px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 69 ทรงคุณค่า (FREE)


ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจเบาเมื่อรู้ว่าตัวเขาจะกลายเป็นตำนานครั้งใหม่ เงิน 200 ตำลึงเงินกำลังจะตกเป็นของเขา ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มด้วยความยินดีพร้อมคิดว่าทำไมพวกเขาช่างโง่งมเหลือเกิน

"ช่างน่าขันยิ่งนักที่เขาคิดจะเป็นสามอันดับแรก? เขาต้องฝันอยู่แน่ๆ! "

"เขาคิดจะมีชีวิตอยู่แค่ในความฝันงั้นหรือ?"

"ฮ่าฮ่า ... ใช่แล้วคนที่ไม่ได้เข้าไปเรียนในหอแห่งเต๋า จะติดสามอันดับแรกได้อย่างไร? มีใครเคยเห็นอะไรที่น่าขบขันกว่านี้อีกไหม "

ผู้เข้าร่วมทดสอบเริ่มถกเถียงกันทีละคน เสียงของพวกเขาดังมาก แม้แต่ เมิ่ง อวี้ชู ที่กำลังนั่งอยู่ในภัตาคารฝั่งตรงข้าม สำนักฉิงเฟิง ก็ได้ยินเสียงพวกเขาอย่างชัดเจน

 "สามอันดับแรกในการสอบด้านปัญญา? ฮ่าฮ่าฮ่า ... เจ้าบ้านนอกยังกล้าฝัน! " เมิ่ง อวี้ชู พ่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างหนักจนใบหน้าของเขาแทบจะบิดเบี้ยว เพราะเขารู้ดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะเป็นสามอันดับแรกของการสอบด้านปัญญา

แม้กระทั่งตัวเขาที่เข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้ว ยังไม่มีความมั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ที่จะสามารถเป็นหนึ่งในสามอันดับแรก

การเข้าถึงวิถีแห่งเต๋านั้นต้องมีพรสวรรค์ก็จริง แต่ทดสอบด้านปัญญาเน้นความเข้าใจถึงกฎแห่งเต๋ามากกว่า  ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล และมันก็ขึ้นอยู่กับโชคด้วยว่าจะได้คำถามแบบไหน

ไม่มีใครกล้าที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า ตนจะได้เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของการสอบทฤษฎี

 

แล้วทำไม เมิ่ง อวี้ชู ถึงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นสามอันดับแรกของการสอบ เพราะว่าการเป็นสามอันดับแรก และถ้าได้เป็นที่หนึ่งละก็ ประตูแห่งความรุ่งโรจน์ก็เหมือนเปิดอ้ารอรับเขาอยู่

แม้ในหมู่ผู้คนที่ยิ่งใหญ่ สร้างคุณประโยชณ์อันมากมายให้แก่อณาจักร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ติดสามอันดับแรกในการทดสอบด้านปัญญา

...

 

การทดสอบกฎแห่งเต๋าเหมือนเป็นการคัดเลือกผู้ที่จะเป็นผู็นำของอณาจักร มันจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การสอบระดับมณฑล ราชวงศ์ก็ยังคงส่งขุนนางมาเพื่อเป็นผู้ตรวจข้อสอบ

 

ประตูสำนักฉิงเฟิง เปิดออกอีกครา

ชายวัยกลางคนสวมเสื้อชุดอย่างบนเสื้อมีตัวอักษรอ่านว่าขุนนางถูกปักไว้อยู่ เขาค่อยๆ เดินออกมาพร้อมกับผู้ดูแลไม่กี่คน ในมือถือม้วนกระดาษสีแดง

ผู้คนที่ตอนแรกถกเถียงกันอยู่ เงียบลงในทันที

การมาถึงของขุนนางที่เป็นตัวแทนของราชานั่นดูยิ่งใหญ่ราวกับแสงของตะวัน นอกจากนี้ในมือของเขายังมีชื่อของผู้ที่สอบได้สามอันดับแรกของการสอบด้านปัญญาอีกด้วย

 

"ขอต้อนรับท่านฉิง !" เหล่าเจ้าหน้าที่เดินไปข้างหน้าและต้อนรับชายวัยกลางคนด้วยความเคารพ

ขุนนางฉิง พยักหน้าและเดินกวาดสายตาไปทั่วฝูงชน เขาก้าวไปด้านหน้าของกลุ่มแรก ไม่ได้พูดอะไร และเปิดม้วนสีแดงที่อยู่ในมือออกทันที

"ข้าและเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบได้ตัดสินกันเป็นอย่างดีแล้วว่าผู้ใดจะได้เป็นสามอันดับแรกของการทดสอบ"

"อันดับที่สาม เมืองฮวายอัน จากสำนักฉิงเฟิง หลี่ โปเหว่ย 

ความคิดเห็น: มีกระบวนการคิดที่รอบคอบและพิจารณาคำตอบได้อย่างชาญฉลาด! "

ขุนนางฉิง หยุดกล่าวชั่วคราว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ยินผล เขาเดินไปที่หินประกาศแล้วกดลงเบา ๆ ด้วยมืของเขา มีคำสองคำคือ หลี่ โปเหว่ย พร้อมประวัติโดยย่อและความคิดเห็น ปรากฏขึ้นมา

"ขอแสดงความยินดี นายน้อยหลี่ ที่ได้เป็นอันดับสามของการสอบด้านปัญญา!"

"นายน้อยหลี่ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องพรสวรรค์อันมากล้น ถือเป็นบุคคนที่โดดเด่นในรุ่นพวกเรา!"

ผู้คนเริ่มแสดงความยินดีกับนักปราชญ์คนหนึ่งที่แต่งตัวในชุดผ้าสีขาวบริสุทธิ์

ก่อนจะเงียบลงอย่างรวดเร็ว เพราะขุนนางฉิงกำลังจะประกาศชื่อต่อไป

"อันดับที่สอง เมืองฮวายอัน จากสำนักฉิงเฟิง เจิง ซินเจา ความคิดเห็น : มีความคิดที่ลึกซึ้งรู้ทุกอย่างถ่องแท้!"

"เจิง ซินเจา ได้เป็นอันดับที่สอง?! นั่นหมายความว่าเหลือแค่ผู้ชนะเท่านั้น? "

"เจ้าคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะได้เป็นผู้ชนะหรือไม่?"

"เจ้ากำลังพูดเรื่องตลกอะไรอยู่ ช่างน่าขันสิ้นดี? ผู้ชนะ ? ผู้ที่ไม่ได้แม้แต่เหยียบเข้าไปยังหอแห่งเต๋านะรึจะได้เป็นผู้ชนะ ? ฮ่าฮ่า ... ช่างน่าขัน"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ... ข้าแค่เห็นว่าบรรยากาศกำลังตึงเครียดเท่านั้น"

เมื่อเขากล่าวจบประโยค ก็มีเสียงดังขึ้นในกลุ่มคน ทั้งยังมีบางคนที่หัวเราะออกมาราวกับว่าที่นี่มีแค่เขา

 

"อันดับที่หนึ่ง ผู้ชนะของการสอบด้านปัญญา  ฟาง เจิ้งจือ !!" เสียงของขุนนางฉิงไม่ดังเท่าไรนัก แต่กลับสามารถกลบเสียงหัวเราะของกลุ่มคนได้ทั้งหมดราวกลับฟ้าที่ผ่าลงมา

ทันใดนั้นนักปราชญ์ต่างพากันอ้าปากค้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้าไปในลำคอได้

"ผู้. .. ..ผู้ชนะ?! ฟาง เจิ้งจือ คือผู้ชนะ?! "

"มัน...เป็นไปได้ยังไง?"

เหล่านักปราชญ์ต่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ที่ไม่มีชื่อในกลุ่มแรกของการทดสอบ จะสามารถเป็นผู้ชนะของการสอบได้

 

"ทุกคนดูเหมือนจะไม่เชื่อ? ข้าก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นเดียวกัน แต่ข้าบอกได้เลยว่าถ้าหากมีการจัดอันดับคะแนนผู้ที่เคยเป็นอันดับหนึ่งที่ผ่านมาทั้งหมด ฟาง เจิ้งจือ ต้องได้เป็นที่หนึ่งแน่นอน!"

"เพราะหลายปีที่ผ่านมา ข้าได้เป็นผู้ตรวจข้อสอบ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคะแนนเต็มในการทดสอบด้านปัญญา!"

"คะแนนเต็ม!"

"คะแนนเต็ม!"

คำกล่าวของขุนนางฉิงเปรียบดั่งน้ำอันเย็นยะเยือกเทลงในถังน้ำมันร้อนระอุ เพราะมันทำให้ผูงชนเกิดความสับสนขึ้นราวกับว่าจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ คะแนนเต็ม? ทั้งยังเป็นครั้งแรกในการทดสอบด้านปัญญา?!

ใครจะคาดคิด มันยากที่จะเชื่อ?

ทุกคนต่างตกใจเป็นอย่างมาก ถึงกับพูดไม่ออก

แต่ทว่าขุนนางฉิงจะกล่าวคำเท็จงั้นหรือ นั่นมัน...เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

หรือนี่คือความจริง?

นี่เป็นความจริงงั้นหรือ?!

 

ในตอนนี้ ในที่สุดทุกคนก็เริ่มเข้าใจ

ว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงได้ร้องเรียน เมิ่ง อวี้ชู 

สำหรับคนที่ทำได้คะแนนเต็ม เขาจะต้องใช้กระดาษสอบของ เมิ่ง อวี้ชู ไปทำไมกัน

เพราะว่าเขาทำได้มากกว่านั้น!

เขาสามารถทำได้ด้วยตัวเองและสมบูรณ์กว่า!

 

ขณะเดียวกัน เมิ่ง อวี้ชู ที่กำลังนั่งอยู่บนภัตตาคารก็ตกตะลึงกับเสียงที่ได้ยิน

"คะแนนเต็มคนแรกในการทดสอบด้านปัญญา? เขา ... เขาทำคะแนนเต็ม?! " เขารู้สึกจุกแน่นด้านในของหน้าอก ราวกับว่าหัวใจได้ถูกก้อนหินยักษ์ทับใส่ เพราะในรอบแรกของการทดสอบด้านปัญญา เขาไม่ได้แม้แต่ทำข้อสอบจนเสร็จดี

เขาได้ทำข้อสอบไปเพียงแค่แปดสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น

 

เช่นเดียวกับ เมิ่ง อวี้ชู ทีกำลังตกใจ นักปราชญ์คนอื่นๆ และแน่นอน หลี่ จ้วงฉือ และหลี่เฮ่อต่างก็อ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อ

"คะแนนเต็ม?!" หลี่ จ้วงฉือ กับคนอื่นๆ เหลือบมองตากันและกัน เห็นแต่ใบหน้าที่ตกใจ หน้าแข็งค้าง ของพวกเขาเอง พวกเขารู้ดีว่า ฟาง เจ้งจือ ไม่เคยได้เข้าไปยังหอแห่งเต๋าเลยแม้สักครั้งเดียว

"มัน...เป็นไปได้ยังไง?"

ขุนนางฉิง มองไปทั่วฝูงชน เขาก็เห็นแต่ใบหน้าที่เต็มใบด้วยความตกใจ เพราะเช่นเดียวกันกับตอนที่เขาเห็นกระดาษคำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ เขาก็มีใบหน้าแบบเดียวกันนี้เอง

 

สามารถพูดได้เพียงว่า...น่ากลัว!

"ฟาง เจิ้งจือ ความคิดเห็นต่อกระดาษคำตอบ: ใช้คำง่ายๆ ที่มีความหมายน่าอัศจรรย์ ทุกคำตอบที่เขียนลงมาล้วนทรงคุณค่า!" เมื่อขุนนางฉิง ประกาศเรื่องนี้ออกไปเขาก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในเสียงของเขาได้อีกต่อไปแล้ว

ในความจริงแล้วมีอีกเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

นั่นคือเขาได้ส่งกระดาษสอบในรอบที่สองของ ฟาง เจิ้งจือ ไปยัง สำนักใหญ่ เพื่อแนะนำให้พวกเขาใช้คำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ แทนคำอธิบายในกฎแห่งเต๋าเดิม!

แต่เขาไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ

เพราะเรื่องที่เกียวข้องกับกฎแห่งเต๋า แม้จะเป็นตัวเขาที่มีสถานะเป็นถึงขุนนาง ก็ทำได้เพียงแค่แนะนำเท่านั้น

แต่สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของขุนนางฉิง เมื่อเขาได้เห็นกระดาษของ ฟาง เจิ้งจือ  ความตื่นเต้น สับสน ไม่สบายใจและตื่นตระหนก

เพราะคำตอบนั้นฉลาดเกินไป

เพียงแค่คำ ๆ เดียว ก็อธิบายถึงข้อมูลที่ลึกซึ้ง ราวกับว่าคำถามเหล่านั้นได้ถูกสรุปออกมาเป็นคำใหม่เป็นที่เรียบร้อย

แม้แต่ขุนนางฉิง ก็ไม่กล้าที่พูดว่าเขาทำได้ดีถึงขนาดนี้

"ใช้คำง่ายๆ ที่มีความหมายน่าอัศจรรย์ ทุกคำตอบที่เขียนลงมาล้วนทรงคุณค่า!"

แต่อย่างไรก็ตามขุนนางฉิง ก็ไม่ได้แจงรายละเอียดที่เป็นเรื่องสำคัญออกไปมากนัก ฝูงชนกลับเงียบสงัดลงเมื่อได้ยินความคิดเห็นที่เป็นของ ฟาง เจิ้งจือ เพราะทุกคนรู้ว่าคำ ๆ นี้หมายถึงอะไร ...

นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!

 

 

เพจหลัก : Gate of god TH

 

รีวิวผู้อ่าน