px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 160 จดหมาย


ที่สำคัญคือเขาไม่ได้แสดงความอคติให้จักรพรรดิได้เห็น เพื่อให้องค์จักรพรรดิได้เห็นว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจนี้

ซิง หยวนกู คิดอย่างรอบคอบก่อนให้คำตอบ

“เรียนท่านจักรพรรดิ เจ้าหน้าที่ต่างเชื่อว่าองค์รัชทายาทพยายามที่จะปฏิบัติตามกฎของราชวงศ์อย่างเคร่งครัด ส่วนเจ้าหน้าที่ฮันก็มีประสบการณ์การคุมสอบมานับครั้งไม่ถ้วน เขาสามารถมองเห็นผู้ที่มีพรสวรรค์ได้ เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าจะเลือกเขาเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบ ในด้านของราชาต้วนนั้น เขามีประสบการณ์ในด้านอื่นๆมากกว่า ถ้าให้เขาเป็นผู้คอยช่วยเหลือจะทำให้ทั้งเขาและเจ้าหน้าที่ฮันได้เรียนรู้ซึ่งกันละกัน แต่มันจะทำให้องค์รัชทายาทคิดว่าท่านไม่เชื่อใจเขา ข้าแนะนำให้คานอำนาจของทั้ง 3 คน!”

 

“คานอำนาจ?” เสียงขององค์จักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความแปลกใจ

“เจ้าหน้าที่ฮันเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบ ส่วนราชาต้วนและเจ้าชายรัชทายาทเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้องค์รัชทายาทไม่รู้สึกว่าเป็นศัตรูและราชาต้วนจะได้ประสบการณ์และเติบโตขึ้น!”

“อืม ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล แต่ข้าควรจะส่งคนอื่นไปด้วยไหม?”

“นี่ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของท่าน แต่ข้ายังคิดถึงคนที่เหมาะสมไม่ได้ในปัจจุบัน” ซิง หยวนกู ถ้าพูดอะไรมากไปกว่านี้จะเป็นอันตรายกับตัวเองได้

 

“ฮ่าฮ่า...เจ้าก็ยังเป็นเจ้าเช่นเดิม งั้นนานๆทีเจ้าจะมาหาข้า ไปเดินเล่นที่สวนกันหน่อยไหม” เสียงของจักรพรรดิแสดงถึงความผ่อนคลายออกมา

“รับทราบ!”

ซิง หยวนกู ตอบทันที และถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา เขาพลันนึกไปถึงตอนที่เขาคุยกับ ฉือ กูเหยียน เรื่องการทดสอบจักรพรรดิ “ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิทรงตามใจนาง นางเป็นคนที่มีพรสวรรค์! เจ้าฟาง เจิ้งจือ ? ข้าคิดว่าเขาก็เป็นได้แค่ตัวตลกเท่านั้น!”

 

แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางรู้ที่ ซิง หยวนกู คิดแน่นอน ตอนนี้เขากำลังนั่งกินอาหารอย่างอิ่มอร่อยอยู่กับ เหยียน ซิว

อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ดูลังเล

“มีอะไรงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว

“เกี่ยวกับ...การสะท้อนของกระจกที่เจ้าบอกข้าก่อนหน้านี้ ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร” เหยียน ซิว พยายามคิดวิธีฝึกด้วยตัวเองตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องยากที่จะถามใครขึ้นมา

“การสะท้อนของกระจก?” ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจ เพราะโลกใบนี้มีเพียงกฎแห่งเต๋า ไม่มีการทดลองวิทยาศาสตร์อะไรทั้งนั้น

ทฤษฎีการสะท้อนของกระจกเป็นเรื่องที่ทุกคนในโลกก่อนนั้นเข้าใจกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามสำหรับ เหยียน ซิว นั้นเป็นเรื่องที่ต่างกัน

 

“งั้นมาทดลองกัน!”

“ทดลอง? ได้!” เหยียน ซิว ไม่เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ หมายถึงอะไร แต่ ฟาง เจิ้งจือ คงจะพยายามทำบางอย่างให้เขาเห็น

ขณะที่ เหยียน ซิว คิด ฟาง เจิ้งจือ ก็ตามพนักงานมาเพื่อขอเทียนและกระดาษขาว

พนักงานรีบนำมาให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว

ไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย สิ่งที่ขาดคือเลนส์นูน

แต่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ฟาง เจิ้งจือ เขาเสกก้อนน้ำแข็งขึ้นมาและทำให้มันมีลักษณะคล้ายเลนส์นูน

ฟาง เจิ้งจือ ใช้การทดลองง่ายๆเพื่อแสดงให้เห็นว่าภาพกลับหัวจากกระจกนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง

ขณะที่เขาทำ เขาก็คอยอธิบายให้ เหยียน ซิว ฟังไปด้วย

 

“เมื่ออยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ มิติพิเศษในจิตใจของเจ้าก็เหมือนภาพสะท้อนของความเป็นจริง จากนั้นก็พยายามผสานอะไรก็ตามที่อยู่ในมิติพิเศษกับโลกภายนอกให้ได้ มันง่ายมาก เจ้าสามารถลองทำมันได้”

“ง่าย?” เหยียน ซิว คิดว่าที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดไม่ถูกต้องเท่าไรนัก ไม่งั้นคงไม่มีคนติดอยู่ที่ระดับผนวกดารามากมายขนาดนี้

แต่เขาก็ไม่ได้สงสัยในตัว ฟาง เจิ้งจือ เพราะความเป็นจริง ฟาง เจิ้งจือ ทำมันไดสำเร็จแล้ว

จากนั้น...

 

เขาพยายามจะทำตามที่ ฟาง เจิ้งจือ บอก

ด้วยความรวดเร็วเขารู้สึกว่ามิติพิเศษของเขาเริ่มเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ ทำให้เขาแปลกใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่ ฟาง เจิ้งจือ บอก

เหยียน ซิว ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับมิติที่เกิดจากภาพสะท้อนของโลกจริง ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้มีพื้นฐานแบบ ฟาง เจิ้งจือ

ดังนั้น ฟาง เจิ้งจือ จึงให้กุญแจที่จะทำให้เขาเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ได้

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงมั่นใจว่าต่อให้เขาเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ไม่ได้ตอนนี้ แต่ในอนาคตเขาต้องทำได้แน่นอน

“ขอบใจมาก!” เหยียน ซิว พูดออกมาด้วยความจริงใจ

“ด้วยความยินดี เมื่อกลับมาข้าจะแสดงการทดลองให้เจ้าดูอีกเล็กน้อย!”

 

ไม่กี่วันถัดมา ตอนบ่าย....ดวงอาทิตย์กำลังส่องกระทบดอกไม้ในสวนที่พักของ ปิง หยาง กลิ่นอันอบอวลลอยไปทั่ว

“เป็นยังไง เจ้าส่งคำเชิญไปยัง?” ปิง หยาง ถามคนรับใช้วัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า

“เรียนนายท่าน คำเชิญ..” ชายวัยกลางคนลังเล

“เจ้าไม่ได้ส่งมันไปงั้นหรือ?”

 

“ไม่ ไม่... ข้าส่งมันไปด้วยตัวเอง” ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงทันที เมื่อเห็น ปิง หยาง เริ่มหงุดหงิด

“เยี่ยม เขาตอบรับอย่างยินดีใช่หรือไม่?” ปิง หยาง ยิ้มขึ้นมาทันที

“อืม...นายน้อยฟาง ไม่คิดจะเปิดอ่านแม้แต่น้อย และฉีกมันทิ้งทันที”

“อะไรนะ?! เขาฉีกมันทิ้ง? ข้าเชิญเขามางานวันเกิด แต่เขากลับฉีกมันทิ้ง? เขาพูดว่ายังไงบ้าง?” รอยยิ้มของ ปิง หยาง แข็งค้างไปทันที

 

“เรียนนายท่าน เขา...บอกว่าไม่รู้จักเมืองหลวงมากมายเท่าไรนัก ใครที่ส่งจดหมายมา อาจจะต้องการหลอกใช้ประโยชน์จากเขา หรืออาจจะต้องการปล้นเขาก็ได้...โง่!”

“หา? ข้าเนี่ยนะจะไปปล้นเขา? ได้! ข้าต้องทำให้เจ้ารู้สึกทรมารให้ได้!” ปิง หยาง รู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามนางก็รีบควบคุมตัวเองอย่างรวดเร็ว

“เอาปากกาและกระดาษมาให้ข้า!”

“รับทราบ!”

จากนั้นสักพักชายวัยกลางคนก็นำกระดาษและปากกามาให้

ไม่นานนางก็ส่งจดหมายไปให้ชายวัยกลางคน

เขาไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเอง

“จดหมาย..จดหมายรัก?!”

 

ปิง หยาง เขียนจดหมายรัก ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นจดหมายรักที่เร่าร้อนเป็นอย่างมาก ทุกถ้อยคำถูกคัดสรรมาเพื่อกระตุ้นผู้ชาย

ปิดท้ายด้วย

“ข้าหวังว่าพวกเราจะได้พบกันที่ ที่พักของ ปิง หยาง!”

เมื่อนางเขียนเสร็จจึงนำมันใส่ซองจดหมาย แต่เมื่อนางปิดผนึกเสร็จ นางรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองจึงเขียนชื่อคน คนหนึ่งไว้ด้านล่าง

“ฉือ กูเหยียน!”

หลังจากเขียนเสร็จ นางยิ้มให้ตัวเองทันที

“ดูให้แน่ใจว่าเขาอ่านและลงชื่อมาเรียบร้อย เข้าใจไหม”

“รับทราบ!” ชายวัยกลางคนพยักหน้า

นี่มันจดหมายรักปลอม!

แต่ ฉือ กูเหยียน จะทำอะไรกับนางไหม นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องถาม เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างพวกนางสองคน!

 

ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างเบื่อ เพราะหลังจากที่ เหยียน ซิว ฟังเขาเสร็จ ก็เก็บตัวอยู่ในห้องทันที

ฟาง เจิ้งจือ จึงเดินไปหาสวนเพื่อนั่งพักผ่อนและจิบชา

ทันใดนั้นเขาเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา

ฟาง เจิ้งจือ จำเขาได้ เขาคือคนที่ส่งคำเชิญให้ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนหน้านี้

 

2 คำเชิญ ในวันเดียว?

ชายวัยกลางคนรีบวิ่งมาหน้า ฟาง เจิ้งจือ และก้มหัวให้ทันที และยืนจดหมายให้ ฟาง เจิ้งจือ

 

ฟาง เจิ้งจือ รับมาและมองลงไป

“ฉือ กูเหยียน?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนก็มองกลับมาเช่นกัน

“นางหวังว่าจะพบท่านที่ที่พักของ ปิง หยาง!” ชายวัยกลางคนพูดอย่างระมัดระวัง เขาไม่มีทางเลือก

“พบนาง? ฝันไปเถอะ!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนขึ้นมาทันที

จากนั้นเขาก็ฉีกกระดาษทิ้งต่อหน้าต่อตาชายวัยกลางคนทันที

 

“บอกฉือ กูเหยียน ว่าข้ายุ่งมาก!” ฟาง เจิ้งจือ ยังคงจิบชาต่อไป เมินเฉิยต่อชายวัยกลางคนที่ยืนตัวแข็งค้างอยู่

เขาไม่อยากจะเชื่อ

มันคือจดหมายของ ฉือ กูเหยียน!

ต่อให้มันเป็นของปลอมก็ตาม...

ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะอ่านมันหน่อยหรือไงกัน?

 

ด้วยความรวดเร็ว ปิง หยาง ก็เป็นอีกคนที่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความสุขของนางหายไปทันทีเมื่อได้ยิน

“เจ้าบอกว่าเขาฉีกจดหมายข้า?! เจ้าแน่ใจนะว่าเขาเห็นชื่อ ฉือ กูเหยียน แล้ว?” ปิง หยาง ไม่เชื่อ อย่างไรก็ตามนางรู้ดีว่า ชายวัยกลางคนไม่มีทางโกหกนางแน่นอน

“ข้าแน่ใจ!” ชายวัยกลางคนตอบ

 

“แต่เขายังจะฉีกอีก?”

“ใช่ เขาฉีกโดยไม่เปิดอ่านเลยแม้แต่น้อย!”

 

เพจหลัก : Double gate TH

รีวิวผู้อ่าน