px

เรื่อง : The Dark King
The Dark King – Chapter 112 ตอบโต้ศัตรู [อ่านฟรี 28-05-2019]


The Dark King – Chapter 112 ตอบโต้ศัตรู

 

การล่าพวกสัตว์ร้ายระดับ 4 มักเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักล่าทั่วไปเมื่อเทียบกับการล่าสัตว์ร้ายระดับอื่นๆ เป็นเพราะพวกซอมบี้มักใช้ชีวิตด้วยสัญชาตญาณจึงเป็นเรื่องง่ายในการใช้กับดักฆ่าพวกมัน ไม่เหมือนกับสัตว์ประหลาดชนิดอื่นๆที่ใช้ประสาทสัมผัสในการเอาตัวรอด แม้แต่พวก ‘หนูกระดูก’ ยังรู้วิธีในการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์อันตราย จึงเป็นเรื่องยากในการใช้กับดักกับพวกมัน

 

อย่างไรก็ตาม มีการบันทึกเอาไว้ว่าพวกซอมบี้สามารถพัฒนากลายเป็นปิศาจโครงกระดูกได้ หลังจากการรับรังสีเป็นเวลานานพวกมันจะสามารถไปอยู่ในอีกระดับ ความสามารถทั้งหมดจะถูกพัฒนาขึ้น พวกมันสามารถต่อกรกับพวกนักล่าระดับเงินได้เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังสามารถใช้ประสาทสัมผัสและจิตใต้สำนึกได้ นั่นทำให้การฆ่าพวกมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก

 

ฟู่เทียนเคยเห็นซากของพวกโครงกระดูกในพื้นที่หมายเลข 1 เขาสามารถแยกแยะได้ว่าตัวไหนเป็นพวกซอมบี้ธรรมดา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเลือกใช้วิธีการล่าโดยการวางกับดัก

 

ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!

 

ลูกธนูลอยออกไป ระยะหวังผลของฟู่เทียนอยู่ที่ 100 เมตร มันเป็นความสูงของอาคาร 24 ชั้น โดยปกติอาคารส่วนใหญ่จะมีระยะระหว่างชั้นอยู่ที่ 4-5 เมตร

 

ตอนนี้ฟู่เทียนยืนอยู่บนอาคารชั้นที่ 20 ห่างจากพื้นดินประมาณ 80 เมตร หลังคาของอาคารไม่แข็งแรงมากนักเนื่องจากการกัดกร่อนอย่างรุนแรง เขาใช้ก้อนหินดึงดูดพวกซอมบี้เข้ามาในระยะหวังผลของตัวเอง

 

ลูกธนูพุ่งเข้าใส่พวกซอมบี้ด้วยความแม่นยำ เขาสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของพวกซอมบี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากได้รับประสบการณ์จากการล่ามัจจุราชทมิฬ ฟู่เทียนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในการยิงพวกซอมบี้เมื่อเทียบกับการยิงใส่มัจจุราชทมิฬ เป็นเพราะการคาดเดาการเคลื่อนไหวพวกมันทำได้ง่ายดาย

 

ลูกธนูพุ่งเข้าใส่หัวของและทำให้ร่างกายของพวกมันล้มลงสู่พื้น

 

ในกรณีที่ยิงพลาดไปโดนไหล่หรือใบหน้าของพวกมััน แรงของการยิงจะทำให้พวกมันหยุดชะงักลง แต่คนที่ตายแล้วไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด พวกมันส่วนใหญ่ลุกขึ้นและเดินต่อไปตามเสียงที่มันได้ยิน

 

ฟู่เทียนง้างเชือกและยิงธนูออกไปอย่างต่อเนื่อง

 

ลูกธนูในกระบอกของฟู่เทียนเริ่มหมดไป เขาหันหลังเดินกลับไปหยิบมันมาเพิ่มแต่ก็พบว่าลูกธนูได้หมดไปแล้ว เขายิ้มออกมาแห้งๆหลังจากนั้นหันหลังเดินไปยังอีกฟากของอาคารและเริ่มขว้างก้อนหินออกไปอีกครั้ง

 

ก้อนหินตกลงไปยังถนนที่ใกล้เคียง เสียงของมันดังสะท้อนไปมาระหว่างซากปรักหักพัง พวกซอมบี้ต่างเดินกรูออกมาเพื่อเดินไปตามทิศทางของเสียงที่พวกมันได้ยิน

 

ฟู่เทียนเดินลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วในขณะที่โรยผงซอมบี้ไปทั่วทั้งตัว เขาเดินลงมายังชั้นล่างสุดและมุ่งหน้าไปยังกองซากศพ และนำหัวของพวกมัน 7-8 หัวเดินเข้าไปยังอาคาร เขาก้มตัวลงที่มุมห้องและเริ่มกรีดหัวของพวกมันออกเพื่อเก็บผลึกเหมันต์

 

หลังจากที่จัดการเสร็จเรียบร้อย ฟู่เทียนเดินกลับออกไปข้างนอกและนำหัวของพวกมันเข้ามาจัดการภายในอาคารอีกครั้ง

 

หลังจากผ่านไปสามรอบ เขาเก็บหัวของพวกมันรวมถึงลูกธนูที่ยิงออกไปกลับมาได้ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำการล่าต่ออีก ฟู่เทียนเดินกลับขึ้นไปยังหลังคาของอาคารแห่งนี้ เขาหยิบผลึกเหมันต์ขึ้นมา 1 ชิ้นและเฉือนนิ้วของตัวเองให้เป็นแผล เลือดร้อนๆของเขาหยดลงบนผลึกเหมันต์ชิ้นนั้น ราวกับการหยดน้ำเดือดๆลงบนน้ำแข็ง  ตำแหน่งที่เลือดหยดตัวลงไปทำให้ผลึกหลอมละลายกลายเป็นของเหลวสีใสๆ

 

ฟู่เทียนเฝ้าสังเกตุต่อไป

 

เขาหยุดที่จะหยดเลือดต่อไปเพื่อสังเกตุผลลััพธ์ที่เกิดขึ้น อุณหภูมิของเลือดเริ่มเย็นลงแต่อย่างไรก็ตามของเหลวไม่ได้แข็งตัวกลับมาเป็นผลึกอีก

 

ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจ แต่การทดลองครั้งเดียวคงไม่เพียงพอ เขาเดินกลับลงไปเพื่อนำเลือดของพวกซอมบี้มาทดลอง หยดเลือดของพวกมันไม่สามารถทำให้ผลึกละลายได้ ในทางตรงกันข้าม บริเวณที่เลือดของพวกซอมบี้ถูกหยดลงไปมันจะแข็งตัวในทันที พร้อมเปลี่ยนรูปร่างเป็นหยดเลือดสีแดง

 

ฟู่เทียนเริ่มมั่นใจมากขึ้น “หลังจากได้รับสัญลักษณ์เวทมนตร์มา เลือดของฉันก็ได้เปลี่ยนไป ผลึกเหมันต์ไม่สามารถกัดกร่อนเลือดของฉันได้ นั่นหมายความว่าฉันสามารถดูดซับพลังจากผลึกเหมันต์ได้โดยตรง”

 

เขากำผลึกเหมันต์เอาไว้แน่นเพื่อที่จะดูดพลังจากพวกมันเข้าสู่ร่างกาย อย่างไรก็ตามยังมีความลังเลใจปรากฏขึ้นในใจอยู่เล็กน้อย ถึงจะมั่นใจในการคาดคะเนของตัวเอง แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเขาย่อมกลัวในสิ่งที่ตนไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้ดีว่าด้วยการทดลองเพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่เสถียรได้ เขายังไม่มั่นใจเรื่องผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ถ้าหากดูดซับพลังของผลึกเหมันต์เป็นเวลานาน

 

เขาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งและในที่สุดก็ตัดสินใจยอมแพ้กับเรื่องดูดซับพลังมาจากมัน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีเพียงชีวิตเดียว ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียมันไปได้

 

เขาเก็บผลึกเหมันต์กลับลงไปในกระเป๋าและหยิบธนูพร้อมลูกธนูเดินทางเพื่อล่าพวกซอมบี้ต่อไป เขาวางแผนที่จะค่อยๆทดลองและศึกษาเกี่ยวกับผลึกเหมันต์ไปเรื่อยๆ เพื่อศึกษาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

เพียงพริบตาเดียวเวลาได้ผ่านไป 2 วัน ฟู่เทียนฆ่าซอมบี้ไปกว่า 600 ตัวในพื้นที่หมายเลข 7  เท่ากับว่าเขาจะได้รับเงินมา 600 เหรียญทอง ความจริงแล้วเขาเจอพวกมอนส์เตอร์ที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน แต่เขาเลือกที่มองข้ามและหลีกเลี่ยงพวกมันไป

 

“ฉันจะเก็บผลึกเหล่านี้ซักครึ่งหนึ่งเอาไว้ ในบางครั้งฉันอาจจะสามารถสร้างฐานลับภายนอกกำแพงยักษ์นี้” ฟู่เทียนคิดแผนในขณะที่เดินสำรวจพื้นที่รอบๆ

 

ทันใดนั้นเอง

 

กลิ่นที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในจมูกของเขา

 

ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นในใจเขาทันใด “นั่นมันเธอ!” ฟู่เทียนอุทานออกมาเบาๆ

 

เขาไม่มีทางที่จะลืมกลิ่นของ ‘นักดาบโลหิต’ ลินดาได้อย่างแน่นอน

 

“30 ไมล์หรือมากกว่านั้น… นี่เธอเข้ามาล่าในพื้นที่หมายเลข 7 งั้นหรอ?” ดวงตาของฟู่เทียนเป็นประกาย เขาคิดขึ้นมาได้ว่าพื้นที่หมายเลข 7 กำลังเป็นจุดสนใจจากทางสมาคม พวกเขาต้องที่จะกวาดล้างพื้นที่แห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักถ้าหากลินดาจะเดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้

 

ครั้งแรกพวกเขาพบกันที่สำนักงานใหญ่หน่วยค้นหา และเขายังคงมีชีวิตรอดมาได้ ความคิดเกี่ยวกับการฆ่าลอยขึ้นมาในหัวของฟู่เทียนทันที แต่ในขณะเดียวกันยังมีอีกความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาเช่นกัน “มันเป็นเพียงความขัดแย้งในการสนทนากันเท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่ากันซะหน่อย เวลาก็ได้ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ในบางทีเธออาจจะลืมเราไปแล้วก็ได้”

 

แต่ในขณะเดียวกันความคิดอีกอย่างก็กำลังดังก้องอยู่ในหัวของเขาเช่นกัน “พวกเราอยู่ที่ภายนอกกำแพงยักษ์แห่งนี้ แม้นายจะฆ่าเธอไปก็ไม่มีใครรับรู้หรอก กฏหมายภายในกำแพงนั่นไม่ได้ปกป้องคนที่อยู่ข้างนอกกำแพงในตอนนี้ซะหน่อย ต่อให้มีคนรู้จริงๆก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ ฆ่าเธอซะ! ฆ่าเธอแล้วนายจะได้ไม่ต้องระแวงที่จะเจอปัญหาอีกในอนาคต ถึงแม้เธอจะเป็นถึงนักล่าระดับเงินก็เถอะ แต่เธอจะปกป้องตัวเองยังไงถ้าไม่รู้ถึงตัวศัตรู”

 

“การลอบฆ่า… มันรุนแรงเกินไป”

 

“ฆ่า ฆ่าเธอ! ไม่มีใครเห็นแน่นอน”

 

เสียงสองเสียงขัดแย้งกันภายในจิตใจของฟู่เทียน ในตอนแรกเขายังไม่รู้ว่านักล่าที่เขาทำการสังหารไปนั้นเป็นใคร แต่เมื่อรู้ว่าเขาคือไบรอันเป็นน้องชายของเธอคนนั้น เขาละทิ้งความลังเลในใจและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอจะต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงฝึกเธออาจจะยังไม่สะดวกในการลงมือ แต่หลังจากการฝึกเสร็จสิ้นเธอจะต้องทำทุกวิถีทางในการฆ่าฉันอย่างแน่นอน”

 

“เธอจะต้องตายเท่านั้น!”

 

ความอ่อนโยนในจิตใจของเขาได้หายไปทั้งหมด เขาหันไปมองรอยแผลในมือขวาของเขา

 

เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นซักพัก เขาหยิบผลึกเหมันต์ออกมาจากกระเป๋า และกำผลึกเหมันต์เอาไว้แน่น

 

ความเย็นถูกถ่ายเทเข้ามาทางฝ่ามือและเริ่มลุกลามไปทั่วแขน

 

“แม้จะเป็นการลอบโจมตี แต่ก็ยังคงยากอยู่ดีในการฆ่าเธอด้วยพลังในระดับปัจจุบัน หวังว่าการคาดเดาเกี่ยวกับผลึกเหมันต์จะถูกต้อง อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรดูดซับมันมากเกินไป” ปากของเขาพึมพำในขณะที่กำลังพูด ความรู้สึกที่ได้รับมาจากผลึกเหมันต์ค่อยๆหายไป แต่ความกังวลภายในจิตใจของเขากำลังเพิ่มขึ้น

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาหยิบผลึกเหมันต์ชิ้นที่สองออกมาและเริ่มดูดซับพลังต่อไป ฟู่เทียนหยุดชะงักลงมีความรู้สึกไม่สบายหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา

 

“มันเป็นโอกาสที่ฟ้าส่งมาให้กับฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะรับมันไว้!” ฟู่เทียนคิด “หลังจากการฝึกเสร็จสิ้นลง ฉันยังมีเรื่องให้ทำอีกมากมาย เธอจะเป็นฝ่ายตามล่าในขณะที่ฉันจะเป็นได้แค่เหยื่อ เพราะฉะนั้นจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้” เขาสวดภาวนาภายในจิตใจ แม้เป็นการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลยสถานการณ์จะยากลำบากมากขึ้นเมื่อเขาเสร็จสิ้นการฝึก

 

นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว มิฉะนั้นจะต้องเป็นตัวเขาเองที่จะต้องคอยหวาดระแวงกับการโจมตีของลินดาในอนาคต

รีวิวผู้อ่าน