SC:บทที่ 2 ยั่วยุ
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากถูกบังคับให้อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ 1 วันกับ 1 คืนดวงตาของ หลินเฉิง กลายเป็นหมีแพนด้า เขาพยายามทักทายพยาบาลตัวน้อยที่คอยดูแลเขา ในที่สุดเขาก็หลุดออกจากโรงพยาบาลเสียที
มีเพียง หลินเฉิง คนเดียวที่รู้ว่าเขาเกิดอาการหน้ามืดและไม่เกี่ยวข้องกับการที่รถพุ่งชนเขา ยิ่งกว่านั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกิดระบบแคปซูลที่อยู่ในใจของเขาด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงพยายามถามโรงพยาบาลเพื่อหาข้อมูลติดต่อคนขับรถคนนั้นเพื่อที่ต้องการชดเชยค่ารักษาพยาบาลที่ชายคนนั้นเป็นคนจ่ายให้
หลังจากนั่งรถประจำทางมากกว่า 1 ชั่วโมง หลินเฉิง ก็กลับมาที่มหาวิทยาลัยของเขาซึ่ง ที่นั่นคือมหาวิทยาลัยซงโจว
ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัยซงโจวนั้นสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มหาวิทยาลัยมีพื้นที่ประมาณ 6000 เอเคอร์ และมีอาคารกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาวต้นมะเดื่อสูงสองข้างทางยังคงมีใบสีเหลืองตามกิ่งของมัน สายลมยังคงพัดพากิ่งไม้เป็นครั้งคราว นักศึกษาหลายคนปั่นจักรยานไปมา บนสนามหญ้าปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งมีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ที่นั่น พวกเขากำลังฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยปากเปล่าหรือไม่ก็กำลังท่องบทกวีต่างๆ
อย่างไรก็ตามบรรยากาศในมหาวิทยาลัยที่แสนจะอบอุ่นนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ หลินเฉิง อีกต่อไป ในฐานะบัณฑิตจบใหม่ หลินเฉิง ต้องเผชิญกับแรงกดดันการจ้างงานมากขึ้น หน่วยงานที่เขาฝึกงานอยู่นั้นมีปัญหาเล็กน้อยเมื่อเขาไม่สามารถไปลงทะเบียนได้เมื่อเร็วๆนี้ มันทำให้เขารู้สึกเศร้า
ระหว่างทางกลับไปหอพัก หลินเฉิง กำลังขบคิดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ระบบได้กล่าวเอาไว้
เขารู้สึกเป็นกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน แม้ว่าแคปซูลจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ทุกสิ่งก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเขาจะเอาตัวรอดในยุคนี้ได้อย่างไร?
แต่ระบบไม่ได้บอกกับเขาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมทั้งไม่ได้บอกเวลาและสถานที่ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น หลังจากได้เชื่อมต่อกับระบบแคปซูลมันทำให้ หลินเฉิง เชื่อถือคำพูดของระบบมากยิ่งขึ้น
หลินเฉิง กลับมาถึงหอพักของเขาเขาพบว่าเพื่อนร่วมห้องอีก 3 คนกำลังนั่งยองๆอยู่บนเตียง ทั้ง 3 คนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกและเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูพวกเขาหันกลับมามองทันที แต่พวกเขาไม่ได้ทักทาย หลินเฉิง แต่อย่างใดและหันกลับไปเล่นไพ่ต่อ
สำหรับความเฉยเมยเช่นนี้ หลินเฉิง รู้สึกคุ้นเคยมานานแล้ว บรรดาทั้ง 4 คนในหอพักนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นคนบ้านนอก หวงหยูหลิง,เฉินเจิ้งและหยางหลี่เป็นคนเมืองทั้งหมด
ในฐานะที่เป็นคนท้องถิ่นพวกเขาความรู้สึกว่าเหนือกว่า หลินเฉิง อยู่เสมอและด้วยบุคลิกที่สันโดษของ หลินเฉิง ทำให้พวกเขาเฉยชาและไม่สนใจต่อ หลินเฉิง อย่างสมบูรณ์
สำหรับ หลินเฉิง แล้วเขาไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์เช่นนี้ เนื่องจากเขาเป็นคนเงียบๆและในฐานะที่เขาเป็นเด็กกำพร้าเขาได้ลิ้มรสสายตาเฉยชาของผู้คนตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน การเลือกปฏิบัติเช่นนี้มีมาตั้งแต่เขาเกิด
เมื่อเห็นการเพิกเฉยของเพื่อนร่วมห้องทั้ง 3 คน หลินเฉิง ถอดรองเท้าของเขาและลงไปนอนที่เตียงของตัวเองในขณะเดียวกันเขาก็แสร้งทำเป็นอ่านหนังสือ ในขณะที่แอบพูดคุยกับระบบอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ได้ยิน เฉินเจิ้ง พูดขึ้นว่า
“ นี่พวกนายหยุดเล่นไพ่กันก่อน ดูที่โทรศัพท์มือถือของฉันสิ ..มันเป็นข่าวของจางหยิง”
หวง หยูหลิงคว้าโทรศัพท์จากมือของเฉินเจิ้งไปดู มันทำให้เฉินเจิ้งอยากด่า
“ไอ้บ้า ฉันยังอ่านไม่เสร็จ เธอเป็นคนรักในฝันของฉันเลย...ฉันยังไม่มีเวลาสารภาพรักกับเธอแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะพังพินาศแล้ว!”
“ มันไม่เหมือนกันสารภาพรักเลยนะ แต่มันเหมือนการล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า ดูเหมือนว่ามีข่าวบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆในเร็วๆนี้ และคราวนี้ดูเหมือนว่ามันเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยของเรา”
หยางหลี่ พูดขึ้นเพื่อสนับสนุนหัวข้อข่าว
เมื่อได้ยินการสนทนาของเพื่อนทั้งสามคนในห้องพัก หลินเฉิง ขมวดคิ้ว
จางหยิง เป็นบุคคลที่ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับ หลินเฉิง เธอดูเหมือนดอกไม้ของภาควิชาภาษาต่างประเทศ เธอถูกไล่จีบจากผู้ชายหลายคนที่ร่ำรวย
แต่ตอนนี้เมื่อได้ฟังข่าว ดูเหมือนหญิงสาวคนนี้จะเสียชีวิตแล้ว หลินเฉิง รีบดึงโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วรีบค้นหาข่าวนี้อย่างรวดเร็ว
ในโทรศัพท์มือถือของเขามีพาดหัวข่าวตัวใหญ่กว่า
“เหตุการณ์แปลกๆได้แพร่กระจายมาถึงมหาวิทยาลัยแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งเสียชีวิต!”
หลังจากที่อ่านข้อความอย่างระมัดระวังจากต้นจนจบ หลินเฉิง ก็เก็บโทรศัพท์ของเขาลงไปและนอนคิดอยู่บนเตียง
ข่าวสั้นนี้เป็นเพียงเรื่องของเหตุการณ์ที่ จางหยิงถูกฆ่าตายใกล้สวนซากุระที่มหาวิทยาลัยเมื่อประมาณ 9:10 ของเมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับฆาตกรนั้นพวกเขายังไม่สามารถตรวจสอบได้ ตำรวจกำลังชันสูตรศพและตรวจสอบวีดีโอที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อหารายละเอียดต่อไป
สถานการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หลินเฉิง เห็นข่าวคล้ายกัน เมื่อวานในห้องพักผู้ป่วยก็มีข่าวเช่นนี้เหมือนกัน ข่าวนี้ยังคงถูกปกปิดเป็นความลับเช่นเดิมมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ คนอื่นอาจไม่สนใจข่าวนี้และคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติแต่ หลินเฉิง กำลังคิดถึงคำเตือนของระบบ
ยิ่งไปกว่านี้เขาไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยังมีการบาดเจ็บล้มตายทุกๆวัน แต่การสืบสวนของตำรวจกลับกลายเป็นฆาตกรต้องการปล้นชิงทรัพย์ เหตุผลประเภทนี้ถูกรายงานออกมาเพื่อให้เรื่องทุกอย่างสงบลง แม้จะมีข่าวการบาดเจ็บบ่อยครั้งมันจึงทำให้ดูผิดปกติเล็กน้อย เมื่อรวมกับคำยืนยันของระบบในที่สุด หลินเฉิง ก็เข้าใจว่า โลกใบนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถนิ่งนอนใจในตอนนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างแสดงออกถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของโลก บางทีเขาควรรีบพิจารณาข้อเสนอของระบบอย่างจริงจัง
…..
หลินเฉิง ออก มาจากมหาวิทยาลัยซงโจว ด้วยประตูหลัง ด้านหลังเป็นย่านการค้าที่คึกคัก มีโรงแรมและร้านเครื่องประดับทุกประเภทเปิดให้บริการ 2 ฝั่งทาง เต็มไปด้วยแสงสีเป็นสถานที่ดึงดูดสำหรับนักศึกษาที่ร่ำรวย
หลินเฉิง เดินไปตามถนนสายหลัก เขาพยายามหาเป้าหมายในความมืดโดยใช้แสงไฟโฆษณาเป็นแสงนำทาง
ข่าวของจางหยิง คือคำเตือน มันทำให้เขาจำสิ่งที่ระบบได้พูดก่อนหน้านี้เขาควรแลกเปลี่ยนแคปซูล V เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาไม่แน่ใจว่ามันใช้งานอย่างไร ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกกังวลแต่เขาก็ต้องลอง
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่ากระบวนการในการแลกเปลี่ยนนั้นจะทำให้เกิดการฉากแบบใด ดังนั้นเมื่อเขาพิจารณาดีแล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดห้องที่ด้านหลังมหาวิทยาลัย เพื่อทำการแลกเปลี่ยนกับระบบ
ในฐานะนักศึกษายากจน นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ หลินเฉิง มายังถนนแห่งนี้ ครั้งแรกที่เขามาเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาหลงเข้ามา
หลังจากเดินไปเกือบครึ่งถนนในที่สุด หลินเฉิง ก็เดินไปตามถนนสายหลักตามคำแนะนำของป้ายและพบโรงแรมที่อยู่ในตรอกแคบๆ
หลังจากจ่ายเงินมัดจำเช่าเรียบร้อยหลินเฉิงหยิบกุญแจและเดินเข้าไปในห้องที่มีเพียงแสงสลัวสลัว เขาไม่ต้องการที่จะเปิดไฟ จากนั้น หลินเฉิง นั่งอยู่บนเตียงและเรียกระบบ
“ระบบแคปซูลVX-1 พร้อมให้บริการคุณ โฮสต์มีคำถามใดๆหรือไม่?”
เมื่อได้ยินเสียงเครื่องจักรกลที่คุ้นเคยหลินเฉิงไม่พูดพร่ำไร้สาระอีกต่อไป เขาพูดโดยตรงในใจของเขาว่า
“ผมต้องการแลกเปลี่ยน V..V..เอ่อ มันคือแคปซูลที่คุณแนะนำ!”
“โฮสต์ ต้องการแลกเปลี่ยนแคปซูล VX-1Eใช่หรือไม่ หากโฮสต์ต้องการแลกเปลี่ยนแคปซูลเพียงแค่อ่านเมนูในใจแล้วเลือก!”
เมื่อได้คำแนะนำของระบบ หลินเฉิง ทำตามโดยอ่านเมนูในใจของเขาอย่าเงียบ จากนั้นหน้าจอโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา!
เมื่อมองไปที่หน้าจอด้วยแสงระยิบระยับสีเงิน หลินเฉิง รู้สึกตกตะลึงอยู่สักครู่หนึ่ง เขาสังเกตอย่างระมัดระวังและค่อยๆใช้นิ้วชี้ของเขาจิ้มลงไป แต่เขาพบว่านิ้วของเขาสามารถผ่านหน้าจอนี้ไปได้อย่างง่ายดาย เขาถอนหายใจอย่างเงียบๆจากนั้นดูรายการต่างๆบนหน้าจอ
เมนูเสมือนถูกแสดงออกมาให้เห็นถึงความหลากหลาย ของแคปซูล เช่น ยา,อาหาร,อาวุธ,เครื่องป้องกัน,ที่อยู่อาศัยและสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน
แต่ในตอนนี้ หลินเฉิง มี เพียงสิ่งเดียวที่เขาสามารถแลกได้ เขาคิดในใจจากนั้นหน้าจอด้านหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป แคปซูลโลหะสีเงินขนาดใกล้เคียงกับแคปซูลธรรมดาปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา จากนั้นมีคำอธิบายสั้นๆภายใต้แคปซูล
“VX-1E แคปซูลเสริมสร้างความแข็งแกร่ง..เสริมสร้างการทำงานของร่างกายและเพิ่มความต้านทาน”
เมื่อ หลินเฉิง ได้อ่านคำแนะนำสั้นๆเขารู้สึกว่าแคปซูลนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด หลังจากที่ขบคิดเกี่ยวกับมัน หลินเฉิง ก็ตัดสินใจที่จะเลือกแคปซูลนี้ออกมาด้านนอกเพื่อตรวจสอบ แต่ก่อนหน้านั้นเขาตรวจสอบเมนูอื่นๆแต่เขาไม่สามารถเข้าสู่เมนูเหล่านั้นได้ เขาจึงถามระบบ
“ระบบ ทำไมถึงเข้าหมวดแคปซูลอื่นๆไม่ได้?”
เมื่อได้ยินคำถามเสียงเครื่องจักรกลก็ตอบอย่างไม่แยแสว่า
“ตอบโฮสต์ โฮสต์ต้องอัพเกรดระบบเป็น LV.1 หรือสูงกว่านั้นเพื่อที่จะสามารถปลดล็อครายการต่างๆได้!”
LV.1 เหมือนกับการเล่นเกมอย่างนั้นหรอ?
หลินเฉิง พยายามดูระดับปัจจุบันของเขาและเขาพบเครื่องหมายระดับที่มุมล่างขวาของหน้าจอ
LV.0 ดูเหมือนว่าค่าพลังงานของเขาตอนนี้คือ 0 และระดับพลังงานที่ใช้ในการเลื่อนขั้นเป็น LV.1 นั้นคือ 100 สิ่งนี้ทำให้ หลินเฉิง แทบร้องไห้
“ระบบ!ระบบ!คุณบอกว่าจะได้รับพลังงานจากการต่อสู้ แต่คุณไม่ได้บอกว่าต่อสู้กับอะไร?”
“ตอบโฮสต์ ท่านจะได้รับพลังงานสะสมผ่านการต่อสู้ และไม่ทราบถึงวิธีต่อสู้ ไม่ทราบถึงรูปแบบ ไม่ทราบถึงลักษณะศัตรู เรื่องนี้โฮสต์ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง!"
ดูเหมือน...ว่าต้องพึ่งพาตัวเอง
เมื่อได้ยินเสียงจักรกลที่ปัดความรับผิดชอบ หลินเฉิง ได้เพียงแต่ยอมรับเท่านั้น
ในสังคมที่ยังคงรูปแบบความสงบสุขเช่นนี้เขาควรที่จะต่อสู้กับใคร?แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าใครต้องการต่อสู้กับเขา?สิ่งสำคัญที่สุดเขาไม่รู้ว่าต้องต่อสู้มากขนาดไหน!”
หลินเฉิง ส่ายหัวตัวเองอย่างจนใจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเขาเขาจำเป็นต้องจัดการกับแคปซูลยาที่ได้รับมาก่อน
----------------------------------------------