SC:บทที่ 15 สถานีตำรวจ
เนื่องจากเขารู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแลกเปลี่ยนปืนพกจากระบบในเวลาอันสั้นที่จะมาถึงนี้ดังนั้นเขาจึงมีความคิดอื่นที่จะมายังสถานีตำรวจแห่งนี้
หลังจากที่เขาเคยฝึกทหารในช่วงมหาวิทยาลัย หลินเฉิง ได้สัมผัสกับปืนเป็นครั้งแรกและเขาชอบศึกษาเกี่ยวกับอาวุธปืนทั้งในและต่างประเทศ
แม้ว่าในสถานีตำรวจมักจะมีปืนพก 64 หรือ 77 ซึ่งมีแรงยิงต่ำพวกเขาใช้มันเพื่อป้องกันตัว แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาหากเขาโชคดีเขาคงจะได้เจอปืนกล 79
(TL:ผู้แปลไม่มีความรู้เรื่องปืน)
ในใจของ หลินเฉิง สวดอ้อนวอนอย่างลับๆว่าเขาจะได้ปืนพกสักกระบอก หลินเฉิง พยายามเฝ้าสังเกตสถานการณ์อย่างระมัดระวัง จากมุมมองของเขาสถานีตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงาน 3 ชั้นซึ่งเป็นสีฟ้าขาว มีลานเล็กๆตรงหน้าอาคารสำนักงาน ประตูของมันเปิดกว้างอยู่ มีซอมบี้จำนวนไม่มากนักที่อยู่แถวนั้นมีประมาณเพียง 5 หรือ 6 ตัวเท่านั้น
อาคารสำนักงานดูไม่ผิดปกติใดๆ เขามองผ่านหน้าต่างบนชั้น 3 พบเห็นซอมบี้หลายตัวเดินอยู่ด้านบน
หลินเฉิง ไม่แปลกใจเมื่อเห็นซอมบี้อยู่ในอาคาร เพราะเขาคิดว่าหากไม่มีซอมบี้อยู่ภายในหมายความว่าตำรวจส่วนใหญ่ไม่อยู่ที่นี่ก่อนเกิดวิกฤติวันสิ้นโลก ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกตำรวจที่ออกไปจะต้องเอาปืนไปมากมาย ดังนั้นจะเหลืออะไรให้เขาเข้าไปค้นหาด้านในได้อีก?
ดังนั้นเมื่อเห็นซอมบี้บนชั้น 3 หัวใจของ หลินเฉิง เริ่มคลายกังวลลง เขาต้องการที่จะได้รับปืนพกเร็วๆนี้โดยเฉพาะหลังจากที่เผชิญหน้า กลับคน 3 คนในร้านขายอุปกรณ์กลางแจ้งก่อนหน้านี้
ในช่วงเวลานี้มันเพียงแค่เริ่มต้นของภัยพิบัติเท่านั้น โดยสันดานของธรรมชาติมนุษย์ พวกเขาจะเริ่มกลายเป็นคนโลภมากยิ่งขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง รีบมองหาเส้นทางไปยังสถานีตำรวจ เขาพยายามกระชับถุงที่อยู่ด้านหลังจากนั้นรีบเดินออกไปทันที
แม้ว่าสถานที่มันห่างเพียงช่วงถนน แต่เขาก็ไม่สามารถเดินออกไปได้อย่างง่ายดาย มีกลุ่มซอมบี้ที่พึ่งไล่ตามเขาไปยังร้านอุปกรณ์กลางแจ้ง แล้วแยกย้ายกระจายตัวออกมาบริเวณนี้ พวกมันยังคงวนเวียนอยู่ในถนนบริเวณใกล้ๆ
เมื่อรวมกับกลุ่มซอมบี้เดิมที่อยู่ในบริเวณนี้ ทำให้ระยะเพียง 100 เมตรด้านหน้ายาวนานยิ่งขึ้น หลินเฉิง พยายามแทรกตัวไปทางซ้ายทีขวาที เป็นเวลากว่าสิบนาทีกว่าเขาจะวิ่งไปถึงลานด้านหน้าของสถานีตำรวจ
หลังจากที่ หลินเฉิง ไปถึงลานด้านหน้าของสถานีตำรวจเขารีบดึงประตูที่เปิดเอาไว้อย่างรวดเร็วและหมุนตัวจัดการกับซอมบี้ 2 ตัวที่วิ่งไล่ตามเขามา จากนั้นเขารีบวิ่งไปจัดการกับซอมบี้ที่เหลือบนลานด้านหน้า
เมื่อหัวของซอมบี้ตัวสุดท้ายหล่นลง หลินเฉิง จึงมีเวลาพักหายใจชั่วครู่ แต่กลุ่มซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกยังคงไม่ปล่อยให้เขาได้มีเวลาหายใจ หลินเฉิง ทำได้แต่พยายามเปิดประตูเข้าไปยังอาคารแต่เมื่อเขาพยายามผลักประตูเข้าไปกลับพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านในด้วยกุญแจรูปตัวยู!
แสดงว่ามีใครบางคนอยู่ด้านใน!
ใบหน้า ของ หลินเฉิง มืดมนทันที
ในเวลานี้ซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกเริ่มรวมตัวกันเข้าใกล้ลานด้านหน้านี้มากขึ้นทุกที แต่ประตูกับถูกล็อคจากด้านใด หาก หลินเฉิง ไม่หลบซ่อนตัวในตอนนี้ซอมบี้จำนวนมากที่อยู่ด้านนอกจะพากันพุ่งตรงมาอย่างที่เขาอยู่!
มีคนอยู่ด้านใน เวรแล้ว...หรือเขาจะถูกซอมบี้กินเพราะความโลภของตัวเอง!
นับตั้งแต่ประสบความสำเร็จในการฆ่าซอมบี้เป็นครั้งแรก หลินเฉิง รู้สึกว่าในยุคภัยพิบัตินี้ตราบใดที่เขาระมัดระวังตัวอย่างมากเขาสามารถหลบเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆได้ แต่เขาลืมไปว่าในยุคภัยพิบัตินี้ต่างมีเหตุการณ์ต่างๆไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย
หลินเฉิง พยายามสลัดความคิดเรื่องนี้ไปก่อนในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเกี่ยวกับมันทางที่ดีเขาควรที่จะหาทางออกจากสถานที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เขามองไปที่ประตูด้านหน้าเขากำลังคิดว่าจะใช้ขวานทุบประตูดีหรือไม่ หรือเขาควรที่จะมองหาประตูอื่น แต่เมื่อเขาพบว่าประตูอื่นเองก็มีลักษณะเช่นเดียวกันมันถูกปิดอย่างแน่นหนาในเวลานี้ไม่มีช่องทางไหนที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้
บัดซบ!
หลินเฉิง สาปแช่งอยู่ในใจของเขาเขารีบวิ่งไปด้านหลังของอาคารพร้อมกับถุงที่อยู่ด้านหลังของเขา เขาพยายามคำนวณระยะเวลาที่ประตูใหญ่ด้านหน้าจะทนต่อแรงผลักดันของซอมบี้เหล่านั้นได้ หลินเฉิง มาถึงด้านหลังของอาคารแล้วเขามองไปที่ชั้นบนและพบว่า หน้าต่างชั้น 1 และชั้น 2 ต่างมีที่ปิดกั้น เขาไม่สามารถเข้าไปด้านในด้วยหน้าต่าง 2 ชั้นนี้ได้
เมื่อเหลือบมองไปที่ชั้น 3 พบว่าหน้าต่างชั้นนี้ไม่มีที่ปิดกัน เมื่อเห็นดังนั้นในใจของเขามีเพียงความคิดเดียวเขาคงต้องลองดู เขาใช้เครื่องมือปีนเขาปีนจากเครื่องระบายอากาศขึ้นไปบนกำแพง เขาใช้เชือกปีนเขาผูกปลายด้านหนึ่งไว้กับเอวและอีกปลายด้านหนึ่งของเขาผูกไว้กับขอบหน้าต่างและค่อยๆถีบตัวขึ้นไปอย่างช้าๆ มือของเขายังคงจับที่ยึดเกี่ยวด้านบน
การปีนขึ้นไปบนชั้น2 ทำให้เขาเกือบพลาดตกมาหลายครั้งเขาพยายามใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายในการปีนขึ้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็สามารถขึ้นมาถึงชั้น 2 อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
หลินเฉิง ยืนอยู่บนเครื่องระบายอากาศ เขาจับตาข่ายด้านหน้าเอาไว้และพยายามที่จะกระโดดขึ้นไปบนหน้าต่างชั้น 3
หลังจากกระโดดสองครั้ง หลินเฉิง ก็สามารถกระโดดขึ้นไปบนเครื่องระบายอากาศบนชั้น 3 ได้ และเขารีบพุ่งตัวเข้ามายังหน้าต่างอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขากระโดดเข้ามาในห้อง ซอมบี้ ที่เป็นเพศหญิง 3 ตัวก็พุ่งมาหาเขาทันที หลินเฉิง รีบดึงขวานที่อยู่ที่เอวของเขาออกมาและตัดหัวพวกมันทีละตัว จากนั้นเขารีบพุ่งไปปิดประตูเป็นอันดับแรก และหันหลังพิงประตูไว้ก่อนที่จะได้พักหายใจ
หลินเฉิง ได้ยินเสียงจากด้านล่างเป็นกลุ่มซอมบี้ที่ทำลายประตูเข้ามาได้เสียงคำรามของพวกมันทำให้ หลินเฉิง รู้สึกโล่งอกที่ตัวเองกระโดดขึ้นมาบนชั้น 3 ได้อย่างหวุดหวิด
หากเขาไม่สามารถขึ้นมาบนชั้น 3 ได้ในเวลานี้เขาคงต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้มากมายและชีวิตของเขาคงไม่อาจรอดพ้นวันนี้ไปได้!
เมื่อ หลินเฉิง หายใจคล่องเขายกนาฬิกาข้อมือดูเพื่อดูเวลา เขาพบว่านี่มันเป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ท้องของเขาเริ่มหิวเขาหิวขนมปัง 1 ชิ้นออกมาจากกระเป๋าและกินมันโดยไม่คำนึงถึงฉากที่มีศพไร้หัวอยู่ด้านหน้าถึง 3 ศพ
หลังจากกินขนมปังเรียบร้อยเขาเปิดน้ำแร่และดื่มไป 2 อึก จากนั้นเปิดประตูเตรียมเคลื่อนที่ต่อไป
ในฐานะพลเมือง หลินเฉิง ปฏิบัติตามวินัยและกฎหมายมาตลอดเขาไม่เคยเข้ามายังสถานีตำรวจดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าสถานที่เก็บปืนของสถานีตำรวจนั้นอยู่ที่ไหน
เขาทำได้แต่ถือขวานในมือของเขาตัดหัวซอมบี้ไปเรื่อยๆตลอดทาง และค่อยๆมองหาไปทีละจุด หลังจากทำความสะอาดพื้นที่อย่างช้าๆ หลินเฉิง พบว่าทั้งชั้น 3 เต็มไปด้วยพลเรือนและเจ้าหน้าที่ที่ถูกเปลี่ยนเป็นซอมบี้ พวกเขาไม่มีแม้แต่กระสุนติดตัว ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่พบเห็นประตูที่ถูกปิดอยู่หรือผู้รอดชีวิตคนอื่นๆอยู่ในชั้นนี้ ในชั้นนี้เต็มไปด้วยซอมบี้ทั้งหมดมันทำให้เขารู้สึกสงสัย เมื่อ หลินเฉิง รู้ว่าเขาไม่สามารถค้นหาสิ่งที่เขาต้องการในชั้น 3 ได้เขาสามารถทำได้เพียงเดินลงมาที่ชั้น 2 เพื่อดูสถานการณ์
แต่เมื่อเขาเดินลงมาระหว่างชั้น 3 กับชั้น 2 เขากลับพบว่าประตูถูกปิดกั้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันถูกปิดจากชั้น 2!
--------------------------------------