px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 184 ชุดเกราะเปลวเพลิง


เขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ สลับกับ ปิง หยาง ก่อนที่จะกำหมัดแน่น

" ฟาง เจิ้งจือ เจ้าดูว่างมากเลยนะ?"

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้เขากำลังเจอกับเรื่องไร้สาระอยู่

 

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า ปิง หยาง ต้องการอะไร

นางต้องการท้าทายผู้ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ความสามารถตนเอง? ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปเลือกจะทำ

ปิง หยาง เองก็อยู่ในระดับผนวกดารา นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?

"องค์หญิงข้าขอโทษ!" หวัง ฉวนปิง เองก็เข้าใจ ตอนนี้เขาอายุ 36 ปีแล้ว การแข่งขันนั้นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาไม่คิดจะทิ้งโอกาสในครั้งนี้ไป

นอกจากนี้ ปิง หยาง ยังได้ขอให้เขาทำทีเป็นพ่ายแพ้ให้กับนาง ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือ มั่นใจว่าตัวเองจะไม่บาดเจ็บ

ปิง หยาง ยิ้มเมื่อมองไปที่ หวัง ฉวนปิง

 

จากนั้น

เรื่องที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้น

ปิง หยาง โจมตี

นางกระโดดขึ้นไปบนอากาศ และเตะไปที่ หวัง เฉินปิง แม้นางจะเทียบกับเขาไม่ได้ด้านระดับพลัง แต่นางก็ไม่แพ้เรื่องพละกำลังและความเร็ว

หวัง เฉินปิง ไม่ได้เคลื่อนไหว เขาไม่ได้คิดที่จะหนี

 

ถ้าเขาหลบ แล้วความแตกต่างระหว่างระดับพลังจะมีไปเพื่ออะไรกัน?

 

"ปึง!"

 

ปิง หยาง หยุดอยู่กลางอากาศ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น ทำให้นางไม่สามารถเข้าไปใกล้มากกว่านี้ได้

"ผนวกดาราต่อกรกับสะท้อนสวรรค์? มัยดูเหมือนไม่ใช่การต่อสู้กันเท่าไร... "

 

"แต่นางคือ ปิง หยาง!"

คนอื่นที่ยืนดูต่างถกเถียงกัน แต่มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป

ปิง หยาง ที่กำลังตกอยู่ในความยากลำบาก อยู่ก็มีไฟลุกท่วม มันคือเปลวไฟของจริง และมันได้เผาเสื้อคลุมของนางจนกลายเป็นขี้เถ้า

ขี้เถ้าลอยปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

อย่างไรก็ตาม ตรงกลางของกองขี้เถ้าน้้น มี ปิง หยาง ที่ยืนอยู่ด้วยความมั่นใจ

ชุดเกราะสีแดงปกคลุมร่างกายนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

มันเป็นชุดเกราะสำหรับสุภาพสตรี มันถูกประดับด้วยดอกไม้และเกล็ดคริสตัลสีแดง แต่ละเกล็ดปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมา

 

"เกราะดอกไม้แดง!"

ผู้เข้าร่วมทุกคนรวมถึง ซู ตงหลิน ต่างรู้ในทันทีเมื่อมองไปที่ชุดเกราะ

ใช่แน่นอน

นางคือ ปิง หยาง ที่องค์จักรพรรดิรักใคร่เอ็นดูมากที่สุด มันเป็นเรื่องปกติที่นางจะมีสมบัติที่ดีที่สุดในอาณาจักร!

ตราบเท่าที่นางสวมชุดเกราะนี้ แม้แต่ ซู ตงหลิน ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้

หวัง ฉวนปิง ที่ยืนอยู่ นั้นแทบไม่สงสัยเลย

แต่มีแค่เกราะจะเพียงพอหรือไม่?

มันเพียงพอแน่นอนถ้าใช้ร่วมกับสิ่งอื่น

 

"โฮก!" เสียงคำรามอันโหดร้ายดังขึ้น เปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของ ปิง หยาง

ภายใต้เปลวไฟมีจุดสีทองจุดหนึ่ง

และเมื่อรูปร่างของมันปรากฎออกมา มันเต็มไปด้วยไอแห่งความตายและสิ้นหวัง

"หอกเปลวเพลิง ฉีหลิน!"

"หนึ่งในสิบสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเซี่ย!"

"องค์จักรพรรดิได้มอบมันให้กับ ... "

ผู้เข้าสอบทุกคนล้วนตกใจเมื่อเห็น ปิง หยาง ถือหอกเปลวไฟ ฉีหลิน

 

พวกเขาแค่เคยได้ยินข่าวลือว่าองค์จักรพรรดิได้มอบมันให้กับ ปิง หยาง ที่งานวันเกิดของนาง แต่ไม่มีใครเคยเห้นด้วยตาตัวเองมาก่อน

จนถึงวันนี้...

หอกเปลวเพลิงได้ปราฎออกมาให้ทุกคนได้เห็น

หญิงสาวที่เป็นดังปีศาจแห่งเมืองหลวง ตอนนี้นางไม่เพียงแต่สวมเกราะอันล้ำค่าเท่านั้น อาวุธของนางเองก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน ตอนนี้...นางคงยากที่ใครจะต่อกรมากกว่าเดิม

หรือจะพูดให้ถูกแล้ว ไม่มีใครกล้าโจมตี ปิง หยาง

 

อย่างไรก็ตาม คำว่ากล้าทำกับสามารถทำได้ นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อธิบายง่ายๆ...

ก่อนหน้านี้ พวกเขามีความสามารถในการปกป้องตัวเอง ตอนนี้ ปิง หยาง มีหอกเปลวเพลิงอยู่ในมือ นางสามารถทำลายการป้องกันของพวกเขาได้

ฟาง เจิ้งจือ เคยได้ยินชื่อของ หอกฉีหลิน ตอนที่องค์จักรพรรดิพูดถึงมันในงานวันเกิด ปิง หยาง

วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหอกนี้กับตาตัวเอง

 

มันเป็นหอกสีแดง ปลายหอกเป็นมุกสีทอง แสงที่ไหลเข้ามาภายในมุก นั้นทำให้มันเหมือนกำลังดูดเลือดอยู่

ด้านล่างไข่มุกนั้นคล้ายกับเกล็ด ทอดยาวไปจนถึงสุดปลายด้ามหอก

"หอกที่ดี!" แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไม่รู้จักหอก แต่การที่จะบอกได้ว่าเป็นหอกดีหรือไม่ก็ใช่ว่าจำเป็นที่จะต้องเป็นอัจฉริยะเท่านั้นถึงทำได้

ความสงบนั้นถูกแทนที่ด้วยแสงสีแดงเข้ม

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ที่ ปิง หยาง บอกว่าถ้าไม่โจมตีนาง นางจะบุกไปถึงบ้านเขา

 

ในฐานะของผนวกดารา นางไม่มีอะไรต้องกลัว

เพราะแค่การป้องกันของ ชุดเกราะดอกไม้เพลิง และ หอกเปลวเพลิงฉีหลิน นั้นก็น่าหวาดกลัวอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว

ปิง หยาง ยิ้มขณะเงยหน้าขึ้น นางมองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ โดยไม่ตั้งใจ ขณะที่ชี้หอกไปที่ หวัง ฉวนปิง

"ย้ากกก!" นางร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิงก่อนจะพุ่งเข้าใส่ หวัง ฉวนปิง ตรงกลางของเปลวเพลิง มีจุดสีทองเล็งไปที่คอของ หวัง ฉวนปิง

เขาต้องการจะหนี แต่ตอนนี้ขาของเขานั้นกลับหนักอึง

เขาต้องการที่จะปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตามลมที่เขาสามารถควบคุมได้ มันสามารถปัดเปลวเพลิงออกไป แต่ไม่ใช่แสงสีทอง

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน!

นี่คือหอกฉีหลิน หอกที่สามารถเจาะได้ทุกอย่าง

 

เพราะคุณสมบัติของมันเช่นนี้ มันจึงถือเป็น 1 ใน 10 สมบัติของอาณาจักร

แสงสีทองหยุดลง

มันหยุดลงห่างประมาณ 1 นิ้วจากคอ หวัง ฉวนปิง

 

เขากำลังนั่งอยู่บนพื้น เขานั้นประเมิณศัตรูต่ำไป ถ้าเขาย้อนกลับไปได้และเว้นระยะห่างกับ ปิง หยาง เขาคงไม่แพ้รวดเร็วแบบนี้

"เป็นยังไงละ?" ปิง หยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจและหันไปมอง เหยียน ซิว แทน

เหยียน ซิว นั้นเข้าใจดีว่า ฟาง เจิ้งจือ ถามอะไร เขาพยักหน้า

จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พยักหน้าให้กับ ปิง หยาง

"ก็ไม่เลว!"

"ไม่เลว?! เจ้า..."  ปิง หยาง อยากจะกัดลิ้นตาย ตัวนางรวมกับหอกนั่น ไม่มีทางได้แค่คำว่า 'ไม่เลว' ไม่มีใครสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของนางคือรวมกลุ่มกับ ฟาง เจิ้งจือ เพื่อตามหาดาบในตำนาน

ถึงแม้ว่า...

ความเป็นไปได้จะต่ำ แต่นางคิดว่า ถ้ามีใครสักคนที่เจอมัน แน่นอนว่าต้องเป็น ฟาง เจิ้งจือ

คนที่สามารถจบการสอบทั้งหมดควรรู้ว่าโลกนี้ดีใช่ไหม?

 

นั่นคือสิ่งที่ ปิง หยาง คิด

อืมแต่ถ้า...ปิง หยาง รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่รู้จัก เมิ่ง เทียน นางจะไม่มีทางคิดนั้นแน่นอน...

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไปก่อนจะยอมรับข้อตกลงของ ปิง หยางจากนั้นเขาก็เดินไปหา หวัง ฉวนปิง

"เจ้าแพ้แล้ว!"

 

"ใช่..." หวัง ฉวนปิง ไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่มันเป็นเรื่องจริง

"การทดสอบระดับจัรพรรดิทุก 2 ปีจะมีจัดขึ้นครั้งหนึ่ง และแต่ละครั้งมักจะยากขึ้นเรื่อยๆเจ้าต้องการที่จะออกจากการทดสอบไปแบบนี้รึ? " ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมา

"แน่นอนว่าไม่ แต่ ... " ในตาของ หวัง ฉวนปิง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้

 

"เจ้าต้องการโอกาสครั้งที่ 2ไหม?" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอย่างสดใส

"ครั้งที่ 2 ... โอกาสครั้งที่2 ?!" หวัง ฉวนปิง ลุกขึ้น เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดเลยแม้แต่น้อย

 

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

รีวิวผู้อ่าน