SC:บทที่ 10 ใบมีดบิ่น
หลินเฉิง ค่อนข้างหดหู่หลังจากการล้มเหลวในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เขาเปิดไปที่เมนูแคปซูลและอ่านรายละเอียดอีกครั้ง ในตอนท้ายของคำแนะนำมีเขียนไว้ว่าการเปลี่ยนเป็นแคปซูลปืนพกนั้นต้องใช้พลังงาน 50 คะแนน
บัดซบ!
เขาเพิ่งจะรู้สึกดีและมีความมั่นใจที่เขาได้รับค่าพลังงานมาแต่เมื่อเขาต้องการเปลี่ยนเป็นปืนพกเขาต้องเจอกับความเจ็บปวดที่แทบจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
เขาทำงานอย่างหนักเมื่อวานเพื่อสะสมค่าพลังงาน 11 คะแนน เพิ่ง 10 คะแนนได้รับมาจากตัวกินคน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขาโชคดีขนาดไหนที่สามารถฆ่าตัวกินคนได้ และ หลินเฉิง ไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับมันอีกครั้งในเวลาอันใกล้นี้ ตอนนี้เขาขาดค่าพลังงานถึง 39 คะแนนนั่นหมายความว่าเขาจะต้องสังหารซอมบี้เกือบ 40 คน!
โอ้….
หลินเฉิง ถอนหายใจ เขาไม่ใช่นักฆ่าที่กระหายเลือดแต่ตอนนี้เขาจะต้องลงมือฆ่าคนอีกมากมาย แม้ว่าเขาจะเตรียมตัวมาแล้วแต่เขายังรู้สึกปรับตัวได้ยาก เขาส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องไปหาป้าฉินให้ได้ดังนั้นเขาควรที่จะเด็ดขาดมากกว่านี้
เมื่อคิดทบทวนถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง เริ่มเช็คใบหน้าของเขาและแต่งตัวให้เรียบร้อยจากนั้นหยิบขวานไฟออกไปและเตรียมตัวที่จะออกไปเผชิญด้านนอก
ก่อนที่เขาจะออกไปเขารู้สึกถึงว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลินเฉิง รีบยกขวานขึ้นมาดูแล้วพบว่าใบมีดของมันบิ่นซะแล้ว
เป็นจริงเหรอเนี่ย!!
ฉันเพิ่งสับสัตว์ประหลาดไป 2 ตัวเมื่อวานนี้ แต่ใบมีดกลับบิ่นซะแล้ว ผิวหนังของตัวกินคนทำให้ขวานไฟชำรุดได้อย่างรวดเร็ว เรื่องนี้มันทำให้ หลินเฉิง รู้สึกเหลือเชื่อ แต่เขาคิดว่ามันมีแค่เรื่องนี้เท่านั้นเพราะว่าขวานนี้ถูกนำออกมาจากตู้ดับเพลิงเมื่อวานนี้ และเขาสังเกตมันอย่างระมัดระวังว่ามันเป็นขวานใหม่เอี่ยมอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาพบกับซอมบี้ตัวแรก แม้จะโจมตีอย่างรุนแรงแต่ใบมีดที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อที่เปลื้อนนั้นยังคงเต็มไปด้วยความใหม่และคม
แต่ในเวลานี้เกิดรอยบิ่นบนใบมีดของขวาน ถ้าจะบอกว่าเขาใช้ในการตอกตะปูเมื่อคืนมันไม่น่าจะใช่ เขาไม่ได้ใช้ทางใบมีดในการทุบตะปูซะหน่อย!
หลังจากเปรียบเทียบเรื่องราวต่างๆแล้วในที่สุด หลินเฉิง ก็พบว่าการที่ขวานของเขาชำรุดต้องมาจากตัวกินคนอย่างแน่นอน!
เขารู้สึกปวดใจเล็กน้อย อาวุธเย็นของเขากลับกลายเป็นใบมีดทื่อ หากเจอสถานการณ์ฉุกเฉินเขาจะอยู่ในอันตราย
เขาควรทำอย่างไรดี?
เขาคงต้องขโมยขวานไฟทั้งหมดในโรงแรมแห่งนี้แล้วใช้มันไปซักระยะหนึ่ง เขาไม่แน่ใจว่าจะมีขวานไฟสักเท่าไหร่ในโรงแรมแห่งนี้ และเขาจะโชคดีเจอตัวกินคนอย่างเมื่อวานอีกหรือไม่ หากเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูขวานไฟของเขาคงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ คงมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่ และเขายังต้องเดินทางไปยังเมืองเซียงโจวอย่างรวดเร็ว ในระหว่างเดินทางเข้าจะต้องเจอตัวกินคนอีกมากมายมันเป็นการพูดยากที่จะให้เขาแบกขวานหลาย 10 อันบนหลังของเขาในขณะเดินทางไปด้วย
เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วจึงรู้สึกหดหู่เขานั่งอยู่บนโซฟาและถอนหายใจจากนั้นเข้าไปในระบบเมนูอีกครั้ง
เมื่อเข้าไปยังเมนูอาวุธเขามองตัวเลือก 2 ตัวเลือก แต่คราวนี้เขาให้ความสนใจกับอาวุธเย็นแทน
“มีดตรง….ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน...ค่าพลังงานที่ใช้แลกเปลี่ยน. 50 คะแนน”
หลังจากเข้าสู่ตัวเลือกอาวุธเย็นแล้ว หลินเฉิง มองแคปซูลสีเงินที่ลอยอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาในตอนนี้ หลังจากที่เขาอ่านคำแนะนำเขาก็แทบจะสูญเสียคำพูดเช่นเดิม เขาได้เพียงแต่กระพริบตาด้วยความท้อใจเท่านั้น
ในตอนแรกเขาแค่อยากแลกเปลี่ยนเป็นปืนเพื่อที่จะใช้ยับยั้งซอมบี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อต้องเจอกับเรื่องซับซ้อนเช่นใบมีดของขวานบิ่นทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิด
เขามีเพียงพลังงานแค่ 11 คะแนนหลังจากที่สำรวจเมื่อวานถ้าเขายังคงไล่ล่าซอมบี้ที่อยู่ในโรงแรมนี้เขาเพียงพอที่จะสามารถแลกเปลี่ยนอาวุธได้ แต่เขาคงมีเพียงแค่โอกาสเดียว นั่นคือเหตุผลที่เขาจะต้องเลือกอาวุธที่มีความสำคัญที่สุดในตอนนี้
หากเขาเลือกปืนพก มันคงมีพลังในการยับยั้งซอมบี้มากกว่าแต่ เสียงของปืนพกนั้นเสียงดังเกินไปมันอาจชักนำให้ซอมบี้และตัวกินคนพุ่งตรงเป้าหมายมายังเขา เรื่องนี้เขาไม่ต้องการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกระสุนปืนของปืนพกในการใช้แต่ละครั้งบริโภคค่าพลังงาน 1 คะแนน แม้จะเป็นเรื่องดีที่มีกระสุนปืนอยู่ในตัวปืนตลอดเวลาแต่มันหมายความว่ากระสุนปืนเหล่านั้นบริโภคค่าพลังงานของเขาอย่างน่ากลัว และถ้าหากเลือกอาวุธเย็นทุกๆอย่างก็แค่กลับไปยังจุดเริ่มต้น
นอกจากนี้ถ้าเขาพยายามทำงานอย่างหนักและฆ่าซอมบี้ไปเรื่อยๆเพื่อสะสมค่าพลังงาน ค่าพลังงานของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลินเฉิง มั่นใจว่า มีดตรงที่เขาต้องใช้พลังงานถึง 50 คะแนนนั้นจะต้องสามารถจัดการกับตัวกินคนได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฉิง ก็ตัดสินใจที่จะฆ่าซอมบี้ให้มากที่สุดแล้วเปลี่ยนเป็นอาวุธมีด สำหรับเรื่องปืนพกนั้นเขาเก็บไว้คิดในตอนหลัง
หลินเฉิง ตัดสินใจที่จะหยิบขวานไฟขึ้นมาอีกครั้งแล้วจะใช้มันเป็นอาวุธชั่วคราวหลังจากนั้นเขาจะเปลี่ยนเป็นมีดตรง
หลินเฉิง เฝ้าฟังเสียงที่ประตูอยู่สักครู่หนึ่งและเมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวใดๆนอกประตูเขาเปิดประตูออกไปและลงบันไดเพียงแค่เขามาถึงชั้น 8 เขาก็ได้ยินเสียงคนเรียกเขา
การเรียกของคนคนนี้เป็นเสียงเบาๆ เขาแทบจะไม่ได้ยินหากเขาไม่ได้ดื่มยาเสริมสร้างประสาทสัมผัสของเขาก่อนหน้านี้เขาคงจะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้น
เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียก หลินเฉิง ขมวดคิ้วและหันไปมองกับแหล่งกำเนิดเสียงพบว่าเป็นประตูตรงข้ามบันไดเปิดออกเล็กน้อยในเวลานี้
คนที่อยู่ด้านหลังประตูพยายามเรียกอย่างเร่งด่วนเขาเร่งเร้าให้ หลินเฉิง มาหา การที่เขาเปิดประตูมันเสี่ยงที่จะถูกพบโดยสัตว์ประหลาดเหล่านั้นดังนั้นเขาจึงเร่งรีบให้ หลินเฉิง มาหาเขาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ หลินเฉิง มาถึงประตูเขามองผ่านเข้าไปยังรอยแง้มและพบว่า…..
-----------------------------------------