px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 187 สะท้อนสวรรค์คนที่ 3


เหยียน ซิว ยังคงมีท่าทีที่เยือกเย็นอยู่เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ร่างของเขาถูกรอบล้อมไปด้วยแสงสีเขียวราวกับกลุ่มใบไม้ที่ห่อหุ้มร่างกาย

นอกจากนี้ที่ผิวของเขาถูกปกคลุมด้วยสสารสีเทา มันดูคล้ายกับกิ่งก้านของต้นไม้

 

"เขตแดน!"

"ไม้...ไม่..นั่นมันเขตแดนผืนป่า!"

ผู้เข้าร่วมการทดสอบต่างไม่สามารถปิดบังความตกใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้

 

เหยียน ซิว ยืนอยู่ภายใต้การป้องกันของต้นไม้ใหญ่

นี่หรือว่าเขา ...

เหยียน ซิว อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์แล้ว!

นานนับศตวรรษแล้วที่ไม่มีใครที่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ก่อนอายุ 18 ปีเลย จนกระทั่ง ฉือ กูเหยียน...

และไม่นานมานี้ก็ ฟาง เจิ้งจือ อีก มันทำให้เขาเป็นคนที่อายุน้อยคนที่ 2 ที่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้

ภายในไม่กี่ปีมานี้กลับ มีผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี สามารถเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้

 

มันช่างน่าอัศจรรย์

 

และในตอนนี้...

 

เหยียน ซิว ที่อายุ 16 ปี

เขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในระหว่างการทดสอบ

 

ไม่มีใครเชื่อในสายตาของตัวเอง

เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ก่อนอายุ 18 ?!

ข้อแรกช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ข้อสองมันช่างบังเอิญจริง และข้อสาม ...

 

มันเป็นเรื่องที่ทำให้แผ่นดินต้องสั่นสะเทือน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่า ฉือ กูเหยียน และ ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงระดับพลังได้ ตอนนี้ยังมี เหยียน ซิว อีก เรื่องนี้คงไม่น่าตื่นตกใจขนาดนี้

อันดับสูงบนทำเนียบมมังกรทั้งสอง

เหยียน ซิว อายุได้เพียง 16 ปี เขาถูกจัดอยู่ในทำเนียบมังกรซ่อน

 

เขายังมีเวลาอีก 2 ปี และหลายๆอย่างจะเกิดขึ้นใน 2 ปีนี้

 

เขาจึงถือว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่อาจจะอยู่ในคำทำนาย

...

 

ภายในโรงเรียนหลวง ราชาต้วนและ ฮัน ฉางเฟิง จ้องมองไปที่ภาพฉาย พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตัวเองเลย

"นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!"

 

"เหยียน ซิว เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์แล้ว?"

 

"เหยียน ซิว จากตระกูลเหยียน ... "

ราชาต้วน มองไปที่ ฮัน ฉางเฟิง และ ฮัน ฉางเฟิง เองก็มองมาที่ราชาต้วนเช่นเดียวกันพวกเขาต่างก็คิดเหมือนกัน

 

เมื่อพวกเขาคิดถึงอนาคต

ฮัน ฉางเฟิง นั้นคิดว่าพวกเขาจะบ่มเพาะมังกรของพวกเขาขึ้นมาเอง ดังนั้นพวกเขาก็ควรจะกำจัดอุปสรคคไปเสียก่อน

พวกเขาสามารถกำจัด ฟาง เจิ้งจือ ออกไปได้ โดยอ้างเพื่อความมั่นคงของอาณาจักร

 

แต่ถ้าหากว่าเขาคนนั้นเป็น เหยียน ซิว ล่ะ?

ฮัน ฉางเฟิง ขมวดคิ้ว เขาไม่สามารถทำกับ เหยียน ซิว ได้

 

ถ้าหากคนของตระกูลเหยียนรู้ว่า เหยียน ซิว ตกอยู่ในอันตรายพวกเขาคงไม่อยู่เฉยแน่

 

ราชาต้วนนั้นต่างจาก ฮัน ฉางเฟิง เขาต้องการที่จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เขาต้องการที่จะปกครองอาณาจักรเซี่ย นั่นคือตำแหน่งที่หาเปรียบมิได้ ชื่อเสียง พละกำลัง ความมั่งคั่ง

นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ

อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมาย ราชาต้วนต้องกำจัดเสี้ยนหนามที่คอยขวางทางเขาให้สิ้นไป

 

ถ้าคนในคำทำนายเป็น เหยียน ซิว จริงๆ ...

เขาจะทำอะไรได้?

องค์ชาย9 ถอนหายใจเล็กน้อย  อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเขารู้สึกโล่งใจเรื่องอะไร

...

"เหยียน ซิว อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์!"

"เหยียน ซิว พึ่งจะอายุได้ 16 ปีแท้ๆ!"

 

ผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดในโลกแห่งเซียนต่างจ้องมองมาที่ เหยียน ซิว

ซู ตงหลิน รู้สึกถึงกระแสของการต่อสู้ ในตอนนี้เขาอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ พัดภูเขาและแม่น้ำ ของเขาจะยิ่งทวีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

พัดภูเขาและแม่น้ำ สวรรค์และโลกนั้นสะท้อนให้เห็นถึงพลังของผู้ที่ใช้มัน

 

นอกจากนี้พัดนั้นยังมีเขตแดนเป็นของตัวเอง

 

ซู ตงหลิน ไม่มีความกล้าพอที่จะเป็นศัตรูกับคนที่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตั้งแต่อายุ 16 

เหยียน ซิว นั้นต่างจาก ฟาง เจิ้งจือ

 

เหยียน ซิว มีตระกูลเหยียนที่น่ากลัวคอยหนุนหลังเขาอยู่

 

 

เขาไม่สามารถทำตามแผนเดิมได้แล้ว

 

แววตาของเขาลุกโชนและกัดฟันแน่น เขาหันไปจ้องที่ ฟาง เจิ้งจือ แทน

ถ้า เหยียน ซิว อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์แล้ว คนที่อ่อนแอที่สุดก็คือ ฟาง เจิ้งจือ

นี่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่ไม่ง่ายเลยที่จะทำมันได้ เป็นเรื่องยากที่จะจัดการ ฟาง เจิ้งจือ ได้ ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น

ฟาง เจิ้งจือ เองก็อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ ซึ่งเสียเปรียบในด้านประสบการณ์

ทำให้หนทางของเขายากกว่าเดิมถึง 10 เท่า

แต่ ซู ตงหลิน ไม่มีทางเลือกอื่น

เขาต้องลองเท่านั้น

ซู ตงหลิน ไม่ได้หันกระบี่ไปทาง ฟาง เจิ้งจือ  เขาไม่ต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ รับรู้การลอบโจมตีของเขา

 

นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

เขาจึงตัดสินใจที่จะแกล้งทำเป็นจู่โจม เหยียน ซิว  และเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เขามาใกล้เพื่อช่วยเหลือ เขาจะโจมตี ฟาง เจิ้งจือ ในทันที

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ซู ตงหลิน จะโจมตี เหยียน ซิว ฟาง เจิ้งจือ ก็เสียท่าเข้ามาติดกับดักตามที่ ซู ตงหลิน คิดไว้

เขาถูกล้อมด้วยไฟฟ้าสีม่วง ราวกับถูกรัดด้วยงูอัศนีย์ม่วง

 

ตูม!

ทันใดนั้น สายฟ้าสีม่วงอีกกลุ่มหนึ่งก็เกิดขึ้นมาและเข้าปะทะกับเขตแดนของ ซู ตงหลิน ทุกหนทุกแห่งต่างเต็มไปด้วยไฟฟ้า

ผู้คนรอบๆพลอยโดนลูกหลงไปด้วย ขณะที่บางคนเต็มไปด้วยสายตาอันไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะ…

 

เมื่อพลังไฟฟ้าของ ฟาง เจิ้งจือ ปะทะกับไฟฟ้าของ ซู ตงหลิน มันกลับไม่ได้ถูกทำลายทิ้ง แต่มันกลับปะทะกันตรงกลางจนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว

"นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!"

 

"ไม่มีใครชนะงั้นหรือ?"

"คนหนึ่งอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูง ส่วนอีกคนพึ่งเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ไม่กี่เดือนก่อน ... "

"ทำไมพวกเขาถึงสูสีกันแบบนี้ล่ะ?"

ผู้เข้าร่วมรอบๆไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

 

ซู ตงหลิน เองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน เมื่อปะทะเข้ากับเขตแดนสนามไฟฟ้าของ ฟาง เจิ้งจือ เขารู้สึกเหมือนถูกแรงสะท้อนกลับ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

 

เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำไป ถูกหยุดได้ทั้งหมด

เขาไม่สามารถยอมรับได้

"นี่มันเป็นไปไม่ได้ เจ้าทำได้ยังไง เจ้าจะมาทัดเทียมกับคนเยี่ยงข้าได้ยังไง?!" ซู ตงลิน เบิกตากว้าง

"ทัดเทียมกับเจ้า?" ฟาง เจิ้งจือ ผงะ นี่คือทัดเทียมกันรึ?

 

เขากลับไม่รู้สึกแบบนั้น?

นี่ก็เป็นเพียงแค่การควบคุมธรรมดา ...

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

เขาไม่สามารถตอบคำถามของ ซู ตงหลิน ได้

...

 

ราชาต้วนและ ฮัน ฉางเฟิง เองก็กำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

พวกไม่เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นสามารถทำลายการควบคุมของเขตแดน ซู ตงหลินได้

ในการต่อสู้ครั้งนี้ ข้อได้เปรียบสูงสุดของ ซู ตงหลิน เรื่องระดับพลัง

 

สะท้อนสวรรค์ขั้นสูง

นั่นหมายความว่าเขามีพลังมากพอที่จะควบคุมสิ่งต่างๆได้มากกว่าใครๆ เมื่อเขตแดนมาปะทะกัน จะต้องลบล้างเขตแดนของศัตรูลงได้

นี่เป็นเรื่องธรรมดา

 

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ กลับต้านมันได้

"เกิดอะไรขึ้น?" ทั้งสองเองก็สับสน

ตามจริงแล้ว หากคิดถึงประสบการณ์ของ ฟาง เจิ้งจือ นี่มันไม่ปกติเอาเสียเลย

เมื่อ 8 ปีก่อน ฟาง เจิ้งจือ สามารถไขปริศนาภาพเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้

จากนั้นเขาก็เข้าสู่วิถีแห่งเต๋าหลังสู้กับหมาป่าเพลิงฟ้า

และ 1 ปี ให้หลังเขาก็ได้เข้าถึงระดับผนวกดาราอย่างง่ายดาย

 

ฟาง เจิ้งจือ พยายามอย่างหนักอยู่นาน  เขาไม่รู้ว่าหลังจากที่ได้เขาถึงระดับผนวกดาราแล้ว เขาจะเชื่อมดาวในมิตพิเศษของเขากับโลกภายนอกได้อย่างไร เพื่อให้บรรลุถึงระดับสะท้อนสวรรค์

เขาจึงคิดง่ายๆ และสะสมดาวต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ตามจริงแล้ว ความคิดของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์

 

เมื่อสะสมดาวได้ 2 ดวง พลังของเขาก็เพิ่มขึ้น  ด้วยวิธีนี้ เขาคิดว่าเขาค้นพบหนทางที่ถูกต้องแล้ว

 

ดังนั้นเขาจึงเริ่มสะสมดาวดวงที่ 3

ดาวแต่ละดวงนั้นเป็นตัวแทนของขุมพลังของเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง

คนธรรมดาคนหนึ่งได้รวบรวม สายลม แสงสว่าง ผืนดิน ผืนไฟ จากนั้นก็มี ดอกไม้ ใบหญ้า ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ ...

ท้ายที่สุดหลังจากที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขามากมาย เขาก็ได้รวบรวมไปจนถึง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว  เขาพยายามเข้าใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยหยุดรวบรวมดาวใหม่ๆ และทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ๆเสมอ ในท้ายที่สุดเขามีดวงดาวมากมายอยู่ในมิติพิเศษของเขา

 

เขาคิดว่าการทำอย่างนั้นไปเรื่อยๆจะทำให้เขาเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ได้

ยังไงก็ตาม ...

เขาตระหนักในทันทีว่าเขาคิดผิดแล้ว เมื่อครั้งที่เข้าร่วมการทดสอบระดับเมือง เขาตระหนักได้ว่าเขายังอยู่แค่ในระดับผนวกดาราเท่านั้น และยังมีระดับสะท้อนสวรรค์ที่อยู่เหนือเขาขึ้นไปอีก

ในหอสมบัติสวรรค์ เขาเข้าใจถึงวิธีที่จะเชื่อมระหว่างมิติพิเศษของเขาเข้ากับโลกภายนอก

 

เรื่องนี้ทำให้เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ได้

เขาไม่จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนักเหมือนกับ เหยียน ซิว และเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อมมิติพิเศษของเขากับโลกภายนอก

เขาสามารถเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ เมื่อใดก็ได้ที่เขาต้องการ

เพราะ…

เขาอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์อยู่เสมอ!

 

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

 

รีวิวผู้อ่าน