px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 213 ดึงดาบออกมา


"ทำไมเจ้าไม่ดึงดาบออก?" ซิง ฉิงซุย ถามอย่างจริงจัง

"ถ้าข้าบอกว่าข้ายอมแพ้ที่จะได้มีชีวิตอยู่เพื่อถ่วงเวลาให้เจ้าได้มีชีวิตต่อไปอีกหน่อย เจ้าจะเชื่อข้าไหม?" ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบคำถามของ ซิง ฉิง แต่ถามเขากลับไป

"ข้า... ไม่เชื่อ!" ซิง ฉิงซุย ตอบอย่างไม่ลังเล

"แล้วพวกเจ้าที่เหลือล่ะ?"

"พวกเราก็ไม่เชื่อ!"

"งั้นพวกเจ้าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้?" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอ่อน

ซิง ฉิงซุย นิ่งเงียบ ผู้ทดสอบที่เหลือต่างก็มองหน้าหากันแล้วไร้ซึ่งคำตอบ

"ดาบเป็นของปลอมงั้นหรอ?" ผู้ทดสอบถาม

"ใช่แล้ว อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่สามารถเข้าใจเรื่องง่ายๆแบบนั้นได้? " ฟาง เจิ้งจือ ตอบคำถามด้วยความดูถูก

"..."

 

"ดาบเล่มนั้นเป็นของปลอมได้ยังไง?"

ผู้ทดสอบพูดบางอย่าง อย่างไรก็ตามพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนไม่เชื่อ

ในทางกลับกัน ฟาง เจิ้งจือ ก็รำคาญแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วมองไปยังเหล่าผู้ทดสอบด้วยสายตาเหยียดหยาม

ท่ามกลางผู้ทดสอบมีเพียงคนเดียวที่นิ่งสงบ

นั่นคือ เหยียน ซิว

 

หนานกง มู่ ที่ยืนอยู่ข้างๆกลุ่มคนอย่างสันโดษ อย่างไรก็ตามสายตาของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ สีหน้าของเขาเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม เขาดูผิดหวังกับตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดเกี่ยวกับดาบ 

 

หยิง ซาน ยืนอยู่ข้างดาบ แววตาของเขาเริ่มเฉียบคม ไม่ว่าอะจะเกิดขึ้น ตอนนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ฟาง เจิ้งจือ ก็มีความได้เปรียบอยู่

ตราบใดที่ดาบยังเสียบอยู่

โลกแห่งเซียนจะยังคงถูกปิดตายไว้

ด้วยพลังอำนาจในระดับอภินิหาร การฆ่า ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ทิ้งนั้น ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

...

 

ในสถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามมันตึงเครียดกว่าในตอนแรก

ซิง ฉิงซุย และเหล่าผู้ทดสอบคนอื่น ได้หมดพลังที่จะต่อสู้ไปแล้ว คนที่ยังมีพลังเหลืออยู่มีเพียงแค่ ฟาง เจิ้งจือ เหยียน ซิว และ หนานกง มู่ ที่กำลังบาดเจ็บเท่านั้น

ส่วน ปิง หยาง นั้น?

นางถูก ฟาง เจิ้งจือ มองข้ามอย่างสิ้นเชิง

"เจ้าแน่ใจเหรอว่าดาบเล่มนั้นเป็นของปลอม?" ปิง หยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ  นางไม่อยากจะถามเขาเท่าไร เพราะนางจะโดนฟาง เจิ้งจือ ดูถูกอีกแน่ ยังไงก็ตามนางอยากที่จะรู้

"เจ้าอยากจะลองดูไหมล่ะ?" ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองที่ ปิง หยาง

"ลอง? ยังไง?" ปิง หยาง รู้สึกสับสน

"ลองดึงมันออกมา ...ยังไงล่ะ ... " ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างตรงไปตรงมา

"ดึง ... " ปิง หยาง จะถามเขากลับทันทีว่าะไปดึงมันได้ยังไง แววตาของนางสับสนยิ่งขึ้นไปอีก

 

ไม่ใช่แค่ ปิง หยาง แต่ทุกคนเองก็สับสน

ในตอนแรกท่าทีของ หยิง ซาน เปลี่ยนไปเพราะถูกบิดเบือนบางอย่าง นั่นคือการถูกบิดเบือนจิตใจ เขาคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้

ความใจเย็นของ หนานกง มู่ พังทลายลง

เขารู้ว่าเขาเข้าใจ ฟาง เจิ้งจือ มาโดยตลอด อย่างไรก็ตามจนสุดท้ายเขารู้สึกว่า เขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลยจริงๆ และตอนนี้เขาเองมีความคิดบางอย่าง

ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมาตลอด

เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำแบบนี้ได้ยังไง อย่างไรก็ตาม ถ้า ฟาง เจิ้งจือ สามารถทำได้จริงๆเขาจึงได้เปรียบมาโดยตลอด

ดาบ...

ถูกดึงออกมา

ไร้วี่แววของเสียง

ลอยขึ้นไปกลางอากาศและเกิดเป็นแสงสีทองสว่างไสว

นี่เป็นฉากที่ลึกลับเอามากๆ

อย่างไรก็ตามนี่เป็นความจริง

 

"เจ้า... อย่าบอกข้านะว่า... " หยิง ซาน ไม่เคยคิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถทำเรื่องนี้ได้ เพราะนี่คือความสามารถของเขา การควบคุมเงา

"เจ้ามีข้อข้องใจงั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ หยิง ซาน ด้วยความไร้เดียงสา

ในมิติพิเศษที่มีดวงดาวมาก 200-300 ดวง  เขาได้รวบรวมหมู่ดาวมามากกว่า 7 ปี เงา? ไม่คิดว่าเขาจะมีมันอยู่อย่างนั้นรึ?

ครั้งแรกที่เขาได้เห็น หยิง ซาน ควบคุมเงาขึ้นมาบงการเหล่าดาบ

เขาก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่ชอบมาพากล

ดังนั้นเขาจึงเริ่มลองใช้มัน อย่างไรก็ตาม ความคิดกับการกระทำนั้นต้องมีการลองผิดลองถูกหลายครั้ง เป็นการทดลองที่ต้องใช้เวลาพอสมควร

 

ดังนั้นเขาจึงถ่วงเวลาตลอดมา ในเวลาเดียวกันเขาก็พยายามลองควบคุมดาบด้วยเงาอย่างไม่หยุดยั้ง

จนกระทั่งตอนที่เขาถือดาบไว้ในมือ

เขาก็สามารถมั่นใจได้ว่าเขาสามารถทำมันได้แล้ว

เขาจึงไม่จำเป็นต้องดึงดาบออกโดยทันที

แล้ว หยิง ซาน จะดึงออกหรือไม่?

แน่นอนว่าไม่

 

ดังนั้น ฟาง เจิ้งจือ จึงไม่รีบร้อนอะไร อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ต้องลำบากวิ่งไปดึงดาบ ในขณะที่ หยิง ซาน กำลังควบคุมชีวิตของผู้ทดสอบ เขามีเวลามากพอที่จะรอ

ส่วนดาบเป็นของจริงหรือปลอมนั้น?

แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้

สิ่งที่เขาต้องทำคือการทำให้ หยิง ซาน รู้สึกว่าเขาจะไม่ดึงดาบออก

ดังนั้นเขาจึงบอกกับทุกคน  ดาบเล่มนี้เป็นของปลอม มันเป็นของปลอม เป็นของปลอม ...

นอกจากนี้เขาก็ได้ใช้การกระทำของตัวเองล่อลวง หยิง ซาน กับเหล่าผู้ทดสอบ

เขามีโอกาสที่จะดึงดาบออก

แต่เขาก็ไม่ดึงออก

แม้ว่าเขาจะจับด้ามดาบเอาไว้ในมือแน่น แต่เขาก็จะไม่ดึงมันออก

 

ด้วยวิธีนี้ หยิง ซานจะไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะดึงดาบออกแน่ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่า หยิง ซาน จะเชื่อว่าดาบเล่มนี้เป็นของจริงเขาก็จะยังคงสงสัยในการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ดี ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่มันจะเป็นของปลอม?

แม้ว่าจะเป็นเพียงการคาดเดา

เป็นเพียงโอกาส…

บางครั้งมันก็แวบเขามาภายในช่วงความคิด

ความคิดของ ฟาง เจิ้งจือ นั่นง่ายมาก สิ่งที่เขาทำก็คือ ให้คนอื่นๆมั่นใจว่าเขาจะไม่ดึงดาบออก สำหรับวิธีการนั้น? เขาจะรู้หรือไม่มันก็ไม่จำเป็น

 

และในตอนนี้...

ในขณะที่ทุกคนรู้สึกว่าดาบอาจเป็นของปลอม

เขาก็ดึงดาบออก

เมื่อ หยิง ซาน ที่ยืนอยู่ข้างดาบมั่นใจว่าตนนั้นไร้คู่แข่ง มันก็ง่ายมากเพียงแค่ควบคุมเงาผ่านพื้นดินไปดึงดาบออก

ปิง หยาง ไม่สามารถคิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวได้เลย ดังนั้นปากเล็กๆของนางจึงอ้าค้าง

หนานกง มู่ ก็ไม่คิดถึงสิ่งนี้ เพราะเขาจำได้ถึงผู้ที่สามารถควบคุมเงาได้

ดังนั้นความเงียบสงบบนใบหน้าของเขาจึงพังทลายลงแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ

หยิง ซาน มีเหตุผลที่เขาจะไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นวิชาของเขา เช่นเดียวกับ หนานกง มู่ ที่จำได้ถึงเหล่าคนที่สามารถควบคุมเงาได้ที่มีอยู่น้อยนิด ชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อยู่ในความรู้ของพวกเขาเลย

ในทางกลับกัน เหยียน ซิว สามารถคิดได้ถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่มแน่ใจว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำมันได้

อย่างไรก็ตามจะสนใจไปทำไมกัน?

 

ไม่ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถทำได้หรือไม่ เขาก็จะมีวิธีดึงดาบออกได้อย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ เหยียน ซิว คิดมาโดยตลอด

สถานการณ์…

ตอนนี้ได้เข้าสู่ภาวะที่เงียบสงบ

ดาบลอยขึ้นกลางอากาศเรืองแสงด้วยแสงสีทองส่องสว่าง สายตาของทุกคนจ้องอยู่บนดาบเล่มนั้น ดาบที่ ฟาง เจิ้งจือ ดึงออกมาจากพื้นดิน

รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ

"ดึงดาบออกรึ? มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก! "

 

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

รีวิวผู้อ่าน