ พวกข้าประทานอภัย โปรดไว้ชีวิตพวกข้าด้วย พวกข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ขอโทษๆๆๆๆ!

พอกระต่ายตัวนึงเริ่มน้ำตาแตก มันเป็นการส่งสัญญาณให้กระต่ายตัวอื่นๆคุกเข่าแล้วน้ำตาแตกร้องไห้ขอโทษขอโพยให้ไว้ชีวิตตามไปด้วย

เฉินหยิง “”  .... ฉันก็แค่อยากช่วยเปล่าอะ เล่นใหญ่รัชดาลัยกันเหลือเกิน

“อา ชั่งมันเถอะ” เฉินหยิงพูด แล้วยื่นคานไม้ที่ตัวเองถือไปให้ยี่หลิง ก่อนจะพูดต่อว่า “ทุกคนทำงานกันต่อได้เลยไม่ต้องสนใจฉันฉันไม่ยุ่งละ”

เธอหันหลังกลับไปและเดินไปที่สนามหน้าบ้านแล้วรู้สึกน้อยใจ นี้ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ

เธอนั่งลงบนม้านั่งหินใบบ้านแล้วเอนตัวลงบนโต๊ะหินแล้วนอนฝุบหน้าเหมือนผักเปียก ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ ความขี้เกียจก็เริ่มครอบงำเธอด้วย ช่วงบ่ายๆแสงอ่อนๆจากดวงอาทิตย์มันน่านอนดีเหลือเกิน

(_)

ภายในเวลาแค่สองนาที เฉินหยิงก็หลับปุ๋ยแล้วกรนออกมา

เมื่อเสียงกรนนั้นดังไปถึงหูของพวกเขา ยี่หลิงก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างโล่อกของปีศาจกระต่ายทุกตัว  

ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งรอดชีวิตจากภัยพิบัติมาได้ และดูเหมือนว่าความเร็วในการสร้างกระท่อมก็เพิ่มขึ้นด้วย

“ขอบคุณท่าน” ปีศาจกระต่ายรับคานจากยี่หลิง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณและตอนนี้กระต่ายตัวนั้นก็ปฎิบัติต่อเขาเหมือนเพื่อน

“ทำไมพวกเจ้าถึงกลัว...ท่านเฉินขนาดนั้นละ” เขาอดถามไม่ได้

“ท่านไม่รู้จริงๆเหรอ ?” ใบหน้าของปีศาจกระต่ายนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าเป็นเพื่อนของท่านเทพหรอกเหรอ ? ราชินีกระต่ายก็บอกไว้ชัดเจนนี้ว่าเขาอยู่ที่ลานนี้มาเป็นเดือนแล้ว หลังจากคิดแล้วปีศาจกระต่ายตัวนั้นก็พูด “เอาจริงๆข้าก็ไม่แน่ใจหรอก”ปีศาจหันไปมองราชินีที่ตอนนี้กำลังมุงหลังคาอยู่แล้วลดเสียงพูดลง “ราชินีของข้าบอกมาว่าท่านเทพองค์นี้มีพลังที่แกร่งกล้าไม่มีผู้ใดทัดเทียม ไม่มีใครรู้ว่าเธอสำเร็จวิชาถึงขั้นไหนแล้ว เธออยู่อย่างสันโดดมาหลายเดือนแล้ว เธอเป็นคนที่คอยจัดการกับปีศาจที่ออกมาจากแดนปีศาจแล้วจับพวกมนุษย์กินเล่นๆ ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ ขนาดราชาปีศาจทั้ง9 รวมพลังกันต่อกรกับเธอ ยังทำอะไรไม่ได้เลย โดนซัดอยู่ฝ่ายเดียวจนตอนนี้ตายเป็นซากอยู่ในป่าแดนปีศาจหมดแล้ว นั้นเป็นเหตุผลที่ราชินีของเราย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามทำอะไรที่ทำให้ท่านเทพไม่พอใจเป็นอันขาด”

ยี่หลิงที่ได้ฟังเช่นนั้นก็อึ้งกับคำพูดพวกนั้น เขาไม่เคยคิดว่าท่านเฉินหยิงจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้...เฉินหยิงเป็นคนที่น่าเกรงขามจริงๆ ทันใดนั้นเองเหตุการณ์เมื่อตอนนั้นก็แวบกลับมาในหัวของ เขาเหตุการณ์ที่เขาถูกรุยมิเล่นงานจนปางตาย แต่ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก่อนที่จะสลบไปก็คือ เธอเห็นท่านเฉินหยิงคนนี้ จัดการกับรุยมิซะอ่วม ตอนแรกเขาคิดว่าเขาตาฝาด แต่จากที่เจ้าปีศาจกระต่ายนั้นเล่าอีก เขาก็พอจะประติดประต่อเรื่องนี้ได้ แต่มันเป็นเรื่องจริงจริงๆเหรอ

หลังจากที่เขาคิดลงไปอีก เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตั้งแต่เขาตื่นจากสลบขึ้นมา เขาก็ไม่เห็นรุยมิอีกเลย รุยมิเองก็ไม่ใช่พวกกระจอก เขาเป็นลักธิปีศาจระดับสูง ที่แม้แต่เขาเองหรือเอาจริงๆคนจากสำนักเทวะทมิฬก็ไม่ใช่ว่าจะเอาเขาลงได้ง่ายๆ ถ้าเฉินหยิงเป็นแค่คนธรรมดาจริงๆ เธอคงกระอักเลือดตั้งแต่เจอรังสีปีศาจความหนาแน่นสูงไปแล้ว

เขามองหน้าคนที่นอนหลับอยู่บนโต๊ะ เธอนอนน้ำลายยืดและกรนดูเป็นภาพที่ไม่น่าประทับใจเท่าไร เธอยังไม่ได้แสดงพฤติกรรมใดๆเกินกว่าคำว่ามนุษย์ให้เขาได้เห็นเลยด้วย สถานการณ์แบบนี้อาจตั้งข้อสันนิษฐานได้สองข้อ อย่างแรกเลยคือเธอเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาๆเท่านั้น ส่วนข้อที่สองคือเธอสำเร็จวิชาเซียนระดับสูงมากๆจนอาจถึงขั้นอรหันต์หรือสูงกว่านั้นจนทำให้ร่างสูงสุดคืนสู่สามัญธรรมดาที่สุด ไม่งั้นเธอคงรับมือกับรุยมิไม่ได้แน่ๆ

และตามที่ปีศาจกระต่ายเล่ามา ฝีมือของเธอไม่ได้มีแค่นั้นแน่ๆ  

หัวใจของยี่หลิงเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความตื่นเต้นและแม้หัวใจแห่งดาบของเขาที่เคยหลับใหลมานานก็ได้ตื่นขึ้นมา เธออาจเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งมากและมากเสียจนเกินกว่าความเข้าใจของคนธรรมดาก็ได้

ในขณะเดียวกันผู้หญิงตัวเล็กๆที่เขาบอกว่าเป็นยอดนักดาบก็ตบยุ่งที่ริมฝีปากของเธอและก่อนที่เธอจะเริ่มละเมอพูดว่า “ฮ่าๆ เนื้อตุ๋นซีอิ้ว...ไก่มักซอส..เต้าหู้เสฉวน..

ยี่หลิง “..

ท่านหญิงท่านนี้ คือเทพที่กระต่ายนั้นพูดถึงจริงๆเหรอวะ!

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน