px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 123 ความวุ่นวาย


ศาลาเต๋าสวรรค์เป็นสถานที่ที่รวมขุมพลังต่างๆมากมาย รวมถึงนักปราชญ์จำนวนมาก ดังนั้นการลงจากเขาของ ฉือ กูเหยียน นั้นไม่มีทางปิดบังได้

ยิ่งไปกว่านั้น ฉือ กูเหยียน ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด

 

ประเพณีของศาลาเต๋าสวรรค์ ก่อนลงจากเขา ฉือ กูเหยียน ต้องแสดงการคำนับต่อจารึกเต๋าสวรรค์ จากนั้นก็แสดงการคำนับต่อหัวหน้าของศาลาเต๋าแห่งสวรรค์ "มู่ ฉิงเฟิง" ..

ท้ายที่สุด ฉือ กูเหยียน ต้องลงจากเขาผ่านประตูแห่งเต๋าสวรรค์

...

 

ไม่มีใครคาดคิดว่า ฉือ กูเหยียน จะลงจากเขาในเวลานี้ เพราะตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 2 ปี จนกว่าจะถึงเวลาที่คำทำนายบอกไว้

ลงจากภูเขา?

สำหรับนักปราชญ์คนอื่นๆคงเป็นแค่การลงภูเขาทั่วๆไป แต่สำหรับ ฉือ กูเหยียน แล้ว มันต่างกัน...

เพราะการลงเขาของนาง จะตามมาด้วยความวุ่นวาย!

ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่นางจะเคลื่อนไหวตอนนี้

เพราะสถานะของ ฉือ กูเหยียน นั้นทรงพลังเสียจนใครก็ไม่อาจมองข้ามได้ นางนั้นจะใช้ชีวิตอย่างสำราญด้วยพลังอำนาจที่นางมีก็ไม่มีใครว่าอะไร 

ถ้าใครที่ไม่ได้เป็น ฉือ กูเหยียน คงคิดว่านางโง่เง่าที่ทิ้งเกียรติยศชื่อเสียงเงินทองไป

....

 

ตอนนี้ผู้คนต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆ 

เพราะ...

นางนั้นเป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้งสอง เป็นความภูมิใจของสวรรค์ อายุเพียงแค่ 14 ปีแต่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์!

การลงจากเขาของนางในครั้งนี้? มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

...

 

ในเมืองขนาดใหญ่ เมืองหลวงเหยียน

บนกำแพงเมืองยังคงเหลือร่องลอยของการต่อสู้อยู่จางๆ 

ภายในตัวเมืองอันเงียบสงบมาเป็นเวลานาน ตอนนี้ดูราวกับจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น 

เห็นได้จากเสียงของถ้วยชาตกลงกับพื้นจนแตกละเอียด ในพระราชวัง

"อะไรนะ?! ฉือ กูเหยียน ลงมาจากเขาแล้ว นางเดินทางออกมาจากศาลาเต๋าสวรรค์!"

"นางคิดจะทำอะไรกันแน่..."

เสียงทั้งสองเสียงพูดคุยกันไปมา น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ความสุข กังวล งงงวย และหวาดกลัว...

...

 

บริเวณค่ายฝึกทหาร ภายในกระโจมขนาดใหญ่ เด็กหนุ่มอายุประมาณ 23-24 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ ภายของสัตว์ตัวใหญ่ปักด้ายสีท้องประดับอยู่บนเสื้อสีขาวบ่งบอกถึงสถานะของเขา

หนึ่งในทายาทขององจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ นามสกุลของเขาคือ"หลิน"

เขาคือองค์ชายลำดับที่ 6 หลิน ซินเจีย ขณะนี้มีสถานะเป็นราชาปกครองเมืองอยู่ ผู้คนมักเรียกเขาว่า ราชาต้วน

ตัวตนอันทรงพลังอย่างเขาควรจะนั่งเสวยสุขอยู่ในวัง แต่อย่างไรก็ตามเขาได้ย้ายมากพักอยู่บริเวรกองทหาร ที่รายล้อมไปด้วยเหล่าทหารมากมาย

แต่ตอนนี้ เขากำลังนั่งขมวดคิ้ว ราวกับกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่

บนโต๊ะกลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมาจากตะเกียง ทางด้านซ้ายมีผู้อาวุโสที่สวมชุดสีดำ ส่วนทางด้านขวาเป็นชายวัยกลางคนให้ท่าทางราวกับนักปราชญ์

นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใครอื่นอยู่ในกระโจมอีก

 

"อย่าบอกข้านะแม้แต่ผู้อาวุโสเหวินก็ไม่สามารถคาดเดาเจตนาของ ฉือ กูเหยียน ในครั้งนี้ได้?" หลิน ซินเจีย รู้สึกคิดว่าต้องมีปัญหาบางอย่าง

"เรียนราชาต้วน ฉือ กูเหยียน ย้ายที่พักอย่างทันที ข้าไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ! อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของ ฉือ กูเหยียน ต้องเกี่ยวข้องกับการทดสอบกฎแห่งเต๋าที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์แน่นอน..." ผู้อาวุโสเหวินตอบมา

"มันเป็นเพียงการทดสอบเล็กๆ ผู้อาวุโสเหวินบอกว่า ฉือ กูเหยียน ออกประกาศจับ เพื่อทดสอบบางอย่าง ทำไมนางถึงได้เปลี่ยนใจกระทันหัน?" ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาทันที

"ข้าบอกว่าข้าไม่สามารถคาดเดาได้ แต่เหตุผลของนางน่าจะเกี่ยวเนื่องกับการทดสอบที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์เพราะว่าช่วงเวลาที่นางลงมาจากเขาช่างประจวบเหมาะ.." ผู้อาวุโสเหวิน มองไปที่นักปราชญ์วัยกลางคนด้วยท่าทีที่เงียบสงบ

นักปราชญ์วัยกลางคน ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม หลิน ซินเจีย เองก็กำลังนั่งไตร่ตรองบางอย่างอยู่

 

"ทำไมพวกเราไม่ทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโสเหวิน รับ ฟาง เจิ้งจือ เข้ามาในกองทัพละ?" หลิน ซินเจีย พูดออกมา หลังจากที่นั่งคิดอยู่สักพัก

"ถ้าเป็นปกติแล้วละก็ คงไม่ยากอะไร แต่เขาดันไปจัดการ เหยียน ซิว จากตระกูลเหยียนได้ และได้เป็นผู้ชนะทั้งสองด้านของการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวง ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้ยินมาว่าพลังของเขานั้นอยู่ในระดับผนวกดารา ตอนนี้ข้าเชื่อว่าขุมกำลังอื่นๆสนใจดึงเขาเป็นพวกแน่นอน ถ้าท่านราชาต้วนต้องการ..."ผู้อาวุโสเหวินกล่าวออกมาด้วยความกังวลในอะไรบางอย่าง

"ข้าเข้าใจว่าคนที่เข้ากองทัพมาล้วนอาศัยความสามารถของตัวเองทั้งนั้น ถ้าอยู่ๆเขาเข้ามาคงทำให้พวกทหารไม่พอใจ และยิ่งไปกว่านั้นใช่ว่าเขาจะยินดีเข้าร่วมกับพวกเรา ยิ่งไปบังคับเขาเข้ามา เขาต้องกลายเป็นกบฎแน่นอน!" หลิน ซินเจีย ได้ยินคำพูดนั้น และเข้าใจได้ในทันที

"ราชาต้วนช่างชาญฉลาด!"

"ข้าคิดว่าถ้าเราอาศัยโอกาสที่คนอื่นกำลังดูท่าทีกันอยู่ เคลื่อนไหวก่อน ข้ามีความคิดดีๆ ไม่รู้ว่าท่านราชาต้วนสนใจจะลองทำไหม!" นักปราชญ์วัยกลางคนพูดขึ้นมาอีกครั้ง

"หืม? ว่ามาสิ!" เมื่อ หลิน ซินเจีย ได้ยิน เขามองไปที่นักปราชญ์วัยกลางคนทันที

 

"ฉือ กูเหยียน ลงมาจากเขา และแน่นอนว่านางต้องกลับไปที่กองตรวจการศักดิสิทธิ์แน่นอน นอกจากนี้ข้าได้ยินมาว่าจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองกองตรวจการขึ้น ซึ่งมีการเชิญบุคคลสำคัญต่างๆมากมาย นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้เข้าสอบที่มีผลสอบอยู่ในกลุ่มแรกอีกด้วย ถ้าราชาต้วนไปร่วมงานด้วย ข้าเชื่อว่าท่านจะได้ประโยชน์ถึงสามอย่าง!" เมื่อนักปราชญ์วัยกลางคนพูดจบ เขาหยุดรอให้ หลิน ซินเจีย ให้คำตอบ

"ท่านฮั่ว ได้โปรดบอก!" หลิน ซินเจีย พูดราวกับเป็นนักเรียนฟังคำสั่งสอนของคุณครู

นักปราชญ์ฮั่ว เห็นท่าทีเช่นนั้น เขาเต็มไปด้วยความพอใจ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนเดินไปยังตรงกลางของกระโจมและโค้งคำนับให้กับ ราชาต้วนและผู้อาวุโสเหวิน

"อย่างแรก แม้ว่า ฉือ เฮา จะมีความจงรักภักดีต่อท่าน แต่เขาอยู่ห่างไกลจากดินแดนทะเลทรายทางเหนือมาก ถ้าท่านเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องเห็นถึงความเป็นผู้นำของท่านแน่นอน แต่ถ้าท่านไม่ไป พวกเขาจะเห็น ฉือ เฮา เป็นผู้นำแน่นอน! ท่านควรจะไปเพื่อเอาชนะใจพวกเขา!"

"อืม ไม่เลว!"

 

"อย่างที่สอง เมื่อ ฉือ กูเหยียน กลับไปที่กองตรวจการศักดิสิทธิ์ ถ้าท่านเดินทางไปเยี่ยมดินแดนทะเลทรายทางเหนือบ้างเพื่อแสดงถึงความเมตตาของเขา ต่อให้ท่านไม่สามารถเอาชนะหัวใจนางได้ แต่ก็ถือเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี!"

"อืม เข้าท่า!"

 

"อย่างที่สาม ต่อให้การทดสอบที่เมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์จะเป็นเพียงการทดสอบเล็กๆ แต่มันได้รวบรวมนักปราชญ์จากเมืองทั้ง 5 แห่งบนดินแดนทะเลทรายทางเหนือ ข้าเชื่อว่าต่อให้พวกเขายังไม่มีประโยชน์ในตอนนี้ แต่ข้าเชื่อว่าท่านต้องเห็นคนที่มีประโยชน์กับท่านในอนาคตแน่นอน!"

"เยี่ยมมาก! เพื่อที่จะให้พวกเขาทราบซึ้งในตัวข้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดี!" เมื่อ หลิน ซินเจีย ได้ยิน เขาลุกขึ้นและโค้งคำนับนักปราชญ์ฮั่วทันที

"สำหรับท่านราชาต้วนแล้วไม่เป็นไร แต่นอกเหนือจากผลประโยชน์แล้ว...ยังมีอีกเรื่องอันตราย ข้าเตือนท่านว่าอย่าโลภมากเกินไป ไม่ควรเอาผลประโยชน์ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย!"

"ยอมเสียผลประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย?" หลิน ซินเจีย รู้สึกสับสน

"ข้าขอให้ท่าราชาคิดให้ดี ว่าอะไรคือเหตุผลที่ ฉือ เฮา จัดงานนี้ขึ้นมา บางทีเขาอาจจะจัดขึ้นเพื่ออยากแสดงความเป็นผู้นำของเขาเช่นเดียวกัน ถ้าท่านโผล่ไปเกรงว่าอาจจะเป็นการขัดขวางเขา..."

 

"เขาเป็นเพียง ฉือ เฮา ต่อให้เขาเป็น 1 ใน 13 ผู้นำกองตรวจการ จะเทียบกับความสูงส่งของท่านราชาต้วนได้ยังไง?! อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะเป็นราชาของดินแดนทะเลทรายทางเหนือ?" ผู้อาวุโสเหวินดูหนักใจเล็กน้อย

"ไม่! พวกท่านพูดถูก ข้าต้องหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น! ข้าไม่ควรไปขัดความเจตนารมณ์ของ ฉือ เฮา ในตอนนี้!" หลิน ซินเจีย คิดสักพักก่อนจะก้มหัวให้กับ ผู้อาวุโสเหวิน

...

 

ในเมืองเหยียน สถานที่ที่เกิดความวุ่นวายขึ้นขณะที่ราชาต้วนกำลังพูดคุยกันอยู่ในกระโจมนั้น เหล่าทหารกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน รถม้าจำนวนมากได้เข้ามาในเมืองอย่างต่อเนื่อง

มีทั้งผู้ที่เดินทางเข้ามาในเมือง และเดินทางออกไปจากเมือง

สถานที่ที่รถม้าเข้าไปจอดมากที่สุดเป็นที่ไหนไปไม่ได้ พระราชวังทิศตะวันออก

...

 

แน่นอนไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปยังไง มันก็ไม่ได้สำคัญกับ ฟาง เจิ้งจือ เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรว่า ฉือ กูเหยียน ได้ลงมาจากเขาแล้ว

เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์นั้นตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากเมืองหลวงเหยียน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ข่าวสารต้องใช้เวลาในการส่งมาถึง

ตอนนี้สิ่งที่นักปราชญ์สนใจมากที่สุดคือทำไม หยุน ชิงวู ถึงส่งคำเชิญให้กับ ฟาง เจิ้งจือ? เขาเป็นเจ้าโรคจิตที่เปิดผ้าปิดหน้าของนาง!

หรือว่าจะเพราะเขาเป็นผู้ชนะการทดสอบทั้งสองด้าน?

พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก!

 

ดังนั้นตอนนี้ ข้างๆแม่น้ำแห่งความสัตย์ เหล่านักปราชญ์จำนวนมากได้มารวมตัวกัน พวกเขาต้องการมาเห็นเจ้าโรคจิตที่กล้ารับคำเชิญของ หยุน ชิงวู

สายลมพัดใบหญ้าให้พริ่วไหวไปตามลม

แต่เหล่านักปราชญ์ต่างกระวนกระวายใจ...

แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใส่ใจ

ดังนั้น...

เขาจึงมาปรากฎตัวอยูที่ข้างแม่น้ำแห่งความสัตย์

เหยียน ซิว ไม่ได้มากับเขา เมื่อเขาปรากฎตัวมาเหล่านักปราชญ์ จึงมุ่งความสนใจไปที่เขา

เขายังคงสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงิน

"เขามาจริงๆ?! เจ้าหน้าด้านนั่น..."

"เจ้าโรคจิตนั่น ดูสิว่า มันจะกล้าทำอะไร หยุน ชิงวู อีก!"

 

เมื่อเหล่านักปราชญ์เห็น ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เพราะพวกเขาต่างหงุดหงิดว่าทำไม หยุน ชิงวู ถึงได้เชิญ ฟาง เจิ้งจือ?

ฟาง เจิ้งจือ มีอะไรที่พวกเขาไม่มีกัน?

 

เรือสำราญขนาดใหญ่ค่อยๆเข้ามาเทียบท่า หญิงในชุดสีเขียวหยกยืนรออย่างสงบ เมื่อนางเห็น ฟาง เจิ้งจือ นางผายมือเชิญ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความยินดี

 

เพจหลัก : Double gate TH

รีวิวผู้อ่าน