px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 113 สุดท้าย


ฮั่ว คังกัง ไม่ได้พูดอะไร เขายอมรับในความพ่ายแพ้และการเดิมพัน เขาถอดเกราะทะเลหยกออกโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาได้เดิมพันต่อหน้าคนเป็นจำนวนมาก คงไม่มีทางคืนคำแน่ๆ

"เดี๋ยวก่อน!" ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมาในขณะที่ ฮั่ว คังกัง เตรียมจะถอดชุด

"ข้ามันอ่อนแอ วันนี้ข้าพ่ายแพ้ ที่ข้าต้องการตอนนี้เพียงผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋า ถ้าเจ้าคิดว่ามันไม่สมควรข้าจะกระโดข้ามหน้าผาไปเลย! " ฮั่ว คังกัง รู้สึกเสียใจ

ด้วยพลังของเขาต่อให้เขาไปเข้าทดสอบที่เมืองไหน เขาก็คงได้เป็นผู้ชนะแน่นอน แต่เขารีบเดินทางมาที่เมืองนี้เป็นพิเศษเพื่อที่จะจัดการ ฟาง เจิ้งจือ  แต่สุดท้ายไม่ต้องพูดถึงผู้ชนะ แม้แต่ชุดเกราะของเขายังถูกเอาไปโดย ฟาง เจิ้งจือ

 

"เจ้ากำลังเข้าใจผิด นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ข้าหมายถึง เจ้าสามารถทำในสิ่งที่เจ้าต้องการได้ในการทดสอบกฎแห่งเต๋า...ข้าแค่คิดว่าดาบของเจ้าก็ดูใช้ได้นะ" ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมา

"..." ฮั่ว คังกัง มองไปที่ดาบหยกขาวที่มือของเขา และถอนหายใจออกมาด้ยความเจ็บใจ พลาดเพียงครั้งเดียวเป็นเหตุให้ต้องเสียใจไปตลอดกาล ในตอนนี้ม้แต่อาวุธเขาก็ไม่อาจรักษาไว้ได้

...

 

หลังจากที่ดาบต้องตกเป็นของ ฟาง เจิ้งจือ เขาก็มองไปที่ จาง เจ๋อตง

จาง เจ๋อตง รู้สึกขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า เหงื่อเริ่มไหลออกจากร่างทีละน้อย เขาจับหนังสือในมือแน่น

"น...หนังสือเล่มนี้ คือหนังสือเกี่ยวกับการปกครอง..ข..ของพ่อข้า" ขณะที่พูดเขาก็เริ่มถอยหลังหนีทีละก้าว

"หนังสือเกี่ยวกับการปกครอง? มีภาพประกอบด้วยหรือไม่? " ฟาง เจิ้งจือไม่เชื่อ และเอื้อมมืออกไปหยิบหนังสือเล่มนั้นมาจากมือของ จาง เจ๋อตง

เขาเบิกตาค้างทันที

สิ่งนี้คือ ...

"มันเป็นหนังสือทางการปกครองช่างบังเอิญจัง ข้าเองก็สนใจเรื่องนี้อยู่พอดี ข้าจะช่วยดูแลมันแทนเจ้าเอง! " ฟาง เจิ้งจือ เก็บหนังสือเข้ากระเป๋าทันที

จาง เจ๋อตง มองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังเก็บหนังสือของเขาเข้ากระเป๋าไป ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดยิ่งกว่ากรีดเนื้อออกจากร่างเสียอีก

"น..นายน้อยฟาง มันเหลือเพียงแค่เล่มเดียว! อย่าได้ทำลายมัน! " จาง เจ๋อตง พูดในขณะที่กำลังปาดน้ำตา

"ไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าชอบอ่านหนังสือ ไม่ทำอะไรสิ้นคิดอย่างการทำลายหนังสือทิ้งหรอก!" ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้กับ จาง เจ๋อตง  อันที่จริงการเรียนรู้อย่างหนักก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน เขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้มาหลายปี ยิ่งกว่าตาเฒ่าแก่ๆเสียอีก

...

 

หลังจากทุกอย่างจบลง ฟาง เจิ้งจือ ก็กลับไปหา เหยียน ซิว อีกครั้ง 

เหยียน ซิว กำลังรออยู่ที่ริมหน้าผา หลังจากทั้งคู่มายืนข้างกัน พวกเขาก็กระโดดข้ามไปฝั่งตรงข้ามอย่างง่ายดาย

หลังจากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็หันกลับไปมองเหล่าพวกผู้เข้าสอบที่กำลังยืนอึ้งและบอกกับพวกเขาให้เริ่มกระโดดข้ามมากันได้แล้ว

ฉากที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เข้าสอบตกใจกันเท่านั้น เหล่าผู้คุมสอบที่อยู่ด้านนอกก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นเช่นเดียวกัน

"ผู้ที่เข้าถึงผนวกดาราอย่าง ฮั่ว คังกัง ถูกจัดการในกระบวนท่าเดียว?"

"เจ้าคิดหรือไม่ว่า...เขาอาจจะไม่ได้อยู่แค่ระดับผนวกดาราก็เป็นได้?"

"น...น่ากลัวเกินไปแล้ว! เขาอายุแค่ 15 ปีเองนะ ถ้าข่าวแพร่กระจายออกไปข้ากลัวเหลือเกินว่าอาณาจักรเซี่ยแห่งนี้ต้องพบกับความวุ่นวายเป็นแน่"

ผู้คุมสอบมองไปยังผู้เข้าสอบอีกคนด้วยความหวาดกลัว เพราะพวกเขาไม่กล้าจะคิด ในอณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ คนที่อายุต่ำกว่า 15 ปีที่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์มีเพียงคนเดียว...

มีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

"เป็นไปไม่ได้ มีเพียงนางที่เป็นผู้ชนะของสองทำเนียบมังกรเท่านั้น! เพียง ฉือ กูเหยียน คนเดียวก็พอแล้ว ยังมีคนที่เป็นสัตว์ประหลาดอย่างนั้นอีกหรือ?" เมื่อ ฮัน ฉางเฟิง กล่าวออกมา ใบหน้าของเขาปรากฎความกังวล

เขารู้อย่างชัดเจนในฐานะคนของจักรพรรดิ ภายนอกนั้นอาจจะดูทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ถ้ามีคนที่สามารถเป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้งสองโผล่มาอีกคนละก็ สมดุลทั้งหมดต้องถูกทำลาย

ฉือ กูเหยียน นั้นฉลาด นางเอาตัวเองไปอยู่ที่ศาลาเต๋าแห่งสวรรค์ เพื่อหลีกหนีจากเรื่องวุ่นวาย นอกจากนี้ ฉือ กูเหยียน นั้นเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิและเป็นธิดาแห่งกองตรวจการศักดิสิทธิ์ ด้วยสถานะดัของนาง ไม่มีใครกล้าจะหลอกใช้นาง

แต่ถ้าเป็นคนอื่น...

ใครจะกล้ายืนยันว่าเขาฉลาดเท่า ฉือ กูเหยียน หรือไม่

จักรพรรดิจะทรงยอมรับหรือไม่ว่าเขาคาดการณ์ผิด? จักรพรรดิต้วน ได้รับการสนับสนุนจากกองตรวจการศักดิสิทธิ์ เขาจะยอมรับได้หรือถ้ามีคนที่เป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้งสองโผล่มาอีกคน? องค์ชายผู้สืบทอดที่ควบคุมวังทิศตะวันออก จะทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งได้หรือ?

นอกจากนี้เผ่าพันธ์ุปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่จะยอมอยู่เฉยงั้นหรือ?

ถ้าเขาก้าวผิดแค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียว ทุกอย่างจะตกอยู่ในความวุ่นวาย!

...

 

ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาคงผ่านการสอบไปอย่างสบายๆแล้ว ที่จริงแล้วต้องบอกว่าสบายมากๆๆต่างหาก เพราะว่าคงไม่มีคนตาบอดที่ไหนกล้าคิดจะท้าทายเขาอีก

แม้แต่ ฮั่ว คังกัง ที่อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์ยังแพ้...

เมื่อผู้เข้าสอบมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง พวกเขาถอยหลังไปเล็กน้อย และรักษาระยะห่างไว้เล็กน้อย นอกจากนี้ยังพยายามซ่อนอาวุธและของมีค่าให้มิดชิดที่สุด

คงมีแต่สวรรค์ที่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะคิดอยากปล้นของใครอีกเมื่อไหร่...

ในรอบที่ 3 ที่ 4 เขาจะผ่านมันไปได้อย่างราบลื่น

จนมาถึงรอบรองชนะเลิศ เด็กหนุ่มในชุดเกราะสีขาวมีบาดแผลทั่วร่างกายเดินเข้ามาหา ฟาง เจิ้งจือ 

"น...น..นายน้อยฟาง...ด..ได้โปรดเมตตาข้าด้วย " เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยสัญชาตญาณที่กำลังตื่นตกใจของเขา

ฟาง เจิ้งจือ เดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มคนนั้นทีละก้าว ทีละก้าว

ในทางกลับกันเด็กหนุ่มก็เริ่มก้าวถอยหนีไปทีละน้อย แต่การก้าวถอยหลังของเขาก็ช้าเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับการที่ ฟาง เจิ้งจือ เดินเข้าไปหา ระยะห่างระหว่างทั้งสงคนเริ่มสั้นลงเรื่อยๆ

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกร่าเริงเป็นอย่างมาก เหมือนกับการต้อนไก่ขนไฟของเขาให้เข้าไปในกรง

เด็กหนุ่มเป็นกังวลใจอย่างมาก เหงื่อค่อยๆไหลออกมาจากหน้าผากอย่างต่อเนื่อง แขนทั้งสองข้างเริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว

ในที่สุดระยะของทั้งสองก็ห่างกันเพียงปลายจมูก ในตอนนี้ความตื่นกลัวของเด็กหนุ่มเริ่มหายไปและเปลี่ยนไปเป็นความสงบนิ่ง

 

"ย๊าา!" เด็กหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหว ท่วงท่าการใช้ดาบนั้นดูมีพลังและแข็งแกร่ง ด้วยระยะทางที่ห่างกันเล็กน้อย ฟาง เจิ้งจือ ประเมิณเขาต่ำไปเสียแล้ว เด็กหนุ่มมั่นใจเต็มร้อย

เด็กหนุ่มเชื่อว่าแผนการของตัวว่าจะต้องสำเร็จแน่

ฟาง เจิ้งจือ ก้มลงอย่างฉับพลันเพื่อผูกเชือกรองเท้า !

"ขอโทษด้วยข้าผูกเชือกรองเท้าก่อน!" ฟาง เจิ้งจือ พูดบอกโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น

ในทางกลับกัน เด็กหนุ่มคนนั้นก็ปักดาบลงอย่างเต็มแรง ดาบของเขาหยุดอยู่เหนือศรีษะของ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกับสายลมกันโชกแรง

ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เงยหน้าขึ้นมามองไปยังเด็กหนุ่มที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน

"เจ้าจะลอบโจมตีข้ารึ?"

 

"อา!!!" เด็กหนุ่มโกรธจัด หลังจากที่แผนแตกก็ไม่มีทางเลือกใดๆอีก เอาดาบฟันไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ในทันที

แต่น่าเสียดาย…

ร่างของเด็กหนุ่มลอยขึ้นไปกลางอากาศราวกลับผีเสื้อที่กำลังบินเล่นยามเช้า และยังลอยไปลอยมาอีก 2-3 ครั้งกลางอากาศ

จากนั้นก็ตกลงมาที่พื้นดิน

"จ..เจ้ารู้แผนข้างั้นรึ?" เด็กหนุ่มไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าการแสดงของเขานั้นไร้ที่ติ

"เข้ามาถึงรอบนี้ คิดว่าข้าอ่อนแองั้นรึ? ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีโอกาส แต่ก็เจ้าก็พยายามอย่างเต็มที่ ข้าพูดถูดหรือไม่? นอกจากนี้เจ้าได้จัดการ ฮั่ว คังกัง ไปแล้ว ก็ถือว่านั่นเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าละกัน " ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเบาๆ

"..." เด็กหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะปิดตาลง คลานมาตรงหน้า ฟาง เจิ้งจือ และประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน "ข้าแพ้แล้ว ขอให้นายน้อยฟางประสบความสำเร็จ เข้าถึงรอบชนะเลิศให้ได้! "

...

 

ฟาง เจิ้งจือ ใช้เวลาจัดการเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ถึง 15 นาที ในทางกลับกัน ในด้านของ เหยียน ซิว ดูเหมือนจะเร็วกว่ามาก เพราะเขาไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามได้ปริปากพูดเลยแม้แต่น้อย

"จากนี้ก็เหลือแค่เจ้ากับข้า?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว ที่ยืนอยู๋ไม่ไกล

"ใช่แล้ว" เหยียน ซิว พยักหน้ารับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

รีวิวผู้อ่าน